ผลสำรวจอึ้ง!! ครูไทยสนใจการประเมินมากกว่าการสอน !?
เจาะ ตารางชีวิตครูไทย ใน1ปี 42%ยุ่งอยู่กับประเมิน ถูกดึงเวลาสอน
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับ ตารางชีวิตครูไทยใน1ปี โดยได้ทำการสำรวจครูผู้ได้รับรางวัลครูสอนดีจากสสค. ซึ่งมีอายุเฉลี่ยและวิทยฐานะสูงกว่าครูทั่วไป กระจายตัวครอบคลุมโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 427 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 ก.ย.-15 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ใน 1 ปี มีจำนวนวันเปิดเรียนทั้งหมด 200 วัน
ครู ต้องใช้เวลากับกิจกรรมภายนอกชั้นเรียนที่ไม่ใช่การจัดการเรียนการสอนเฉพาะวันธรรมดาถึง 84 วัน หรือคิดเป็น 42% แบ่งเป็น การใช้เวลายุ่งอยู่กับการประเมินจากหน่วยงานภายนอก ประเมินนักเรียน ประเมินครูประเมินโรงเรียน รวม 43วัน โดยการประเมินของสมศ.ใช้เวลามากที่สุด 9 วัน และใช้เวลา29วัน ในเรื่องของการแข่งขันทางวิชาการ สุดท้ายคือใช้เวลา10วันร่วมการอบรมของหน่วยงาน ซึ่งทั้งหมด42%นี้เป็นการดึงครูออกจากห้องเรียน ทำให้ประสิทธิภาพการเรียนการสอนลดลง ส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนโดยตรง
ทั้งนี้จากผลสำรวจครูในประเทศของพบว่ายังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระดับที่ดี คือใช้เวลากับการสอนในชั้นเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ชั่วโมง/วัน แต่ครูกำลังถูกกดดันและเริ่มไม่มีความสุขเพราะภาระงานนอกห้องเรียนที่ดึงเวลาครูออกไปถึง 42% ยังไม่รวมถึงภาระการทำเอกสาร การอบรม และงานสัมมนา ทำให้งานสอนมีแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.)
ไปเจอมาที่ MThai News http://news.mthai.com/general-news/406330.html
ประเด็นหนึ่งที่ จขกท คิด คือระบบการศึกษาไทยยังไม่ได้พุ่งประโยชน์สูงสุดไปที่ตัวนักเรียนในด้านการให้ความรู้ ความคิด และเปิดโลกกว้างทางปัญญา แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในระบบการขัดเกลาทางสังคม "แบบไทยๆ" ที่มุ้งผลิตประชาชนที่มีวิถีที่คล้อยตามกับค่านิยมของรัฐ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ระยะเวลาที่ผ่านมานั้นทุกท่านย่อมรับรู้ได้ถึงความไม่ก้าวหน้าของระบบการศึกษาไทย ทั้งในเชิงโครงสร้าง และเชิงปฏิบัติ
33 ความคิดเห็น
ใช่เลยค่ะ ทุกวันนี้เข้าสอนไม่ค่อยบ่อย เหตุผลที่มีคือ ประเมินโรงเรียน ประเมิน ประเมิน แล้วเวลาสอบเด็กอย่างเราละจะทำไง...
อยากให้รัฐสนับสนุน การสึกษาอย่างจริงจัง ประเมินอยู่ได้ เด็กจะเป็นฟายอยู่แล้วมัวแต่ให้ไปหาความรู้เองพอไปหาเองไม่เข้าใจถามครู ครูไม่อธิบาย ไม่เตรียมการสอน บลาๆๆ เพราะมัวแต่ประเมินหอยๆเนี่ยยยยย
ครูรุ่นเก่าที่สอนเก่งสอนเด็กให้เข้าใจได้ เออร์ลีรีไทร์ มากมายครับ เพราะแผนการสอนยุคใหม่ต้องมีการประเมินผลเยอะมาก
แค่งานเอกสารก็หมดเวลาแล้วครับ...
ส่วนหนึ่งผมคิดว่าเพราะเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยล่ะครับ ครูรุ่นเก่าหลายคนใช้คอมพิวเตอร์ไม่คล่อง อยู่ ๆ โดนบังคับให้มาทำงานเอกสารมันก็ต้องเบียดบังเวลาและแรงงานที่ควรจะใช้สำหรับทุ่มเทในการสอนเป็นธรรมดาครับ
ยิ่งกว่านั้นช่วงหลังได้ข่าวว่าต้องทำผลงานทางวิชาการเพื่อเพิ่มเงินเดือนอีก ครูมือเก๋า ๆ สอนเก่งยอมแพ้ครับหลายราย
สอนจนเด็กเก่งแต่ไม่มีความก้าวหน้าครับ เอกสารไม่ครบยังโดนตำหนิซะด้วยซ้ำ ครูหลายคนที่ผมรู้จักเลยเลือกที่จะลาออกเพราะเบื่อครับ
ไม่น่าล่ะ...
