Go to TU EP 2: เลือกหนังสืออย่างชาญฉลาด สำหรับ Reading (Part II)

[the director]

สวัสดีอีกรอบครับ สำหรับ Go to TU EP 2

TU EP 1 เป็นอย่างไรบ้าง ข้อสอบไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

http://www.dek-d.com/board/view/3459060/    - สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน EP 1

วันนี้ เนื้อหาก็ยังเป็น reading อยู่ แต่จะเป็นรูปแบบ self-study รับรองว่าเนื้อหาวันนี้มีประโยชน์อย่างมากแน่นอน

SELF STUDY คืออะไร

ตามพจนานุกรมของ Cambridge Instution ได้กล่าวไว้ว่า self-study คือ a way of learning about a subject that involves studying alone at home, rather than in a classroom with a teacher

นั่นหมายความว่า น้องจะต้องมีวินัยในคัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งในเวลาอันจำกัดอย่างนี้ น้องอาจจะต้องใช้วิธีนี้เข้าช่วยเพื่อให้น้องๆอ่านหนังสือเตรียมสอบทันอย่างแน่นอน

การเลือกหนังสือโดยเฉพาะ reading
หนังสือ reading ในท้องตลาด ยิ่งเฉพาะถ้าน้องไปศูนย์หนังสือจุฬาโดยเฉพาะชั้น 2 ที่เป็นส่วนศูนย์หนังสือ น้องๆจะเจอหนังสือแบบนับไม่ถ้วน แต่จริงๆแล้ว น้องอาจจะใช้หนังสือได้เพียงแค่ไม่กี่เล่ม เกณฑ์การเลือกมีดังนี้ครับ

1. จุดประสงค์ของน้องและคนเขียน
น้องๆควรจะดูว่าคนเขียนเค้าเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่ออะไร และจุดประสงค์ของน้องในการอ่านหนังสือคืออะไร ถ้าเกิด match กัน ดูข้อต่อไปได้เลยครับ
วิธีการดู คือ ให้น้องดูจาก introduction หรือ preface (คำนำ) หรือแม้กระทั่งหน้าปก ได้เลยครับ เค้าจะบอกอย่างชัดเจนว่าเค้าเขียนเพื่ออะไร เช่น



จากหนังสือ Official Guide to TOEFL Test (4th Ed) ถ้าดูจากหน้าปกแล้ว
ถ้าน้องสนใจข้อสอบจริงของ TOEFL iBT ที่ผ่านมา แนะนำให้ซื้อได้เลยครับ 


2. ความทันสมัยของหนังสือ
หนังสือที่ดีควรมีอายุไม่เกิน 5 ปี นั่นหมายถึงความทันสมัยของข้อมูล เช่น ถ้าน้องซื้อหนังสือสมัยไดโนเสาร์ล้านปี บอกว่า wicked แปลว่าชั่วร้ายได้เพียงอย่างเดียว แต่ในขณะเดียวกัน หนังสือใหม่ บอกว่า wicked แปลว่าเจ๋งก็ได้ ดังนั้นความทันสมัยของหนังสือสำคัญมาก
วิธีดู คือ สามารถดูจากหน้าแรกๆของหนังสือได้เลยครับ



จากหนังสือ Painless Vocabulary ของ Barron ปีที่พิมพ์ล่าสุด คือ 2011 ดังนั้นผ่านข้อนี้ครับ

3. ความน่าเชื่อถือ
เป็น step สุดท้าย และดูได้ยากที่สุดครับ แต่ไม่ยากอย่างที่คิด
สำหรับความเห็นของพี่เอง ความน่าเชื่อถือดูได้จาก บริษัทที่พิมพ์ หรือ ภูมิหลังของผู้เขียนครับ
ซึ่งบริษัทต้องเป็นบริษัทที่มีความไว้วางใจที่เพียงพอ และ ภูมิหลังของผู้เขียนดูจากวุฒิการศึกษาครับ


อย่างเช่นเล่มนี้ดขียนโดย Princeton ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตหนังสือและเป็นมหาลัย Top ของอเมริกา ครับ ดังนั้นซื้อได้เลย

FINAL TIPS สำหรับคนประหยัด
หนังสือเล่มนี้ก็ล่อตาล่อใจจัง แต่ก็อยากได้เล่มนั้น วิธีดูครับ คือให้ไปอ่าน review ในเน็ต จะมีหลายความเห็นที่ต่างออกไป ที่แนะนำเช่น mangoosh เพราะวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมา และวิเคราะห์ได้หลายแง่มุมครับ ดังนั้นการอ่าน review จึงเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งเช่นเดียวกันครับ

P.S. (1) Reading ยังไม่จบนะครับ ยังมีอีก 1 episode (EP 3) จะเปิดซองข้อสอบจริง เฉลยสดๆ เลยครับ แบบไม่กั๊ก ไม่หวงกันเลย
P.S. (2) สามารถส่งข้อสอบภาษาอังกฤษที่คิดว่าน่าสนใจได้ครับ ในกลุ่มภาษาอังกฤษมัธยมปลาย สำหรับเป็นส่วนเสริมใน episode ต่อไป
P.S. (3) พี่อยากจะเตือนว่า จะมีพวกรุ่นพี่เตรียมขายหนังสือ น้องซื้อได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจ Proof กันซักนิด (หรือที่เรียกกันว่า proofread) (เขาทำเพื่อจะเอาตังมารับน้องเฉยๆครับ เอาเปรียบน้องนิดๆ 55+) อยากให้ซื้อของบริษัทที่ดังหรือคนเขียนทีมีวุฒิการศึกษาครับ