Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เก็บรุ่นพี่มาเพ้อค่ะ 55555555 >///< มาต่อจ้า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เก็บรุ่นพี่มาเพ้อ >//////////////<

เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริง บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จริงค่ะ และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ขอเราย้อนความตั้งแต่สิ่งที่จุดประกายทำให้เราปลื้มเขานะคะ

ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราชอบเขาไหม แต่เราจำเรื่องราวของเขาได้ดี

จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องกลับบ้านเองค่ะ ปี56

วันนั้นก็เกือบเหมือนทุกวัน เพียงแต่วันนั้นรถมาช้ามาก เรายืนรออยู่ครึ่งชั่วโมง คนอื่นๆที่รอก่อนหน้านี้กลับกันไปหมดแล้ว ที่ตรงนี้เลยเหลือแค่เรากับรุ่นพี่ผช.ร่วมสถาบันคนหนึ่ง ที่อยู่ในโลกของเสียงเพลง

เรารู้จักพี่เขา เพราะสนิทกับเพื่อนในกลุ่มเขามาก่อน แต่เรายังไม่เคยคุยกัน พี่เขาคงจะไม่รู้จักเรา(เราคิดแบบนั้น) เวลาผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เราค่อนข้างมั่นใจว่าพี่เขา ต้องรอรถคันเดียวกันกับที่เรารอแน่ๆ อันที่จริงเราจะเดินกลับก็ได้ ใช้เวลาประมาณ20-30นาที แค่ด้วยความขี้เกียจเลยยืนรอ มองรถผ่านไปคันแล้วคันเล่า

จู่ๆรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เข้ามาทัก ตอนนั้นเราตกใจมาก เพราะยืนอยู่ตรงนี้มานาน ไม่มีทีท่าว่าจะทักกันเลย อยู่ดีๆก็เข้ามาคุย ทำตัวไม่ถูก และตื่นเต้นจนลืมว่าพูดอะไรไปบ้าง(จำได้ว่าไม่กี่ประโยค) ไม่นานรถก็มา บนรถก็มีแค่สองคนนั่นแหละ เป็นรถสองแถวค่ะ เลยนั่งฝั่งตรงข้ามกัน ไอ่เราก็เหงาๆไป วันนั้นก็จบลงด้วยดี



ต่อค่ะๆ

พอวันต่อมาด้วยความที่ขุ่นข้องใจมาก (พอได้คุยแล้วรู้สึกปลื้ม จากตอนแรกก็แอบมองไกลๆ) เลยถามเพื่อนข้างๆ ที่เลือกไม่ถามเพื่อนสนิทเพราะคงโดนล้อค่ะ เราเลยถามคนข้างๆเลย ประมาณว่า รู้จักพี่จุดคนนี้มั้ย? คนที่อยู่ม.5ห้องxอ่ะเพื่อนก็ตอบมาว่า อ่อ...พี่จุดอ่ะนะ แฟนพี่ของก.ไง’ (ก.คือเพื่อนคนนึงของเรานะคะ) เรารู้มาบ้างว่าพี่ของก.มีแฟนชื่อจุด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจุดคนนี้55555 วันนั้นเลยเศร้าตามระเบียบ และอย่างที่บอกว่าแค่ปลื้มจากบุคลิก  การพูด ความคิด+ตอนนั้นเรามีแฟนอยู่แล้ว เราเลยจะเก็บไว้มองต่อไปค่ะ

