ทดสอบโปรแกรมค้นหาคณะที่เหมาะกับคุณแล้วสับสนหนักเลย!

[PalmyMotei]

ยาวหน่อยนะคะ แต่ช่วยหนูด้วยเถอะคะ T^T
        คือว่าหนูอยู่ม.6สายศิลป์คะ ศิลป์ภาษาจีน จริงๆหนูไม่ได้อยากมาเรียนทางด้านภาษาหรอกคะ
ตอนม.3ได้โควต้าเข้าสายวิทย์โรงเรียนเดิมและหนูก็อยากเรียน ซึ่งเกรดหนูก็ไม่ได้ย่ำแย่แต่ว่าคณิตจะเกรดค่อยข้างน้อย แต่ว่าภาษาอังกฤษดีมากกกกกกกกก

(เพราะว่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กทำให้พื้นฐานเน้นกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ป.ล.รร.เราเป็นรร.ในเขตชุมชนเด็กในพื้นที่ภาษาอังกฤษเลยไม่ค่อยแข็งแรง เลยทำให้คะแนนหนูดีกว่าเพื่อน)

***แต่หนูรู้สึกว่าหนูชอบเรียนพวกคณิตพวกเรื่องเรขา รูปร่างรูปทรง การหาปริมาตรเพราะรู้สึกว่ามันสนุกดีอะแบบเหมือนเกมลับสมอง ชอบวาดรูป(ถึงจะไม่ค่อยสวยก็เถอะ) ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะชอบเรียน speaking มากกว่า ชอบทำโครงงาน ชอบทำอะไรที่เป็นชิ้นงาน ชอบทำของแฮนเมด ชอบพรีเซนหน้าห้องนำเสนอผลงานที่หนูทำเอง มากกว่าอ่านหนังสือ จดเขียน ท่องหนังสือ จำๆๆๆๆๆแล้วก็ไปสอบน่ะคะ เลยทำให้หนูคิดว่าหนูอยากเรียนสถาปัตย์***

แล้วหนูก็ได้มีโอกาสไปงานแนะแนวทีนึงตอนม.3ซึ่งก็ได้ไปทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา ได้ไปฟังวิทยากรพูดอะไรแบบเนี้ยคะ แล้วเลยทำให้มีอีกคณะในฝันขึ้นมาก็คือนิติ/รัฐศาสตร์

แต่หนูก็ยังมั่นใจในตัวเองนะคะที่จะเลือกเรียนสถาปัตย์ เพราะหนูคิดไว้นะคะตั้งแต่ม.3ว่าถ้าหนูได้เป็นสถาปนิกแล้วยังสามารถพูดอังกฤษได้ดีอีกเนี้ย อนาคตหนูต้องดีแน่ๆ เลยคิดจะเอาโควต้าโรงเรียนเดิมเข้าสายวิทย์ แต่แล้วความฝันก็พังลงคะ เนื่องจากหนูสอบติดสายภาษาของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง (ที่ไปสอบเพราะแม่เคยพูดไว้น่ะคะว่ารร.เก่าหนูน่ะแบบว่าไม่เก่งหรอกมีแต่สังคมเดิมๆ คนเขาก็ไม่ได้แข่งขันอะไรกันไม่เหมือนรร.นี้สังคมก็ดีกว่าแถมยังแข่งกันเรียน หนูเลยไปสอบคะ ทำให้ดูว่าหนูก็ไม่ได้แพ้คนอื่นเขาถ้าทำก็ทำได้) พอติดแล้วพ่อแม่ก้ดีใจกันยกใหญ่คะแต่พอหนูบอกว่าหนูจะไม่เรียนรร.นี้จะเอาโควต้าสายวิทย์รร.เดิมแม่ก็ร้องไห้คะ T^T แบบประมาณว่าอุตส่าสอบได้แล้วทำไมไม่เรียน คณิตก็เกรดน้อย อังกฤษสิทำได้ดีกว่าอีก(จริงๆหนูคิดว่าเป็นเพราะชื่อรร.มากกว่าคะแม่เลยอยากให้หนูเรียน)หนูก็พยายามอ้อนแม่หลายรอบให้ครูแนะแนวช่วยพูดกับแม่ว่าหนูมีความฝันอย่างนู้นอย่างนี้ แต่แม่ไม่ฟังคะ หนูก็ไม่อยากจะทำให้แม่เสียใจเลยตกลงเข้ารร.นั้นคะ
.
.
.
.
หนูรู้สึกแย่มากกกกกกกกกกก ตั้งแต่สังคมเพื่อน แล้วก็การเรียนภาษาจีน หนูรู้สึกไม่โอเคเลยคะ แต่ว่าก็ทนๆเรียนมา เกรดจีนกระท่อนกระแท่นมากคะ อังกฤษก็โอเค ส่วนคณิตก็ดีบ้างไม่ดีบ้างคะ แม่พูดว่าอยากให้เข้าเรียนคณะอักษร มนุษย์อะไรแบบเนี้ยคะ แต่หนูรู้ตัวดีคะว่าหนูไม่เอาแน่ๆ ถ้าจะต้องอ่านหนังสือเยอะๆ เรียนวรรณคดี เรียนรากศัพท์ และเรียนภาษาที่3คือภาษาจีน หนูไม่ไหวแน่ๆ หนูเลยหันกลับมาตั้งความหวังไว้ที่คณะสถาปัตย์คะ!!!!! แอบลงสมัครสอบpat4ไว้ด้วยคะ หนูศึกษาข้อมูล ดูวิดีโอของพวกพี่ๆที่เขาเรียนสถาปัตย์ ดูเทคนิคการวาดรูป หาข้อสอบทำอยู่บ่อยครั้งคะ





