Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนำเทคนิคการสอบ HSK ระดับ 4

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

วันนี้อยากจะเล่าประสบการณ์การสอบวัดระดับภาษาจีน ( HSK ) ระดับ 4
จริงๆเขียนเอาไว้ที่ pantip แล้ว แต่เผื่อน้องๆไม่ได้เข้าไปดู 

 

เล่าความเป็นมาสักหน่อย เกี่ยวกับพื้นฐานภาษาจีน เผื่อน้องๆหรือเพื่อนที่พึ่งเริ่มเรียนจะได้มีกำลังใจ

เริ่มเรียนภาษาจีนพื้นฐานครั้งแรกตอน ม.4 ด้วยความที่ชอบดูหนังจีน(พากย์ไทย)ที่ฉายทางช่อง 3

ก็เลยไปซื้อหนังสือ"ภาษาจีนระดับต้น" ของอาจารย์เหยิน จิ่งเหวินมาเรียนเอง เรียนเองประมาณ 5-6 บท

จากนั้นก็ไม่ได้สนใจภาษาจีนเลยค่ะ เนื่องจากเรียนสายวิทย์-คณิต แล้วตอนนั้นก็อยากสอบเข้าคณะแพทย์

 

พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาตอนปี 1 ด้วยความที่อยากจะพัฒนาภาษาจีนไวๆ เลยไปลงภาษาจีนที่กับเด็กมนุษย์จีน วิชาละ 3 หน่วยกิต

ตอนนั้นรู้เลยค่ะ ว่าภาษาจีนของเราอยู่ในระดับพื้นฐานมากๆ คงสู้เด็กเมเจอร์ไม่ไหว

ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ยาก แต่พอเข้าเรียนปุบอาจารย์สอนไวมากๆ ศัพท์ก็มาก ประมาณ 500-600 คำ สรุปคือตามเพื่อนไม่ทัน

อาจารย์คงเข้าใจว่าเด็กที่มาเรียนมนุษย์จีน ต้องสอบ pat จีน ผ่านมาแล้ว เลยสอนไวติดจรวดเลยค่ะ

ด้วยความที่เรียนทางสายวิทยาศาสตร์ เรียนค่อนข้างหนัก ก็เลยหยุดการเรียนภาษาจีนไปอีกครั้ง

ระดับภาษาจีนตอนนั้น น่าจะอยู่ระหว่าง HSK2 ถึง HSK3

 

ตอนนี้เรียนจบ ปตรี มาได้ 2 ปีละคะ เวลาผ่านไปเหมือนโกหก

อยุ่ๆก็อยากกลับมาเรียนภาษาจีนอีกครั้ง เนื่องจากเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวจีนมาเยอะมาก

และเห็นประกาศรับสมัครแอร์โฮสเตสของ airasia ว่าถ้ามีผลสอบ HSK ระดับ 4 ขึ้นไปจะมีโอกาสสมัคร

ซึ่งก็เป็นที่มาของการตัดสินใจสอบ HSK ในครั้งแรกนี่ค่ะ

 

จะอธิบายลักษณะข้อสอบและเทคนิครวมถึงหนังสือที่ใช้เตรียมสอบค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

^*^Cherry_Bee^*^ 16 ก.ย. 57 เวลา 22:37 น. 1

มาพูดถึงลักษณะข้อสอบระดับสี่

แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่

ส่วนที่ 1 听力  การฟัง  มีทั้งหมด 45 ข้อ เวลา 30 นาที

ข้อ 1-10 ฟังข้อความสั้นๆ แล้วตอบว่าข้อความที่ให้มา ถูกหรือผิด  ส่วนนี้ไม่ยากค่ะถ้าฟังออก ทำได้แน่นอน

ข้อ 11-25 ฟังบทสนทนา 2 คน  แล้วมีตัวเลือกให้เลือก ซึ่งคำถาม จะถามในแนว ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร

พยายามอ่านคำตอบอย่างรวดเร็ว เพราะ choice ที่ให้ความ ความหมายไปคนละทางเลยค่ะ

ข้อ 26-35 ฟังบทสนทนา 2 คน แต่พูดกันยาวขึ้น แนวคำถามก็คล้ายๆข้อ 11-25 ค่ะ 

แต่ว่าข้อที่ 36-45 จะให้ฟังแล้วตอบ 2 คำถามรวดค่ะ คือฟังบทสนทนา 1 เรื่องแล้วตอบข้อ 36 และ 37