แต่เรื่องก็ไม่ยอมจบแค่ตรงนั้น ช่วงนั้นต้องไปทำงานกลุ่ม แล้วดันอยู่กลุ่มเดียวกับพวกอลังการ คือทำงานแบบละเอียดกันมาก ต้องเลิศที่สุดประมาณนี้ เลยต้องไปทำงานต่อที่บ้านเพื่อนคนนึงค่ะ(ขอใช้นามแฝงว่าอิง) วันนั้นเลิกเรียนก็ตรงกันไปบ้านอิง ก็มีเรา อิง แล้วก็เพื่อนอีกคนค่ะ(เพื่อนคนอื่นบอกจะตามมาทีหลัง แต่เราสามคนรีบ) พอมาถึงบ้านอิง เลยมีกันแค่สามคน ก็ทำงานเรื่อยๆค่ะ จนอิงรับโทรศัพท์ นางก็พูดปกติ แต่ซักพักนางก็ยื่นโทรศัพท์มาให้เราค่ะ เราคิดว่าคงเป็นคนที่นางกิ๊กๆอยู่ เราเลยรับมาแบบงงๆ

เรา : สวัสดีค่ะ

ปลายสาย : สวัสดีครับ..

เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่คือเรากรี๊ดในใจเลยค่ะ เสียงแบบนี้ พี่จุดชัดๆ เราเลยรีบคืนมือถือให้เพื่อนเราค่ะ

เรารู้มาก่อนว่าเขาเป็นญาติกัน พี่จุดโทรมาเพราะตอนนั้นที่มาทำงานบ้านอิง พ่อแม่อิงยังไม่เลิกงาน เขาก็คงเป็นห่วง

แค่ประโยควันนั้นทำให้คนที่กำลังค่อยๆเก็บความปลื้มลงไป ก็เริ่มเก็บไม่อยู่ เพ้อคนเดียวในใจ ถ้าหลายคนกำลังสงสัย

ว่าทำไมเราถึงไม่สานต่อ เฟช ไลน์? คือถ้าเราจะขอมันก็ง่ายมากๆเลยค่ะ(ขออิงไปเลย หรือรุ่นพี่ที่อยู่กลุ่มเดียวกับพี่จุด) แต่เพราะในตอนนั้นเรามีแฟนค่ะ(แฟนคนนี้คบมานาน แต่เราไม่ได้คิดกับเขามากกว่าเพื่อนนานแล้ว ที่ยังคบอยู่เพราะครอบครัวค่ะ) เราเลยคิดว่าต่อให้เราแค่ปลื้มแบบพี่น้องแต่การที่ไปคุยเขาด้วยใจที่มันปลื้มพิเศษ ก็คงไม่เหมาะ เลยไม่เคยสานต่อค่ะ 



ไว้เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ เพราะเรื่องมันยาว ถ้าชอบก็ติดตามกันด้วยค่ะ5555555

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

Whatkind? 29 ต.ค. 57 เวลา 20:39 น. 2

ขอต่อในนี้นะคะ 29/10/14

ปิดเทอมผ่านไป ช่วงนั้นเราให้เวลากับแฟนมากๆ เพราะอย่างที่บอกว่าเราไม่คิดอะไรกับเขานานแล้ว มองเป็นแบบเพื่อน

แต่ด้วยระยะเวลา เราเลยให้โอกาสค่ะ มาลองจีบกันใหม่ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้นนะ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ แย่กว่าเดิม

และด้วยสารพัดวิธีของฝ่ายชาย ขู่ฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเองบ้าง หนักสุดคือมาเข้าทางแม่เราค่ะ

แม่เราเป็นคนใจดีและเอ็นดูแฟนเรามากๆ เราก็ต้องคบต่อตามระเบียบค่ะ (ด้านดีแฟนเราก็มีเยอะ แต่ด้านร้ายก็เยอะเหมือนกัน)

พอเปิดเทอมมาถึงเรื่องรักๆของเรากับแฟนแย่ลงมาก ด้วยภาระการเรียนทำให้ไม่มีเวลาคุยกัน หรือคุยกันก็จะทะเลาะทุกที

เพราะไม่เคยมีทัศนคติที่ตรงกัน ส่วนเรื่องพี่จุด เปิดเทอมใหม่มา มีเรื่องใหม่ๆทำให้เราได้เจอหน้าพี่จุดบ่อยมาก แต่ก็ไม่ได้คุยกันนะคะ ส่วนเพื่อนข้างๆเราคงรำคาญมาก เพราะพอได้เห็นพี่จุดบ่อยขนาดนี้ เราจะมีอาการอมยิ้ม นานๆไปมันก็รู้ว่าเราปลื้มๆพี่เขา จนวันนึงเราเลยคุยกับเพื่อนคนนี้

