ซีน“รักร่วมเพศ” ฮอตทะลุจอ ตีแผ่หรือชี้นำ
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อโลกเสรีเปิดกว้างเรื่องเพศ คนยุคใหม่มีพื้นที่ในการแสดงตัวตนชัดเจนขึ้น ปัจุุบัน “รักร่วมเพศ” ในเมืองไทยได้รับการปฏิบัติไม่แตกต่างจาก หญิงรักชาย แต่อย่างใด คนในยุคปัจจุบันถูกหล่อหลอมด้วยค่านิยมในเรื่องของความสามารถและผลงานมากกว่าการตัดสินกันเพียงเพราะเส้นแบ่งเรื่องเพศอย่างเดียว ทัศนคติในการใช้ชีวิตถูกเปิดกว้าง แต่กลับมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และช่องว่างในเรื่องของเพศเมื่อกระแส คู่รักร่วมเพศ ท่วมจอ ทั้งหนัง ละคร ซีรีย์ แม้กระทั่งบนสื่อสังคมออนไลน์
สื่อสาธารณะ เปิดกว้างเรื่องเพศ กระแสหนังละครเริ่มสร้างจุดขายจากคู่รักเพศเดียวกัน เกย์ เลสเบี้ยน สนั่นเมือง เอาใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น ช่องว่างระหว่างวัยเริ่มเกิดกระแสถกเถียงวิจารณ์เรื่องความเหมาะสม ในวิถีเมืองพุทธ ฉากเลิฟซีนเพศเดียวกันไม่ถูกจำกัดในวงแคบอีกต่อไปเพราะละครยุคใหม่เริ่มตีแผ่และแสดงให้เห็นอีกด้านความรักของ หญิงรักหญิง และ ชายรักชาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสวาย ในเมืองไทยกำลังมาแรงแซงโค้ง แม้แต่ละครรีเมคที่กลับมาทำใหม่ อย่าง อรุณสวัสดิ์ เวอร์ชั่นเดิมทีไม่มีซีน ชายรักชาย เหมือนเวอร์ชั่นใหม่ ที่ เอศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดังขึ้นแท่น ผู้จัดละคร ด้วยตัวเอง ซึ่งกำลังเป็นกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ กับคู่วายที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้
ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไป เจเนอเรชั่นใหม่กำลังล้างรากเง้าพฤติกรรม ค่านิยมของ คนยุคเก่า ช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้น จึงมีกลุ่มคนที่ออกมาทวงถามถึงความเหมาะสม ที่ผู้จัดและผู้กำกับยุคนี้ต้องคำนึงถึง แม้อีกกระแสของคนรุ่นใหม่จะเปิดกวางยอมรับเหตุการณ์เป็นไปในโลกแห่งความจริงที่ถูกนำเสนอในจอ พร้อมกับอ้างถึงสิทธิความเท่าเทียมในเรื่องเพศ ไม่ว่าการนำเสนอเรื่องเพศจะบอบบางกับความรู้สึกของคนใทยกลุ่มหนึ่งและจะถูกใจคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งก็ตาม แต่ถ้ามองอีกด้านจะเห็นว่าการตีความของผู้รับสารขึ้นอยู่กับว่าคนดูได้อะไร วัยรุ่นในวัยที่ฮอ์โมนกำลังพุ่งพล่านอาจจะตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับบทได้ถูกนำเสนอ ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะได้เห็นโลกแห่งความจริงของลูกๆ ซึ่งไม่เคยได้รับรู้ ท้ายที่สุดเนื้อหาสาระที่ผู้จัดและผู้เขียนบทสอดแทรกเข้าไปต่างหากที่สำคัญว่าจะสื่ออะไรที่ปเ็นประโยชน์แก่คนดูทุกเพศทุกวัย
nongtlez
20 ต.ค. 57 เวลา 15:14 น.
