Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

#ตามหาคณะปริศนา GSSE TU เรียนเกี่ยวกับอะไร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
มันเรียนเกี่ยวกับอะไรช่วยบอกทีค้าบบบบ
ตกใจ

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

jstagssestudent 5 ม.ค. 58 เวลา 20:49 น. 4

พูดสะดูลึกลับจริงคะ 555 คือคณะนี้เป็นคณะเพิ่งเปิดใหม่สดๆร้อนๆ แต่มีรุ่นพี่ไปแล้ว1รุ่นคะ เรียนที่รังสิต และก็เป็นหลักสูตรนานาชาติ

GSSE ย่อมาจาก Global Studies and Social Entrepreneurship คะ ซึ่งในชื่อภาษาไทยว่า วิทยาลัยโลกคดีศึกษาและผู้ประกอบการสังคม
ถ้าถามว่าเรียนอะไร คณะนี้เรียนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่สังคมคะ ในที่นี้หมายถึงการเข้าไปช่วยเหลือสังคม พัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น ผ่านการเรียนที่พัฒนาทักษะให้นักศึกษามีความเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่สามารถลงมือทำจริงๆได้และนำเอาธุรกิจเข้าไปผสมผสาน ก็คือการที่เราจะทำอย่างไรให้การช่วยเหลือสังคมออกมาในรูปแบบของธุรกิจได้ ตั้งใจ

0
dekTU 5 ม.ค. 58 เวลา 21:12 น. 5


        ลองอ่านดูน้าา เพื่ออาจจะเป็นหนึ่งตัวเลือกของคณะที่น่าสนใจ ยังไงพวกพี่ก้รอน้องๆทุกคน มาเปนรุ่นที่2 ของGSSE น้าค้าบบบ
เฟสบุ๊คของgsse   https://www.facebook.com/GSSEThammasat?fref=ts

0
gsse01 15 ม.ค. 58 เวลา 16:01 น. 6

มาช่วย #ตอบปริศนาGSSE

GSSE คือคณะแหวกแนวที่ต้องการสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้เป็น *นักเปลี่ยนแปลง* ผ่านการทำธุรกิจเพื่อสังคม

GSSE น่ะ ย้อมาจาก Global Studies and Social Entrepreneurship เพราะฉนั้น สอน 2 อย่างเป็นหลัก

1. Global Studies
- เน้นเรียนเป็นสหสาขาเพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจถึงความเชื่อมโยงของโลก
- เน้นการสร้างเด็กให้เป็นผลเมืองโลก หรือ Global Citizen คือเข้าใจวัฒนธรรมและสามารถสื่อสารทำงานกับคนต่างชาติได้
- ที่สำคัญคือการพัฒนาทักษะ 21st century skills ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการทำงาน เช่น การเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสาร ซึ่งทักษะพวกนี้เป็นเหมือนการขี่จักรยาน อ่านวิธีทำเท่าไหร่ก็คงยังทำไม่ได้ นอกจากการลงมือลองขี่เท่านั้น GSSE เลยให้นักศึกษาทำงานโปรเจคเยอะมาก ไม่ได้แค่นั่งฟัง lecture เฉยๆ การมีทักษะพวกนี้จะตอบโจทย์ว่า "จบไปแล้วทำอะไร" เพราะ บอกเลย เด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ไม่จำเป็นจะต้องมีอาชีพเดียว และคงเปลี่ยนอาชีพบ่อยมาก แล้วให้เก๋ต้องได้ทำงานกับต่างชาติ ซึ่งมันคือทักษะพวกที่ GSSE สอนนี่แหละ ที่จะทำให้สามารถทำงานในรูปแบบพวกนี้ได้ เพราะเป็นทักษะที่สำคัญไม่ว่าจะออกไปทำงานอะไร

