อยากเป็นหมอ คิดดีแล้วหรอน้อง ?
ตั้งกระทู้ใหม่
"ทำไมถึงอยากเป็นหมอ ?" เป็นคำถามที่ต้องถามทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์
"อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครับ" เป็นคำตอบที่เกือบทุกคนจะตอบแบบนี้เมื่อเจอคำถามนั้น
ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่หรอกก .. กรรมการสัมภาษณ์รู้กันหมดแหละว่า "ตอแหล"
แต่จะให้ตอบ "พ่ออยากให้เป็นครับ" ไปตรง ๆ ก็คงตกสัมภาษณ์ไปโดยปริยาย
มาลองดูกันดีกว่าว่า "ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงอยากเป็นหมอกันนักกันหนา ??"
เหตุผลยอดฮิตที่อยากเป็นหมอ (จากเว็บเด็กดี)
1. อยากช่วยเหลือผู้อื่น - อย่ามองว่าคนที่เข้ามาเรียนหมอจะต้องใช้เหตุผลนี้ตอแหลไปซะหมด คนดี ๆ บนโลกมันก็ยังมีอยู่บ้างแหละน่า (ถึงจะน้อยมากก .. ก็ตาม)
2. เป็นอาชีพที่มีเกียรติ - ที่มีเกียรติเพราะว่า แพทย์เป็นวิชาชีพที่ต้องเสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หากทำเพราะเงินก็มีเหมือนกันแหละ แต่เป็น "เกลียด" นะ ไม่ใช่ "เกียรติ"
3. อาชีพนี้ไม่ตกงาน รายได้ดี - ไม่ตกงานน่ะแน่นอน แต่รายได้ดีนี่ต้องขยันหน่อยนะ เพราะต่อไปการจ่ายค่าตอบแทนแพทย์คงจะเป็นแบบ P4P (รักษาคนป่วยแบบเก็บแต้ม เหมือนเล่นเกมยังไงไม่รู้)
4. พ่อแม่คาดหวังอยากให้เป็นหมอ - (ที่จริงเหตุผลนี้น่าจะมาเป็นอันดับ 1 นะ) สังคมไทยพ่อแม่มีอิทธิพลในการตัดสินใจของลูกอยู่แล้ว พ่อแม่บางคนอยากให้ลูกเรียนหมอ เพียงเพื่อจะได้เอาไว้อวดชาวบ้านแค่นั้นแหละ
ที่จริงยังมีเหตุผลอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความเท่ ความชอบ ตามเพื่อน คะแนนถึง บลา ๆๆ เยอะแยะมากมายก่ายกอง
หากคุณสอบติดหมอ (เฉพาะข้อเขียน) แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?! (จากชีวิตจริง)
1. ญาติโกโหติกาจะรู้กันหมดทั้งตระกูล เพราะพ่อแม่ของคุณจะป่าวประกาศอย่างกึกก้อง "ลูกผม/ฉันติดหมอแล้วว !!"
2. เพื่อน ๆ ของคุณจะเลิกเรียกชื่อคุณ แล้วเรียก "หมอ ๆ" แทนไปโดยปริยาย (ขนาดยังไม่ทันสอบสัมภาษณ์นะเนี่ย)
3. คุณจะถูกคนรอบข้างไซโคให้เรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (น้อยคนนักที่จะรอดจากการตกเป็นเหยื่อ)
4. เหล่ารุ่นน้อง รวมถึงญาติ ๆ จะเข้ามาถามว่า "ทำยังไงถึงจะติด" "อ่านหนังสือยังไง" "กินอะไรเป็นอาหาร"
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ว่า "ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงต้องเรียนหมอกัน" ทั้ง ๆ ที่บางคนอยากเป็นวิศวะ อยากเป็นครู อยากเป็นนักธุรกิจ แต่ก็ต้องอดไปเพราะกลายเป็นความหวังของตระกูลซะงั้น เกิดแรงกดดันให้ต้องไปสัมภาษณ์และเข้าไปเรียนในที่สุด
แต่การ (ถูกบังคับให้) เรียนหมอก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ข้อดีก็มีนะเอ้ออ !!
