100 คู่ .. สักกี่คู่ ? ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ คือ.. ผมอยากจะรู้ว่าการที่เราคบใครสักคนในช่วงมัธยม จะมีโอกาสที่ได้แต่งงานกันบ้างไหมครับ ? หรือว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเลย ? ...... ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะค้าบ AMPHUTONG#PC 25 ต.ค. 57 เวลา 14:44 น. 2 like 463 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
Na.mi 25 ต.ค. 57 เวลา 14:55 น. 1 หืม เราว่าเป็นไปได้ยากมากอ่ะค่ะเพราะพอเข้าในช่วงวัยทำงาน ก็จะเจอสังคมใหม่ๆสิ่งใหม่ๆอ่าค่ะ เราว่าสัก 1-2 เปอเซ็น อ่าค่ะ แหะๆๆ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
dari 25 ต.ค. 57 เวลา 15:02 น. 2 ผมว่ามันก็ค่อนข้างจะมีสิทธ์นะครับ ถ้ายังเข้าใจกัน รักกัน ดูแลใส่ใจกันเหมือนเดิม ^^ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Melony 25 ต.ค. 57 เวลา 15:04 น. 3 เราเคยอ่านวิจัยค่ะ คือ เป็นไปได้เพียง 5% เท่านั้นค่ะ เราเองก็อยากเป็นหนึ่งในห้าเปอร์เซ็น ถ้ารักกันจริงอย่าให้เวลา ระยะทาง และความไม่เข้าใจมาขัดขวางชีวิตคู่ในอนาคต ที่สำคัญ คนสองคนต้องใจตรงกัน 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ดินสอ 25 ต.ค. 57 เวลา 15:08 น. 5 เป็นไปได้เพียง 5% เท่านั้นคับ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสเลยนี่ครับ สู้ต่อไปนะครับ ผมเองก็จะสู็เหมือนกันครับ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
2555 25 ต.ค. 57 เวลา 15:12 น. 6 ถ้ามีสัก 100 คู่ เราก็ต้องเปน 1 คู่ในนั้น ถ้ามีสัก 10 คู่ เราก็จะเปน 1 คู่ในนั้น แต่ถ้ามีเพียง 1 คู่ เราก็ต้องเปนคู่นั้น !! ความหวังแม้จะมีเพียงน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มีความหวังเลยนะคะ ^^ 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
สุกิต 25 ต.ค. 57 เวลา 15:26 น. 7 คือ น้าจะบอกเหตุผล ให้ไหม คนเรา จะอยู่ด้วยกันได้ มันต้องมี มากกว่าความรัก คือ ต้องมีปัจจัย ในการดำรงชีวิต พูดง่าย ๆ ต้องมีเงิน ถ้าไม่มีเงิน จะกิน จะอยู่ จะเที่ยว จะเลี้ยงลูก จะดูแล พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ยังไง ส่วนใหญ่ คนที่ต้องคิดเรื่องนี้มากกว่า คือผู้หญิง เพราะ ผู้หญิง ถ้าแต่งงานไป ต้องมีลูก แน่นอน ถ้าผู้หญิง เป็นช้างเท้าหน้า คือรับหน้าที่ดูแล เรื่องเงินทองด้วย คงมีน้อยคน ที่อยากจะเป็น และแน่นอนว่า ผู้ชาย ณ ขณะเรียน ยังตอบไม่ได้ ว่า จะสามารถ รับฝาก อนาคต ใครไว้ได้หรือไม่ น้ายกตัวอย่างไม่ไกลเลย คือ น้านี่แหละ น้าอะ เป็นคนเงินเดือนน้อย เพราะว่า น้าเป็นคนไม่ค่อยสังคมกับใคร แล้วก็ เกียจคร้านเกินไป