(ชวนคุย) ขณะ...เขียนฉากดราม่า
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยได้ยินนักเขียนหลานท่านบอกว่า ถ้าเราอยากให้นักอ่านอินนักเขียนต้องรู้สึกก่อน หลายคนบอกว่าเขียนฉากดราม่าทีน้ำตาไหลไปพิมพ์ไปกันเลยทีเดียว แต่เราไม่เคยมีโมเม้นต์แบบนั้นบ้างเลย YY คือตอนเขียนนี่ความรู้สึกค่อนไปทางเฉยๆ มากกว่าค่ะ ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ (เวลาเขียนฉากหวานมันยังมีอารมณ์นั่งยิ้มตามไปด้วย) เวลาเราจะเขียนฉากดราม่ามันจะมีภาวะมโนก่อนหน้านั้น ตอนนอนคิดนี่น้ำตาซึม หนักหน่อยก็ไหลเป็นทางเลยค่ะ แอบสะอื้นด้วยนะบางที แต่พอถึงตอนนั่งพิมพ์ ไม่รู้ว่าอารมณ์ตรงนั้นหายไปไหน
เขียนมาสองสามเรื่อง หลายๆ ฉากก็เป็นอาการแบบนี้ เลยคิดว่าตัวเองอาจจะเขียนดราม่าไม่ดี ตัวเองยังไม่ค่อยรู้สึกถึงมันเลย แล้วคนอ่านจะรับรู้ได้มั้ย
แต่ฟีดแบ็กจากนักอ่านก็มีคนรับรู้มันไปได้บ้างอยู่... มีประมาณเรื่องนี้มีช่วงให้อมยิ้มแต่เวลาเศร้าก็ทำเอาร้องไห้ด้วย หรือ ตอนเศร้าๆ เรื่องนี้ใช่เลย หรือ อึดอัดอยากให้ผ่านช่วงนี้ไปเร็วๆ... อืม มันก็พอเศร้าให้อยู่บ้างเนาะ
แล้วท่านอื่นๆ ล่ะคะ เวลาเขียนฉากดราม่านี่อินมั้ยคะ
56 ความคิดเห็น
เรามักมโนฉากดราม่าได้ในช่วงเข้านอนค่ะ จะคิดได้มากเลยด้วยกับช่วงนี้ หากดราม่าไม่หนักเราก็เฉย(บางทีแอบยิ้ม) ถ้าหนักๆก็น้ำตาไหลออกมาน้อยๆ ประมาณน้ำตาที่ออกมาตอนหาวน่ะค่ะ แค่นั้นแหละ...
แล้วถ้าไปนั่งแต่งล่ะจะอินมั้ย? อืม... ก็ไม่ค่ะ เราจะเฉย ส่วนใหญ่ดราม่าของเรานั้นจะเป็นการ 'ตาย' หากเป็นตัวละครที่ชอบอาจจะแอบเซ็งกับตัวเองว่าทำให้มันตายได้ไงเนี่ย หากไม่ชอบก็เฉยไป หากเฉยๆกับมันก็เฉยเข้าไปใหญ่ เราเป็นพวกอินยากน่ะค่ะ ฉากรักจนเลี่ยนยังเฉยเลย ฉากจูบเราก็เฉย(ถ้าฝ่ายชายเป็นตัวที่เราชอบอาจแอบอิจฉาคุณนางเอก) ฉากตลกก็เฉย แต่ไม่รู้ทำไม... ทีตอนนั่งอ่านนิยายคนอื่นเราถึงได้แสดงอาการอินจนเกินเหตุ จิ้นได้ทีนี่ยิ้มไปกลิ้งไป พอถึงเนื้อถึงตัวกันบ้างก็ฟิน ฉากตลกก็หัวเราะคิกคัก ทีกับเรื่องตัวเองดันรู้สึกตายด้าน...
เหมือนบทรักครับ อินตอนคิดบท ตอนจิ้น ตอนเกลา เพราะหลับตาฟังเพลงไปด้วย
แต่เวลาแต่งจะไม่อินมาก แค่นำข้อมูลที่พร้อมออกมาให้ชัดเจนที่สุด
แล้วจะไปลงซ้ำกับตอนเกลาแทน
และลงเอยความฟินกับตอนตามอ่านคอมเม้นต์
กับฉากดราม่านี่ ร้องไห้ตอนคิด
พอถึงตอนเขียน ไปๆ มาๆ ก็ร้องไห้อีกจนปวดหัว คงเพราะเราบ่อน้ำตาตื้นเอง
พอเสร็จจากฉากดราม่า บอกตรงๆ ว่าเพลียยาว สูบพลังชีวิตแทบหมด...