1. มันมีความสุขนะ เวลาที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้เห็นรอยยิ้ม ได้รับคำขอบคุณ กลายเป็นความภาคภูมิใจด้วยซ้ำไป
2. พ่อแม่ปลาบปลื้มชื่นใจ มีลูกเป็นหมอจะได้ดูแลตัวเองตอนแก่เฒ่า (ไม่ต้องพูดถึงตอนไปโม้กับชาวบ้าน)
3. พอติดหมอปุ๊บ เราก็จะได้รับ "ออร่า นศ.พ. 1 ea" ทำให้สาว ๆ เข้ามารุมจีบนานับไม่ถ้วน (รวมถึงหนุ่ม ๆ ด้วย)
4. เวลาเพื่อน ๆ มีปัญหาสุขภาพก็จะมาปรึกษาเราได้
พูดถึงข้อดีไปแล้ว คราวนี้มาลองดูข้อเสียกันมั่ง (แน่นอนว่ามันต้องมากกว่าข้อดีอยู่แล้ว)
1. เรียนหนักกว่าชาวบ้านจนไม่ค่อยมีเวลาว่าง เพื่อนชวนไปเที่ยวนี่อย่าได้ฝัน ร้อยวันพันปีน่ะถึงจะได้ไปที
2. เพื่อนในคณะนี่มีแต่พวกหัวกะทิ พวกโอลิมปิก ก็ต้องแข่งกันเรียนแข่งกันสอบ คะแนนออกมาทีมีนนี่สูงปรี๊ดด !!
3. พอเรียนไป 4 ปี เพื่อน (ต่างคณะ) เรียนจบเตรียมรับปริญญากันระนาว แต่เราเนี่ยสิ ยังคงต้องตรากตรำต่อไปอีก 2 ปี
4. "ออร่า นศ.พ." อาจช่วยให้เราเจอคนที่ใช่ได้ก็จริง แต่ถ้าไม่มีเวลาให้กัน ก็คงต้องถูกทิ้งไปโดยปริยาย
ที่จริงมีอีกหลายข้อแหละ แต่ถ้าให้พิมพ์หมดก็กลัวน้อง ๆ จะเปลี่ยนใจไปเรียนอย่างอื่นหมดจนพี่ไม่เหลือรุ่นน้อง เอิ้ก ๆ
เอาเป็นว่าถามใจตัวเองดูแล้วกันว่าที่จริงแล้วน้องชอบแนวไหน ถ้ามีความสุขกับการได้ช่วยเหลือคนอื่นก็มาเรียนได้เลยครับ คณะแพทยศาสตร์ต้องการคนแบบน้อง หรือถ้าถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนทั้ง ๆ ที่น้องก็ไม่รู้จะเรียนอะไรดี ก็ลองเข้ามาเรียนดูได้ครับ ไม่มีอะไรเสียหาย เผลอ ๆ น้องอาจจะชอบมันด้วยซ้ำไป แต่ถ้าน้องอยากเรียนหมอเพียงเพราะคิดว่าเงินดี พี่คิดว่าคงไม่เหมาะนะครับ ลองหาคณะอื่นดูดีกว่านะ ยังมีอีกหลายอาชีพที่รวยกว่าแพทย์ครับ
คำพูดทิ้งท้าย: อาชีพทุกอาชีพมีเกียรติเหมือนกันหมดแหละ ถ้าหากว่าเป็นอาชีพสุจริต
ป.ล. เข้ามาติดตามผลงานกันได้ที่ เพจหมอเน็ท นะครับ
ป.ล.๒ เนื้อหาบางส่วนถูกดัดแปลง/ตัดออกเพื่อความเหมาะสม อ่านเวอร์ชันออริจินัลได้ที่ บล็อกหมอเน็ท
46 ความคิดเห็น
ตอบไปเลยด้วยความมั่นหน้า....
"ก็สอบติดอ่ะ"
"มาตามหาความรักฮะ"
"เป็นหมอแล้วขาวฮะ" (สังเกตดูหมอนี่ขาวแทบทุกคน ไม่เข้าใจว่าทำไม)
พูดอย่างกับคุณไม่เคยโง่ อย่างงั้นแหละ คุณคิดว่าคุณเกิดมา แล้วมีความรู้ติดมาจากท้องแม่คุณหรือไง ใช้ว่าทุกคน จะชอบเหมือนกัน แค่ความคิดของคุณ ยังคิดได้แค่นี้ เลย
เราคนนึงละที่อยากเรียนหมด
เหตุผล
-ไม่ตกงานแน่นอน
-ชุดหมอมันเท่ เสื้อกาวสีขาวยาวๆ
แต่สุดท้ายก็มาเรียนวิศวะ
เพราะเหตุผลเดียว
-ไม่เก่งอังฤษ
จบเบย =w=
ทำไมหมอถึงขาว...?