หลังจากเรียนจบ ปวส ไม่นาน ทำให้ ไม่สามารถ เลือกแนวทางที่ดีกว่าได้ นั่นก็ทำให้น้า ไม่ดีพอ จะเลี้ยงดูใครได้ (แต่ปัจจุบัน น้าเลี้ยงพ่อแม่ อยู่นะ พ่อแม่ กินอยู่ง่าย ไม่เหมือน ผู้หญิงหรอก) คือ น้าอยากบอกว่า คนเรา ต้องรับความจริง ให้มาก คือ ถ้าเป็นผู้ชาย ต้องถามตัวเองว่า เลี้ยงดูตัวเอง ได้ไหม และจะรับฝากชีวิต คนอื่นได้ไหม อย่างหลานน้า คนหนึ่ง (ลูกหัวหน้างาน) เค้าเคยเงินเดือนสูงนะ (จบโปรแกรมเมอร์ มา นี่เป็นสาเหตุ ว่าทำไม น้าอยากเรียนเขียนโปรแกรม) แต่ เค้าใช้เงินเก่งมาก จนตัวเอง ยังไม่พอใช้เลย แต่ก็ยังดี ที่เค้าเอง ก็ไม่ตัดสินใจ แต่งงาน (มีแฟนแล้ว) คงรอให้ มีงานที่มั่นคง แล้วก็เงินดีกว่านี้ก่อน (จริง ๆ การควบคุมรายจ่าย น่าจะสำคัญกว่า) คือ ต้องบอกว่า เรื่องเงินที่เป็นปัญหาหลัก อะนะ ผู้หญิง จึงมัก มองคนที่ทำงาน ซึ่งทำงานเก่ง หรือ อาจเป็น คนที่ตัวเอง ติดต่องานด้วย ที่เป็นคน มีความสามารถ แล้วก็ที่สำคัญ " มีความรับผิดชอบ " เพราะถ้ามีความสามารถ แต่ไม่รับผิดชอบ นั่นหมายความว่า คงอยู่ด้วยกันไม่ยืด เพราะผู้หญิงเอง แต่งงานไป ก็ต้องหวังว่า ผู้ชาย จะดูแลครอบครัว ไม่ใช่ วัน ๆ เอาแต่ใช้เงินมือเติบ หรือ จีบผู้หญิงไปทั่ว (แม้มีเงินมากมาย แต่ก็ไม่ได้ให้ครอบครัวนี่นะ) ความรับผิดชอบ นี่น่ะ พูดง่าย แต่ทำยาก น้าจะยกตัวอย่างนะ คือ หลาน ๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า คนเรา มีแต่ร่างกาย จะเสื่อมโทรม ตามอายุ และ ความสามารถ ที่อาจถดถอย ความรักมันอาจไม่ยั่งยืน เพราะเรื่องพวกนี้ แต่หาก คนมีความรับผิดชอบ และคิดว่า จะไม่รัก แต่สิ่งที่ดี ของอีกฝ่าย ยอมรับ ความเป็นจริง ถึงสภาพที่เปลี่ยนไป หรือ แม้แต่ สภาพจิตใจที่เปลี่ยนไป ก็สามารถ พาครอบครัวไปตลอดรอดฝั่งได้ แต่น่าเสียใจ ที่ปัจจุบัน คนเรา ไม่มีความอดทน และ เสียสละพอ จะเป็นอย่างนั้นได้ เราจึงเห็นการหย่าร้าง หรือ แยกกันอยู่ เกือบครึ่ง น้าก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไร คนเรา ถึงมักมองแต่ความสุข ของตัวเอง มากกว่า ความรับผิดชอบที่ตัวเอง ต้องแบกเอาไว้ น้าตัดสินว่า เพราะคนเรา ทุกวันนี้ คุณธรรมต่ำเกินไป หรือบางคนไม่สนใจ จะมีมันด้วยซ้ำ เด็กวัยรุ่น คงไม่คิดว่า มันสำคัญ การคบคนที่คุณธรรม จะสำคัญ ตอนช่วงกลางถึง ช่วงปลายของชีวิต แต่ช่วงวัยหนุ่มสาว จะมองแต่ รูปร่างหน้าตา เงินทอง ของที่จับต้องได้ เป็นหลัก จะไปเห็นผล ว่าตัวเองเลือกผิดพลาด ส่วนใหญ่ ก็มักจะสายไปแล้ว 3 0 ถูกใจ 3 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
