แพทย์ม.บูรพาจบแล้วต่อเฉพาะทางได้เลยมั้ย
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ#
9 ความคิดเห็น
แพทย์ทุกสถาบันสามารถต่อเฉพาะทางได้เลย ต้องสมัครไป และหากผ่านสัมภาษณ์ หรือหน่วยงานนั้นรับเรา ก็เข้าเรียนต่อเนื่องกันได้เลย ถ้าเป็นเฉพาะทางทีี่รัฐมีความต้องการสูง ก็ไม่ต้องทำงานใช้ทุน 3 ปีด้วย ส่วนมากจะรับพวกจบเกรดดี ๆ เกียรตินิยม เช่น เฉพาะทางแพทย์รังสี นิวเคลียร์ ที่ ม.ขอนแก่น
แต่ส่วนใหญ่ ต้องมีประสบการณ์ผ่านการทำงานในโรงพยาบาลของรัฐมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ถึงจะสมัครแพทย์เฉพาะทางได้
จบแพทย์ มช.มา ก็สามารถสมัครเรียนต่อเฉพาะทางได้เลย เช่น เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ถ้าอาจารย์รับเรา ก็เรียนต่อเนื่องกันได้เลย
ส่วนเฉพาะทางศัลยกรรมหลอดเลือดและหัวใจ ต้องถามว่ามีเส้นหรือเปล่า จบแพทย์ได้เกรดดีหรือไม่
ศัลยกรรม จิตเวช สูตินารี งานหนักมาก
อายุรกรรม กุมารเวช เน้นรับพวกจบเกรดดี ๆ
ผิวหนัง จักษุ(ตา) เกรดดีแพ้เส้นดี หรือพ่อแม่เป็นหมอด้วยิ่งดี
การจะต่อเฉพาะทาง ได้กับไม่ได้ดูที่หลักๆคือ
1.เส้น - เส้นหมี่หรือเส้รก๋วยจั๊บ วัดกันตรงเนี้ย
2.สถาบัน - เท่าที่ถามอาจารย์มา เค้าบอกว่าจะพิจารณาเด็กของตัวเองก่อน
3.เกรด - เส้นใหญ่พอกัน สถาบันเดียวกัน เกรดนี่แหละตัวตัดสิน
ทั้งนี้เงื่อนไขอื่นๆก็เกี่ยวกับการใช้ทุนกับสาขานั้นๆ
ถ้าเรียนแพทย์อยู่จริงๆก็คงหาขอมูลได้ไม่ยากหรอกครับ
ถ้าไม่ค่อยมีเส้นแต่ได้เกรดดีจะมีโอกาสมั้ยครับ แล้วก็คือการที่เรียนโรงเรียนแพทย์มช ศิริราชหรือบูรพา คือโรงเรียนแพทย์เค้าเปิดรับภายในต่างกันมั้ย(แบบจำนวนรับจำนวนสาขา) หรือต้องมาสมัครต่างหากเองหลังใช้ทุนเสร็จแล้ว(พวกแพทย์ประจำบ้าน) และหากจบแล้วสามารถใช้ทุนไปด้วยต่อเฉพาะทางไปด้วยได้มั้ยในกรณีศัลยกรรมหลอดเลือดอะครับ
มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
ลองดูสาขาเฉพาะทางและหลักเกณฑ์เบื้องต้นตามนี้ครับ
http://www.tmc.or.th/detail_news.php?news_id=734&id=4
ความยากง่ายของการเข้าขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละสาขา
แต่ปัจจุบันแนวโน้มจะสมัครยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความต้องการเรียนต่อเฉพาะทางจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (และปัจจุบันก็รับแพทย์เยอะขึ้น ในขณะที่ตำแหน่งเปิดเรียนต่อมีน้อยครับ)
การเรียนต่อมีหลายทางครับ ตั้งแต่