ประสบการณ์ส่วนตัว
>>>เรียนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ยัน พระอาทิตย์ตกดิน ออกมาจากตึกก้ไม่โดนแดดแล้ว 5555
ร่างกายเลิกสร้างเมลานินไปอีก6ปีค่ะ
พ่อแม่อาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าลูกตัวเองไม่เก่ง(เมื่อเทียบกับเด็กอื่น)
ยิ่งเด็กต่างจังหวัด(&นอกเมือง)ที่ไม่เคยสอบแข่งขันเลย ได้ที่1ของ รร. เค้าก้คงคิดว่าลูกเค้าเนี่ยแหละเก่งแล้ว ติดหมอแน่ๆ ก็กดดันลูกไปตามระเบียบ ~
หยาบคาย !!
จะผาดผิงไปถึงคนอ่อนทำไมคะ ?
ถ้าทุกคนบนโลกนี้เก่งหมดก็ไปเป็นหมอหมดประเทศเถอะค่ะ
มันก็ต้องมีความชอบ ต่างกัน หมอไม่ได้เก่งที่สุดค่ะ
คนที่มองคนอื่นโง่น่ะตัวเองโง่ยิ่งกว่านะคะ
ผมคิดว่ามาตรฐานทางความคิด การวิเคราะห์ และการใช้คำของคุณ "ต่ำ" มากๆครับ
คณะอื่นๆที่บอกว่าเข้าได้ง่ายๆแล้วยังไม่มี "ปัญญา" เข้า
( บางคนเค้าก็ไมไ่ด้อยากเป็นเลยไม่อยากเรียนก็แค่นั้น )
ผมคิดว่าคุณควรจะปรับเปลี่ยนแนวความคิดนะครับ
เพราะ การศึกษาของคุณไม่ได้ยกระดับ ความเป็น"มนุษย์"ของคุณแม้แต่นิดเดียว
เรียนดีเรียนเก่ง แต่ "นิสัยถาวรควรปรับปรุง" ชีวิตนี้ก็ไม่รอดหรอกครับ
อนาคตเราอยากเป็นเมียหมอค่ะ 555555555555
อุ้ปปส์ 0x0
1. เรียนหนักกว่าชาวบ้านจนไม่ค่อยมีเวลาว่าง เพื่อนชวนไปเที่ยวนี่อย่าได้ฝัน ร้อยวันพันปีน่ะถึงจะได้ไปที
- ไม่จริงค่ะ พี่ที่เรารู้จักก็เรียนหมอ แต่ก็ยังมีเวลาไปเที่ยวนะคะ ไปบ่อยด้วย อัพรูปลงเฟสตลอดอ่ะ แต่คือพี่เค้าเป็นแบบผญ.ที่แต่งตัวเก่ง เจ้าแม่แฟชั่นเลยอ่ะ คือไม่ใช่ว่าเรียนหมอแล้วจะแบบมีแต่เรียนๆนะคะ เข้าใจใหม่ด้วยค่ะ หมอสมัยนี้สวยๆหล่อ ไม่ได้เนิร์ดๆ แบบที่เราเข้าใจนะคะ
2. เพื่อนในคณะนี่มีแต่พวกหัวกะทิ พวกโอลิมปิก ก็ต้องแข่งกันเรียนแข่งกันสอบ คะแนนออกมาทีมีนนี่สูงปรี๊ดด !!