 

* เทคนิคสำหรับพาร์ทฟัง พยายามอ่านคำตอบและตัวเลือกให้เร็วที่สุดค่ะ ทำให้เวลาฟังบทสนทนา แค่ฟังเพียงประโยคเดียวก็จะตอบคำถามได้เลย

ทำให้เรามีเวลาอ่านตัวเลือกล่วงหน้า

โดยเฉพาะข้อหลังๆ ตั้งแต่ 36 ไป ตัวเลือกคำตอบจะยาวขึ้น ทำให้เราต้องใช้เวลาแปล รีบๆสแกนคำตอบอย่างรวดเร็วค่ะ

* ข้อสังเกตอย่างที่บอกไป ตัวเลือกความหมายไปคนละทางเลยค่ะ จำศัพท์ได้หมด รับรองพาร์ทนี้ได้เกือบเต็มค่ะ

 

ส่วนที่ 2  阅读 การอ่าน

พาร์ทนี้ตอนฝึกทำข้อสอบทำไม่ได้ และทำไม่ทันค่ะ

ข้อสอบพาร์ทนี้มีทั้งหมด 40 ข้อ เวลา 40 นาที

ข้อที่ 46-55 มีคำให้เลือก แล้วเอามาเติมค่ะ ส่วนนี้ต้องเต็ม !! และใช้เวลาให้สั้นที่สุด ไม่ควรเกิน 5 นาที คือรู้ความหมายก็เอาไปเติมได้ค่ะ

ดูคร่าวๆว่าอันไหนเป็นกิริยา คำนาม คำคุณศัพท์ ก็พอเดาได้ค่ะ ว่าต้องเติมอันไหน

ข้อ 56-65 เรียงประโยค ABC   ส่วนนี้ตอนแรกที่ทำข้อสอบจับจุดไม่ได้ค่ะ คือใช้เวลาอ่านนานมาก และมึน

เทคนิคส่วนนี้ไม่ต้องแปลทุกตัวอักษรนะคะ  อันดับแรกดูแค่คำเชื่อมก็พอ!! คำเชื่อมจะบอกลำดับเหตุการณ์ได้ว่าอันไหนมาก่อน-หลัง เหตุ-ผล

ทำให้เราประหยัดเวลาแปลได้เยอะคะ แปลข้อที่ให้คำเชื่อมมาแค่ 1 ตัว  ซึ่งเดายากค่ะ ต้องแปล

ใช้เวลาในส่วนนี้ไม่ควรเกิน 10 นาทีค่ะ

ข้อ 66-79  การอ่านแล้วเลือกคำตอบ ABCD  คำถามประมาณ 4-5 ประโยคค่ะ

อันนี้ให้ดูตัวเลือกก่อนค่ะ คร่าวๆ จากนั้นอ่านประโยค คำตอบนั้นจะอยู่ใน 4-5 ประโยคเลยค่ะ คำถาม คำตอบ ตรงๆ ไม่ต้องคิดลึกลับซับซ้อนจนเกินไป  คำตอบจะอยู่ในคำถามนั่นเองค่ะ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนคำศัพท์ที่ความหมายเหมือนกัน

เช่น ในคำถามบอกว่า อากาศสดชื่น  ตัวเลือกก็จะมี สภาพแวดล้อมดี 

* ที่สำคัญคือ ตัวเลือกมันจะไปคนละทางมากเลยค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ยาก

ข้อ 80-85 อ่านบทความยาวประมาณ 3-4 บรรทัด แล้วตอบ 2 ข้อ

ส่วนตัวรู้สึกว่าง่ายกว่าข้อ 66-79 อีกค่ะ เทคนิคก็คล้ายๆกัน

 

สำหรับเทคนิคพาร์ทฟังและอ่าน

-รู้คำศัพท์ ท่องจำความหมายให้แม่น เอาแค่ความหมายก็เพียงพอค่ะ ส่วนคำที่ความหมายคล้ายกันก็จำไปด้วยกันเลย

