Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

as above so below "เบื้องบนฉันใดเบื้องล่างก็ฉันนั้น" ปริศนาตะวันตกVS.ธรรม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หนังเรื่องนี้ก็น่าสนใจดี ให้ได้ 8 เต็ม10
ชอบนางเอกลุยจริงๆ เธอสุดยอดมาก ซึ่งหนังก็ปูเนื้อเรื่องตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยว่าเธอขนาดไหน 
เนื้อเรื่องโดยทั่วไปผมถือว่าใช้ได้ การแกะคำปริศนาต่างๆก็พยายามทำให้ดูสมเหตุสมผลได้ดีระดับนึง แต่เพราะว่ามันโยงกับความจริงที่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ มันเป็นสิ่งลี้ลับจะจบแบบเฉลยทุกประเด็นหมดคงไม่ได้ ซึ่งก็เลยทำให้ติดลบไปสำหรับหลายๆคน

มันมีส่วนที่อาจโยงเกี่ยงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าเราด้วย ก็ไม่รู้ว่าคนสร้างเอามาจากถ้อยคำที่มีมานานแล้วของชาวตะวันตกหรือเอาเค้ามาจากศาสนาพุทธ as above so below "เบื้องบนฉันใดเบื้องล่างก็ฉันนั้น"
"คำนี้ เป็นวลีสำคัญของทางตะวันตก มีกล่าวทั้งในยูดาย คริส และอยู่ในคัมภีร์มรกต"
จากพระสูตรคำสอนของพระพุทธเจ้า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราได้มีความคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญ อิทธิบาท ......... และเธอมีความสำคัญในเบื้องหลังและเบื้องหน้าอยู่ว่า เบื้องหน้าฉันใด เบื้องหลังก็ฉันนั้น เบื้องหลังฉันใด เบื้องหน้าก็ฉันนั้น เบื้องล่างฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด เบื้องล่างก็ฉันนั้น กลางวันฉันใดกลางคืนก็ฉันนั้น กลางคืนฉันใด กลางวันก็ฉันนั้น เธอมีใจเปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ อบรมจิตใจให้สว่างอยู่"
ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนาก็เช่น แสดงฤทธิ์ได้
ถ้าไปดูก็จะเห็นว่าหนังโยงเกี่ยวกับพวกนี้เหมือนกัน

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

White Frangipani 27 ก.ย. 57 เวลา 17:30 น. 1

สวัสดีค่ะ คุณWake            

ดีจังเลยค่ะ ไปดูหนังมาแล้วนำเรื่องราวมาพินิจพิจารณา เป็นคติ เป็นข้อคิดได้(และแบ่งปันเพื่อนอีกด้วย) นั้นแสดงว่า ภาพยนต์เรื่องนั้นให้ความบันเทิงที่มีสาระ อย่างนี้ไม่น่าเสียดายเงิน(นะ) และที่ดีมากกกกกกกกก คือ มีเพื่อนๆที่ดูเป็น ดูเข้าใจ ตีความออกมาได้นี่เป็นอะไรที่วิเศษสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  หนังเรื่องนี้ยังไม่ได้ดู แต่จะต้องดูให้ได้ค่ะ ตั้งใจไว้แล้วยิ่งคุณสปอยล์ให้อย่างนี้ยิ่งอยากดู


ช่วยเม้นท์ ส่วนที่คุณเขียนมานะคะ..
"การแกะคำปริศนาต่างๆก็พยายามทำให้ดูสมเหตุสมผลได้ดีระดับนึง แต่เพราะว่ามันโยงกับความจริงที่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ มันเป็นสิ่งลี้ลับจะจบแบบเฉลยทุกประเด็นหมดคงไม่ได้ ซึ่งก็เลยทำให้ติดลบไปสำหรับหลายๆคน"..."ธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมะผู้ที่พึงปฎิบัติเท่านั้นที่จะเป็นผู้ที่พึงได้รับ" และเมื่อได้รับแล้วก็ คืออาการ เห็น รู้ เข้าใจ สว่างใสว(ได้)แล้วนั้นเอง และนี่คือ "ความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติ"ค่ะ (นี่คือระหัส ปริศนา)


และตรงนี้...