AMPHUTONG#PC 25 ต.ค. 57 เวลา 15:32 น. 8 ขอบคุณมากนะครับคุณน้าผมจะนำไปคิด นำไปทำตามที่คุณน้าได้แนะนำกับผมมานะครับ ขอบคุณที่ช่วยตอบนะครับคุณน้า 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ลูฟี่ 25 ต.ค. 57 เวลา 19:24 น. 9 อย่าได้ฝันครับ พอเราเข้าช่วงเวลาทำงาน ก็ต้องห่างกันอีก 3-4 ปี กว่าจะได้กลับมาพบกันเขาก็คงจะอุ้มลูกกลับมาหาคุณด้วยแล้วแหละครับอย่ามีความหวังมากเลย หวังให้น้อยไว้ดีกว่า 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
นพดล 25 ต.ค. 57 เวลา 19:28 น. 10 จากการผลการวิจัยนั้นแม้จะมีแค่ 5 % แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสเลยนี่ครับ >////////< 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
nc.soal 25 ต.ค. 57 เวลา 20:02 น. 11 ส่วนน้อยค่ะ - - แต่ก็มีบ้างงงง 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
` เอสดับบิว.ลิซ 25 ต.ค. 57 เวลา 21:36 น. 12 มีโอกาสคะ แต่จะเป็นไปได้มั้ย มันขึ้นอยู่ที่ตัวคุณสองคนมากกว่า แต่ส่วนมาก คนที่เรามั่นใจว่าจะแต่งงานด้วย มักมาตอนแก่ ตอนที่เราผ่านอะไรมาเยอะแล้ว และเรารู้ว่าใครกันที่เหมาะสมและคู่ควรกับเรา 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Dari 26 ต.ค. 57 เวลา 10:25 น. 14 มันก็มีความเป้นไปไดด้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความเชื่อใจของคนสองคน ^^ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
โนโซมิซัง 26 ต.ค. 57 เวลา 10:28 น. 15 ถ้าเข้ากันได้ ผ่านอุปสรรคด้วยกันมาก็มีโอกาศอยู่นะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ลูกสาวคนโต 26 ต.ค. 57 เวลา 10:54 น. 16 มีนะ แต่มันไม่ง่าย ผู้ชายคนนึงย้ายมาจากต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในกรุงเทพ การเรียนไม่ได้ดี (เลย 55555) แต่เป็นคนมีความสามารถทางดนตรีมาก ๆ และมีความรู้เรื่องงานช่างงานฝีมือมาก ๆ (ทุกอย่างตั้งแต่ไฟฟ้าประปาโทรศัพท์ โดยเฉพาะเรื่องรถ เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 5555) ผู้หญิงคนนึงเป็นคนกรุงเทพ เรียนเก่งมาก นักเรียนท็อประดับเสมอประหนึ่งเกิดมาเพื่อเรียน เป็นคนแสบเผ็ดดุและทอมบอยมาก 55555 ทั้งคู่เจอกันตอนม.ต้น ไป ๆ มา ๆ สนิทกัน ตอนม.ปลายก็เป็นแฟนกัน จบม.6 ออกมาผู้ชายเริ่มทำงาน ผู้หญิงเรียนต่อปริญญา เชื่อไหมว่าสี่ปีที่เขาจบจากรั้วโรงเรียน แทบไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ได้เจอกัน ผู้ชายคนนั้นยังคบกันกับผู้หญิงที่เขาเจอในโรงเรียนมัธยม ไปรับไปส่งที่มหาลัย ผู้ชายคนนั้นทำงานเก็บเงิน มีรถขับภายในหนึ่งปี อดทน ทำงาน อดทน ทำงาน อดทน ทำงาน และรอ ภายหลังผู้หญิงเรียนจบและมีงานทำได้สี่ห้าปี เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางและมั่นคงอย่างจริงจัง ...