2. Social Entrepreneurship - ธุรกิจเพื่อสังคม
ทุกคนจะงงมากกับคำว่า "ธุรกิจเพื่อสังคม" ว่ามันคืออะไรกันแน่ มันคือการทำธุรกิจที่ได้รายได้แต่แก้ไขหรือพัฒนาสังคมไปด้วย เช่น ดอยตุง คือดอยตุงช่วยให้ชาวเขาเปลี่ยนจากปลูกฝิ่นมาปลูกกาแฟ แล้วดอยตุงก็ขายกาแฟนั้น ซึ่งตัวธุรกิจแก้ปัญหายาเสพติดของคนบนดอย แถมยังได้รายได้อีกด้วย เพราะฉนั้นธุรกิจแบบนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนมาก

คือที่มันเข้าใจยากก็เพราะมันเป็น concept ใหม่มากกก คนเลยไม่เข้าใจ GSSE ไปด้วยเลย ว่าสอนอะไรกันแน่

มากกว่าที่สอนให้ทำธุรกิจเพื่อสังคม คือการสอนให้เด็กรุ่นใหม่เป็นนักเปลี่ยนแปลง ช่วยแก้ไขและพัฒนาสังคมและประเทศของเรา GSSE ก็เหมือนหลักสูตรพัฒนาผู้นำนั้นเอง เพราะจะสอนให้คิดแตกต่าง คิดนอกกรอบ และกล้าแสดงออก


อะ ต่อ - จบแล้วทำไร

เอาจริงๆ พอเราถามพี่ๆ ที่คณะนี้ว่า "จบแล้วทำอะไร" พี่ๆ เค้าตอบกลับมาว่า นั้นไม่ใช่คำถามที่ควรจะถามนะ!!! เค้าถามย้อนกลับมาว่า "น้องอยากทำอะไร" GSSE ไม่ได้จะผลิตเด็กให้ออกมาเป็นแม่พิมพ์ทำงานเหมือนกัน แต่จะเน้นให้ค้นหาตัวเอง ว่าชอบอะไรกันแน่ แล้วพอบวกกับทักษะที่ได้ฝึกมา เราจะอยากทำงานแบบไหนบ้าง กว่าจะรู้ว่าตัวเองอยากทำงานแบบไหนก็คงปี 3 ปี 4 แล้วววว

จริงๆ อยากจะแนะนำน้องๆ ม.ปลายที่ตั้งใจอ่านหนังสือสอบเพื่อเข้ามหาลัยให้หยุดพักสักนิด เพื่อกลับมามองอนาคตให้ไกลกว่าแค่การทำคะแนนให้ติดมหาลัย ว่าตัวเองอยากจะโตขึ้นมาเป็นคนแบบไหน อยากมีชีวิตอย่างไร อยากทำอะไรกันแน่นะ

มีคำถามไรก้น่าจะถามในเฟสได้เลยนะ www.facebook.com/GSSEThammasat

GSSE มีลง A Day ด้วย ตามอ่านดูได้ๆ http://www.sgs.tu.ac.th/images/news-group/inside-news/GSSE_in_A_Day_Magazine.jpg