"คำนี้ เป็นวลีสำคัญของทางตะวันตก มีกล่าวทั้งในยูดาย คริส และอยู่ในคัมภีร์มรกต"
จากพระสูตรคำสอนของพระพุทธเจ้า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราได้มีความคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญ อิทธิบาท ......... และเธอมีความสำคัญในเบื้องหลังและเบื้องหน้าอยู่ว่า เบื้องหน้าฉันใด เบื้องหลังก็ฉันนั้น เบื้องหลังฉันใด เบื้องหน้าก็ฉันนั้น เบื้องล่างฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด เบื้องล่างก็ฉันนั้น กลางวันฉันใดกลางคืนก็ฉันนั้น กลางคืนฉันใด กลางวันก็ฉันนั้นธอมีใจเปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ อบรมจิตใจให้สว่างอยู่"...

...ตรงกับคำว่า ในที่สุด "เธอก็บรรลุ เธอเห็นได้ รู้ได้ เข้าใจได้ สัมผัสได้ คือเธอสว่างจากความมืดมิดแล้วนั้นเอง" เธอสำเร็จความเพียรได้ในที่สุด" เธอ คือ...โสดาบัน นั้นเอง(ได้ในที่สุด) ไช่หรือเปล่าคะ  (ถามคุณนะคะ ช่วยตอบด้วยค่ะ ว่าไช่หรือเปล่า)

และตรงนี้...
"ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนาก็เช่น แสดงฤทธิ์ได้
ถ้าไปดูก็จะเห็นว่าหนังโยงเกี่ยวกับพวกนี้เหมือนกัน"...
...คุณอาจจะใช้คำแปลความหมายผิดค่ะ "แสดงฤทธิ์ได้" นั้นอาจจะผิดนะคะ อยากจะใช้คำว่า "ปรากฎ"ค่ะ ใช้คำว่า "พลังอำนาจแห่งธรรมชาติปรากฎ"ค่ะ ไม่ไช่ "แสดงฤทธิ์ได้"  เพราะความหมายของประโยคที่ว่า" ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนา"
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14744
จริงแล้ว คือ "ธรรมที่เป็นเหตุให้ประสบความสำเร็จ" ธรรมคือ ธรรมะหรือธรรมชาติ เป็นคำสั่งสอนในส่วนดีๆ เป็นปรัชญาของศาสดา เป็นสิ่งดีค่ะ  เพราะฉนั้น อยากจะใช้คำว่า "ปรากฎ"มากกว่า คำว่า "แสดง"ค่ะ คำ คำนี้ให้ ความรู้สึกติดบวกดีนะ ให้ความรู้สึกดีกว่า (เนาะ)
http://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-royal-institute/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1


ช่วยเม้นท์แล้วนะคะ เม้นท์ด้วยความเข้าใจของดิฉันเอง)ด้วย)ผิดถูกอย่างไร กลับมาช่วยบอกเล่าต่อด้วยนะคะ (เรื่องลักษณะนี้ชอบค่ะ)

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆที่ให้ได้คิดตามมาฝากค่ะ  คอยเรื่องต่อๆไปนะคะ

ขออภัยด้วยค่ะที่เข้ามาตอบล่าช้าไปนิด








0
Mr.wake 6 ต.ค. 57 เวลา 21:31 น. 2

มีคุณwhiteเข้ามาcomment อยู่คนเดียว เรื่องแนวนี้ดูเหมือนไม่เป็นที่สนใจของชาวdek-d ซะเท่าไหร่เนอะ
pantip.com จะมีมากกว่า คุณwhiteเคยเข้าไปเปล่า?
ชาวdek-dน่าจะประมาณม.ปลาย เป็นส่วนใหญ่ ศาสนาพุทธก็คงประมาณรู้ท่องจำเพื่อสอบในบางหัวข้อ ขยันตั้งใจเรียนสอบเก่งๆ กตัญญูพ่อแม่ ตามที่ถูกผู้ใหญ่สอนมา ลึกซึ้งหน่อยพวกเขาคงงงกันแล้วหรือคิดว่าไม่จริง คุยเรื่องอื่นหนุกกว่า :)
 
