Asean Energy Company
เมื่อฉบับก่อนได้กล่าวถึงการรับมือ AEC ด้านพลังงาน เพื่อให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้มองเห็นแนวทางการรับมือของหน่วยงานต่างๆได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งการ ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ)
สำหรับฉบับนี้เราจะโฟกัสไปที่ ปตท ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรหลักที่เป็น Asean Energy Company ซึ่งมีภารกิจหลักๆ 2 ประการเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานของชาติได้แก่
1. ภารกิจในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
2. ภารกิจในการก้าวไปเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลก โดยอาศัยการพัฒนาด้าน เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสร้างความยั่งยืนขององค์กรด้วยการส่งเสริมองค์ความรู้อย่างมีนวัตกรรม
สำหรับการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน คือภารกิจประการที่ 1 ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ ปตท.นับตั้งแต่ การเป็นรัฐวิสาหกิจในฐานะการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องดูแลรับผิดชอบในด้านการจัดหาพลังงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ
การขยายบทบาทออกไปสู่การเป็นผู้สำรวจและผลิตในแหล่งพลังงานต่างๆ นอกจากนี้ยังพัฒนาการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการสำรวจ จัดหา และสำรองพลังงาน เพื่อให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ในประเทศทุกสถานการณ์
ส่วนภารกิจที่ 2 คือการก้าวไปเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลกถือเป็นภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง และกลุ่ม ปตท. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ต่อเนื่อง เพื่อที่จะขับเคลื่อนองค์กรพลังงานของไทยให้ก้าวออกไปมีบทบาททั้งในเวทีระดับภูมิภาค โดยเฉพาะการเปิด AEC ทำให้ ปตท เป็นAsean Energy Companyและต้องเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญ BIG-LONG-STRONG ซึ่งกลุ่ม ปตท.ขยายบทบาทจนกลายเป็นองค์กรที่มีขนาดที่ใหญ่(BIG)จนมีศักยภาพในการแข่งที่เหมาะสมในระดับนานาชาติ มีความต่อเนื่องการทำเชื่อมโยงธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ครบวงจรตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว(LONG) และมีความเข้มแข้งด้วยระบบ บริหารจัดการที่ดีเลิศ มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ของตัวเอง(STRONG)
ทำให้ กลุ่ม ปตท. สามารถก้าวขึ้นไปเป็นเป็นองค์กรชั้นนำติดอันดับที่ 81 ใน Fortune 100 ในการจัดอับดับของนิตยสารธุรกิจชั้นนำของโลก
ขณะเดียวกัน ยังสามารถสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันชั้นนำที่สามารถผลิตน้ำมันคุณภาพจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น, น้ำมันเครื่องบิน ฯลฯ ออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม พม่า จีน และในอีกหลายประเทศเพื่อแสดงศักยภาพในฐานะที่เป็นAsean Energy Company
กลุ่ม ปตท. ยังกำหนดยุทธศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั่นคือ ย้ายจากการพึ่งพาฐานของทรัพยากร มาอยู่บนฐานของเทคโนโลยี ด้วยยุทธศาสตร์ “TAGNOC” (Technologically Advanced and Green National Oil Company) ที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรมุ่งสู่การเป็นบริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำที่มีความยั่งยืนเป็นองค์กร 100 ปี
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะนำกลุ่ม ปตท. เดินหน้าสู่ความสำเร็จในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศ และการเติบโตอย่างยั่งยืนโดย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ‘TA’ หรือ ‘Technologically Advanced’ และ ‘G’ หรือ Green Roadmap Technology ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสามารถและศักยภาพของ ปตท. ในการทำธุรกิจภายใต้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ท้ายที่สุดคือ ยุทธศาสตร์ที่มุ่งพัฒนาคน เร่งสร้าง-เสริมองค์ความรู้ทั้งภายในและภายนอก ทั้งกลุ่มเยาวชน ผู้นำความคิด และ พนักงานภายในองค์กร ภายใต้โครงการ “3 ประสานแห่งการเรียนรู้ สู่ความยั่งยืน” ซึ่ง ประกอบด้วย
1. โครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง (RAyong Institute of Science & Technology หรือ RAIST) เน้นหลักสูตรด้านวิศวกรรม ตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก และ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง (RAyong Science Academy หรือ RASA) หลักสูตรระดับมัธยมปลาย สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
2. โครงการสถาบันวิทยาการพลังงาน (Thailand Energy Academy หรือ TEA) โครงการที่ กลุ่ม ปตท. สนับสนุน กระทรวงพลังงาน พัฒนาหลักสูตรอบรมร่วมเพื่อให้ผู้นำทางความคิดจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ และประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงาน เพื่อนำไปสู่ การใช้พลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
3. โครงการจัดตั้ง PTT Leadership and Learning Institute (PLLI) เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพสูงสุด โดยมุ่งพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development)และส่งเสริมให้เกิด Life-Long Learning เพื่อเตรียมความพร้อม ด้านบุคลากรให้กลุ่ม ปตท. ในระยะยาว
กลุ่ม ปตท.ตั้งเป้าที่จะใช้ทั้ง 3 โครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเตรียมความพร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC)และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับหรับรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและพลังงาน บนพื้นฐานความเชื่อมั่นว่า องค์ความรู้ คือหัวใจสำคัญที่จะเป็นรากฐานสู่การพัฒนาที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศและองค์กรอย่างยั่งยืน
ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของ ปตท ในวันนี้ ดูแล้วน่าจะยิ่งใหญ่กว่าการเป็น Asean Energy Company เพราะปตท.กำลังมุ่งสู่การเป็นองค์กรระดับโลก
แสดงความคิดเห็น