2,666
views
18 ความคิดเห็น
ซีนรักร่วมเพศถูกมองเป็นการชี้นำ แต่ซีนข่มขืนกลายเป็นเรื่องปกติ
ปัญหาจริงๆ เกี่ยวสื่อทีวีกลับไม่มีใครกล้าพูด
เจริญกันล่ะ
เรารู้สึกว่า รักร่วมเพศ มันแบบเยอะมากๆเลยอ่ะ (หนัง สื่อต่างๆ) เหมือนเป็นการชั้นำ สนับหนุน แล้วทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องปกติอ่ะ เราไม่ชอบเลยวายอ่ะ เราพูดตรงๆ
ขอโทษถ้าไม่พอใจใคร แต่คิดว่ามันเยอะไปแล้วอ่ะ
เค้าจะเป็นอะไรมันก็เป็นสิทของเค้านะคนเราอะมันไม่เกี่ยวกับเรื่องสังคมนิยมหรืออะไรหรอกท่าคนมันจะเป็นมันก็เป็นที่ตัวเค้าเองอีกอย่างท่าเค้าจะรักร่วมเพศแล้วเค้าไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะส่วนคนไม่ชอบก็ไม่ต้องไปดูสิ่ส่วนสื่อโทรทัศน์ที่เค้าตีแผ่ออกมาให้ดูเพื่อที่จะให้เห็นว่ายุคสมัยนี้มีความรักแบบนี้เกิดขึ้นที่เค้าสร้างมาก็คงไม่ได้เป็นการสนับสนุนแต่อาจจะอยากให้สังคมยอมรับสักทีว่ามีปัจจุบันมีความแตกต่างทางเพศมากขึ้น
#นี่ก็ความคิดเห็นส่วนตัว
เรื่องรักร่วมเพศ มันเป็นรสนิยมส่วนตัว แล้วมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วด้วย ผมไม่คิดว่า เรามีความจำเป็นจะต้องชี้นำนะ มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย แล้วก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าคุณคิดว่าเรื่องรสนิยมทางเพศมันชี้นำกันได้ งั้นสมัยก่อนที่มีแต่ละครชายหญิง ทำไมมันมีพวกรักร่วมเพศได้ล่ะ ที่พูดมานี่เราไม่ได้ไม่พอใจนะ แค่อยากแย้งความคิดเรื่องการชี้นำเท่านั้นล่ะ
เราว่ารักร่วมเพศมันมีตั้งนานแล้วนะ - - เพียงแต่เมื่อก่อนสังคมมันยังไม่มีใครยอมรับเค้าก็เลยไม่กล้าแสดงตัว แต่พอโลกเปิดกว้างขึ้นสังคมยอมรับมากขึ้นเค้าก็เลยไม่ปิดปังอะไรมากมาย เราว่ามันเป็นเรื่องปกติมาก
ลองนึกภาพดูสิขนาดคู่รักชาย-หญิงยังอยากบอกคนอื่นมาเป็นแฟนกันอยากคบกันแบบเปิดเผย แล้วทำไมคู่รักชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิง เค้าจะคบกันอย่างเปิดเผยบ้างไม่ได้
เราโอเคกับซีนรักร่วมเพศนะ มันเหมือนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วอ่ะ ทุกวันนี้สังคมมันก็มีรักร่วมเพศเยอะจนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เราว่ามันไม่ส่งผลไรมากมายหรอก คนจะเป็นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับของพวกนี้นะ มันขึ้นอยู่กับฮอร์โมนร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากกว่า อีกอย่างเวลาฉายทางโทรทัศน์เค้าก็ไม่ได้โจ่งแจ้งนะ ตัดไปโคมไปหรือนอกหน้าต่างทุกที
ต้องยอมรับได้แล้วแหละว่า ชช/ญญ มันกลายเป็นเพศที่ 3 และ 4 ในบ้านเราไปแล้ว สังคมยอมรับแล้ว นึกถึงว่าถ้าเราเป็นแบบนี้ขึ้นมา แต่มีคนมาวิจารณ์เราว่าแปลก เป็นเราเราทนไม่ได้นะ
ปล.เราว่ามันก็น่ารักดี อย่างพวก Love sick เงี้ย คือมันใสๆอ่ะ มันดีกว่าพวกละครที่แย่งตบตีกันเพื่อผู้ชาย เราว่าได้สาระกว่าเยอะ
ซีนรักร่วมเพศ เราโอเคนะ รู้สึกเฉยๆ จะเป็นยังไงอยู่ที่ตัวคนนั้นๆมากกว่า เราว่าไม่ได้เป็นการชักนำหรอก แต่ถ้าเด็กดู แล้วเกิดอยากรู้อยากลอง ถ้าพอได้ลองจริงแล้วมันไม่ใช่มันก็เลิกได้ ไม่มีอะไรเสียหาย...
