เภสัชตกงานจริงเหรอ? พ่อแม่เรารู้เรื่องนี้เลยไม่ยอมให้เราเรียน ทำไงดี
ตั้งกระทู้ใหม่
|
คืออยากรู้มากๆ ว่าเภสัชจะตกงานจริงไหม? ลองหาข้อมูลดูก็มีแนวโน้ พอดีว่าส่วนตัวอยากเป็นเภสัชมาก (แต่พ่อแม่ไม่ให้เรียน บอกเรียนไปก็ตกงาน) หาข้อเท็จจริงไม่ได้ซักทีค่ะ เครียดมากหาเหตุผลไปบอกพ่อแม่ แล้วก็คนที่ตกงานเพราะตัวเอง หรือว่าเพราะที่งานของมันเองคะ เครียดเรื่องจะสอบไม่ติด แล้วยังต้องเครียดเรื่องตกงานอี หรือเราต้องทิ้งคณะนี้จริงๆ ถามผู้รู้ด้วยนะคะ ช่วงสอบแล้วT______T  ปล.งานที่ป๊าม๊าแนะนำคือมันไม่  |
ปล.อีก คือเราอยากเป็น-ามาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ช่วยหน่อยน้าา
pranglol
7 ต.ค. 57 เวลา 18:58 น.
16,188
views
34 ความคิดเห็น
ตกงานไหมขึ้นอยู่กับอนาคตค่ะ
ตอนนี้ก็ตั้งใจอ่านไปทำสิ่งที่เราชอบ
วางแผนดีๆแต่อย่าคิดมากไปนะคะ สู้ๆค่ะ
ไม่ได้เป็นเภสัชนะคะ แต่ทำงานที่ รพ. ขอบอกเล่าเท่าที่ทราบนะคะว่า เภสัช มีการเรียนและทำงานสองแบบ แบบทำงานโรงงานผลิตยา กะ ทำงานแบบจ่ายยาให้ ผป. ใน รพ. ไม่รวมเปิดร้านนะคะ ทำในโรงงานผลิตนี่ไม่รู้อัตรารับค่ะ แต่ถ้า จะทำงาน รพ. แบบรับราชการ อัตราแน่นมาก ไม่ค่อยมีตำแหน่งว่างค่ะ เนื่องจากสมมติว่า โรงพยาบาลมีตำแหน่งบรรจุเภสัชเป็นข้าราชการ 20 คน ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นอัตราจ้างหมดค่ะ บางคนก็ไปทำงาน รพ.เอกชนแทนค่ะ ขึ้นอยู่ที่ว่าต้องการทำงานที่ไหน ถ้าข้าราชการคงสาหัสหน่อย เพราะคนที่ทำอยู่บางคนก็รอบรรจุ ประมาณรอคนที่อยู่ก่อนเกษียณหรือลาออก โรงพยาบาลอื่นเป็นแบบที่เราหรือเปล่า รอคนอื่นมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ขอให้สอบผ่านคณะที่ต้องการนะคะ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
ขึ้นอยู่กับน้องจะเลือกงานด้วยหรือเปล่าครับ บางคนอยากทำแต่โรงบาล ไม่สนใจอันอื่นเลย แล้วโรงบาลอัตราแน่นมาก ก็อดครับ บางคนจบมาขอหางานไว้ก่อน ก็ทำร้านพวกเพียวในบิกซีไรงี้ หรือ สสจ พวกนี้ก็ได้ครับ ขอให้มีงานทำไปก่อน หรือไปเป็นลูกจ้างของร้านยาอีกต่อหนึ่งก็ได้ครับ งานมีเยอะครับ แต่จะถูกใจไหมเท่านั้นแหละ ^^ บางคนได้ทุนต่อนอก จบมาเป็นอาจารย์ก็มีครับ หรือเมื่อปีที่แล้วเห็น ม สุรนารีเปิดรับเภสัชเยอะครับ ก็ลองๆดู น้องยังอีกนานครับกว่าจะจบ อย่าเครียดเรื่องงานเลยครับ ขอแค่จบมาไม่เลือกงานก็ไม่ต้องห่วงแล้วครับ ^^
ถ้าไม่เลือกงานก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกค่ะ