>>>>>จนกระทั่งหนูได้มางานDek-D's Admission Top Hit Fair ที่ผ่านมาคะ หนูได้ไปลองทดสอบโปรแกรมค้นหาคณะที่เหมาะกับคุณมาคะ หนูกดไปอันที่บอกว่ายังไม่รู้จะเรียนคณะอะไรคะ แล้วหนูก็ลองทดสอบไป สรุปผลก็คือหนูได้คณะนิติศาสตร์/รัฐศาสตร์คะ เลยทำให้หนูนึกถึงตอนม.3ที่หนูลองไปทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา แล้วได้คณะนิติศาสตร์/รัฐศาสตร์ หนูเริ่มลังเลใจคะ เลยกลับมาลองหาแบบทดสอบทางจิตวิทยาในอินเตอร์เน็ตคะ แล้วผลส่วนใหญ่ที่ออกมาก็เป็นคณะนิติศาสตร์/รัฐศาสตร์คะ หนูสับสนมากเลยคะตอนนี้ ในใบที่ไปทำแบบทดสอบมาบอกว่าหนูรักความยุติธรรม=ก็ใช่คะ ชอบเป็นผู้นำ=ก็ใช่คะ ชอบวางแผน=ก็ใช่คะ แต่หนูกลับรู้สึกว่าหนูไม่ได้ชอบดูเรื่องการเมืองการปกครอง หรือว่าใส่ใจเรื่องความเปลี่ยนแปลงในโลกเลยสิคะ หนูลองปรึกษาแม่ดูแล้วแต่ว่าแม่ก็ไม่โอเคทั้งสถาปัตย์และนิติ<<<<<
.
.
.
.
.
หนูควรทำยังไงดีคะ ควรจะเลือกคณะอะไร สถาปัตย์หรือนิติ ใครมีความรู้ หรือให้คำปรึกษาหนูได้บ้าง ช่วยหนูหน่อยเถอะนะคะ ตอนนี้สับสนมากคะ

Comments

[karin<f>e]

แยกเป็นสองส่วนค่ะ

1.เรื่องคณะที่น้องอยากเรียน/น่าจะเรียน
- การทดสอบทางจิตวิทยาส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องบุคลิกภาพและแนวการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิต ซึ่งจะได้ประเภทรักความยุติธรรมก็ไม่แปลก เดาว่าน้องเป็นคนประเภทมั่นคงและตรงไปตรงมา ซึ่งบุคลิกแบบนี้ก็เหมาะกับสายนิติค่ะ นั่นคือการคาดการตามบุคลิก "แต่มันเป็นแนวทาง" เท่านั้นค่ะ เรื่องความชอบกับความสนใจมันอาจไม่ตรงตามบุคลิกก็ได้ค่ะ  แต่มันก็มีแนวโน้มว่าจะได้ดีถ้าเลือกเรียนอะไรที่เข้ากับบุคลิกตัวเองเท่านั้นเอง (แนวโน้มก็คือแนวโน้มไม่ได้หมายความว่าจะจริงเสมอไป)


