ยุบ สมศ. ดีไหม?

[anti-all]

ทำไมต้องเป็น สมศ.?

         เราจะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา เกิดข้อถกเถียงในสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการทางการศึกษานั้นมีจำนวนเยอะมาก สมศ. ควรยุบหรือไม่อย่างไร จะดีหรือไม่ถ้า สมศ. โดนยุบไป ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนนะครับว่า สมศ.นั้น เขาทำหน้าที่อะไรกัน

ประเด็นปัญหาการประเมินของ สมศ.

            ทีนี้เรามาดูประเด็นปัญหาการประเมินแบบ สมศ.นั้น ก่อให้เกิดปัญหากันอย่างไร การประเมินของ สมศ.นั้นมีปัญหา การประเมินว่า เด็กมีความรู้มีทักษะตามหลักสูตรหรือไม่นั้นโดยการไปดูคะเเนนสอบของเด็ก ซึ่งส่วนนี้มีปัญหา

             ประเมินว่าเด็กมีจริยธรรมหรือไม่ วิธีประเมินก็ดูในหลายส่วน เช่น ดูว่าโรงเรียนมีโครงการอบรมจริยธรรมเด็กหรือไม่ ถ้ามีเเล้วเด็กเข้า แปลว่า โรงเรียนนั้นสอบผ่านเเละการดูส่วนนี้ไม่ใช่การดูพฤติกรรมจริง เเต่เป็นการไปดูเพียงเอกสาร เพราะฉะนั้นทางโรงเรียนจะรายงานไปแบบไหน สมศ.ก็ทำการประเมินตามเอกสารนั้น บางกรณีอาจสุ่มไปดูนักเรียนจริง เช่น ไปยืนหน้าโรงเรียนเเล้วดูว่านักเรียนยกมือไหว้ครูหรือไม่ ถ้านักเรียนส่วนใหญ่ยกมือไหว้ครู แปลว่านักเรียนมีจริยธรรม ก็ทำการประเมินให้โรงเรียนนั้นสอบผ่านทางด้านนี้เป็นต้น

             จะเห็นว่า การประเมินนั้นดูแปลกๆอยู่ เช่น ไปยึดติดอยู่กับกระดาษที่ทางโรงเรียนยื่นให้ หรือพอตัวเองไปประเมินเองก็ดูในเรื่องแปลกๆ ที่เป็นการดูเเล้ว การที่เด็กไหว้ครู เเปลว่าเด็กเป็นคนดี ซึ่ง 2 เรื่องนี้น่าจะต่างกันพอสมควร นี่แหละครับที่แบบประเมินของ สมศ.นั้นมีปัญหา

ปัญหาเกณฑ์การประเมินที่บังคับโรงเรียน

          เรื่องของ สมศ.ในกระบวนการประเมินโรงเรียนแต่ละโรงเรียนจะต้องยอมรับไปโดยปริยาย ถ้าเกิดโรงเรียนไหนสอบไม่ผ่าน จะมีปัญหาตามมามากมาย เพราะฉะนั้น ทุกโรงเรียนก็อยากให้โรงเรียนของตัวเองนั้นเป็นโรงเรียนที่สอบผ่าน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การประเมินของ สมศ.ที่มาจากภายนอกนั้น ก็ไปครอบงำการประเมินภายในของทางโรงเรียน โรงเรียนที่อยากจะสอบผ่านจากสมศ. ก็จะต้องทำตาม สมศ. และทำให้เลิกการประเมินภายในโรงเรียน การที่ สมศ.เน้นตรวจโรงเรียนมากกว่าดูผลการเรียนการไปดูกระบวนการ เช่น โรงเรียนมีโครงการหรือไม่ เด็กไหว้ครูหรือไม่ แต่ไม่ได้ไปดูที่ผลลัพธ์ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า การประเมินนั้นมีปัญหา และปัญหาอีกเรื่องที่สำคัญนั้นก็คือ การประเมินของ สมศ.นั้น ใช้เงินจำนวนมหาศาล เพราะต้องประเมินโรงเรียน สามหมื่นห้าพันกว่าโรง ในทุก 5 ปี ต้นทุนเเต่ละรอบเกือบ 2,000 ล้านบาท เสียเวลาครู เเทนที่ครูจะเอาเวลาไปสอนเด็ก ครูก็ต้องมาเตรียมเอกสารไปรายงานสมศ. ว่าโรงเรียนดีเเบบนั้นเเบบนี้ กลับเป็นว่าครูนั้นต้องห่างจากเด็ก ห่างจากห้องเรียนมากขึ้นจึงเป็นปัญหา และสุดท้ายก็มีปัญหาเรื่องการตั้งคำถามต่อคุณภาพของผู้ประเมินนั่นคือ สมศ.เอง ว่ารู้เรื่อง มีความรู้พอที่จะไปประเมินโรงเรียนได้ดีหรือไม่

ข้อเสนอจาก สมศ.กว้างเเบบไร้ประโยชน์

            จากการที่ สมศ. ได้ประเมินโรงเรียนนั้นสำหรับทางโรงเรียนที่ถูกประเมินก็จะได้ข้อเสนอจากทาง สมศ. ซึ่งเป็นข้อเสนอที่กว้างมาก ซึ่งดูเเล้วไร้ประโยชน์ เช่น ข้อเสนอที่ว่า ให้ทางโรงเรียนควรส่งเสริมผู้เรียนให้มีทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ในสังคมอย่างรอบรู้ ทันต่อเหตุการณ์ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขคู่กับการพัฒนา ทักษะการคิด วิเคราะห์ในเนื้อหาการเรียน จะเห็นว่า ข้อเสนอแนะของ สมศ.นั้นกว้างมากจนดูไร้ประโยชน์ในการใช้พัฒนากระดับมาตรฐานของโรงเรียน


ที่มา http://anti-all.com/office-of-nation-education-standards-and-quality-assessment-devoid-of-value/