"...ตรงกับคำว่า ในที่สุด "เธอก็บรรลุ เธอเห็นได้ รู้ได้ เข้าใจได้ สัมผัสได้ คือเธอสว่างจากความมืดมิดแล้วนั้นเอง" เธอสำเร็จความเพียรได้ในที่สุด" เธอ คือ...โสดาบัน นั้นเอง(ได้ในที่สุด) ไช่หรือเปล่าคะ  (ถามคุณนะคะ ช่วยตอบด้วยค่ะ ว่าไช่หรือเปล่า)"
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ในหนังเหมือนกับจะสื่อว่า เชื่ออย่างไรเชื่อจริงๆ มันก็จะเป็นอย่างนั้น นึกถึงเรื่องMatrixเลย มันเป็นหนังของตะวันตก โสดาบันพวกเขาคงไม่รู้จักอะไรนักหรอก และโสดาบันจะเกี่ยวโยงว่าต้องเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างมากไม่สั่นคลอน 

"...คุณอาจจะใช้คำแปลความหมายผิดค่ะ "แสดงฤทธิ์ได้" นั้นอาจจะผิดนะคะ อยากจะใช้คำว่า "ปรากฎ"ค่ะ ใช้คำว่า "พลังอำนาจแห่งธรรมชาติปรากฎ"ค่ะ ไม่ไช่ "แสดงฤทธิ์ได้""
ผมว่าแสดงฤทธิ์ได้ก็เหมาะแล้วนะเพราะ... อ่านข้างล่างนี้ เอามาจาก 

http://pantip.com/topic/32606375/comment6-1
"ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนา (หายากมากที่ใครจะเจริญอิทธิบาทภาวนา)
1. ย่อมแสดงฤทธิ์ได้ หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้ หายไปก็ได้ ทะลุฝา กำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้.
2. ย่อมได้ยินเสียง ๒ ชนิดคือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งอยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพโสตธาตุอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์.
3. ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะ ก็รู้ว่า จิตมีราคะ ฯ 
4.  ภิกษุเมื่อเจริญ กระทำให้มาก ซึ่งอิทธิบาท ๔ อย่างนี้ ย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก 
5.รู้กำเนิดสัตว์
6. รู้แจ้งปัญญาวิมุติ เจโตวิมุติ"


สวัสดีครับ

0
White Frangipani 7 ต.ค. 57 เวลา 05:38 น. 3
ผมว่าแสดงฤทธิ์ได้ก็เหมาะแล้วนะเพราะ... อ่านข้างล่างนี้ เอามาจาก 
http://pantip.com/topic/32606375/comment6-1
"ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนา (หายากมากที่ใครจะเจริญอิทธิบาทภาวนา)
1. ย่อมแสดงฤทธิ์ได้ หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้ หายไปก็ได้ ทะลุฝา กำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้.
2. ย่อมได้ยินเสียง ๒ ชนิดคือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งอยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพโสตธาตุอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์.
3. ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะ ก็รู้ว่า จิตมีราคะ ฯ 
4.  ภิกษุเมื่อเจริญ กระทำให้มาก ซึ่งอิทธิบาท ๔ อย่างนี้ ย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก 
5.รู้กำเนิดสัตว์
6. รู้แจ้งปัญญาวิมุติ เจโตวิมุติ"


สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะ คุณWake


เฮ้...คุณ   คุณพิมพ์อะไรมานี่ คุณพิมพ์เล่นๆแน่ๆเลย  เดี๋ยวๆนะคะคือ..."ผลของการเจริญอิทธิบาทภาวนา (หายากมากที่ใครจะเจริญอิทธิบาทภาวนา)ตามที่คุณยกมา 1ถึง6ข้อนั้น ดิฉันเห็นด้วยทั้งหมดทุกข้อนะคะว่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริงทั้งหมด แต่ข้อ1นี่เป็นอะไรที่คุณอธิบายไม่ชัดเจนนะคะ ที่คุณอธิบายมานั้นดูเหมือนเป็น หนังจีนกำลังภายในไปแล้วนะคะ  จะทำให้ "ปรัชญาแห่งศาสนาพุทธ"ดูไม่ไม่ชัดเจนนะคะ หากเด็กมาอ่านและเข้าใจผิดจะไม่ดีนะคะ 