เพิ่ม - ในหนึ่งเดือนมันจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่อารมณ์ผู้หญิงอ่อนไหวมากที่สุด =.,= เราเขียนดราม่าได้ช่วงนั้นแหละ นี่เรื่องจริงนะ...(จริงของเราคนเดียวมั้ง ฮา)
พอเอาลงเว็บไปแล้ว มันมีหลายแบบน่ะ เช่น คนที่เคยเม้นท์มาก่อน...เงียบ สงสัยรับดราม่าไม่ไหว ส่วนคนที่ไม่เคยเม้นท์...ปรากฏกาย! ถามว่าดีใจไหม ก็ดีใจนะที่พอจะส่งอารมณ์ไปถึงคนอ่านได้ แต่เหมือนมีเรื่องให้รับผิดชอบมากขึ้น กับอารมณ์ที่เกิด คือเรารู้สึกผิดมากกว่ารู้สึกดีน่ะ เราก็เคยร้องไห้เพราะอ่านนิยายอ่านการ์ตูนมา ใจเขาใจเรา... ทำเขาเสียใจก็ต้องรับผิดชอบ
ปล. โอ๊ะ ข้าพเจ้าจำท่านได้แล้ว ท่านแมงมุมฯน้อยเขียนเรื่องสั้น เกี่ยวกับตำนานและความเชื่อของผี เรื่องนั้นนั่งเอง
เราก็ชอบมโนฉากดราม่าตอนนอนเหมือนกันค่ะ ปิดไฟมือก่ายหน้าผาก
ท่านกวีตอบเหมือนกระทู้นั้นเลย ^^
ความจริง ที่เราเกิดอยากตั้งกระทู้นี้เพราะความเห็นท่านในกระทู้นั้นล่ะค่ะ - -
กำลังเครียดเลยค่ะ พอต้องเขียนดราม่า แต่ถนัดคอเมดี้ แถมยังไม่เคยเขียนดราม่าด้วย
ตอนคิดฉากดราม่าก็ซึมๆ ไปนะคะ ไม่รู้ตอนเขียนจะทำได้แค่ไหน และคนอ่านจะดราม่ารึเปล่า
ตอนผมวางแผนฉากดราม่าในสมอง ไม่ยักจะร้องไห้
แต่พอพิมพ์ฉากนั้นจริงๆ น้ำตากับซึมแหะ อาจเป็นเพราะผมรักตัวละครของผมก็ได้ ทำให้เวลาพิมพ์ฉากดราม่า มันสะเทือนเข้าไปในอารมณ์ของตัวผม จนทำให้เกิดอาการน้ำตาคลอ
ผมเองก็ไม่รู้จะสอนยังไงเหมือนกัน พวกเรื่องความรู้สึกเวลาแต่ง อยากให้เจ้าของกระทู้หาสถานที่เงียบๆ ใช้สมาธิเยอะๆกับฉากนั้น บางทีความเงียบ อาจทำให้อารมณ์ของเราสั่นคลอนก็ได้...
สงสัยเราคงพลังน้อยกว่าท่านมั้งคะ พอคิดเสร็จพลังก็หมดแล้วฮาา ไม่เคยมีโมเม้นต์มานั่งร้องตอนพิมพ์เลย
ระวังนะ (ปกติเขาต้องให้กำลังใจกันป่าวหว่า ฮาาา)
พี่เคยเอาตลกมาผสมกับมาม่า แต่คนจำได้แต่ตลก คือช่วงต้นตลก มาม่าแค่หนึ่งในสี่มั้ง พอถึงมาม่าคนก็ไม่มีใครอินให้เค้าเลย TT
ซอไม่ต้องเครียดหรอก ^^
เป็นเหมือนท่านเลยค่ะ น้ำตาไหลตอนคิด แต่พอเขียนจริงก็ไม่ขนาดนั้นแล้ว เฉยๆ ไปเลยซะงั้น
โอเค เวลาเขียนจริงมันก็เศร้าแหละค่ะ แต่รู้สึกเหมือนว่าเราจดจ่ออยู่กับการพยายามจะบรรยาย การเลือกคำ อะไรแบบนี้ล่ะมั้งคะ อารมณ์ก็เลยไม่เหมือนตอนที่คิดฉากนั้นออก
แต่ดูฟีดแบ็คจากคอมเม้นท์ ก็ดูเหมือนคนอ่านจะอินพอสมควรนะคะ บางทีทิ้งช่วงไว้สักพักแล้วกลับมาอ่านเอง ก็พอจะเรียกน้ำตาได้อยู่เหมือนกัน (ฮา)