- มันก็ไม่เสมอไปนะเราว่า เพราะคนที่สอบติดอ่ะก็ต้องมีความสามารถพอตัวแหละเค้าถึงติดได้ แข่งกันเรียนนี่อาจเป็นไปได้ แต่ถ้าเรามีเพื่อนเราก็ช่วยกันติวกับเพื่อนไงคะ สังคมคนเก่งๆ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรียนแข่งกันตลอดนะคะ นึกถึงหลักความจริงการที่เรามีเพื่อนเราก็ต้องอยากให้เรากับเพื่อนมีผลการเรียนที่ดีเหมือนๆกันใช่มั้ยคะ
3. พอเรียนไป 4 ปี เพื่อน (ต่างคณะ) เรียนจบเตรียมรับปริญญากันระนาว แต่เราเนี่ยสิ ยังคงต้องตรากตรำต่อไปอีก 2 ปี
- อันนี้ก็จริง แต่ก่อนสอบเข้า เค้าก็ต้องรู้อยู่แล้วหนิว่าหมออ่ะเรียน6ปี ต้องทำใจยอมรับได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว เนอะ
4. "ออร่า นศ.พ." อาจช่วยให้เราเจอคนที่ใช่ได้ก็จริง แต่ถ้าไม่มีเวลาให้กัน ก็คงต้องถูกทิ้งไปโดยปริยาย
- อันนี้จริง แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันดี มันก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ นอกจากเบื่อกันไปเอง ไม่ก็แบบมีมือที่สามอ่ะ
คหสต.จ้าา
ู้มั๊ยว่ากระทู้แบบนี้มันชวนให้ทะเลาะกัน เราอยู่กันโลกแห่ง ความเป็นจริงงมีทั้งคนดี คนไม่ดี คนจะเรียนเขารู้อยู่แล้วค่ะว่าอะไรเป็นอะไร
เท่าที่เห็น เพื่อนผม มันโง่ตั้งแต่เด็ก ตอนนี้มันก็ยังโง่อยู่เลยนะครับ เรียนคณะง่ายๆที่คนเก่งเขาไม่เรียนกัน ไม่รู้จักด้วย มันยังได้ เกรดเฉลี่ยอยู่แค่2 นิดๆ ต่อๆไปอาจติดโปร แล้วโดนรีไทร์ด้วยซํ้า ไม่อยากให้โลกสวย แต่ควรรับความจริง น่าจะรู้ตัวเองมากกว่า ว่าเก่งหรือโง่แล้วก็ยอมรับกันไปซะ เก่งเลือกได้ กับคำว่า โง่แล้วโง่เลยหรือเกิดมาโง่เลย มีทั้งนั้นนะ
จริงด้วย เราเป็นคนนึงที่เรียนโง่ และก็ไม่เคยคิดสอบหมอด้วย คนที่จะเรียนเขารู้อยู่แล้วอะไรเป็นไร คือรู้ว่าเป็น ช้างสารหรือแค่หญ้าแพรกที่ท้ายสุดถูกเหยียบแหลกหมด คณะแพทย์ไม่เหมือนคณะทางสังคมง่ายๆนะ
ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อนที่เรียนดีเรียนเก่ง สอบติดหมอ ทันตะ วิศวะ เภสัช บัญชี ที่จุฬาได้เกือบทุกคน ส่วนที่ไม่เก่ง(อ่อนหรือโง่) ไม่เห็นติดพวกนี้เลย บางคนไปเอกชนด้วย นิสัยถาวรควรปรับปรุง ไม่เข้าใจ อย่างเพื่อนบางคนจะไม่ค่อยพูดมากแต่สอบติดหมอ จะไปบอกให้เขาพูดมากๆเหมือนในละครนํ้าเน่าที่คิดเองเออเองคงยาก มันปรับปรุงไม่น่าได้ แล้วอีกอย่าง ถ้าเขาเรียนคณะแบบนี้ ชีวิตยังไม่รอด พวกที่เรียนห่วยๆคงดูไม่จืดแน่ ต้องไปทำส่วนตัวหมด เพราะไม่มีงานรองรับพอนั่นเอง
คิดดีแล้วครับ ยืนคิด นั่งคิด นอนคิด หลับยังฝัน เรียนวิศวะไม่ใช่ทางขอซิ๋วดีกว่า สอบใหม่
อยากเป็นเหมือนกัลล์ หมองานยุ่งเช้ายันเย็น ต่ออยู่เวรอีก รับผิดชอบสูง เงินเยอะก็จริง แต่ไม่มีเวลาใช้เท่าไหร่
ทำแต่งาน งานคือเงิน บางคนเป็นหมอพาณิช เปิดคลีนิคตอนเย็น เสาร์-อาทิตย์ เต็มวัน เงินยิ่งเยอะอีก ดีแล้ว จะได้ขอมาใช้ให้มันมือไปเลย 5555 ขออย่าเจอหมอขี้เหนียวแล้วกัน
ไม่รู้สิ ยังไงเราก็ต้องเบือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่แล้ว คงไม่มีใครที่เก่งฉลาดแล้วไปเรียนเกษตรไรงี้หรอกนะมันไม่สมกับที่ตรากตรำเรียนมาอ่ะ
จะลงทุนทั้งทีก็ทำให้มันคุ้มค่าหน่อยเดะ หรือจะแย้งว่าอาชีพอื่นก็ได้ถ้าเรารักเราไปได้ดีกับมันเราก็จะดีไปเองแหละ ขอตอบว่าอย่าโลกสวย ป่านนั้นเราไม่แก่เฒ่ากันก่อนหรอกเรอะ เหอะๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?