ขอให้คุณกลับมามาบรรยายหรือสาธยายใหม่นะตรงนี้นะค่ะ...
1. ย่อมแสดงฤทธิ์ได้ หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้ หายไปก็ได้ ทะลุฝา กำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้.
ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะเป็นได้เช่นมีคำเล่าลือต่อๆกันมาว่า เขาสามารถเข้าใจภาษาคนทุกๆภาษาได้โดยที่ไม่ได้ผ่านการเรียนการสอน เพียงได้เห็นได้ยินและได้มองเขาก็สามารถเข้าใจได้ นี่หมายถึง เพราะเขาเหล่านี้ได้"ญาณ"อย่างนั้นหรือเปล่า แต่อย่างไรก็อยากให้คุณกลับมาสาธยายใหม่ค่ะ


 สนใจเรื่องพุทธศาสนาค่ะ คอยอยู่ค่ะ.
0
Mr.wake 7 ต.ค. 57 เวลา 23:11 น. 4
อ้าว! คุณwhite ไม่เชื่อเรื่องการแสดงอภินิหารอะเหรอ
แต่จริงๆมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการ ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ ก็สามารถปฏิบัติถึงความดับทุกข์ได้ 
ตัวผมเองก็ไม่เคยเห็นใครทำอย่างข้อ1 ได้เหมือนกันอะครับ ^___^
+++++++++++++
จาก http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=09&A=1072&Z=1919
ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออิทธิวิธี เธอบรรลุ อิทธิวิธีหลายประการ คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏ ก็ได้ ทำให้หายก็ได้ ทะลุฝากำแพงภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลง แม้ในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศ เหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจ ทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ ดูกรมหาบพิตร เปรียบเหมือน.....
++++++++++++++++++++++++++++++
แล้วพระไตรปิฏกที่มี พระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม
พระอภิธรรมนั่นคือคำสอนที่พระพุทธเจ้าขุึ้นไปสอนเทพเทวดาตอนไปโปรดมารดาบนสวรรค์ชั้น..... เลยนะ เชื่อเปล่าหล่ะ?
0
White Frangipani 8 ต.ค. 57 เวลา 05:09 น. 5

สวัสดีค่ะ

อ้าว! คุณwhite ไม่เชื่อเรื่องการแสดงอภินิหารอะเหรอ"...เชื่อค่ะ เพราะได้มีโอกาสเห็นรู้มากับตาตัวเองในทุกๆวัน แต่ก็ขอใช้คำที่มีความหมายที่ดิฉันศรัทธานะคะ นั้นคือ "ปรากฎ"ค่ะ ไม่ไช่การแสดงแต่อย่างใด คืออภินิหารย์แห่งธรรมชาติปรากฎให้เห็น"ค่ะ และก็เฝ้ามองเฝ้าดูอยู่ทุกๆวันค่ะ


"แต่จริงๆมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการ ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ ก็สามารถปฏิบัติถึงความดับทุกข์ได้"...ต้องอธิบายอย่างนี้สิคะ(โล่งอก) เดี๋ยวเด็กๆมาอ่านเข้าใจผิดจะแย่นะคะ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายทั้งปวงซึ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาในวันนี้ก็ดูแย่พอสมควรแล้วนะ


"ตัวผมเองก็ไม่เคยเห็นใครทำอย่างข้อ1 ได้เหมือนกันอะครับ ^___^" แต่ที่คุณกลับมาอธิบายในข้อ 1 นี้แล้วทำให้ดิฉันเชื่อและเห็นด้วยว่า เหตุที่คุณยกมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ ขอบคุณที่กลับมาบรรยายค่ะ