อยากรู้....ประเมินไปเพื่อ?
เด็กคงมีความรู้มากเลยนะกับการประเมินเนี่ย เอะอะก็ประเมินๆๆๆๆๆๆ
ประเมินจนไม่ต้องเรียนมันหรอก แถมสอบก็เยอะด้วยความรู้ไม่ค่อยมี
เพราะงี้ไงถึงได้ไม่พัฒนาสักที
====ยมทูตปีกขาว====
อยากให้กระทรวงมาประเมินครูสอนวิชาISด้วยค่ะ ครูสอนเเค่ความหมายของคำว่าคำนำ รายงานแนวนี้ เเต่ไม่สอนวิธีทำ พอทำผิดก็ด่าเด็ก พอเด็กถามไม่ตอบ บอกกลับมาว่าว่าวิชานี้ศึกษาด้วยตนเองไม่ใช่เหรอ??? พออธิบายเด็กส่วนใหญ่มาเเล้วเด็กไม่เข้าใจถึงวิธีการเขียนที่เเท้จริงก็ว่าโง่ชิxหาย บอกว่าอย่างเธอไม่มีวันเรียนปรัญญาตรีได้หรอก ถ้าเรื่องเเค่นี้ทำไม่ได้ ปริญญาตรีเขียนรายงานเป็น 200 หน้ากันทั้งนั้น อ้างเเต่ปริญญา น่าเบื่อมาก ไม่เคยสอน วันๆก็ออกราชการ คุมสอบPre ต่างๆ
ล่าสุดรร.ครบ 50ปี
ให้เด็ก(...ม.6)+ครูมานั่งทำเพจให้น้องแสดงวันงาน
ปล.ไม่เกี่ยวแฮะ 555+
ครูเอาแต่
ประเมิณ
คาบไหนไม่ได้สอน
เด็กก็จะไม่เข้าใจ
ให้ทำรายงานไรเงี้ย
เเล้วจะ รู้ได้ไง
ยิ่งฟิสิกส์ ใครสามารถ
อ่านเเล้ว
เข้าใจเองได้ แบบว่าสุดยอด
จริงๆ ครูมาบ้างไม่มาบ้าง เข้าสอนก็สาย อ้างว่าตึกไกล =-= แถมยังสอนหลายห้อง สอนไม่เท่่ากัน เช่น ห้อง 1 สอน 3 เรื่อง ห้อง 7 สอน 2 เรื่องเวลาสอบออกข้อสอบ 3 เรื่อง ห้อง 7 เลยตกไปตามระเบียบ
แต่!!! ก็เป็นสวรรค์ของเด็กนะ
ปล.ขอโทษอาจารย์ค่าา ไม่ได้ตั้งใจว่าอาจารย์ทุกคนน้าา แค่ระบาย
อ่านแล้วสงสารคนเป็นครูมากกว่า โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ทำประเมินก็โดนตำหนิ พอทำเวลาสอนก็ไม่พอ นักเรียนต้องมานั่งอ่านเอง เราสงสัยอะ แล้วพวกครูที่อยู่ตามโรงเรียนชายแดนนี่จัดการงานพวกนี้ยังไง เพราะเท่าที่รู้บางโรงเรียนมีครูไม่ถึงสิบ นักเรียนมีเป็นร้อย ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ การเดินทางก็ทำได้เฉพาะช่วงที่ไม่ใช่หน้ามรสุมนี่
เน้นประเมิน ทดสอบแต่ไม่เน้นความรู้
ยิ่งถ้าครูเป็นหัวหน้าอะไรซักอย่างนะ....= = //แต่ถ้ามีครูฝึกสอน ก็ค่อยดีหน่อย - - ดีกว่าไม่มีครู
นี่เป็นคนในระบบการศึกษาไทยแต่ก็เบื่อการศึกษาไทยมาก
เน้นวิชาการจนลืมจิตวิทยาการสอน ยิ่งอีกหน่อยบอกว่าคณะอะไรก็สามรถสอบบรรจุได้ อยากถามว่าจะมีคณะศึกษาศาสตร์ไว้ทำไม เรียนจิตวิทยาการสอนเรียนปรัชญาการสอนเรียนจรรยาบรรณครูเพื่ออะไร
อาชีพครูนอกจากมีความรู้และถ่ายทอดความรู้ได้แล้วต้องเข้าใจลูกศิษย์ด้วยไม่ใช่เหรอ
บทเรียนก็น้ำเน้นๆ เนื้อๆหายหมด อ่านสิบหน้า สรุปเนื้อเน้นๆได้แค่ สี่ย่อหน้ากระดาษ
คุณครูที่รักในการสอนจริงๆก็มีนะครับ อย่างครูประจำชั้นฟมในสมัยมัธยมต้น(นานมากแล้ว) ท่านแบบงานยุ่งมาก แต่พอยืนหน้าห้องเรียนปุ๊ป โอ้โห เต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มีบอกว่า "ข้ามค่ะอันนี้ไม่สำคัญ หรือไปอ่านเอาเอง" สอนเก็บทุกหยาดหยดท่านเลย เป็นครูที่ผมมีเรื่องด้วยนะ แต่ก็รักแกมากอ่ะ
ผลสำรวจนี้ก็เป็นส่วนใหญ่จริงๆ โดยเฉพาะครูใหม่ๆในโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน หาได้ยากกับครูที่มีใจรักในการถ่ายทอดจริงๆ
ซึ่งปัจจุบัน ผมไม่เจอแล้วส่วนใหญ่เจอแต่แบบต้องมาทำ แบบจำใจมาซะมากกว่า มาสายไม่พอ ช่วยคุยนู่นนี่นั่น เฮ้ออออ
แอบคิดในใจแม่งเอาไรมากกะเด็กก่อนเข้าเรียนฟะ !!!
