Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มีใจ กับ อัธยาศัยดี ต่างกันยังไง??

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยค่ะ 

คือ อยากรู้ว่า มีใจ กับ อัธยาศัยดี ต่างกันยังไง

ตอนนี้มีคนมาเทคแคร์เรา มากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เราไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของเขาว่าเป็นยังไงกันแน่..... 

ช่วยเราหน่อยนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

White Frangipani 26 ม.ค. 58 เวลา 19:15 น. 1

สวัสดีค่ะ


"คือ อยากรู้ว่า มีใจ กับ อัธยาศัยดี ต่างกันยังไง"...แตกต่างกันคนละฟากฟ้ามั้งคะ คนที่มีอัธยาศัยดี คงเป็นคนที่มีพื้นฐานการเจริญเติบโตมาดี เช่นเติบโตมากับความรัก ความอบอุ่นที่เพียงพอ และเพรียบพร้อมในทุกๆด้าน และเป็นผู้ที่มีความเต็มอิ่มในจิตใจ เกิดเป็นคนที่กว้างขวางในความรู้สึก เป็นคนที่ยอมรับอะไรๆเช่น ความแตกต่างในหลายๆอย่างหรือทุกๆอย่างได้ง่ายๆ มีความรัก มีความโอบอ้อมอารีย์ มีความเมตตา มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแพร่ มีจิตใจที่จะให้อะภัยเมื่อต้องให้อภัยนั้นเกิดเป็นบุคคลิกที่ เราๆเรียกว่า "อัธยาศัยดี" (เช่นนั้นนะคะ) และแน่นอนเมื่อเราๆอยู่ใกล้หรือพบเจอคนเหล่านี้แล้วเราเป็นสุข

บุคคลเหล่านี้ มีอาการเหล่านี้เป็นธรรมชาติของเขา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ คือเกิดมาเขาก็เป็นได้เช่นนั้นหรืออาจจะเกิดจากการอบรมสั่งสอนได้เช่นกัน และเขาเหล่านี้ ส่วนมาก (จากที่พบเจอ) จะรู้ตัวตนว่าเขาทั้งหลายต้องการอะไร นั้นยิ่งเป็นส่วนเสริมให้เราๆเห็นได้ดีอีกด้วยว่า เขามีอัธยาศัยดีเป็นที่ประจักษ์มากขึ้นตรงที่ว่า เขาจะไม่ทำอะไรผิดๆ(คือทุกอย่างต้องเคลียร์ๆและชัดเจน)คือที่เขาทั้งหลาย เป็น อยู่ หรือ ปฎิบัติ กับคนรอบด้านเท่าเทียมกันหมด คือไม่หวังสิ่งใดตอบแทน (อาการเหล่านี้ ยิ่งช่วยคอนเฟิร์มให้เราๆได้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าเขามีอัธยาศัยดี)


ตอนนี้มีคนมาเทคแคร์เรา มากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เราไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของเขาว่าเป็นยังไงกันแน่    ช่วยเราหน่อยนะคะ.....

ตรงนี้คุณเองค่ะที่จะต้องหัดมองบุุคคลรอบด้านด้วยทัศนคติที่เป็นกลาง มุุมมองของเรานั้นขึ้นอยู่ที่ทัศนคติของเราเองค่ะ บ่อยๆนะที่วัยรุ่นทั้งหลาย จะมองบุุคคลรอบด้านด้วยทัศนคติที่ "เห็นแก่ตัว"(ความเห็นที่เป็นของตัวเองและอาจจะผิดด้วย ไม่ไช่ความผิดของคุณนะคะ ซึ่งเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ) คือคิดเข้าข้างตัวเองแบบผิดๆ คือนั้นเป็นธรรมชาตินะคะ ไม่ไช่ความผิดไม่ไช่เรื่องน่าอาย นี้คือขบวนการของธรรมชาติในวัยนี้ (วัยรุ่น) คือวัยของฮออร์โมนที่ทำงานตามธรรมชาติ คือ เกิดความรู้สึกโดยที่ไม่ได้ใช้ความคิด คือความความรู้สึกเกิดขึ้นได้โดยไม่ใช้สติกลั่นกรองนั้นเอง (นี้ก็เป็นธรรมชาติของวัยนี้ค่ะ)