ฉากที่ควรตัดออกไปเลยคือฉากข่มขืน
แต่ฉากที่ควรตัดออกไปเลยคือฉากข่มขืน...
เราว่าก็ไม่ใช่การชี้นำนะ เรื่องแบบนี้ก็มีมานานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้สังคมเปิดกว้างมากขึ้น เลยกล้าตีแผ่เรื่องแบบนี้มากขึ้น
เราว่าซีนที่มีปัญหาและสมควรแก้ไขมากที่สุดคือซีนข่มขืน ควรเลิกเสนอเรื่องแบบนี้ได้แล้ว
สำคัญเลยคือสื่อนี่ล่ะ ควรนำเสนอแบบที่ไม่ผิดจากความเป็นจริง
ไม่ชี้นำหรือปิดกั้นจนเกินไป
ไม่เอาออกสื่อก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนิ การที่เขาเอาออกสื่อแบบนี้คิดในแง่ดีเขาก็คงอยากให้คนในสังคมยอมรับ ว่าพวกที่รักเพศเดียวกันก็มีสิทธิเท่าเทียมทุกคน
#เรามีเพื่อนทุกเพศเราเข้าใจดี ^^
คหสต. มันอยู่ที่มุมมองของคนดูมากกว่า ถ้าคิดว่ามันชี้นำให้ตายยังไงคุณก็คิดว่ามันชี้นำ แต่ถ้าคิดว่ามันเหมือนกับละครทั่วไปที่มีซีนเหมือน ชญ เป็นคู่รักกันมันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาที่ทุกคนก็สามารถที่จะรับรู้ได้
การรักร่วมเพศมันไม่ใช่เรื่องผิดนะคะ ความรักไม่มีพรมแดน การที่เค้ารักพวกเดียวกันก็เป็นรสนิยมส่วนตัวของเค้า เค้าไม่ได้ไปทำใ้หใครเดือดร้อน ส่วนเรื่องการชี้นำสนับสนุนคือมันไม่ใช่อ่ะ เรื่องแบบนี้มันเป็นที่รสนิยมส่วนตัวกับความรักจิงๆเท่านั้น บางทีผู้ชายบางคนอาจจะไม่ได้เป็นเกย์มาแต่แรกแต่กลายเป็นเกย์เพราะเค้าได้ใกล้ชิดกับเพื่อนผู้ชายด้วยกันเองและความผูกพันที่มีทำให้เกิดเป็นความรัก ส่วนเรื่องที่มันเยอะไปคุณจะไปสนใจทำไม บางทีมันอาจจะเยอะอย่างงี้แต่แรกแล้วแค่เค้าไม่ไ้ประกาศตัวออกมา แต่พอสื่อต่างๆและสังคมยอมรับทำให้พวกเค้ากล้าที่จะแสดงตัวตนมากขึ้นมันเลยดูว่าการที่สือออกมาทำซีนรักร่วมเพศทำให้เกย์เลสเบี้ยนเยอะขึ้น ที่จริงแล้วมันแค่ทำให้เค้ายอมรับสิ่งที่เค้าเป็นและเปิดเผยตัวตนมากขึ้นค่ะ ปัจจุบันก็ใช่ว่าจะไม่มีชายแท้หญิงแท้นี่คะ เราควรเปิดใจรับและอยู่ร่วมกับพวกเค้าโดยที่ไม่มีอคติเถอะค่ะ
เอ่อ คือดูแล้วมันก็ไม่รู้สึกว่ามันน่าเกลียดหรืออะไรเลยนะ ก็รู้สึกเหมือนคู่ชายหญิงทั่วไปจีบกันอะ แค่ไม่มีฉากใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกันก็พอแล้ว ไม่ว่าคู่รักช-ญ ช-ช หรือ ญ-ญ ถ้ามีฉากบังคับใช้ความรุนแรงต่อกันมันก็ไม่น่าดูเหมือนกันหมดอะ