- เรียนจบ 6 ปีแล้วต่อเลย มักเรียกกันว่า "แพทย์ใช้ทุน" กลุ่มนี้ถ้าสาขาที่นิยมมาก ๆ ต้องวัดกันที่เกรด ความประพฤติ แล้วก็เรื่องเส้นก็มีผลล่ะครับ
- ใช้ทุนแล้วมาเรียนต่อ ไม่ว่าจะครบ 3 ปีหรือไม่ครบก็ตาม เรียกกันว่า "แพทย์ประจำบ้าน" กลุ่มนี้มักจะขอทุนรพ.ตัวเองหรือรพ.ต้นสังกัดมาเพื่อเรียนต่อ มักมีสัญญาผูกมัดว่าเรียนจบแล้วจะเป็นแพทย์ประจำรพ.นั้น ๆ ทางรพ.ต้นสังกัดจึงให้ทุนมาเรียน กลุ่มนี้ถ้าสมัครได้ทุนแล้วโอกาสได้เรียนต่อสูงมาก ๆ ครับ
- กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า Free train คือกลุ่มที่ไม่ได้มีทุนใด ๆ และมาสมัครเรียนต่อครับ กลุ่มนี้ก็กลับไปวัดกันคล้าย ๆ กลุ่มแพทย์ใช้ทุนครับ แต่ถ้าใช้ทุนครบ 3 ปี อาจมีเครดิตดีกว่ากลุ่มที่ลาออกขณะใช้ทุนครับ
แต่ถ้าน้องอยากเรียนสาขาศัลยกรรมหัวใจและหลอดเลือด (CVT) ในปัจจุบันพี่คิดว่ายังสมัครง่ายอยู่ครับ เพราะงานหนัก (มาก) ที่ที่พี่อยู่สมัครไม่ครบตำแหน่งเกือบทุกปีครับ แต่อย่างที่บอกไปกว่าน้องจะเรียนจบ ไม่รู้ว่าการแข่งขันจะเป็นอย่างไรครับ
ปล.ยังไม่ต้องรีบคิดตอนนี้ก็ได้ครับ พอเรียนคลินิคแล้วค่อยคิดก็ยังไม่สาย กว่าจะเรียนจบ ผ่านอะไรอีกเยอะครับ ^^"
ขอบคุณมากๆเลยครับพี่ ตอนแรกนี่สับสนไปหมดเลยทั้งแพทย์fixward resident freetrain ไม่รู้จริงๆครับว่าจะวางแผนเลือกยังไง
55555 ขอบคุณมากๆครับบ
แล้วผู้มีต้นสังกัด กับไม่มีต้นสังกัดคือยังไงอ่ะครับ แบบมีต้นสังกัดนี่คือได้ทุนจากรพใช่มั้ยครับ หรือผมคิดผิด??
อ่าา จะอธิบายให้ฟังเท่าที่ทราบนะครับ
แพทย์ Fixward เค้าจะเรียนว่าแพทย์พี่เลี้ยงครับ คือแพทย์ที่จบ 6 ปีแล้วใช้ทุนครับ แต่ว่าเลือกใช้ทุนเฉพาะสาขาที่ตัวเองสนใจครับ
เช่น โดยปกติเวลาใช้ทุน ปี 1 จะอยู่รพ.จังหวัด พอปี 2,3 จะไปอยู่รพ.ชุมชนครับ แต่ถ้า fix ward ก็คือ สมมติน้องเลือก อายุรกรรม ปี 1 น้องวนทุกหน่วย พอขึ้นปี 2,3 น้องก็จะอยู่อายุรกรรมไปอย่างเดียวครับ
ซึ่งข้อดีคือ ใครที่ไม่ชอบสาขาอื่น ๆ ก็จะได้ทำงานเฉพาะสาขาที่ชอบ
ในบางแห่งถ้าได้รับการรับรองสามารถสอบจบได้เหมือนในรร.แพทย์ครับ (แต่ต้องดูว่ารพ.ที่เราไป fixward นั้นสอบได้มั้ยนะครับ บางที่มีให้ fix แต่สอบไม่ได้ครับ ต้องเข้ามาเรียนต่ออยู่ดี)
Resident ก็คือแพทย์ใช้ทุนกับแพทย์ประจำบ้านครับ และ free train กล่าวไปแล้วนะครับ
เรื่องต้นสังกัดน้องเข้าใจถูกแล้วครับ คือไม่มีต้นสังกัดก็คือ free train ถ้ามีต้นสังกัดคือได้ทุนรพ.มา จะมีสัญญาผูกมัดครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?