รูป รส กลิ่น เสียง เป็นสื่อที่เป็นชนวนให้ความรู้สึกที่เข้าใจว่ารักหรือชอบบังเกิด เพื่ออะไรนั้น เราๆคงรู้นะคะ...นี่เป็นขบวนการของธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้มากและมีเปรอร์เซ็นที่สูงในวัยรุ่น นั้นคือ เมื่อเห็นคนรอบๆตัวเรา อัธยาศัยดีให้ความรู้สึกดีๆกับเราหรือทุกๆคนรอบด้าน(ยิ่งหาก) รูปร่างดี (ด้วยแล้ว)ให้ความรู้สึกดีเมื่อมองเห็น ทั้งหมดนี้ เกิดเป็นความพอใจ เกิดเป็นความชอบพอ และจิตใจจะตีค่าสิ่งนี้เองโดยอัตโนมัติ และแน่นอน ในที่สุด ความ"เห็นแก่ตัว" โดยธรรมชาติของเราๆทุกๆคนของเราก็ใส่ความรู้สึกของตนเองเข้าไปมีส่วนร่วม นั้นคือ "เขาคนนี้ ควรค่ากับฉัน หรือเหมาะที่จะเป็นของฉัน"นั้นเอง ในที่สุดก็เกิดเป็น ความพึงพอใจ (ในตนเอง หรือคิดไปเอง) เกิดเป็นความรู้สึกว่า"รัก ชอบพอ หรือพออกพอใจ หรือแม้โหยหา" ในที่สุด ทั้งหมดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นที่ เจ้าของความรู้สึกเองทั้งสิ้น


ซึ่งในความเป็นจริง "ผู้ที่มีอัธยาศัยดีคนนั้น" ไม่มีความรู้สึกตอบโต้หรือไม่รู้เรื่อง หรือไม่รู้สึกเลยด้วยซํ้าไป(นั้นก็เป็นได้) เพราะฉนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นที่มุมมอง อุดมคติ ทัศนคติและการขาดการยั้งคิด และตรึกตรองและกลั่นกลองนั้นเอง (หากจะเห็นชัดๆเราต้องใช้เวลาและสติเป็นตัวช่วยค่ะ)

แต่ที่แปลกมากๆคือ หลายๆคนจะให้ชื่อเขาเหล่านี้ ว่า เจ้าชู้ หรืออะไรทำนองนั้น เช่นที่เราๆเห็นๆได้ในทุกวัน เมื่อผิดหวังจากเขา (เหตุนี้เกิดขึ้นทุกๆวัน)


คนที่มีใจ (คือ รักเรา ในฐานะชู้สาวนะคะ) หากเราไม่สับสนเราจะรู้เองค่ะ ว่าเขาจะมั่นเพียรพยายามที่จะใกล้ชิด เป็นห่วงเป็นใย เอื้ออาทร จริงใจกับเรามากๆ มากว่าคนอื่นๆ และพิเศษกว่าคนอื่นๆในกลุ่มอยู่แล้ว เราๆจะสามารถเห็นและสัมผัสได้ค่ะ และนี้ก็เป็นขบวกการของธรรมชาติเช่นกัน และการที่เขาปฎิบัติต่อคุณ (หรือใครบางคนที่เขารัก) นั้นผู้ที่ได้รับการปฎิบัติจากเขานั้นจะรู้ได้เองค่ะ และตรงนี้คุณ(หรือบุุคคลนั้นจะรับรู้ได้เอง) แต่แน่นอนทุกอย่างต้องใช้เวลา กลไกของทุกอย่างในความเป็นจริงเราๆทุกคนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี หากเราๆ(คุณ)ต้องการความแน่ใจนั้นจะต้องใช้สติและตั้งใจ สัมผัส ดู มอง อย่างจริงจังค่ะ และนี่ก็เป็นธรรมชาติ