สู้สู้

0
Winai MBK 28 พ.ค. 58 เวลา 09:42 น. 7

เรียนน้องๆ ที่กำลังจะตัดสินใจ ไม่แน่ใจ หรือทำกำลังเรียนอยู่แล้ว

Global Studies and Social Entrepreneurship หรือ GSSE
ผมขอตอบแบบเคยบริหารในภาคธุรกิจ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่มาแล้ว ทัั้งที่เคยทำเอง และเป็นมืออาชีพขอสรุปคร่าวดังนี้
ในการบริหารภาคธุรกิจนั้น แต่ก่อนเราถูกสอนที่ทำอย่างไรที่จะสร้างผลกำไร สร้างประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กร โดยไม่สนใจในภาคอื่น แต่สุดท้ายแล้วการล่มสลาย ของตลาดเงินในอเมริกา และในยุโรป การหายไปในหลายสินค้าที่เคยโด่งดังในอดีต อย่างเช่น ทีวีโซนี่ หรือแม้กระทั่งการหายไปของเครื่องคอมพิวเตอร์คอมแพค ตลาดฟิล์ิมของโกดักที่เคยครอบครองโลก ก็ทำให้เรากลับมาคิดว่า อะไรคือสาเหตุแห่งการล่มสลายนั้น และเราสามารถที่จะมีวิธีที่สร้างความยั่งยืน ทั้งขององค์กรและตัวสินค้า หรือแบรนด์นั้นๆ ให้นานไปตลอดได้หรือไม่ คำตอบคือองค์กรนั้นหรือแบรนด์นั้นๆต้อง มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม (Social) แต่สังคมในที่นี้ มิได้หมายถึง ชุมชนหรือ หรือภาคสังคมแบบที่เราเข้าใจ มันมีความหมายในเชิงองค์กร หรือบริษัทคือ Stakeholder หรือ ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดขององค์กร
ในทางกลับกัน ในอดีตก็ได้เกิดอีกแนวทางหนึ่งที่มุ่งที่จะให้เกิดความเข้าใจ หรือการกระตุ้นเพื่อให้ ทุกภาคส่วนหันมามอง ส่วนอื่นบ้าง อย่างเช่น กรีนพีซ หรือ NGOs ต่างๆ ที่พยายามกระตุ้นบริษัทฯ องค์กร หรือแม้กระทั่งระดับประเทศ ระดับองค์การระหว่างประเทศให้กลับมาใส่ใจ สังคมบ้าง โดยในครั้ง แรกนั้นจะเน้นที่จะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ได้มีการพัฒนากลับมาสู่ความเป็นอยู่ของผู้คนเพิ่มขึ้น ที่เราเห็นในปัจจุบัน
Corporate Social Responsibility หรือ CSR คือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ องค์กร บริษัทฯ ห้างร้านหรือหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน หันกลับมาให้ความใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึงในความเข้าใจครั้งแรกนั้น มุ่งไปที่การปลูกป่า รักษาป่าชายเลน การพัฒนายังผู้ด้อยโอกาส โดยหน่วยงานนั้น มุ่งเน้นที่จะประชาสัมพันธ์ องค์กร โดยเอางบทางการตลาดมาเป็นตัวดำเนินการ
Social คำว่า Social ในความหมายในที่นี้ มีความหมายมากกว่าแค่ที่เราเข้าใจที่ผ่านมา มันหมายถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งร้านขายก๊วยเตี๋ยว บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ หรือแม้กระทั่งองค์กรของรัฐ ล้วนมีภาคสังคมที่เกี่ยวของทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ร้านก๊วยเตี๋ยว มีผู้ที่เกี่ยวข้องคือ ลูกค้า คนส่งวัตดิบ ร้านแก๊ส การไฟฟ้า ประปา สรรพากร ร้านคู่แข่ง ถ้าเป็นภายในร้านก็เป็นคนขาย คนเสิร์ฟ คนล้างจาน คนเก็บเงิน เหล่านนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบทางสังคมของ ร้านก๊วยเตี๋ยวทั้งสิ้น, และถ้าเป็นหน่วยงานของรัฐเช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็จะต้องมีองค์ประกอบทางสังคมเช่นเดียวกัน
Change ของ GSSE คือการเรียนรู้ที่จะนำแนวทางของทั้งสองแนวทางนั้น มาสู่ในจุดเดียวกัน คือยั่งยืนขององค์กรโดยตั้งอยู่บนความอยู่รอดของสังคมโดยรวม หรือต้องมีผลกระทบน้อยที่สุด การเรียนนั้น จะมุ่งที่จะเรียน วิชาทั่วไปเหมือนการบริหารธุรกิจ และก็ยังเรียนกรณีศึกษาของบริษัทต่างๆ ในโลก ว่าที่ล้มเหลวเพราะอะไร หรือที่ประสบความสำเร็จเพราะอะไร และต้องตอบในทุกภาคส่วนของสังคม หรือที่เราเรียกว่า ต้องคิดแทนสังคมด้วย จนถึงต้องทำอย่างไรที่จะทำให้คู่แข่งอยู่ได้้ เพราะคู่แข่งก็เป็นส่วนหนึ่งในสังคม
สรุป การเรียน GSSE คือการเรียนเพื่อสร้างธุรกิจ (Entrepreneur) เพื่อให้เกิดความยั่งยืน (Sustainable = All Social)
การทำงาน ผู้ที่เรียนจบทางด้านนี้มา
1.ถ้าทางครอบครัวมีกิจการอยู่แล้วก็สามารถนำแนวทางนี้ไปปรับใช้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนขององค์กรได้เลย
2.สำหรับน้องๆที่ไม่อยากทำกิจการ ของทางบ้าน ก็สามารถเป็นผู้ประกอบการเองได้ โดยเป็นผู้ประกอบการที่มีวิธีคิด แตกต่างจากที่ผ่านมา
3..สามารถที่จะไปทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ที่ เริ่มเข้าใจแล้วว่า การยั่งยืนขององค์กรนั้น คือการดูแลในทุกภาคส่วนของสังคมด้วยความเป็นธรรม
นี่คือข้อสรุป ของ คณะนี้ครับ

