ค่านิยมสถาบันดังๆนี่มีเฉพาะคนไทยชาติเดียวในโลกหรอ?? สถาบันดังมันมีอะไรดี?
ตั้งกระทู้ใหม่
ชื่อเสียงเเต่ละสถาบันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ??
53 ความคิดเห็น
จีน ญ๊่ปุ่ณ เกาหลี เขาสอบเข้าหนักกว่าเราเยอะ ค่านิยมในสถาบันเขามากกว่าเรามากครับ ลองไปศึกษาได้ครับ
ขอพูดตรงๆนะ อาจจะไม่ถูกใจใครด้วยแหละ คนที่เขาบอกว่าค่านิยมสถาบันนี่มีเฉพาะไทย พวกนี้คือพูดปลอบใจตัวเองทั้งนั้น ทุกประเทศในโลกมันก็มีค่านิยมที่ว่าใครสอบเข้ามหาลัยชื่อดัง สังคมเขาก็ต้องมองว่าเป็นคนเก่ง ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้วเพราะกว่าจะเข้ามหาลัยดังๆได้มันยากมาก
อย่าไปฟังใครเขาครับ เอาเป็นว่าคุณสอบเขามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไหม ถามตัวเองก่อน ถ้าสอบเข้าไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความคุณโง่ แต่เชื่อเถอะว่าทัศคติคุณจะเปลี่ยนไปโดยเห็นได้จากการมองมหาลัยที่ตัวเองสอบไม่ติดหรือไม่มีคะแนนถึงไปในแง่ลบ ซึ่งคนส่วนมาก เอาเป็นว่าเยอะเลยแหละที่เป็นแบบนี้
มันมีทุกที่แหละการสอบแข่งขันก็มาพร้อมกับคุณภาพมหาล้ย แล้วก็วัดคุณภาพนิสิตนักศึกษาด้วย ไม่งั้นถ้าทุกมหาลัยเท่ากัน จะจัดสอบทำไมใครอยากเข้าที่ไหนก็เข้า ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นคำปลอบใจตัวเองมากกว่าที่บอกเรียนไหนก็เหมือนกัน อันนี้ขอไม่โลกสวยนะเพราะคิดว่ามันจริง
จริงๆมีทุกประเทศแหละครับ เรื่องชื่อเสียงกับความนิยมมันไม่เข้าใครออกใครครับ อย่างอังกฤษก็ต้อง Oxford Cambridge สหรัฐฯก็ Harvard Columbia ฯลฯ (แม้จะมีหลายแห่งแต่ถ้าจัดประเภทดีๆก็จะพบว่าเป็นมหาลัยดังของรัฐต่างๆนั่นแหละครับคล้ายไทยที่มีสถาบันภูมิภาคที่มีชื่อเสียงครับ) รัสเซียก็ต้องที่ Moscow ไม่ก็ St Petersburg ยิ่งจีนญี่ปุ่นเกาหลีนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ การแข่งขันเข้าสถาบันดังๆนั้นสูงมากแถมสอบได้ครั้งเดียวถ้าไม่ได้ก็ต้องซิ่ว สังเกตว่านักศึกษาในประเทศเอเชียพวกนี้นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กซิ่วทั้งนั้นครับ เพื่อให้ได้สถาบันชั้นนำที่มีชื่อเสียง
ปัญหาของไทยคือเราพัฒนาผิดทางมาตลอดครับ คือพยายามให้เท่าเทียมกันทุกอย่าง(คาร์ล มาร์กอมยิ้มเลยทีเดียว) ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ แต่ต่างประเทศนั้นเขาทำมาตรฐานขึ้นมาครับทุกที่ต้องได้ตามมาตรฐานนั้นแล้วใครจะต่อยอดให้โดดเด่นด้านไหนให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะก็ทำไป ประกอบกับวิทยาศาสตร์เขาเจริญมากครับ รากฐานก็ดีแถมพัฒนาต่อยอดตลอดเวลา
ตัดจบก่อนจะบานปลายละกัน 555
จบเถอะกระทู้พวกนี้!! มันรู้อยู่แก่ใจกันทุกคน ถ้าคะแนนถึงใครๆก็เลือกกันทั้งนั้น มหาลัยดังๆอย่างน้อยที่สุดคะแนนก็เป็นตัววัดมาตรฐานใช้คัดกรองเด็กที่เข้าเรียนได้ในระดับนึงอยู่แล้ว... ส่วนพอเข้าไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคน...