"แล้วพระไตรปิฏกที่มี พระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม
พระอภิธรรมนั่นคือคำสอนที่พระพุทธเจ้าขุึ้นไปสอนเทพเทวดาตอนไปโปรดมารดาบนสวรรค์ชั้น..... เลยนะ เชื่อเปล่าหล่ะ?"...เชื่อค่ะ ต้องเชื่อสิคะ ไม่เชื่อปรัชญาแห่งพุทธจะเป็นพุทธได้อย่างไร ต้องมีความเชื่อสิจึงเกิดเป็นความศรัทธาขึ้นมาได้ ไม่ไช่หรือ? และที่เชื่อนี้ก็เพราะค้นพบหลักฐานได้ด้วยตัวเอง ตามที่มีอยู่ในคำสั่งสอนนั้นค่ะ เพราะฉนั้นเชื่อนะ


ขอบคุณที่กลับมาบรรยายและตอบเพิ่มเติมค่ะ^___^


ปล, ขอบคุณสำหรับลิ้งค์พระไตรปิฎกเล่ม๙ค่ะ.

0
Mr.wake 8 ต.ค. 57 เวลา 11:54 น. 6
"อ้าว! คุณwhite ไม่เชื่อเรื่องการแสดงอภินิหารอะเหรอ"...เชื่อค่ะ เพราะได้มีโอกาสเห็นรู้มากับตาตัวเองในทุกๆวัน"
อุ๊ย! เห็นที่ไหนเหรอ เขาทำอะไรได้ครับ มันไม่ธรรมดานะ อยากเห็นบ้าง หลายคยที่ไม่เชื่อจะได้เชื่อเรื่องพลังจิต จะได้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
0
White Frangipani 8 ต.ค. 57 เวลา 17:34 น. 7

ดิฉันเห็นว่าคุณก็รู้เห็นเข้าใจได้เช่นกันค่ะ จริงนะคะ หากรู้สึกว่าคุณไม่เข้าใจเรื่องนี้ดิฉันจะไม่คุยกับคุณนะ เพราะเชื่อว่าหากไม่คุยเรื่องเดียวกันและไม่เข้าใจกันไม่เห็นตรงกันโดยธรรมชาตินั้นคนสองคนก็จะคุยกันไม่ได้ค่ะ ไม่เพียงคุยกันไม่ได้ยังทะเลาะโต้แย้งถกเถียงตลอดเวลา หรือบางที่ถล่มกันด้วยระเบิดตูมๆทุกวันเลย ไม่เอาแบบนั้นค่ะ ชอบความสุขสงบ แม้คุณจะไม่เชื่อแต่ก็เชื่อในตัวคุณว่าคุณมีความเข้าใจและมีสติที่จะไม่ เหน็บแนมหรือล้อเลียน เราจึงคุยกันมาถึงเม้นท์นี้ (ที่อยากจะบอกคือน้อยใจในตัวคุณ นิดๆค่ะ ดิฉันศรัทธาในพุทธค่ะ ไม่อยากเห็นใครๆเอามาเป็นเรื่องตลก เสียหายนะคะ)

"อุ๊ย! เห็นที่ไหนเหรอ เขาทำอะไรได้ครับ มันไม่ธรรมดานะ อยากเห็นบ้าง หลายคยที่ไม่เชื่อจะได้เชื่อเรื่องพลังจิต จะได้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ"...นี่เป็นประโยคที่บอกได้ถึงการเหน็บแนม ล้อเล่นที่รุนแรงนะคะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เอาค่ะ ไม่เล่นแบบนี้เดี๋ยวเด็กๆเขาอ่านแล้วเขาก็นำไปเล่นกันแบบนี้และในที่สุดพุทธศาสนาก็กลายเป็นลิเกเป็นสิ่งที่เพ้อฝันไปไม่ดีนะคะ

ไม่ชอบเลยค่ะอย่างนี้ เล่นแบบนี้ไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงเสียหายหมด (เดี๋ยวเละเช่นที่ใครๆก็ช่วยกันทำเละๆ ไม่เอามาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ) ไม่เล่นแบบนี้ค่ะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือนะคะ หากที่ดิฉันจะต้องบอกว่าถือนะคะทุกๆครั้งที่สนทนากัน ดิฉันคงหนักตายแน่ๆๆๆ หากเป็นเช่นนี้จะไม่คุยด้วยแล้วเรื่องนี้ ฮึ!(เริ่มจะโกรธแล้วนะ โทสะเริ่มตื่นตัวค่ะ ทั้งที่พยายามกล่อมให้มันหลับไหลอยู่นะ ดีนะที่อยู่บอร์ดธรรมะ ท่องๆพุทโธ พุทโธ พุทโธ ยึดลมหายใจเข้าออกในทันที สงบ สงบ จะไม่โกรธ จะไม่โกรธ้ธๆๆๆๆ :(