พวกเขาก็แต่งงานกัน... ปัจจุบันนี้เกือบสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงและผู้ชายคนนั้นมีลูกสาวสองคน ผู้หญิงกลายเป็นคุณแม่ทอมบอย ผู้ชายกลายเป็นคุณพ่อบ้านพ่อครัวและช่างไฟให้ลูก ๆ 55555 ที่เราอยากบอกก็คือ ความรักในวัยเรียนมันมีอยู่จริง แต่มันไม่ได้มีง่าย ๆ ไม่ได้มาง่าย ๆ และไม่ได้จบลงง่าย ๆ แล้วอะไรที่ทำให้มันยาก? คำตอบคือ เวลาค่ะ รู้จักกันกี่ปี สนิทกันกี่ปี รอกันกี่ปี พิสูจน์ตัวเองกันกี่ปี มันถึงมีวันนี้ได้ อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ ตั้งหน้าตั้งตารอ ทำปัจจุบันของคุณกับเขาให้ดี รอเวลาพิสูจน์คนค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
PLA&CHAT 26 ต.ค. 57 เวลา 11:00 น. 17 โห้ ๆๆๆ สุดยอดมากๆเลยค้าบบบ ซึ้งจริงๆ ขอบคุณมากๆนะค้าบ ที่ยังทำให้ผมยังมีหวัง 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ปลาทอง 26 ต.ค. 57 เวลา 12:22 น. 18 ชีวิตคนเรามันยังอีกยาวไกลนะคะ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบลงตอนไหนหรอก อนาคตก็เหมือนกัน คุณอาจจะต้องเจออะไรอีกมาก อย่าไปหวังอะไรกับเรื่องของ อนาคตเลยคะ .... #อยู่กับปัจจุบันดีกว่านะ ! !! ดูแลเขาให้มากๆ รักเขาให้เยอะๆ ใส่ใจกันเข้าไว้ ทำให้คุณกับเขามีความทรงจำที่ดีต่อกันดีกว่า ถึงแม้ว่าตอนจบอาจจะไม่เปนอย่างที่คุณหวัง แต่มันก็จะมีค่ากับคุณไปตลอดชีวิตนะคะ ... ฉันเองก็เหมือนกัน .... 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
NICK.DE 26 ต.ค. 57 เวลา 14:56 น. 19 ก็มีสิทธ์นะครับ แต่อย่าคาดหวังกับอนาคตมากเลยครับ อยู่กับปัจจุบันดีกว่าครับ ^^ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ข่าวดี! #dek67 ทดลองจัด 10 อันดับ Admission พร้อมพรินต์ PDF ได้แล้ว (ใช้ปรึกษาคะแนนใน Dek-D's TCAS Fair ได้) TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
19 ความคิดเห็น
หืม เราว่าเป็นไปได้ยากมากอ่ะค่ะเพราะพอเข้าในช่วงวัยทำงาน ก็จะเจอสังคมใหม่ๆสิ่งใหม่ๆอ่าค่ะ เราว่าสัก 1-2 เปอเซ็น อ่าค่ะ แหะๆๆ
ผมว่ามันก็ค่อนข้างจะมีสิทธ์นะครับ ถ้ายังเข้าใจกัน รักกัน ดูแลใส่ใจกันเหมือนเดิม ^^
เราเคยอ่านวิจัยค่ะ คือ เป็นไปได้เพียง 5% เท่านั้นค่ะ
เราเองก็อยากเป็นหนึ่งในห้าเปอร์เซ็น
ถ้ารักกันจริงอย่าให้เวลา ระยะทาง และความไม่เข้าใจมาขัดขวางชีวิตคู่ในอนาคต
ที่สำคัญ คนสองคนต้องใจตรงกัน
50 - 50 ค่ะ ^^
เป็นไปได้เพียง 5% เท่านั้นคับ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสเลยนี่ครับ สู้ต่อไปนะครับ ผมเองก็จะสู็เหมือนกันครับ
ถ้ามีสัก 100 คู่ เราก็ต้องเปน 1 คู่ในนั้น
ถ้ามีสัก 10 คู่ เราก็จะเปน 1 คู่ในนั้น
แต่ถ้ามีเพียง 1 คู่ เราก็ต้องเปนคู่นั้น !!