-จำความหมายของคำเชื่อม เวลาจำก็จำเป็นประเภท คำเชื่อมเหตุ-ผล ก่อน-หลัง จำเป็นกลุ่มๆค่ะ

-อ่านให้ไว แปลให้ไว จะอ่านไวแปลไวได้ต้องรู้ศัพท์ก่อนนะคะ

 

** เพราะฉะนั้นก่อนจะลองฝึกทำข้อสอบ ท่องศัพท์ให้ได้ก่อนค่ะ 1200 ตัว เอาว่าจำได้แม่นๆสัก 1000 ตัวก็เริ่มทำได้เลยค่ะเยี่ยม

 

ไม่แนะนำให้ทำข้อสอบโดยที่ตัวเองยังจำคำศัพท์ไม่ได้เยอะ อาจลองทำชุดนึง เผื่อดูว่าเราพอจะสอบได้ไหว พาร์ทไหนไม่ค่อยได้

แต่ไม่ควรทำไปหลายๆชุดโดยที่คำศัพท์ยังน้อย

เพราะส่วนตัวเคยลองทำดู แล้วพบว่ามั่วอย่างเดียวเลยค่ะ หงุดหงิดมากเพราะแปลไม่ออก และทำให้เราเดาไปโดยไร้ทิศทาง

เสียเวลาท่องศัพท์ให้ได้เยอะๆก่อน ใช้เวลาสัก 2 อาทิตย์น่าจะจำได้หมด

 

ส่วนตัวพี่จำศัพท์ของ HSK 1 2 ได้ แต่ศัพท์ของ HSK 3 จำได้แค่ครึ่งนึง

0
^*^Cherry_Bee^*^ 16 ก.ย. 57 เวลา 22:40 น. 2

พาร์ทที่ 3  书写 การเขียน

แบ่งเป็น 2 ส่วนให้เวลา 25 นาที มี 15 ข้อ

ข้อ 86-95  มีคำมาให้แล้วเรียงประโยค เทคนิคคือศัพท์ทุกตัวต้องแปลให้ได้ค่ะ ที่สำคัญจะมีแกรมมามาเกี่ยวข้อง อาจจะต้องทบทวนแกรมมา เช่น การใช้ 吧,是..的, ... 感兴趣,   แล้วก็จำตำแหน่งของคำบอกเวลา

ข้อสอบส่วนนี้คิดเป็น 60 คะแนนนะคะ  มี 10 ข้อ ก็ข้อละ 6 ค่ะ

ถ้าเราเรียงถูกในบางส่วนก็จะมีคะแนนให้ในข้อนั้นๆค่ะ

 

ข้อ 96-100 มีคำให้แล้วแต่งประโยคจากภาพค่ะ จริงๆพาร์ทนี้เป็นพาร์ทเก็บคะแนนง่ายๆนะคะ คะแนนเต็ม 40 คะแนน

มี 5 ข้อ ตกข้อละ 8 คะแนน

ประโยคไม่ต้องสวยหรู แค่ธรรมดาๆ แกรมมาถูกต้องก็ได้คะแนนมาง่ายๆค่ะ

ส่วนนี้เจ้าของกระทู้ทำไม่ได้เลยค่ะ คืออยู่ๆก็คิดไม่ออกว่าคำศัพท์นั้นเขียนยังไง

ถ้าอ่านหรือฟังคำศัพท์ คำแปลจะขึ้นในหัวเลยค่ะ แต่พอให้เขียนคำจีน อยู่ๆก็เขียนไม่ออก แค่คำว่า 好,信,喜欢 ยังลืมเลยค่ะ

ทำให้แทนที่จะเขียนประโยคได้ ดันจำศัพท์ที่จะเขียนไม่ได้ซะงั้น

 

พาร์ทเขียนนี้ เปิดกลับไปดูข้อสอบพาร์ทก่อนหน้าไม่ได้นะคะ ตอนแรกคิดว่าเปิดดูได้ เลยไม่ได้ฝึกเขียนมา