แอบขัดใจ...ฉากความรักที่ไม่มีการใช้กำลัง มีแต่ความห่วงใยซึ่งกันและกันแม่มไม่ค่อยนำเสนอกันล่ะ ทีฉากพระเอกข่มขืนนางเอกนี่นำเสนอกันจังเน้อ คนดูก็เชียร์ว่าได้กันเลยๆ ...มันคือไร? มันหมดยุคดักตีหัวลากเข้าถ้ำแล้วไม่ใช่เร้อ
ปล. แค่ไม่ชอบที่สื่อไทยนำเสนอให้สิ่งที่ควรจะเป็นปัญหาจริงๆ กลายเป็นเรื่องปกติไป แถมกลายเป็นพล็อตพื้นฐานอันหนึ่งของละครไทยว่าพระเอกต้องรักนางเอกด้วยการจับข่มขืน O_o (ถ้าเป็นต่างประเทศ อิพระเอกติดคุกหัวบานหรือไม่ก็โดนปาหินตายเหอะ ไม่ได้มาลั้นลาครองคู่กับนางเอกหรอก)
ที ฉากข่มขื่น เรียกเก็บค่าไถ่ ฆ่าคนตาย กระแสส่วนมากบอกว่าเป็นการสะท้อนสังคม แล้วฉากที่มีรักร่วมเพศบอกเป็นการชี้แนะ (เราแค่บอกความคิดเรานะ)
ปล.คือเราก็รักร่วมเพศเหมือนกัน แต่ถ้าใครจะมาบอกว่าที่เราเป็นแบบนี้เป็นเพราะเสพติดโลกออนไลน์ สื่อเยอะ นี่เราบอกเลยเราไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่ามันไม่ดีที่เราเป็นแบบนี้
ว๊าวๆๆๆๆๆๆ น่ารักอ่ะ ยาโอย ฟรุ้งฟริ้งมาก ขนาดเราเป็นผู้หญิงยังฟินเวอร์ขนาดนี้ เเล้วถ้าผู้ชายที่เป็นยาโอยหล่ะ จะฟินขนาดหนายยยยย คิดดู!!!!!
ผมว่าที่แย่ก็คือ ละครไทยจะต้องมีสูตรสำเร็จเลยตรงที่พระเอกต้องจับนางเอกข่มขืน ซึ่งนี่แหละคนก็ดันชอบซะงั้น ถ้าเป็นพวกหนังฝรั่ง พระเอกคงโดนนางเอกเอาแจกันทุบหัวแล้วโทรเรียกตำรวจมาลากคอไปโรงพักแล้วล่ะ ผมว่าผมเชื่อในคนรุ่นใหม่มากกว่าครับ เพราะเขาเข้าใจโลกในปัจจุบันมากกว่าคนรุ่นก่อนๆซึ่งส่วนมากจะเป็นพวกชอบเอาความคิดตัวเองมาเป็นตัวตัดสินทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วอ้างว่าเป็นผู้อาวุโสผ่านอะไรมามากกว่า เหมือนความคิดที่ว่า 'ไม่เชื่ออย่าลบหลู่' นี่มันสิ่งสะท้อนให้เห็นเลยว่ามันเป็นการปิดกั้นทางความคิดเห็น ว่าแม้แต่เรื่องผียังไม่มีสิทธิจะวิจารณ์กันเลย
ทุกสิ่งมันย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลายุคสมัยครับ ไม่มีสิ่งใดที่มันอยู่ยืนยาวอนันตากาล มันมีวิธีการที่จะปรับตัวเข้าหา นั่นก็คือนำของเก่าที่เคยมีมาประยุกต์มาพัฒนาให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆในตอนนั้น หรือไม่ก็โคนล้มล้างปฏิวัติแล้วสร้างมันขึ้นมาใหม่ซะเลย แต่ถ้ายังยึดติดกับสิ่งเดิมๆตลอดกาลโดยไม่รู้จักที่จะปรับตัวเข้าสู่โลกๆใหม่ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการย่ำอยู่กับที่หรอกครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?