เรื่องอย่างนี้หากบอกกันได้ง่ายๆชี้ให้เห็นได้ง่ายๆ โลกก็ไม่เป็นอะไรที่วุ่นวายเช่นที่เห็นอยู่อย่างนี้สิคะ แม้แต่บอกๆปาวๆตะโกนปาวๆ บางคนยังจะจับเอาคนที่บอกไปเผาทั้งเป็นเลย คุณก็รู้อยู่ เหตุนี้เกิดขึ้นอยู่ทุกวี่วัน

เพราะมาวันนี้เป็นวันที่ กิเลสมีอำนาจเป็นใหญ่ และกิเลสเป็นอะไรที่พระพุทธเจ้าบอกให้ทุกๆระวังให้รู้ตัวทั่วพร้อมว่านั้นเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัส เพราะฉนั้นกิเลสกับพระพุทธเจ้าเป็นอะไรที่ไม่ไช่มิตร(อย่างนั้นหรือเปล่า) เพราะท่านเห็นอาการที่เป็นแก่นสารที่แท้จริงของกิเลสนั้นเอง

หากคุณเคยอ่านประวัติ(เคยได้อ่านหรือได้ยินคำบอกเล่านี้หรือว่าดิฉันฝันไป จำได้ลางๆ)จะมีบอกไว้ว่า เมื่อปรัชญาแห่งพุทธรุ่งเรื่องมาถึง 2550 ปี พลังแห่งปรัชญาจะอ่อนแรงลง และกิเลสจะมีอำนาจ

และนี่คือความจริง(หรือคุณว่าไม่จริง) ปีนี้ในปี2557 ในโลกนี้ เกิดอะไรขึ้น (คุณเห็นไหม)หากคุณเที่ยวไปเดินบอกใครๆว่า คุณๆ ในตัวคุณนั้นน่าสงสารนะ คุณเป็นกิเลสเต็มร้อยแล้วนะ คุณหลงไหลมัวเมานะ ที่คุณเป็นอะไรอยู่นี้น่าสงสารนะ คุณเป็นทุกข์นะ นี่ไม่ไช่สุขนะ หวังดีนะ ทั้งที่เขาทั้งหลายทุกข์ มัวเมา เศร้าหมอง ทรมาน แต่เขาไม่รู้ ไม่ยอมรับไม่ห็นด้วย นั้นไม่พอนะ เขาทั้งหลายยังจะจับคุณไปเผาทั้งเป็นด้วย วัฒนธรรมการล่าแม่มดของเขาเหล่านี้กำลังที่จะกลับมาเป็นเกมที่เป็นความบันเทิงของเหล่ากิเลสอีกครั้งค่ะ คุณ Wake และเหตุนี้เกิดขึ้นทุกหนแห่งในวันนี้ และนี่ก็ตรงกับคำบอกเล่าที่ว่า มีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ครั้งแล้วและครั้งเล่าและนี่คือวัฎจักรแห่งนี้ค่ะ

(เหตุเหล่านี้เคยเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดพระพุทธเจ้าค่ะ เพราะเหตุนี้จึงทำให้บังเกิดพระพุทธเจ้าไงคะ ท่านหาทางให้เราๆ รู้จักกิเลสและพิษสงของมันและรู้วิธีที่จะอยู่กับมันอย่างสงบ แต่มาวันนี้ หลายๆคนปลดปล่อยให้มันยิ่งใหญ่ในตัว ในหัวใจและในจิตวิญญาณ ปล่อยให้มันครอบครองทุกๆอย่าง จึงเป็นเช่นที่เห็นนี้ )

อภินิหารย์แห่งธรรมชาติ หรือ "ธรรมะหรือกฎแห่งธรรมชาติ" จะเห็นด้วยตาที่่ถึงธรรมเท่านั้นค่ะ