ขออนุญาตต่อ...นอกประเด็นนะคะ (ขออภัยค่ะ แต่นี่ที่สำคัญมากเช่นกัน เกี่ยวพันกับคำถามที่คุณยกมาค่ะ) ความรู้สึก ผิดหวัง อกหก หรือเสียใจมากมายที่เกิดขึ้นมาได้เกี่ยวกับความรักที่เข้าใจผิดๆนี้ สาเหตุส่วนใหญ่คงเป็นเพราะเราๆคิดเข้าข้างตัวเองนั้นเอง เช่น ในกรณีที่คุณยกมานี้ นั้นคือบางคนอาจจะไปหลงรักคนที่ "เขาอัธยาศัยดี เพราะเข้าใจผิด หรือตั้งความหวังให้ตัวเองผิดๆ"นั้นหล่ะ คือสาเหตุ ซึ่งบางรายนี่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ รู้ว่าไม่ไช่ แต่ก็ผลักใสตัวเอง ทั้งที่ทั้งเจ็บทั้งปวด ทั้งทรมานก็ยอมลงทุน สาเหตุนี้มาจากความอ่อนแอต่อกิเลสหรือความอยากนั้นเอง(ท่อนนี้ต่อเข้ามาเพื่อความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายในความเป็นจริงในทุกๆวันนี้ค่ะ)


ดิฉันเจ้าของเม้นต์นี้กำลังที่จะหัดเขียนและหัดสื่อค่ะ เห็นว่ากระทู้ของคุณนี้มีความหมายและประโยชน์มากมาย ที่คุณตั้งคำถามมานี้นั้นเป็นอะไรๆที่น่าจะเป็นประเด็นที่ดี ที่วัยรุ่นหลายๆคนน่าจะเข้าใจเพื่อลดความทุกข์ระทม ซึ่งอาจจะเกิดเป็นปัญหาบั่นทอนทั้งพลังและเวลาในช่วงวัยเรียนได้เป็นอย่างดี หากเขาทั้งหลายเข้าใจ แต่ทั้งหมดนี้ที่เขียนมานี้เป็นความเข้าใจของดิฉันเองทั้งสิ้น    ยาวๆๆๆๆ ขออภัยค่ะ หากแต่คุณอ่านไม่ไหวก็ข้ามไปนะคะ

ขออภัยด้วยค่ะ






0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

White Frangipani 26 ม.ค. 58 เวลา 19:34 น. 3

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่คุณตั้งกระทู้ขึ้นมา เป็นประเด็นที่มีความหมายมากเลย ^__^


ขอเป็นกำลังใจให้คุณด้วยว่า.. "เขาจะเป็นคนที่ไช่ของคุณ"ค่ะ

รักเลย

0
13monkeys-pimm 26 ม.ค. 58 เวลา 19:52 น. 4

เราขอปรึกษาต่อนะคะ
คือ...

คนๆนี้ที่เรา กล่าวถึง เราไม่สามารถที่จะ ศึกษาเค้าได้เป็นเวลานานๆ ได้เลยนะคะ เพราะว่าสัปดาห์หน้า เค้าจะไปเรียนต่อ ตปท แล้ว เราควรทำไงดี

0
White Frangipani 26 ม.ค. 58 เวลา 20:33 น. 5

สวัสดีค่ะ

"เราขอคำปรึกษาต่อนะคะ" ขอบคุณค่ะ ที่ให้เกียรติ

เรื่องของความรัก ความรู้สึกดีๆที่คนสองคนมีต่อกันนี้ ในความเป็นจริงแล้ว คนสองคนนั้นเท่านั้นค่ะที่จะต้องตัดสินใจ (ประเด็นนี้นอกเหนือจากประเด็นข้างบนแล้วนะคะ) คือคนอื่นๆอาจจะช่วยแนะนำหรือชี้แนะได้ค่ะ ในเรื่องแบบนี้ แต่ในความเป็นจริง คุณเองค่ะที่จะต้องตัดสินใจที่จะปฎิบัติในวิธีที่คุณคิดว่าดีที่สุด

แต่เมื่อคุณต้องการคำแนะนำก็จะช่วยค่ะ...