เป็นค่านิยมครับ เขาบอกมาว่าให้เข้ามหาลัยดีๆเวลา"หางาน"เค้าจะดูจากชื่อมหาลัยก่อน ก็มีแค่นี้เเหละครับ แต่ปัจจุบันนี่่ ไม่รู้ว่าคำที่ว่า รับเข้างานจากชื่อมหาลัยอำดับแรก ยังจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ
ตั้งกระทู้ ฆ่าตัวเองมาก 5555
เห็นด้วยครับ ผมคิดว่าพวกที่บอกมหาลัย ดังๆ ไม่ดีงั้นงี้ มันคือคนโง่ ปลอบใจตัวเองมากกว่า เชื่อเถอะ ถ้าถามว่า -คนนั้น สามารถติดมหาลัยดังๆได้มันจะเรียนไหม ผมตอบได้เลยมันเอาแน่นอน 5555
ไม่อ่ะ ยังมีคนโลกสวยไม่ยอมรับความจริงอีกเยอะบางครั้งเราก็ต้องเเสดงออกให้เขาเห็นความจริงบ้าง
ผมว่ากระทู้เเบบนี้เป็นกระบอกเสียงให้พวกโลกสวยจำนวนมากได้ดีเลยเเหละ
บรรยาหาศการสอบเเอดมิชชั่นเกาหลี
จีน
ไทย
การได้เข้าเรียนในสถาบันดีดีเป็นค่านิยมที่มีทั่วโลก
ต่างประเทศหนักกว่าไทยอีก
ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยเเต่ละที่ไม่ใช่ว่าตั้งมาปุ๊ปจะดังปั๊บนะคะ
ที่เขามีชื่อเสียงเพราะศิษย์เก่าเขามีคุณภาพ สร้างชื่อเสียงต่อกันมารุ่นต่อรุ่นจนสังคมให้การยอมรับ ส่งผลให้เขามีชื่อเสียง เเละจากการยอมรับนี่เเหละที่ทำให้เกิดค่านิยม เด็กเก่งๆก็เลือกเรียน ก็กลับเข้าวนลูปเดิม ได้เด็กเก่งไป จบไปก็เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ ทำงานสร้างชื่อให้สถาบัน เด็กเก่งรุ่นต่อๆไปก็เลือก เป็นวัฏจักร
ไม่ใช่ค่านิยมอะไรแบบนั้นหรอกผมว่า
จบจากมหาลัยดังได้ก็แปลว่าต้องมีความสามารถอยู่พอตัว กว่าจะสอบเข้ากว่าจะเรียนจบมันต่างกันมากอยู่แล้ว
เรียนมหาลัยดังกว่าก็ต้องยากเพราะมีแต่คนเก่งๆมาเป็นคู่แข่งแถมหลักสูตรก็จะยากตามตัวนักศึกษาในขณะที่มหาลัยอื่นต้องปรับหลักสูตรให้ง่ายขึ้นให้เหมาะกับนักศึกษาส่วนใหญ่
ที่ทำงานส่วนใหญ่คงคิดกันแบบนี้มากกว่า
คนที่เป็นอาจารย์จะรู้เนื้อหาหลักสูตรเเละความยากข้อสอบต้องตามสมองเด็ก
ลองเอาตำราจุฬา หรือ มหิดลไปสอนเด็กราชภัฎเเล้วข้อสอบเหมือนกันเป๊ะๆรับรองราชภัฎตายยกมหาลัย ที่ผมกล้าพูดตรงๆเพราะสมัยนี้ข้อสอบเก่าเเต่ละที่สามารถหาดูได้ ซึ่งข้อสอบราชภัฎง่ายจริงๆเเละคะเเนนช่วยเยอะมาก จบมาเกรดสวยๆเเต่ภาษาอังกฤษง่ายๆยังพูดไม่ได้เเปลไม่ถูกบางทีtense12ชนิดยังไม่รู้ด้วยซ้ำน่าอนาถมาก แต่มหาลัยอย่างจุฬา มหิดล ธรรมศาสตร์เเค่2.5ผมก็ถือว่าเก่งเเล้วครับ
แม่นเลย เห็นด้วยอย่างแรง มันไม่เหมือนกันหรอก คนเก่ง เขามีความมุ่งมั่นมากกว่า เวลาสอบคะแนนจึงสูงอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ก็เลยไหลไปเรียนอยู่ด้วยกัน
ปลอบใจตนเองก็ดีแล้ว รับความจริงในไอคิวของตัวเองดีที่สุด แล้วตั้งใจเรียน ให้อยู่หัวแถวเข้าไว้ โอกาสยังมีไม่อยากให้คิดฟุ้งซ่าน เดี๋ยวติดโปร โดนรีไทร์ได้ง่ายๆนะ
แต่มันก็มีน่ะค่ะ พวกที่เก่งแต่ก็ไม่ได้พยายามเข้าไปอยู่ในสถาบันที่ดังกว่าที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้
เรื่องยังเคยเกิดกับเราเลยที่สอบติดแล้วสละสิทธิ ไปเรียนที่อื่อนที่หลายคนมองว่ามันแย่กว่า ไม่ดีเท่าไร แต่กลายเป็นว่าเราถูกเหมารวมเป็นคนโง่แบบที่คนตอบกระทู้คนแรกพูด เราก็รู้สึกแย่น่ะ
