ทำมาร์คได้ง่ายๆด้วยตัวเราเอง รูปไม่ชัดขออภัยค่ะ

[matsushima maya]

สำหรับเรื่องที่ สาวๆส่วนใหญ่ในสมัยนี้ อยากมีนั่นก็คงไม่พ้นเรื่องการมี ผิวพรรณที่ดี ขาว และเนียนนุ่ม หรือ ทำยังไงให้การไดเอ็ทไม่ใช่เรื่องยากนะ? ซึ่งก็มีหลายๆกระทู้หาวิธีการทำมาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูบ้าง กระทู้นี้ก็เช่นกันค่ะ

เราอยากลองแบ่งปัน วิธีการทำให้หน้าเนียนใส ด้วยการ "มาร์คหน้า" ด้วยสูตรของพวกเราเอง

**หมายเหตุ**
-ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคนเกี่ยวกับเรื่องของขั้นตอนต่างๆ ในการทำว่า คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ทำหรือไม่ทำ เพราะฉะนั้นอย่าให้มีการเกิดปัญหา ความไม่พอใจในกระทู้นี้นะคะ กรุณาเม้นท์อย่างสุภาพด้วยค่ะ

ขั้นตอนแรกสิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ

น้ำยาทำความสะอาดผิวหน้า
** สำหรับสาวๆที่รักการแต่งหน้าควรมีนะคะ ** เพราะจะเป็นการช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก เครื่องสำอางค์ที่ตกค้าง ซึ่งนำมาซึ่งปัญหาของการเกิดสิวค่ะ ส่วนสาวๆคนไหนไม่ได้แต่งหน้าก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ะ





แป้ง
แป้งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้มาร์คของเราจับตัวกันเป็นก้อนค่ะ ตรงนี้เป็นแป้งชนิดใดๆก็ได้ **แต่ขอแนะนำเป็นแป้งยี่ห้อนี้เพราะเวลาที่ทาลงบนผิวหน้าจะไม่แสบหรือเย็นเกินไปค่ะ**





โคโลญ
จริงๆแล้วโคโลญไม่ได้มีส่วนช่วยให้เกิดสิวน้อยลง หรือมากขึ้นนะคะ แต่โคโลญมีไว้เพิ่มกลิ่นหอมล้วนๆ เวลาที่เราแปะสำลี (ในขั้นตอนสุดท้าย) จะทำให้มีกินโคโลญอ่อนๆหอมชื่นใจค่ะ
**ดังนั้นโคโลญจะมีหรือไม่มีก็ได้ แนะนำว่าให้อ่านให้ดีนะคะว่าโคโลญชนิดนั้นใช้กับใบหน้าได้รึเปล่า **



จอห์นสัน เบบี้ ออย
คุณสมบัติของออยนอกจาะจะช่วยลบเครื่องสำอางค์แล้วยังช่วยให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน ดังนั้นจำเป็นมากๆค่ะ




ฮาดะ ลาโบะ
ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น อ่อนนุ่มค่ะ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการทำมาร์คพอกหน้า

ยาสีฟัน (?)
พอพูดถึงยาสีฟันทุกคนอาจคิดว่า เฮ้ย ... ยังไงเนี่ย ใช่ไหมคะ?
จริงๆแล้ว (ตามความเชื่อของเรา) ยาสีฟันมีคุณสมบัติที่ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ หากเรานำมาใช้กับในหน้าก็จะทำให้ใบหน้าอ่อนนุ่ม และไม่มัน เกิดปัญหาสิวน้อยลง แต่ต้องเป็น ยาสีฟันยี่ห้ออ่อนๆ ไม่เผ็ด ไม่ร้อน (แต่เย็นได้นะ) ห้ามมีน้ำตาล หรือรสหวาน (เดี๋ยวมดขึ้นหน้าค่ะ)



อย่างสุดท้ายนี้ คือ ...
น้ำตาลค่ะ (?)
มาชะงักกันอีกแล้วที่น้ำตาล จริงๆแล้วน้ำตาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ก็ได้นะคะ แต่ว่าน้ำตาลทรายเนี่ยจะเหมือนเม็ดที่อยู่ในโฟมล้างหน้าอะ (ไม่แน่ใจว่าเรียกอะไรนะคะ) เป็นตัวขัดผิวเสียและสิ่งที่อุดตันภายในรูขุมขน