ความหวังแม้จะมีเพียงน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มีความหวังเลยนะคะ ^^
คือ น้าจะบอกเหตุผล ให้ไหม
คนเรา จะอยู่ด้วยกันได้ มันต้องมี
มากกว่าความรัก คือ ต้องมีปัจจัย ในการดำรงชีวิต
พูดง่าย ๆ ต้องมีเงิน
ถ้าไม่มีเงิน จะกิน จะอยู่ จะเที่ยว
จะเลี้ยงลูก จะดูแล พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ยังไง
ส่วนใหญ่ คนที่ต้องคิดเรื่องนี้มากกว่า
คือผู้หญิง เพราะ ผู้หญิง ถ้าแต่งงานไป
ต้องมีลูก แน่นอน ถ้าผู้หญิง เป็นช้างเท้าหน้า
คือรับหน้าที่ดูแล เรื่องเงินทองด้วย
คงมีน้อยคน ที่อยากจะเป็น
และแน่นอนว่า ผู้ชาย ณ ขณะเรียน
ยังตอบไม่ได้ ว่า จะสามารถ รับฝาก
อนาคต ใครไว้ได้หรือไม่
น้ายกตัวอย่างไม่ไกลเลย
คือ น้านี่แหละ น้าอะ เป็นคนเงินเดือนน้อย
เพราะว่า น้าเป็นคนไม่ค่อยสังคมกับใคร
แล้วก็ เกียจคร้านเกินไป หลังจากเรียนจบ ปวส ไม่นาน
ทำให้ ไม่สามารถ เลือกแนวทางที่ดีกว่าได้
นั่นก็ทำให้น้า ไม่ดีพอ จะเลี้ยงดูใครได้
(แต่ปัจจุบัน น้าเลี้ยงพ่อแม่ อยู่นะ
พ่อแม่ กินอยู่ง่าย ไม่เหมือน ผู้หญิงหรอก)
คือ น้าอยากบอกว่า คนเรา ต้องรับความจริง
ให้มาก คือ ถ้าเป็นผู้ชาย
ต้องถามตัวเองว่า เลี้ยงดูตัวเอง ได้ไหม
และจะรับฝากชีวิต คนอื่นได้ไหม
อย่างหลานน้า คนหนึ่ง (ลูกหัวหน้างาน)
เค้าเคยเงินเดือนสูงนะ (จบโปรแกรมเมอร์ มา
นี่เป็นสาเหตุ ว่าทำไม น้าอยากเรียนเขียนโปรแกรม)
แต่ เค้าใช้เงินเก่งมาก จนตัวเอง ยังไม่พอใช้เลย
แต่ก็ยังดี ที่เค้าเอง ก็ไม่ตัดสินใจ แต่งงาน (มีแฟนแล้ว)
คงรอให้ มีงานที่มั่นคง แล้วก็เงินดีกว่านี้ก่อน
(จริง ๆ การควบคุมรายจ่าย น่าจะสำคัญกว่า)
คือ ต้องบอกว่า เรื่องเงินที่เป็นปัญหาหลัก อะนะ
ผู้หญิง จึงมัก มองคนที่ทำงาน
ซึ่งทำงานเก่ง หรือ อาจเป็น คนที่ตัวเอง
ติดต่องานด้วย ที่เป็นคน มีความสามารถ
แล้วก็ที่สำคัญ " มีความรับผิดชอบ "
เพราะถ้ามีความสามารถ แต่ไม่รับผิดชอบ
นั่นหมายความว่า คงอยู่ด้วยกันไม่ยืด
เพราะผู้หญิงเอง แต่งงานไป
ก็ต้องหวังว่า ผู้ชาย จะดูแลครอบครัว
ไม่ใช่ วัน ๆ เอาแต่ใช้เงินมือเติบ หรือ จีบผู้หญิงไปทั่ว
(แม้มีเงินมากมาย แต่ก็ไม่ได้ให้ครอบครัวนี่นะ)
ความรับผิดชอบ นี่น่ะ พูดง่าย
แต่ทำยาก น้าจะยกตัวอย่างนะ