จริงๆตอนสอบก็แอบดูพาร์ทก่อนหน้าค่ะ แต่คำที่จะเอามาเขียนดันหาไม่เจอ 555

เดี๋ยวนี้ใช้โปรแกรม sogou พิมพ์พินอินอย่างเดียว พอเขียนเลยเขียนไม่ได้

*แนะนำว่าให้ฝึกเขียนโดยใช้ดินสอด้วยนะคะ

 

เทคนิคสำหรับพาร์ทการเขียน
- เขียนให้ไวค่ะ เพราะที่เรียงประโยคเราต้องเอามาเขียนเรียงเป็นประโยค ซึ่งเสียเวลามากค่ะ ใครเขียนไวก็ได้เปรียบ

- แต่งรูปภาพ คิดประโยคง่ายๆ แต่เขียนให้เป็นประโยค แค่นี้ก็ได้คะแนนเยอะๆแล้วค่ะ

 

พาร์ทนี้พี่ได้คะแนนน้อยมาก

ทำได้แค่เรียงประโยค  กว่าจะเขียนเสร็จในส่วนนี้ก็ใช้เวลาไป จะ 15 นาที

แต่งประโยคจากรูปภาพก็เลยทำไม่ทันค่ะ เขียนจบประโยคแค่ 2 ข้อ อีก 3 ข้อนั้นเขียนไม่จบประโยคค่ะ นึกศัพท์ไม่ออก

คะแนนที่ได้นะคะ พึ่งทราบผลวันนี้เอง

0
^*^Cherry_Bee^*^ 16 ก.ย. 57 เวลา 22:44 น. 3

สำหรับหนังสือที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบ

 

หนังสือรวมข้อสอบ ( ไม่ใช่ข้อสอบจริงนะคะ แต่เป็นแนว ) ฉบับแปลไทยก็มีขายค่ะ

แต่คิดว่าฉบับแปลกับไม่แปลไม่ต่างเลยค่ะ ซื้อฉบับของจีนก็ได้ค่ะ เพราะตรงคำตอบอธิบา
ภาษาไทยนิดเดียวเอง

 

ข้อดีของเล่มนี้ คือ ข้อสอบมีทั้งหมด 10 ชุด พร้อมเฉลย มี สคริปพาร์ทฟังให้ค่ะ

เสียงคนพูด เหมือนที่ฟังตอนสอบจริงเลยค่ะ ทำให้เราคุ้นเลยกับเสียง

ข้อเสีย คือ คำศัพท์ที่เอามาแต่งข้อสอบ นอกเหนือจาก 1200 คำค่ะ ทำให้เรางงๆ แล้วต้องเดา

ระดับความยาก ยากกว่าข้อสอบจริงค่ะ คงเพราะคำศัพท์นอกเหนือและคำถามแอบซับซ้อน

 

http://www.chinesetest.cn/ข้อสอบจริงที่ผ่านมา

ถ้าใครมีเวลาไม่มาก โหลดข้อสอบในเวป

เป็นข้อสอบจริงที่ผ่านมาค่ะ ความยากง่ายเท่าข้อสอบจริงเลยค่ะ

ในเวปจะมีให้โหลดประมาณ 4-5 ชุด แล้วให้ทำออนไลน์อีก 4-5 ชุดค่ะ 

 ลิ้งค์ที่ทำออนไลน์ค่ะ http://mnks.chinesebridge.com.cn/Mnks/Simulate/Default.aspx

 

ส่วนตัวทำในหนังสือก่อนค่ะ แล้วก็ค่อยลองทำข้อสอบจริงในเวป

การฝึกทำเยอะๆ ทำให้คะแนนพาร์ทการอ่านของเราดีขึ้นเยอะค่ะ

 

หนังสือรวมคำศัพท์  หาทาง internet ก้ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่มีคำแปล

เล่มนี้ก็สะดวกดี มีแปลไทยแบบสั้นๆ คือถ้ามีวิธีการใช้ศัพท์จะดีมาก ที่สำคัญพยายามเขียนด้วยท่องด้วยจะดีมากค่ะ

พาร์ทเขียนจะได้เขียนได้ไว

 

 

หนังสือแกรมมา ไวยากรณ์ภาษาจีนฉบับเปรียบเทียบ ค่อนข้างดี และละเอียดมาก ถ้ามีเวลาอ่านก็ดีค่ะ
 

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น