- อยากให้ลองมองไปที่อาชีพค่ะ อาชีพที่น้องอยากทำในอนาคตค่ะ สไตล์แบบไหน ยังไม่ต้องเป็นชื่ออาชีพมาก็ได้ แบบขอบเขตงาน สไตล์งาน แล้วค่อยกลับมาดูคณะอีกที เช่น "งานที่่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ได้ท่องเที่ยว งานบริการ = แอร์ ไกด์ ล่ามต่างประเทศ" เป็นต้น   การมองสโคปงานแบบนี้ น้องอาจพบว่าสามารถเพิ่มจำนวนของคณะที่น้องเลือกเรียนได้มากขึ้นค่ะ เช่น กรณีตัวอย่างข้างบนนี้ เรียนมนุษย์ได้ อักษรก็ได้ โบราณคดี(ภาษา) รัฐศาสตร์IRก็ยังได้ ฮ่าๆๆ 

- เนื่องจากตอนนี้น้องอยู่สายศิลป์แล้ว การจะเลือกเรียนสถาปัตย์จะแคบลงไปอีก ให้ไปลองศึกษาว่าถ้าจบสายศิลป์ แล้วจะเข้าสถาปัตย์อะไรได้ สาขาที่ว่าใช่แบบที่น้องชอบหรือเปล่า

2.เรื่องแม่
ถ้าสรุปตามข้อข้างบนแล้ว น้่องยังรู้สึก(แม้เพียงนิดเดียว)ว่าอยากเรียนสถาปัตย์หรือนิติมากกว่า ให้ลองคุยและยื่นข้อเสนอ(ให้คำสัญญา)กับแม่ดูค่ะ ว่าขอเรียนได้ไหม แล้วยืนยันไปเลยว่า "หนูจะไม่ทิ้งภาษาอังกฤษ"


ตัวอย่างสมมติ....
"หนูจะไม่ทิ้งภาษาอังกฤษ" ซึ่งถ้าเรียนจบแล้ว หนูก็ยังสามารถใช้ทักษะภาษาไปทำงานด้านภาษาได้แน่นอน งานสายอักษรหรือมนุษย์มันกว้างมาก กว้างจนคนที่สาขาอื่นๆ จบไป(แล้วมีความสามารถ)ก็ยังเข้าไปทำได้เลย เพราะฉะนั้นต่อให้จบนิติ ก็ยังเข้าไปทำงานในสายภาษาได้ แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าสามารถเลือกงานทางสายกฎหมายเพิ่มได้ด้วย มีจุดเด่นเฉพาะของตัวเอง ไปได้มากกว่าคนจบภาษาเฉยๆ นะคะ  หรือถ้าอยากโฟกัสไปที่จำนวนรายได้ มีงานสายกฎหมายที่เรียกว่า Law firm เป็นงานกฎหมายสายเอกชน ต้องมีทักษะภาษาอังกฤษ รายได้ดีกว่าสายกฎหมายราชการเยอะมากๆ ด้วย  บลา บลา บลา  ....นี่เป็นตัวอย่างค่ะ  ถ้าจะคุยกับแม่ กับผู้ใหญ่ เราต้องมีข้อมูลให้แน่นค่ะ อธิบายให้ท่านเห็นภาพ ท่านจะมองว่าเราตั้งใจจริงๆ ค่ะ 

สุดท้ายถ้ามองไปที่สายภาษา แต่ไม่อยากเรียนพวกภาษาจ๋าๆ ให้ลองมองสายมนุษย์ภาษาประยุกต์ แล้วดูหลักสูตรว่าเค้าประยุกต์ไปทางไหน ได้เรียนอะไรเพิ่มบ้างค่ะ 

ประมาณนี้เนอะ 

[thebluemoon]

ก็เลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนก็พอ  
เพราะพวกแบบทดสอบไรพวกนี้มันไม่ได้เป็นตัววัดอะไรมากนักว่าเราจะทำอาชีพอย่างที่ผลแสดงออกมา  
ของเราก็เคยทำแบบทำสอบ ได้ช่างแต่งหน้า ทำผม อะไรแบบนั่น ซึ่งความเป็นจริงเรานี่ไม่มีหัวในเรื่องศิลปะไรทำนองนั่นเลย แถมเราอยู่คำนวณด้วย

เพราะอย่างนั่นเรื่องพวกนี่ ก็ไม่ถือว่าในอนาคตเราจะเป็นอย่างที่ผลมันออกมาหรอกนะ