แต่ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้มากกว่าคือพรบ.เกี่ยวกับยาฉบับใหม่อ่ะค่ะ เราไม่ได้ตามข่าวไม่รู้ไปถึงไหนแล้วแต่สรุปคร่าวๆคือ จากเดืมมีแค่เภสัช(กับหมอด้วยหรือปล่าวไม่มีความรู้ด้านนี้)ที่สามารถจ่ายยาไ้ด้ กลายเป็นอาชีพสายสุขภาพจ่ายยาได้เกือบหมด แม้กระทั่งนักกายภาพบำบัดยังจ่ายยาได้อ่ะค่ะ สรุปตรงๆง่ายกว่านั้นคือลดบทบาทของเภสัชไปมากกกกน่ะค่ะ orz แต่ก็ชึ้นอยู่กับว่าเรียนไปสายไหนด้วยอ่ะค่ะ ตามที่รี2ว่าไว้
ไม่ได้ตกงาน แค่ล้นตลาดเพราะคนจบมาเยอะ
มั่วนิ่ม
สายวิทยาศาสตร์สุขภาพไม่ตกงานง่ายๆ หรอกครับ เพราะเป็นที่ต้องการมาก นอกจากจะเลือกงานเอง
แต่กรณีของเภสัชนี่ ผมกลัวพรบ.ยา ฉบับใหม่มากกว่า
ถ้าพรบ.ยาฉบับใหม่ออกเมื่อไหร่ อาจจะต้องคิดใหม่ (ตอนนี้เลื่อนการพิจารณาอยู่)
แต่อยากบอกว่าถ้าสนใจในศาสตร์ด้านเภสัชกรรมจริง ๆ ก็เรียนครับไม่ต้องไปกลัว
ทำในสิ่งที่เรารัก เราสนใจ ไม่มีทางอดตายหรอก ยังไงเราก็หาทางได้อยู่แล้ว
ชีวิตเราเราต้องเลือกเอง อธิบายให้พ่อแม่เขาเข้าใจ ว่าเราสนใจด้านนี้นะ
อนาคตอยากจะทำ ...... (ก็อธิบายไป)
แต่น้องต้องมั่นใจว่าชอบในด้านนี้จริง ๆ นะ
ส่วนพรบ.ยาฉบับใหม่ (อธิบายคราว ๆ)
พูดถึงพรบ.ยาฉบับเก่าก่อนนะ (ที่ใช้กันอยู่)
ประเภทของยาแบ่งเป็น 3 ประเภท
1. ยาควบคุมพิเศษ สั่งจ่ายโดยแพทย์
2. ยาอันตราย สั้งจ่ายโดยเภสัช
3. ยาสามัญประจำบ้าน ประชาชนเลือกซื้อเองได้
แต่พรบ.ยาฉบับใหม่
1. ยาที่ต้องจ่ายตามใบสั่ง (แพทย์ ทันตะ)
2. ยาที่สั่งจ่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพ (พูดไว้กว้างมากเช่น พยาบาล กายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย อื่น ๆ)
3. ยาสามัญประจำบ้าน
คือประมาณว่าใครก็สามารถสั่งจ่ายยาอันตรายได้ ทั้งที่เภสัชกรต้องเป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น
แน่นอนประชาชนได้รับผลกระทบด้วย ยาจะได้รับง่ายขึ้น เกิดอันตรายในการใช้ยาง่านขึ้น ตายง่ายขึ้น (ยาเป็นสารเคมีนะ ไม่ใช่ขนม มันมีอันตรายอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว) ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ..... รวมถึงเภสัชกรเองที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
บุคลากรทางการแพทย์แต่ละคนก็มีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป เขาถึงได้เรียนว่าวิชาชีพ คือมีความถนัด เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ เป็นพิเศษ ถ้าใครมาทำหน้าที่แทน อาจส่งผลในเชิง negative ได้
ถ้าพรบ.ยาฉบับใหม่ออกมา ระบบยาจะผิดไปจากสากลทั้วโลก ยิ่งจะเปิด AEC ด้วย