0
Preawko 28 ส.ค. 58 เวลา 11:55 น. 11

ชอบมากเลย โดยส่วนตัวอยากเรียนพวกบริหารอยู่แบ้ว แต่พอรู้ว่า GSSE เปิด เลยสนใจเข้าไปอีก อยากทำธุรกิจเพื่อสังคมมากๆ อพ จบไปก้คงไปต้องแย่งงานกับใคร ของขวัญ

0
Mansup 28 ส.ค. 58 เวลา 11:58 น. 12

คือ เรียนจบแล้ว โห้ย ถ้ารู้ว่ามีคณะมีเปิดตั้งแต่สมัยเอ็นเข้ามหาลัยนะ ป่านนี้คงเลือกที่นี้เป็นที่แรก แอบอิจฉาเด็กสมัยนี้55555เยี่ยม

2
Nuch 28 ส.ค. 58 เวลา 12:06 น. 12-1

ใช่ค่ะ อิจฉามาก คือแอบได้ยินจากน้องชายข้างบ้านที่เรียนคณะนี้ คือเค้าเริ่มทำResume ตั้งแต่ตอนปี1 แล้วอะค่ะ แถมยังได้เริ่มฝึกงานแล้วช่วงซัมเมอ คือ แบบรุ่นเราๆ ยังไม่มีให้ทำแบบนี้เลย กว่าจะได้ทำ Resume ก้ปาไปช่วงหลังเรียนจบล้าา เด็กสมัยนี้เก่งจิงๆๆ ยอมเลยยิ้มฟันขาว

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

wtfkub 15 ต.ค. 58 เวลา 20:42 น. 14-1

ถ้าคุณไม่รู้จะเรียนอะไรเเล้วคุณจะเลือก gsse ทำไมคะ คือเราเสียดายที่ของคนอื่น ที่เค้าอยากสมัครจริงๆ แล้วสาเหตุที่คุณทิ้งคณะเพราะคุณขี้เกียจมาเรียน ทำให้ไม่มีสิทธิสอบ หรือได้เอฟหรือเปล่าคะ หรือโดนไทด์ เพราะเท่าที่ทราบมาไม่ค่อยมีใครอยากออกเพราะตัวเอง แต่กลับทำตัวเองให้ถูกไทด์เลยโดนออก ดิฉันว่าอาจารย์ทุกคนนอกจากresume ดีแล้ว ยังสอนดีด้วย เเล้วเรื่องปัญหาภายใน คิดว่าไม่มีนะคะ มีรุ่นพี่รุ่นน้องที่น่ารัก คอยช่วยเหลือกันแบบครอบครัว คุณลองคิดดูนะคะว่าผิดที่คณะหรือผิดที่ตัวเอง :)