1...หากคุณยังไม่แน่ใจในตัวเขาซึ่งเขาเองที่ยัง(อาจจะ)ไม่แสดงอะไรเป็นที่แน่ชัด แต่คุณยังเป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่ คุณสามารถให้โอกาสเขาและตัวเองติดต่อกันได้นี่ คือ การไปเรียนต่อต่างประเทศมาวันนี้ไม่ไช่ปัญหาสำหรับความรักอีกต่อไปค่ะ หากเขามีใจให้คุณจริง ระยะทางไม่ไช่ปัญหา คุณและเขาสามารถคิดต่อกันได้หลายๆวิธี สามารถคุยกันได้เห็นกันได้ในทุกๆวัน (มาวันนี้เหตุเหล่านี้ไม่ไช่อุปสรรค์ของความรักอีกต่อไปค่ะ) หากเขามีใจให้คุณจริงนะคะ

2...มาถึงตรงนี้ขึ้นอยู่ที่คุณแล้วค่ะ ว่า คุณจะมั่นคงกับตัวเองให้เหตุเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์เขาหรือไม่ เหตุนี้จริงแล้วเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะสามารถทดสอบว่า เขาเพียงอัธยาศัยดีต่อคุณหรือจริงแล้วเขาสนใจในตัวคุณในจุดมุ่งหมายที่มากกว่านั้น(หรือไม่) เป็นโอกาสดีที่คุณจะให้กับทั้งเขาและคุณพิสูจน์ค่ะ (ดิฉันเข้าใจเช่นนั้น)


3...แต่...ในที่สุดคุณเท่านั้นค่ะ ที่จะต้องตัดสินใจด้วยตัวคุณเองว่าต้องการอย่างไร จะเดินหน้าต่อไป ติดต่อเขาตามปรกติหรือสิ้นสุดในวันสุดท้ายที่เขาจำเป็นต้องบอกลา (คือหากคุณไม่แน่ใจหรือไม่ต้องการ เหตุนี้ก็เป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่คุณจะนำมาเป็นจุดสิ้นสุดค่ะ)


ดิฉันคงแนะนำคุณได้เท่านี้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ ^__^

0
YouKW 27 ม.ค. 58 เวลา 17:31 น. 6

มีใจ แบ่งเป็นสองอย่าง 1.ม่อ 2.รักจริง

ความหมายรวมของมีใจ : เข้ามาจีบ เราจะเริ่มเห็นว่าเขารุกมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มอัพเลเวล จากชวนคุย --> ชวนเล่น --> ชวนกินข้าว อัพระดับขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ อยากให้เราสนใจ

  1.ม่อ : ต้องใช้เวลาสังเกต ถ้าเขาทำกับทุกคน มีหลายคน ก็ม่อ ยิ่งถ้าเขารอนาน เขาจะเบี่ยงไปม่อคนอื่นได้เร็ว แล้วหลังจากนั้นก็จะไม่ค่อยแคร์เรา

  2.รักจริง : เวลาผ่านไปเท่าไรก็ยังรัก ทำอะไรพิเศษให้เราคนเดียว มีพฤติกรรมที่เหมือนจีบแค่เราคนเดียว ลองสังเกตดู


อัธยาศัยดี

อัธยาศัยดี คือ คุยได้ทุกเรื่อง ไปได้หมดทุกที่ เข้าได้กับทุกคน ไม่ค่อยมีเรื่องความรักเท่าไร ยกเว้นแหย่เล่นๆ ที่เราดูออกว่าเขาไม่ได้จริงจัง ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายตลอดเวลา ทั้งเราและเพื่อนคนอื่นๆด้วย

0