ที่พิมพ์ตรงนี้บอกความรู้สึกเท่านั้นค่ะ ไม่มีการยึดมั่นถือมั่นแฝงอยู่นะคะ เพียงแต่เป็นห่วงเป็นใยและ "เมตตา" เท่านั้นค่ะ

ทั้งหมดนี้คือความเข้าใจของดิฉันค่ะ (หรือที่เขียนมานี้คุณอยากจะบอกว่า เพ้อเจ่อก็ได้ค่ะ ไม่ผิดนะคะ คุณจะพูดอย่างไรนั้นก็เป็นธรรมชาติค่ะ คือคุณมีสิทธิ์พูดได้นะ)

"ธรรมะ" ผู้ที่พึงปฎิบัติท่านั้นที่จะเป็นผู้พึงได้รับค่ะ เป็นเรื่องของธรรมชาติเป็นเรื่องธรรมดานี่เองค่ะ ตั้งใจนะคะคุณ Wake ที่คุณเห็นอยู่แล้วก็จะสว่างขึ้นกว่าเดิมค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ.

0
Mr.wake 9 ต.ค. 57 เวลา 23:08 น. 8

อ้าวไม่พอใจผมซะอีก ก็คุณwhiteเขียนเองว่า 
"อ้าว! คุณwhite ไม่เชื่อเรื่องการแสดงอภินิหารอะเหรอ"...เชื่อค่ะ เพราะได้มีโอกาสเห็นรู้มากับตาตัวเองในทุกๆวัน" (หรือคุณwhiteใช้คำภาษาไทยอะไรผิดเปล่า?)
คือว่า "ได้มีโอกาสเห็นรู้มากับตาตัวเองในทุกๆวัน" คือถ้ามีโอกาสได้เห็นอภินิหารกับตาตัวเอง และทุกๆวันด้วย ก็แชร์ รูปแชร์อะไร ให้คนอื่นๆเห็นด้วย จะได้ช่วยหลายคนที่ไม่เชื่อจะได้เชื่อเรื่องพลังจิต จะได้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ผมเขียนแบบนี้มันไม่ถูกเหรอ???
แต่คงเป็นคำที่คุณ white เขียน มันทำให้คนอ่านสื่อความหมายผิดได้ และก็คล้ายๆกันกับที่คุณwhite เขียนว่า

"ไม่เล่นแบบนี้เดี๋ยวเด็กๆเขาอ่านแล้วเขาก็นำไปเล่นกันแบบนี้และในที่สุดพุทธศาสนาก็กลายเป็นลิเกเป็นสิ่งที่เพ้อฝันไปไม่ดีนะคะ"
คือเด็กๆมาอ่านที่คุณwhiteเขียน "เห็นรู้มากับตาคัวเองทุกวัน" นั่นหล่ะจะทำให้มีปัญหา พวกเขาก็จะสงสัยแล้วถาม "แล้วไหนหล่ะ?"
การแสดงความคิดเห็นผ่านการเขียนก็จะมีปัญหาตรงนี้ ถ้าได้เจอกันต่อหน้า พอพูดอะไรผิดก็สามารถsenseได้ง่ายกว่าเหราะเห็นสีหน้าทันที ว่าตัวเองผูดอะไรผิดเปล่า หรือพูดถูกแต่อีกฝ่ายตีความหมายอะไรผิดเปล่า ก็สามารถอธิบายได้ง่ายๆทันที อาจจะหยอกล้อเล่นบ้างนิดหน่อยแต่ทำให้อีกฝ่ายโกรธเป็นฝืนเป็นไฟไปซะใหญ่
เมื่อรู้อย่างนี้ก็จะปล่อยๆเยอะ เพราะเขาอาจจะไม่เจตนาขนาดนั้น แต่ก็ต้องชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลกลับไปนะ 
ตั้งใจนะคะคุณ Wake ที่คุณเห็นอยู่แล้วก็จะสว่างขึ้นกว่าเดิมค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ.
ขอบคุณครับ และก็เช่นเดียวกันครับคุณwhite ขอให้คุณwhiteปฏิบัติธรรมได้ยิ่งๆขึ้นไปครับ เป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ
มีอะไรก็คุยกันได้อย่าเพิ่งมีอารมณ์จร้า :)