กลับกันกับของเราเลย
ชอบประโยคสุดท้ายจังค่ะ ความเงียบอาจทำให้อารมณ์เราสั่นคลอง
เดี๋ยวจะลองดูนะคะ (แม้ปกติเวลาเขียนฉากแบบนี้ก็พยายามเขียนตอนเงียบๆ อยู่แล้วก็ตาม...อาจต้องเงียบเป็นพิเศษ)
อาจจะเป็นอย่างท่านว่าก็ได้ (หรือไม่เราก็อาจเขียนไม่อินจริงๆ ฮาาา)
พอทิ้งช่วงแล้วกลับไปอ่าน มันก็พอรู้สึกโหวงๆ บ้างอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่อินจัดเหมือนตอนคิดฉาก
จริิงๆแล้วคนอื่นอาจจะมีวิธีคิดที่แตกต่างไปนะ
แต่สำหรับผมเนี่ย รู้สึกว่าใช้วิธีนี้ดีสุดล่ะครับ เพราะมันไม่ต้องรอบิ้วด์อารมณ์ ไม่ต้องรอจังหวะ ขอแค่ว่างก็จัดไปได้เลย
เพราะเราบิ้วด์มาล่วงหน้าแล้ว
ตอนก่อร่างสร้างโบกนี่ไม่ต้องใส่ใจมาก มาเก็บรายละเอียดช่วงเกลาแทนดีกว่า
ใช้วิธีนี้แล้วงานเดินไวครับ
เพียงแต่ว่าช่วงคิดพล็อตเราต้องเอาให้ชัวร์ ยัดให้แน่นนะครับ
เพราะถ้าไม่งั้นมันจะกลายเป็นมาดั้นสดเอาตอนหลัง ซึ่งจะยิ่งสะดุดกว่าเดิมอีก
ซอเคยเขียนฉากหนึ่งค่ะ คือค่อนข้างเครียดเล็กน้อย และหวังให้มันสะเทือนไตนักอ่านบ้าง
แต่เปล่าเลยค่ะ
นักอ่านกลับบอก
55555555555555555555555555555 เกือบดราม่าแล้วค่ะ
คือไรรรรรรรรรร พูดดดดดดดดดดดดดดดด
ของพี่มีคนบอก มันตลกมากกว่า มันตลกเพลิน ---- เรื่องนี้มันมาม่าหรือคะ
เอ่อ...เอาจริงๆเราไม่ค่อยอินเวลาเขียนฉากดราม่าอ่ะนะ- -;;
คือเราว่ามันก็ไม่จำเป็นอินถึงขนาดร้องไห้(เเต่บางท่านก็น่าจะเป็นเเต่ไม่ใช่กับเราเเน่นอน)
เเต่บางทีก็เศร้านิดหน่อยอ่ะนะ.เเต่ก็ไม่มากเพราะเราเป็นคนไม่ค่อยอินอะไรง่ายๆซักเท่าไหร่(ฮา)
เราก็คิดว่าบางครั้งมันอาจไม่ต้องอินถึงร้องไปเขียนไปเหมือนกันค่ะ
แต่ในกรณีนี้คือ...มันเฉยๆ ไปเลย ^^
ฉากดราม่านํ้าตาตกในนี่ ส่วนใหญ่มันยังไม่ถึงเวลาสักเท่าไหร่นะ สำหรับผม
แต่ถ้าให้บอกถึงความรู้สึกเวลาแต่งจริงๆ ก็มีหลากหลายสถานการณ์แล้วแต่ฉากนั้นๆ น่ะครับ เช่นถ้าเป็นฉากดราม่าปนเศร้าหมอง ก็จะรู้สึกเศร้าหมองตามฉากนั้นๆ ไปอ่ะครับ
แต่ถ้าถามว่า "อินกับเนื้อเรื่องรึเปล่า?" ก็รู้สึกอินนะครับ เหมือนกับได้ดูหนังเรื่องหนึ่งเลยก็ไม่ปาน ฮ่าๆ
เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่การเขียนนิยายให้จบสักเรื่องหนึ่ง ถึงได้ใช้เวลายาวนานมากสำหรับผม ฮ่าๆ
ของเรานี่ถ้าจบ เขียนไม่นานค่ะ
ถ้าเขียนนานคือไม่จบ...ดองค่ะ ฮาาา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?