0
Educatedpearking 15 ต.ค. 58 เวลา 20:51 น. 14-2

ขอโทดนะค่ะ ในเมื่อคุณยังไม่รู้เลยว่าจะเรียนอะไรดี แล้วดุ่มๆเข้ามาแล้วบอกว่าคณะนี้สอนไม่ดี คุณมาพูดลอยๆแบบนี้โดยไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดเลยดีกว่าค่ะ เพราะทำให้คณะเสื่อมเสียเปล่าๆค่ะ ส่วนเรื่องของอาจารณ์ ในเมื่อคุณบอกว่าไม่รู้เรื่องจริงๆเป็นที่ตัวคุณเองหรือเปล่าที่ไม่ตั้งใจเรียนแล้วสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นเขา อาจารณ์แต่ละคนเขามีความรู้ความสามารถดีๆและหายากทั้งนั้น เรื่องของภาษาอังกฤษ การที่คุณไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเรียนได้ ในคณะมีอีกหลายคนที่ระดับภาษาอังกฤษไม่ได้สูงมาก แต่เขาตั้งใจและพยายามที่จะแปลงและทำความเข้าใจกับมัน ทำให้เขาผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องของคณะเองก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเพราะทุกคนในคณะคอยช่วยเหลือกัน เปิดใจกันอยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นก่อนจะพูดอะไรโปรดดูตัวเองก่อนนะค่ะ ค่อยไปโทดนู้นโทดนี้

0
เด็กหรั่งรักจริง 15 ต.ค. 58 เวลา 22:06 น. 14-3

เท่าที่เรารู้ คณะGSSEเป็นส่วนหนึ่งของธรรมศาสตร์แล้วนะคะ ปีนี้เราก็ได้ร่วมกิจกรรมของมหาฯลัยทุกอย่าง มีความเป็นธรรมศาสตร์ไม่ต่างกับคณะใหม่ๆอื่นๆเลย อีกอย่างมันก็ไม่แปลกที่คณะที่เปิดใหม่ๆจะมีตะกุกตะกักบ้าง แต่ตอนนี้เราเรียนอยู่ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ เค้าก็เรียนกันได้สบายดี ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เรื่องภาษาอังกฤษยอมรับว่าใช้ภาษาอังกฤษเยอะมาก ทั้งนี้เพราะเค้าต้องการเน้นทักษะของเรา เพราะสายงานทางนี้ต้องใช้ภาษาในการพูดและเขียนเยอะ มันเป็นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษนี้นะคะ การที่เจ้าของคอมเมนท์มีปัญหากับการเรียนการสอนของคณะ เป็นเพราะคุณไม่เก่งอังกฤษเองรึเปล่า เพราะจากที่ได้ยินอาจารย์เค้าพูดให้ฟังคือ ปีที่แล้วมีให้Fเด็กไปบ้าง เพราะเค้าเรียนไม่ไหวจริงๆ ทางคณะต้องการผลิตผู้นำที่มีความสามารถ ไม่ได้ใช้เกณฑ์ผ่านมีนเหมือนคณะอื่นๆ แต่ต้องได้80%-90%ขึ้นไปถึงจะได้A แต่ถ้าขยัน ตั้งใจ แล้วรักษาเกรดดีๆ การใช้ชีวิตในคณะนี้ไม่ยากเลยด้วยซ้ำ มันก็เป็นชีวิตมหาฯลัยปกตินั่นแหละค่ะ

0
Akira 15 ต.ค. 58 เวลา 22:44 น. 14-4

วิทยาลัยโลกคดีศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสิ่งที่คุณยกมากล่าวอ้างว่าได้ยินมา เป็นข้อมูลเท็จครับ

หากไม่ได้มั่นใจในตัวของตัวเองนักเสียแต่แรก และเข้ามาในคณะนี้เพียงเพื่อใช้เป็นการโยนหินถามทาง ลองเชิงศักยภาพของตัวเอง ไม่น่าจะแปลกใจเท่าไหร่นักหรอกครับหากในที่สุดแล้วจะพบว่าหนึ่งในคำตอบที่ได้คือ คุณไม่มีทักษะและทัศนคติบางประการที่ควรจะมีเพื่อที่จะเข้ารับการศึกษาอย่างเต็มที่ในคณะนี้ ทั้งนี้ เป็นความไม่ยุติธรรมอย่างมาก หากเพียงเพราะว่าคุณไม่พร้อมพอ ทักษะไม่เพียงพอทีจะทำงานร่วมกับเพื่อนๆคนอื่นในชั้นเรียน ไม่เพียรพยายามมากเท่าที่ควร หรือเหตุผลใดๆอื่นๆก็ตาม แล้วนำมาเป็นข้อกล่าวหาเชิงลบว่าคณะนี้ไม่สามารถ พิการและไม่อาจทำให้คุณถึงฝั่งฝันได้ ผมเห็นว่าไม่สมเหตุสมผล