ใช่มากอะ
เราถูกครูใช้ไปช่วยงานพิมเอกสารอะไรพวกนี้บ่อยๆ รู้เลยว่า
มันเสียเวลามาก แทนที่ครูจะได้เตรียมชีทเตรียมบทเรียน
มานั่งพิมเอกสารสำหรับให้มาตรวจประเมิน ไม่ก้
แผนการสอนที่แ-่งไม่ได้ใช้จริงเลยสักนิดเดียว
ถามหน่อยว่าทำไปทำไม เปลืองกระดาษ เปลืองเวลา เปลืองหมึก เปลืองพลังงาน
งานบางอย่างก็ดูสำคัญคู่ควรที่จะทำนะ แต่เยอะขนาดนี้
เคยอยากเป็นครู เห็นงานละบายเลยอะ แบบ ใครจะทนทำไหว งานขนาดนั้น
ใช่เลยคัพ ครูเอาแต่ยุ่งเรื่องการประเมิณ สอนก็สอนเร็วจนทำเอาผมไม่เข้าใจ
เครียดเพิ่มอีก ก็คือ สอนแป้บเดียวก็สอบ โอ๊ย!!! จะตายคัพ
แต่ก่อนนี้นะ เบื่อโคตรๆอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ประเมิน ประเมิน ประเมิน !! บร้าาา!!
แต่ลองคิดในทางกลับกัน พวกที่ได้ไปช่วยครูจัดโน่นนี่นั่นเนี่ย ประสปการณ์ชีวิตทั้งนั้นเลยนะ จัดซุ้ม จัดดอกไม้ จับผ้าพิมพ์เอกสาร รู้ระบบของโรงเรียนไรเงี้ย ไม่มีสอนในห้องป่าวหล้าาา ?
อีกอย่างนะ ทำให้เราอยากโดดจากคะแนนอันต่ำเตี้ยเรี่ยดินขึ้นมาบ้าง ครูไม่ว่างเราก็อ่านเองได้นี่ พอถูๆไถๆไปก่อน เดี๋ยวครูก็มาสอน
คิดแบบ +++ เข้าไว้ เราจะได้ไม่เครียด ส่งผลให้คะแนนสอบ Pre-Onet ปริ้งงงง จบข่าว ^^
อย่าไปว่าครูเลยลูก....แม้จะแอบบตำหนิเบาๆว่าไม่ควรพูดกับนักเรียนแบบนั้น แต่อยากให้หนูเข้าใจ ว่า ณ ขณะนี้ ความเข้าใจในวิชาไอเอสมันยังลงมาไม่ถึงตัวคนสอน มันเป็นวิชาเปิดใหม่ ที่แต่ละโรงเรียนถูกมอบหมายให้สอน ไม่มีใครเข้าใจสักคนว่าควรจะสอนวิชานี้อย่างไร แม้กระทั่งนักวิชาการที่บอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสอน ยังอธิบายได้ขัดกันเองสุดๆ อยู่ดีๆก็มีคำสั่งตูมลงมาว่าทุกโรงต้องเปิดสอนไอเอส มีหนังสือคู่มือมาให้หนึ่งเล่มส่งมาให้ผ.อ เพื่อจัดครูสอน โดยที่ครูเองก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าวิชานี้เรียนอะไร จะต้องสอนอะไรบ้าง ได้แต่ตีความตามคู่มือและทำตามคำสั่งเท่านั้นเอง
ใช่ทุกวันนี้ ครูทำแต่ประเมิน ไม่ค่อยสอนเราเลย สอนช้ามาก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?