ศึกษาเพิ่มเติมได้ ค้นแค่พรบ.ยาฉบับใหม่ก็เจอละ ปัญหาระบบสาธารณสุขจะเพิ่มขึ้นถ้าพรบ.ยาฉบับใหม่ออกมา
ลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้นะ
https://www.youtube.com/watch?v=DyjLI7Ky2tI
สภาเภสัชกรรม
https://www.facebook.com/thaipharmacycouncil
แคมเปนรณรงค์
https://www.change.org/p/review-medicines-bill-protect-patient-s-right
ฝากไว้เท่านี้ ทำตามที่ใจน้องต้องการนะ ไม่ว่าน้องจะเลือกเส้นทางไหนก็แล้วแต่ สู้ สู้
ก็ไม่ถึงกับตกงานหรอกครับ เพียงแต่การจะได้งานในตัวเมือง หรือรพ. ใหญ่ๆใกล้ความเจริญหน่อยไม่ค่อยจะมี ถ้าจะได้งานอาจจะต้องไปต่างอำเภอไกลๆซักหน่อย
แต่ไม่ต้องห่วงครับ รับราชการอัตราเงินเดือนเท่ากัน
สำหรับพี่เเล้ว พี่คิดว่าไม่น่าจะตกงานนะครับ
น่าจะอยุ่ที่เราว่าเลือกงงานหรือเปล่ามากกว่า
ตอนนี้ ถ้ามีโอกาสเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ
แนะนำให้เลือกเรียนเลยนะครับ เพราะ
ถ้าเป็นสิ่งที้เรา รัก ชอบ เเละมีความสนใจ
น้องจะสนุกกับมัน และมีความสุขกับมันไม่ว่า
ด้านการทำงานหรือด้านการเรียน
อย่าเข้าคณะประชดใคร อย่าเข้าคณะลบคำท้าใคร
เอาที่ใจเราชอบ และรัก นะครับ พูดจริงๆนะ
เถ้าเข้ามาคณะที้ไม่ใช่ เข้ามาเล้วจะไม่มีความสุขเลย
ถ้าชอบจริงๆ อยากให้ชัดเจนในความฝันของเรา
เเละไปถึงฝันที่เราตั้งไว้ให้ได้นะ พี่จะเป็นกำลังใจให้
//จากใจพี่ที่กำลังจะซิ่วว
ม.สุรนารี มีคณะเภสัชด้วยหรอคะ??
คิดว่าน่าจะหมายถึงศูนย์การแพทย์ มทส นะครับ
เอาประสพการณ์จากหลานสาวนะ
จบเภสัช จากม. ดังใจกลางเมือง
จบออกมา เข้า รพ. รัฐไม่ได้ เพราะอัตราเต็ม
ไป รพ. เอกชน แถวสุขุมวิท
เงินเดือนน้อยนิด ยิ่งกว่าที่คาด
ทนอยู่ในห้องยา ได้ 2 ปี
ลาออกมาเป็น ดีเทล ยา วิ่งรอกทำงานต่า่งจังหวัด เหนื่อยแทบแย่
สุดท้าย ตัดสินใจลาออก ไปเรียน ปริญญาโท ที่ออสเตรเลีย
แต่สาขาการบริหาร
ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชน เงินเดือนกว่า 5 หมื่นไปแระ
เธอบอกเลยว่า
จบเภสัชออกมา ไม่คุ้มกับที่ทุ่มเทไป 5 ปี
ไปทำงาน เอาเข้าจริง ศักดิ์ศรีในวิชาที่เรียนมา ก็ถูกเพื่อนร่วมงานมองข้าม
รายได้ ก็ถูกกด ไปเป็น ดีเทลยา เด็กใหม่ ก็พร้อมจะมาเบียด
เภสัชเรียน6ปีนะคะ เงินเดือนเภสัชไม่น้อยเลยถ้าเทียบกับวิชาชีพอื่นที่เค้าทำงานหนักกว่าและได้เงินน้อยกว่า
เอาความพูดอย่างงี้ดี ไม่ต้องจินตนาการ หลักการ ทำงานต้องกินข้าว ขอบคุณมาก