อาจารย์แต่ละท่านมีความรู้ทักษะและความสามารถในการถ่ายทอดที่มีประสิทธิภาพ เพียงแค่นักเรียนบางกลุ่มอาจไม่ได้มีความสามารถในการรับข้อมูลหรือวิเคราะห์เชื่อมโยงมากเท่าเพื่อนในชั้นเรียนคนอื่นๆเค้า เมื่อไม่เข้าใจ การโทษและมองถึงสภาพความเป็นจริงของตัวเองจะเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะมันง่ายกว่าที่จะโทษคนอื่นครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบัน หรือทำให้แตกความสามัคคีระหว่างสถาบัน

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

เลิกอยู่ในกะลา? 16 ต.ค. 58 เวลา 11:10 น. 18-1

ผมยอมรับนะคับว่าหลักสูตรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ถ้าคุณเป็นคนในจริงคุณก็ต้องรู้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยน เนื่องด้วยว่าคณะเปิดเป็นปีแรก ไม่ใช่พวกคุณหรอคับที่บอกว่าอาจารย์คนนี้สอนไม่รู้เรื่อง โน้นี่นั่น จนคณะหาทางออกให้ ยังไม่พอตอนที่พวกคุณไปบ่นๆว่าไม่เข้าใจวิชานี้ ทางคณะก้อุส่าหาคนมาติวให้แบบฟรีๆ แล้วที่บอกว่าคะแนนtuไม่ถึง คือคณะก็บอกแล้วว่าอยากรับคนที่ตั้งใจจริงๆ ไม่สนเรื่องคะแนนในรร หรือไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้คุณถึงมาสมัครครับ? คือผมเป็นคนในแบบคนในจริงๆ บางเรื่องผมยอมรับว่าผมไม่เข้าใจกับการตัดสินใจของเขา แต่ผมรู้ว่าเขาอยากหาสิ่งดีดี ให้เด็กออกไปจบแบบมีคุณภาพครับผม พูดถึงเรื่องพฤติกรรม คุณลองคิดนะครับ ว่าเขาเรียกไปตักเตือนดีกว่าที่อยู่ๆเขาไล่ออกเลยไหม? คณะอื่นอยากไล่ก้ไล่เลยถ้าเกรดไม่ถึง แต่บุญเท่าไหร่แล้วที่เขาเรียกไปตักเตือนทั้งเรื่องเกรด เรื่องพฤติกรรมเพื่อที่จะพัฒนาตัวให้ดีขึ้น แล้วอีกนิดเรื่องคะแนนทียู คือมันไม่ใช่แค่คณะผมคณะเดียวที่จะรีบคนไม่ผ่านเกณ ลองมองโลกให้กว้างดูนะครับ อาจช่วยคุณได้เยอะ แล้วสุดท้ายเรื่อง F ผมว่ามันเป็นปกติของชีวิตมหาลัย ไม่ใช่แค่คณะนี้คณะเดียวที่มีสิทธิติด เอฟ แต่ดีเเล้วละคับที่คุณออกไป เพราะผมคิดว่าคนแบบคุณคงไม่เหมาะกับคณะนี้
ปล. ผมคนในแบบคนในจริงๆ 100%