เรา : “นั่นไงๆพี่จุด -////-“ เขินค่ะ เจออีกแล้ว เขาจะมองเห็นเรามั้ยนะ5555555555555

เพื่อน : “ทำไมไม่ไปจีบเขาล่ะ” พอมันพูดจบเราเลยหันไปมองหน้าเลยค่ะ

เรา : “ก็เธอบอกว่าพี่เขาเป็นแฟนกับพี่ของก.ไง” ถึงฉันจะเพ้อเจ้อแต่ก็ไม่ชอบไปยุ่งกับคนมีเจ้าของหรอก

เพื่อน : “ตอนนั้นเราไม่ได้บอกหรอ ว่าเขาเลิกกันนานแล้ว” มาถึงตอนนี้เพื่อนเราทำหน้าแบบ อย่าฆ่าช้านเลยยยยย ช้านลืมบอกแกไปนิดเดียวเอ๊งงงงงงงงงงงงงงงง เราเลยมองหน้าแล้วทำหน้าเสียใจไปนิดนึงค่ะ T________T

เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ เรายังคบแอบมองพี่จุดบ่อยๆ ในที่สุดเพื่อนอิงของเราก็ลงรูปคู่กับพี่จุดค่ะ !!!!

เราเลยคิดว่า นี่คงเป็นโชคชะตา ฟ้าลิขิตให้เราได้ส่องเฟชเขา โดยที่ไม่ต้องขอใครเลย 555555555555555

จัดการกดไลค์รูปโปร์ไฟล์ทันที พร้อมส่องสเตตัสต่ออีกนิดหน่อย ดูเหมือนพี่เขาจะไม่มีแฟน และไม่มีเวลามาเล่นเฟช สเตตัสน้อยมาก เราก็โอเค อ้ะๆๆปลื้มต่อ จัดการแอดเพื่อนค่ะ >//< พอ 5 นาทีผ่านไป การแจ้งเตือนในมือถือเราก็บอกว่า พี่เขารับเราเป็นเพื่อนแล้ววววว แถมยังมาไลค์รูปโปร์ไฟล์เรากลับ นั่นทำให้เราเขินมาก เพราะรูปโปร์เราค่อนข้างรั่วๆ

แต่ก็ไม่ทักค่ะ แอดเพื่อส่องถนัดขึ้นเท่านั้น (แหน่ะ นังนี่ร้าย)

มาถึงเรื่องดราม่าค่ะ

แฟนเราที่คบอยู่ เหมือนจะกึ่งนอกใจไม่นอกใจ ขอไม่เล่าละเอียดนะคะ เพราะทุกอย่างมันยังชัดอยู่ กลัวเพื่อนจะมาเห็นแล้วร้องอ๋อ!!! เราเป็นคนที่อภัยให้ได้ทุกสิ่ง ยกเว้นเรื่องนอกใจ สำหรับฉันไม่มีโอกาสครั้งที่ 2 จ้ะ!!!!

เราเลิกเลยทันที แม่เราก็เข้าใจ แต่ก็กึ่งเข้าข้างฝ่ายชายค่ะ ส่วนบ้านฝ่ายชาย แล้วใหญ่เลยเข้าข้างเขาสุดๆ

จนบอกว่าเราเนี่ยเป็นคนฝังใจนะ (อารมณ์ประมาณว่าลูกชายเขาไม่ผิด) ทั้งๆที่เราเห็นต่อหน้าต่อตาค่ะ