กรรมวิธีในการทำมาร์คของเรากำลังจะเริ่มขึ้น
** หลังจากนี้ไม่มีรูปภาพนะคะ ขออภัยด้วย **



ขั้นที่ 1 ตักน้ำตาลทรายใส่ลงไปในถ้วย ตักตามปริมาณที่ต้องการจะทำมาร์คเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนทำมากทำน้อย
จากนั้นใส่น้ำอุ่นลงไปค่ะ ไม่ต้องร้อนมากนะคะ เดี๋ยวน้ำตาลละลาย

ขั้นที่ 2 นำ น้ำยาทำความสะอาดผิวหน้า,โคโลญ,จอห์นสัน เบบี้ ออย,ฮาดะลาโบะ เทใส่ถ้วยน้ำตาลค่ะ จากนั้นคนให้เข้ากัน (เป็นสีเดียวกันหมดแบบแยกไม่ออกเลย)

ขั้นที่ 3 หลังจากคนให้ทุกอย่างเข้ากัน เห็นเกล็ดน้ำตาลทรายอยู่ก้นถ้วยแล้ว จึงใส่ยาสีฟันลงไปค่ะ แล้วตามด้วยแป้ง วัตถุดิบทุกอย่างยังคงตามแต่ปริมาณมาร์คที่ทุกคนทำค่ะ

ขั้นที่ 4  คนจนทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน อาจจะออกมาเป็นสีขาว หรือ สีตุ่นๆ ค่ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆที่ทุกคนใช้นะคะ แนะนำว่า ตอนผสมแป้งขอให้แป้งมากกว่าวัตถุอื่นๆเลย เพราะแป้งจะทำให้มาร์คเหนียวหนืด เกาะหน้าค่ะ แต่ก็ต้องห้ามมากเกินไปจนจับเป็นก้อนแข็งนะคะ

ขั้นที่ 5  ละเลงมาร์คลงบนหน้าให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณที่มีสิวค่ะ จากนั้นทิ้งไว้ 15 - 20 นาที หรือจนกว่ามาร์คจะแห้ง

ขั้นสุดท้าย  ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดค่ะ หรือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ เราก็จะมีความรู้สึกว่าหน้าตึง เรียบ เนียน ขึ้นก่อนทำแล้วค่ะ



ทริปพิเศษ หลังมาร์คหน้า

หลังจากที่ทิ้งให้มาร์คแข็งตัวแล้ว ให้ใช้สำลีขนาดสี่เหลี่ยมชุปน้ำอุ่น แปะให้ทั่วใบหน้าค่ะ
(แนะนำ หน้าผาก 2 แผ่น แก้มข้างละแผ่น จมูก 1 แผ่น คาง 1 แผ่น)
จะทำให้รูขุมขนเปิด ระหว่างที่รูขุมขนเปิดก็จะทำให้มาร์คเราเข้าไปในรูขุมขน (และเหตุที่ยาสีฟันสำคัญ เพราะยาสีฟันจะช่วยเข้าไปในรูขุมขนและฆ่าเชื้อแบคทีเรียค่ะ) ตรงนี้ถ้าใครได้ผสมโคโลญไปก่อนหน้านี้ก็จะหอมมากๆค่ะ
ต่อมาแปะสำลีไว้จนกว่าจะพอใจ หรือมันแห้งหลุดไปเอง
ต่อด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นค่ะ (น้ำเย็นเท่านั้นนะคะ) เพื่อเป็นการปิดรูขุมขน จะได้ไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน ในรูขุมขน เราได้ จากนั้นก็เสร็จแล้ว !! ฮิ้ววว ~~


**  ทั้งนี้นะคะ ทุกๆคนก็อย่างลืม พักผ่อนให้เพียงพอ กินผักผลไม้มากๆและมั่นล้างมือล้างหน้าบ่อยๆนะคะ จะได้ไม่เกิดสิวขึ้นอีก ทริปนี้ลองนำไปใช้ดูนะคะ หวังว่าทุกคนจะพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ หมั่นทำอาทิคย์ละ 2 - 3 ครั้ง หรือทำก่อนไปงานต่างๆ ช่วยทำให้ใบหน้าคุณใสขึ้นแน่ๆค่ะ**


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