0
ที่นี่ที่ไหน 16 ต.ค. 58 เวลา 22:15 น. 19

แง อย่าตีกันเลย เราว่าสำคัญสุดของการเรียนนะ คือการที่เรามีความสุขในสิ่งที่เราเลือก ไม่มีความสุขก็เลือกอย่างอื่น หรือคิดว่ามีทางเลือกที่ดีกว่าก็เลือกทางที่ดีกว่า ไม่มีประโยชน์จะมาเถียงกันว่าอะไรดีไม่ดี คนทำงานสายผู้ประกอบการเพื่อสังคมส่วนใหญ่ที่เรารู้จักมักมองโลกในแง่ดี และมีความตั้งใจที่อยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น อย่างน้อย Gsse จะสอนให้เราเข้าใจว่าคนเรามีหลากหลายมุมมอง และเราต้องยอมรับคำติเผื่อนำมาปรับปรุง ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักชื่นชมผู้อื่นเมื่อเขาทำในสิ่งที่ถูก รวมถึงเราว่าคณะนี้จะผลิตคนที่มีความคิดที่เปิดกว้าง คนที่อยากทำอะไรเพื่อสังคมให้ดีขึ้น มันอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ เราไม่รู้ แต่มีคนที่เลือกเรียนเพราะเขารักโลกรักสังคมอยู่ มีอาจารย์ที่อยากเห็นเด็กๆรุ่นใหม่สร้างสังคมที่ดีขึ้น เราว่านี่เป็นเรื่องน่าชื่นชม เราว่าอาจารย์เองถ้าเขาเลือกทำงานด้านสังคมแล้ว เขาก็คงพยายามทำดีที่สุดที่จะสร้างบุคลากรที่จะช่วยเขาในอนาคต ส่วนนักศึกษา เรามั่นใจว่าไม่ใช่ว่าทุกคนอยากทำงานด้านสังคมทั้งหมดหรอก แต่เราว่าที่นี่จะสอนให้นักศึกษารู้จักปรับตัวและยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง สังคมก็แบบนี้มีคนชอบไม่ชอบ เด็กGsseก็ต้องยอมรับคำติ ส่วนคนที่ว่าก็ต้องยอมรับข้อเสียตัวเองเนอะ เราโทษทุกอย่างไม่ได้ อย่างน้อยต้องเริ่มที่ตัวเอง (:

0
yippieHOOO 23 ต.ค. 58 เวลา 18:35 น. 20

เห็นคห.ที่ 14 บอกว่าหลักสูตร GSSE ยังไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวง เราก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยเปิดมาเป็นปีแบบนี้ จะไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดได้ไง ไม่ใช่แบบโรงเรียนสอนพิเศษเล็กๆ ที่แอบเปิดได้อะไรอย่างงั้น เราเลยแอบไปส่องเว็บ GSSE มา ปรากฏว่า มีหนังสือรับรองหลักสูตรจ้าา

อ่ะ แปะให้ เผื่อมีคนอยากดู
http://www.sgs.tu.ac.th/images/GSSE/Overview/GSSE_approval_letter.pdf

สรุปว่าหลักสูตรนี้ผ่านการรับรองจากสกอ. แล้วนะ งั้นที่คห. 14 บอกก็เป็นแค่การกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานอ่ะดิ

เซง

เราว่า ยังไงเพื่อนๆ ฟังหูไว้หูกันดีกว่า ยิ่งข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานนี่ ยิ่งต้องระวัง อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ส่วนที่เค้าบอกว่าดีๆ อะไรนี่ ก็อย่าเพิ่งเชื่อ 100% เหมือนกัน เอาไว้แบบ มีงาน Open House ไรงี้ก็ไปหารุ่นพี่คุยด้วย น่าจะข้อมูลแน่นกว่านะ

เราก็ว่าจะไปงาน Open House เหมือนกัน กะว่ายังไงก็จะลองสมัครดูอ่ะ เพราะเราเบื่อวิธีการสอนแบบโรงเรียนไทยมากๆ ไม่อยากเรียนแต่ท่องจำแล้วอะ อยากเรียนอะไรที่เอาไปใช้ได้จริง อีกอย่าง เราก็มีความฝันอยากเปลี่ยนแปลงโลกนี้เหมือนกัน

สู้สู้

0