คือ หลาน ๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า
คนเรา มีแต่ร่างกาย จะเสื่อมโทรม
ตามอายุ และ ความสามารถ ที่อาจถดถอย
ความรักมันอาจไม่ยั่งยืน เพราะเรื่องพวกนี้
แต่หาก คนมีความรับผิดชอบ
และคิดว่า จะไม่รัก แต่สิ่งที่ดี ของอีกฝ่าย
ยอมรับ ความเป็นจริง ถึงสภาพที่เปลี่ยนไป
หรือ แม้แต่ สภาพจิตใจที่เปลี่ยนไป
ก็สามารถ พาครอบครัวไปตลอดรอดฝั่งได้
แต่น่าเสียใจ ที่ปัจจุบัน คนเรา
ไม่มีความอดทน และ เสียสละพอ
จะเป็นอย่างนั้นได้ เราจึงเห็นการหย่าร้าง
หรือ แยกกันอยู่ เกือบครึ่ง
น้าก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไร คนเรา
ถึงมักมองแต่ความสุข ของตัวเอง
มากกว่า ความรับผิดชอบที่ตัวเอง ต้องแบกเอาไว้
น้าตัดสินว่า เพราะคนเรา
ทุกวันนี้ คุณธรรมต่ำเกินไป
หรือบางคนไม่สนใจ จะมีมันด้วยซ้ำ
เด็กวัยรุ่น คงไม่คิดว่า มันสำคัญ
การคบคนที่คุณธรรม จะสำคัญ
ตอนช่วงกลางถึง ช่วงปลายของชีวิต
แต่ช่วงวัยหนุ่มสาว จะมองแต่
รูปร่างหน้าตา เงินทอง ของที่จับต้องได้
เป็นหลัก จะไปเห็นผล
ว่าตัวเองเลือกผิดพลาด ส่วนใหญ่
ก็มักจะสายไปแล้ว
ขอบคุณมากนะครับคุณน้าผมจะนำไปคิด นำไปทำตามที่คุณน้าได้แนะนำกับผมมานะครับ ขอบคุณที่ช่วยตอบนะครับคุณน้า
อย่าได้ฝันครับ พอเราเข้าช่วงเวลาทำงาน ก็ต้องห่างกันอีก 3-4 ปี กว่าจะได้กลับมาพบกันเขาก็คงจะอุ้มลูกกลับมาหาคุณด้วยแล้วแหละครับอย่ามีความหวังมากเลย หวังให้น้อยไว้ดีกว่า
จากการผลการวิจัยนั้นแม้จะมีแค่ 5 % แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสเลยนี่ครับ >////////<
ส่วนน้อยค่ะ - - แต่ก็มีบ้างงงง
มันขึ้นอยู่ที่ตัวคุณสองคนมากกว่า
แต่ส่วนมาก คนที่เรามั่นใจว่าจะแต่งงานด้วย
มักมาตอนแก่ ตอนที่เราผ่านอะไรมาเยอะแล้ว
และเรารู้ว่าใครกันที่เหมาะสมและคู่ควรกับเรา
๕๕๕๕๕ ค้าบบ
มันก็มีความเป้นไปไดด้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความเชื่อใจของคนสองคน ^^
ถ้าเข้ากันได้ ผ่านอุปสรรคด้วยกันมาก็มีโอกาศอยู่นะ
มีนะ แต่มันไม่ง่าย
ผู้ชายคนนึงย้ายมาจากต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในกรุงเทพ การเรียนไม่ได้ดี (เลย 55555) แต่เป็นคนมีความสามารถทางดนตรีมาก ๆ และมีความรู้เรื่องงานช่างงานฝีมือมาก ๆ (ทุกอย่างตั้งแต่ไฟฟ้าประปาโทรศัพท์ โดยเฉพาะเรื่องรถ เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 5555)