เราเผชิญปัญหาเดียวกับจขกท.เลยค่ะ พ่อแม่ไม่อยากให้เรียนเพราะว่ากลัวจบไปไม่มีงานทำ แล้วจังหวัดเราก็เป็นจังหวัดเล็กๆไม่ได้มีโรงงาน กระทรวงหรือว่ามีตำแหน่งเภสัชอะไรมากมายให้สอบ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านยาซึ่งเปิดกันเยอะจนล้นแล้ว พ่อเรารู้จักกับพี่คนนึงที่เพิ่งจบเภสัชมาใหม่ๆ เค้าแนะนำว่าอย่าเรียนเลย ถ้าจะเรียนเภสัชสู้เรียนหมอ ทันตะไปเลยดีกว่า เพราะว่าหางานง่าย ไม่ตกงาน เงินเดือนก็ดีกว่า แถมเรียนหกปีเท่ากัน เราเลยกลุ้มมากๆ นี่เราจะต้องทิ้งเภสัชไปสอบอย่างอื่นแล้วจริงๆหรอ TT
ใช่ๆ ค่ะ. (รู้สึกเหมือนอ่านความรู้สึกตัวเองเลย)
มีแต่คนมาบอกว่าตกงานๆ
พอ่แม่เราก็เลยเครียดไปด้วย จะไม่ยอมให้เรียนเอาให้ได้
ไปไม่ถูกเลยค่ะตอนนี้ T___T
เราก็เครียดเรื่องเภสัชเหมือนกัน กลัวไม่ติด นี่ถ้าติดแล้วยังจะตกงานอีกเล่อออ
เราแอบคิดนะว่า คนอื่นคงจะกลัวตกงานจนไม่กล้าเรียน ปีเราก็อาจจะขาดบุคคลากรเภสัชก็เป็นได้ แท้น แท่นนน สวยงาม 5555
ซอรี่ๆข้ามคห นี้ไป ._.
***แต่ก็เห็นคนสอบเยอะการแข่งขันสูงทุกปี***
ไม่ยุติธรรมเลย ให้เรียนตั้ง6ปีเงินเดือนต่ำกว่ส สอบยากเข้ายากเงินเดือนก็ตำ่รองๆมา แล้วกันมาตกงานอีก
ป้าเราบอกถ้าไม่ยึดติดแต่ทำงานในโรงพยาบาลมันก็มีตัวเลือกหลายทางนะ พวกสาธารณะสุข อนามัย โรงงานยา เป็นผู้ช่วยเภสัชในร้านยา หรือจะเปิดร้านยาเองก็ยังได้ แต่ราชการไม่ค่อยน่าหวังนะ เพราะคนรอเข้าเยอะมาก ไปทำเอกชนดีกว่า
ระวัง พรบ.ยาไว้ครับ
ผมว่าน้อยคนจะรู้ว่าจริงๆคนเองอยากทำอะไร น้องลองคิดทบทวนให้ดีอยากเป็นเภสัช เพราะอะไร รู้รึยังว่าชีวิตของเภสัชกรเป็นยังไง เข้าไปแล้วต้องเรียนอะไรบ้าง 6 ปี คิดว่าคุ้มค่ารึเปล่า บางคนบอกชอบเคมี แต่เข้าไปเรียนมันก็คนละแบบกับเคมี ม.ปลายนะ คิดดีๆ
ประเด็นคือ พื้นฐานต้องรวยด้วยไง
ไม่งั้นเปิดร้านขายยาไม่ได้ไม่มีงบ ไม่มีทุนซื้อยามาขาย
ถ้าประเด็นคือ เรื่อง "ตกงาน" ให้ลองดู ประกาศ หาเภสัชกรทำงาน ใน นี้ครับ เท่าที่ดูใน web ต่างๆ ไม่มีวิชาชีพอื่นๆ มีประกาศแบบนี้
http://www.pharmacafe.com/board/viewforum.php?f=15
แต่ ควรไปสอบ
1.กสพท.และรับตรงแพทย์ หรือ ทันตะ สถาบันต่างๆ ให้ครบ ทั้ง ม.รัฐ และ เอกชน
2. สอบ รับตรง เภสัช ที่ต่างๆให้ครบ ทั้ง ม.รัฐและเอกชน
3. อาจยื่นรับตรง คณะอื่นๆ สถาบันอื่นๆ สำรองไว้ด้วย ถ้า 1-2 ยังไม่ประกาศผล ถ้าเน้น สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ แนวเดียวก็ดีครับ แม้แต่ เทคนิคฯ พยาบาล จิตวิทยา ก็ ยังพอใกล้เคียง
ถ้าติดตัวจริง ที่ใดที่หนึ่ง แล้ว พอใจ วิชาชีพนั้น สถาบันนั้น มากๆ ก็ ไม่ต้องไปสอบที่อื่นๆ หรือถ้า สอบติดไปแล้ว ก็ สละสิทธิ์ ไปเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?