0
White Frangipani 10 ต.ค. 57 เวลา 05:54 น. 9

สวัสดีค่ะ คุณ Wake

ไม่ได้มีความรู้สึกไม่พอใจนะคะ แต่ที่บอกไปว่าน้อยใจนั้นจริงนะคะ ไม่ดีเหรอคะที่บอกตรงๆ

เห็นว่าประโยคคำถามของคุณดูเหมือนล้อเลียนค่ะ ล้อเลียนดิฉันไม่เป็นไรนะ แต่ไม่อยากให้แสดงอาการล้อเลียนความเชื่อความศรัทธาของดิฉันค่ะ เห็นบ่อยๆที่หลายๆคนทำต่อกันเช่นนั้นในที่สุด ความเชื่อและศรัทธาก็กลายเป็นเรื่องนำมาล้อกันเล่นๆ เท่านั้นเอง ดิฉันเห็นว่าไม่ดีค่ะ

แต่หากคุณไม่ตั้งใจอย่างนั้นก็ขออภัยด้วยค่ะ

เรื่องของธรรมะและสัจธรรมนี่จริงแล้วถ่ายรูปก็ดูไม่ชัดเจนและลึกซึ้งเท่าการบรรยายออกมาเป็ตัวหนังสือนะคะ เข้าใจว่าอย่างนั้นค่ะ เซ้นส์ของการเห็นและเซ็นส์ของการรับรู้ด้วย(การอ่านประดับเข้าไปถึง)จิตวิณณาณนี่ให้ความลึกซึ้งต่างกันนะ เข้าใจและรู้สึกเช่นนั้นค่ะ

มีความรู้สึกว่าการอ่านได้ความรู้สึกและรับรู้ดีกว่านะ

ภาพหรือ? เดี๋ยวนี้(สิ) ยิ่งเชื่อไม่ได้เลย อะไรจริงอะไรเท็จแค่คิดก็เป็นอะไรที่น่ากลัวไปแล้วค่ะ เหตุนี้มาถึงวันนี้นี่ยิ่งกว่าการอุปโลก ภาพตบแต่งได้เข้าใจว่าอย่างนั้นค่ะ

"เห็นรู้อยู่ทุกวัน" เห็น รู้ อะไร?ขอเก็บไว้เขียนเป็นนิยายอ่านกันเล่นๆดีกว่านะคะ(หรือหากจะเล่าเป็นนิทานคงสนุกกว่ามั้ง) เห็นเช่นกันว่ามีคนมากมายค่ะที่สามารถเข้าใจและเห็นได้ซึ่ง "อภินิหารย์แห่งธรรมชาติ" หรือ เห็น"กฎแห่งธรรมชาติ หรือ "เห็นการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไป การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป" นั้น หลายๆคน หรืออาจจะทุกๆคนด้วยซํ้าที่จะสามารถเห็นได้ เพียงแต่หลายๆคนอาจจะไม่แยแส ไม่ใส่ใจ เท่านั้นเองค่ะ (มั้ง)

เข้าใจว่าทุกๆคนเห็นได้ค่ะหากเขาทั้งหลายต้องการ เพราะจริงแล้วนี่เป็นธรรมชาติของมนุษยชาติ และทุกๆคนได้มาเท่าๆกัน เข้าใจอย่างนั้นค่ะ

"มีอะไรก็คุยกันได้อย่าเพิ่งมีอารมณ์จร้า :)" ต้องมีสิคะ อารมณ์ ก็ยังมีชีวิตอยู่นี่นา คุณรู้สึกว่าถูกย้อนๆๆๆ หรือเปล่า ไม่ไช่นะคะ บอกความจริงค่ะ นี่คือความจริงนะคะ แต่ชอบที่จะมีอารมณ์ดีๆในทุกวันค่ะ คุยกันเรื่องธรรมะสดชื่นดีนะ (ไม่ซีเรียสนะคะ)


คุยกันค่ะ :)




0