เราเข้าใจที่พวกคุณเข้าใจว่ามันเป็นหาคำปลอบใจตัวเอง เพราะตอนเด็กๆเราก็คิดว่าคงเป็นอย่างนั้นแต่พอโต รู้มองข้อดีข้อเสีย "ความคิดเด็กๆ" มันก็หายไป
ก็แค่อยากจะให้ทุกคนมองคนให้มันหลายด้านไม่ใช่ เหมารวม บางที่ไม่ใช่ว่าไม่มีปญญาทำแต่อาจจะมีจากหลายปัจจัยมากกว่าแค่ "ทำได้ไม่ได้ สอบติดไม่ติด" หวังว่าพอจะเข้าากันบ้างน่ะ
โลกสวยเกินไปหนะ แรกๆก็คิดแบบเธอ แต่พอเห็นเพื่อนเก่งๆค่อยๆหายไป แต่เรากลับต้องอยู่ที่เดิม มันแซดมาก ขึ้นม.1 เพื่อนๆไป สวนกุหลาบ บดินทร1 มศว ปทุมวัน พอขึ้นม.4 ก็มีไปเตรียม มหิดลวิทย์ พอเวลานี่เตรีมเรียนมหาลัย
พวกนี้ก็เลือกสอบ แต่หมอ ทันตะ วิศวะจุฬา เป็นหลัก ส่วนตัวเรา ขอแค่สังคมสงเคราะห์ มธ.ที่มีแต่เด็กไม่เก่ง มาแข่งกันเอง ยังหวังยากเลย เหมือนกับโง่แล้วโง่เลย
ไม่อยากให้เหมารวมเลยครับ ผมคนนึงล่ะที่ไปมหาลัยดังๆได้แล้วไม่ไป เพราะชอบวิชาในคณะของอีกมหาวิทยาลัยนึงมากกว่า
ใช่ ตั้งกระทู้ไม่คิด ฆ่าตัวเองมาก รู้แก่ใจ คนอื่นก็รู้ ใครจาไปเข้าพวก
จุฬา เราฝันอยากเข้าตั้งแต่เด็ก รอสมัครรับตรงอยู่
อย่าว่าแต่ราชภัฎ ที่อื่นก็น่าจะตายหมดแหละ ลองเอาแคลไปลองสอบดู เพื่อนที่ไปเรียนวิศวะจุฬา เป็นเด็กเก่งพอตัว 3.7-3.8 หลายคน ไปเจอ เลขแคล ฟิสิกเข้าให้ เละเป็นโจ๊กเลย เหลือเวลานี้ 2.0-2.5 เอง บางคนถึงกับออกอาการขอบาย ซิ่ว หมออีกที แต่พวกเทพ เขาเก่งจริงๆยากแค่ไหนเขาก็ทำได้นะ
ชื่อเสียงสถาบัน ค่านิยมเกิดจากอะไร?
ศิษย์เก่าสร้างชื่อเสียง มีความสามารถ ทำให้สังคมยอมรับ
>>ศิษย์เก่าเป็นที่ต้องการในวงการทำงาน
>>คนเริ่มมองว่า มหาลัยเหล่านี้มักจะสร้างคนที่มีคุณภาพ
>>ใครๆก็ต้องการคนจากสถาบันเหล่านี้
>>คนที่จบจากสถาบันนี้มีโอกาสได้งานสูงกว่าชาวบ้าน
>>พ่อแม่ต้องการให้ลูกเข้าเรียนที่นี่ เพื่อโอกาสในหน้าที่การงาน
>>เด็กก็เริ่มสนใจ หันมาเข้าที่นี่มากขึ้น
>>เกิดการแข่งขันสูงเพื่อสอบเข้า
>>มหาลัยได้เด็กที่มีความสามารถสูงมาเรียน
>>สามารถให้ความรู้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะรับไม่ได้
>>ยิ่งยาก เด็กยิ่งต้องกระตือรือร้น พัฒนาตัวเองยิ่งๆขึ้นไป
>>คนจบมามีคุณภาพมาก วงการงานต้องการตัว
>>สังคมยิ่งยอมรับ จนเกิดเป็นค่านิยม
ร้อยทั้งร้อย ถ้าเลือกได้ใครๆ ก็ต้องเลือกที่ดังๆ อยู่แล้ว เข้าก็ยาก จบก็ยาก แถมพอจบมาดูดีกว่า มีชื่อมากกว่า ใครๆ ก็ต้องการตัวมากกว่า แล้วแบบนี้ยังจะมานั่งโลกสวย ปลอบใจตัวเองไปวันๆ อีกหรอ หัดยอมรับความจริงซะบ้างว่าจบสถาบันดังมันต้องดีกว่าอยู่แล้ว และที่เค้าดังขึ้นมาได้ก็เพราะคุณภาพ ศิษย์เก่าเก่งๆ กันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะดังขึ้นมาเฉยๆ ซะเมื่อไหร่ มันเหมือนเป็นการการันตีได้อย่างหนึ่งอะว่าจบที่ดังๆ มาก็ต้องมีฝีมือพอตัวล่ะถึงสอบเข้าได้
แทนที่จะหาอะไรทำเพื่อเพิ่มสกิลให้ตัวเอง กลับมาเสียเวลาโทษนู่นโทษนี่โทษสังคม มโนบิดเบือนความเป็นจริง สร้างโลกในฝันขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองสบายใจ เพราะมันง่ายกว่าการยอมรับว่าตัวเองพลาด สอบเข้าไม่ได้ใช่มั๊ยล่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?