ผู้หญิงคนนึงเป็นคนกรุงเทพ เรียนเก่งมาก นักเรียนท็อประดับเสมอประหนึ่งเกิดมาเพื่อเรียน เป็นคนแสบเผ็ดดุและทอมบอยมาก 55555
ทั้งคู่เจอกันตอนม.ต้น ไป ๆ มา ๆ สนิทกัน ตอนม.ปลายก็เป็นแฟนกัน จบม.6 ออกมาผู้ชายเริ่มทำงาน ผู้หญิงเรียนต่อปริญญา
เชื่อไหมว่าสี่ปีที่เขาจบจากรั้วโรงเรียน แทบไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ได้เจอกัน
ผู้ชายคนนั้นยังคบกันกับผู้หญิงที่เขาเจอในโรงเรียนมัธยม ไปรับไปส่งที่มหาลัย ผู้ชายคนนั้นทำงานเก็บเงิน มีรถขับภายในหนึ่งปี อดทน ทำงาน อดทน ทำงาน อดทน ทำงาน และรอ
ภายหลังผู้หญิงเรียนจบและมีงานทำได้สี่ห้าปี เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางและมั่นคงอย่างจริงจัง
...พวกเขาก็แต่งงานกัน...
ปัจจุบันนี้เกือบสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงและผู้ชายคนนั้นมีลูกสาวสองคน ผู้หญิงกลายเป็นคุณแม่ทอมบอย ผู้ชายกลายเป็นคุณพ่อบ้านพ่อครัวและช่างไฟให้ลูก ๆ 55555
ที่เราอยากบอกก็คือ ความรักในวัยเรียนมันมีอยู่จริง แต่มันไม่ได้มีง่าย ๆ ไม่ได้มาง่าย ๆ และไม่ได้จบลงง่าย ๆ
แล้วอะไรที่ทำให้มันยาก?
คำตอบคือ เวลาค่ะ
รู้จักกันกี่ปี สนิทกันกี่ปี รอกันกี่ปี พิสูจน์ตัวเองกันกี่ปี มันถึงมีวันนี้ได้
อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ ตั้งหน้าตั้งตารอ ทำปัจจุบันของคุณกับเขาให้ดี
รอเวลาพิสูจน์คนค่ะ
โห้ ๆๆๆ สุดยอดมากๆเลยค้าบบบ ซึ้งจริงๆ ขอบคุณมากๆนะค้าบ ที่ยังทำให้ผมยังมีหวัง
ชีวิตคนเรามันยังอีกยาวไกลนะคะ
ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบลงตอนไหนหรอก
อนาคตก็เหมือนกัน คุณอาจจะต้องเจออะไรอีกมาก
อย่าไปหวังอะไรกับเรื่องของ อนาคตเลยคะ ....
#อยู่กับปัจจุบันดีกว่านะ ! !!
ดูแลเขาให้มากๆ รักเขาให้เยอะๆ ใส่ใจกันเข้าไว้
ทำให้คุณกับเขามีความทรงจำที่ดีต่อกันดีกว่า
ถึงแม้ว่าตอนจบอาจจะไม่เปนอย่างที่คุณหวัง แต่มันก็จะมีค่ากับคุณไปตลอดชีวิตนะคะ
... ฉันเองก็เหมือนกัน ....
ก็มีสิทธ์นะครับ แต่อย่าคาดหวังกับอนาคตมากเลยครับ อยู่กับปัจจุบันดีกว่าครับ ^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?