พอเลิกแล้วก็ตัดกันไม่ขาด เพราะยังต้องเจอกันอยู่ ต้องคุยกันอยู่

เหมือนเขาจะรู้จักเราน้อยเกินไป เพราะคำว่าไม่ ก็คือไม่จริงๆๆๆๆ

ช่วงนั้นเสียใจหนักมาก(แต่เราไม่ใช่คนที่งอแง หรือชอบโชว์ความอ่อนแอ) เราไม่เคยร้องไห้ให้แม่เราหรือเขาเห็น

แรกๆเราเก็บมาก กดเอาไว้ ไม่แสดงอาการเศร้า จนเวลาผ่านไปแม่วางใจว่าเราคงไม่เฮิร์ทแล้ว เราถึงเริ่มร้องไห้คนเดียว

เสียดายเวลาที่คบกัน และเสียใจที่มันทำแบบนั้นกับเรา เราใช้บางอย่างเยียวยาจิตใจค่ะ และการเพ้อเรื่องพี่เขาก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

หลังจากที่เราโสดปุ๊บ มีเวลาในการมองตัวเองและสนใจคนรอบข้างมากขึ้น ในใจก็คิดว่า โสดก็ดี จะได้เพ้อถึงพี่เขาได้

คนที่รู้ว่าเราเพ้อก็คือเพื่อนข้างๆค่ะ เราเพิ่งมาสังเกตว่า ช่วงนี้เราเจอพี่เขาบ่อยขึ้น เดินสวนกันบ่อยๆ

เมื่อก่อนไม่มีนะ ฉันต้องแอบมองเขาไกลๆแค่นั้น ไม่เคยกล้าเสนอหน้าไปใกล้ๆซักที เพื่อนข้างๆเลยรับรู้หมดว่าวันไหนเราเดินส่วนกับพี่จุดบ้าง5555555555

มันเริ่มพัฒนาค่ะ จากการเดินสวนไปเดินสวนและสบตา เดินสวดแบบระยะเฉียดๆ และมันเร็วมากค่ะ ที่เราได้ใกล้กับเขามากขึ้น

(เราไม่เคยตั้งใจไปใกล้ๆค่ะ สองเหตุผลหลักๆคือ 1.พี่เขาอยู่ม.6แล้ว จะไปสานต่อตอนนี้ก็มีเวลาแค่แปบเดียว 2.ยังเข็ดกับความรักและกลัวต้องอกหักอีกครั้ง แถมพี่เขาไม่เคยมีทีท่าว่าจะชอบเราเล้ย แหม่ก็คนเคยคุยกันสองครั้งไม่ถึงสิบประโยค) เรื่องของเรากับเขาเราเลยกะว่าจะให้โชคชะตาพาไป แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เรากลับเจอเขาบ่อยขึ้น(หรือเราเพิ่งสังเกต) ปกติเรากินข้าวเสร็จจะมีจุดนั่งประจำค่ะ และไม่ใช่ที่นั่งประจำของพี่เขาแน่ๆ แต่วันนั้น ในขณะที่เรากำลังง่วงเพราะอิ่ม

คนก็เยอะเสียงดัง เราเลยใส่หูฟังฟังเพลง และเท้าคางกับโต๊ะ พอเราเงยหน้าไปเท่านั้นแหละค่ะ!!!

พี่จุดนั่งห่างจากเราไปห้าโต๊ะได้ แต่นั่งตำแหน่งเดียวกับเรา แล้วมันเหมือนในละคร ที่ตอนแรกคนเยอะๆ

แต่ตอนนี้คนมากมายกับสร้างช่องว่างเป็นช่องตรงกัน พอจะให้เรามองเห็นพี่เขา แน่นอนว่าเราหายง่วงทันที5555555

พี่เขาก็คงไม่รู้ตัวว่าเรานั่งอมยิ้มคนเดียว เขาก็ใส่หูฟังกำลังอยู่ในโลกของตัวเองเหมือนเรา เพื่อนสนิทก็ไม่ได้เอะใจเราค่ะ

(นางยังไม่รู้เพราะกลัวโดนล้อ กลัวความแตกว่าเราชอบพี่เขา)  วันนั้นจบไปแบบฟินๆ

0