[รกมั้ง] เปิดรับวาดภาพประกอบนิยายฟรี
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ วิลเองล่ะ // รับมอบหมายงานมานิดหน่อย
จากการรับเควสของท่านหมวย (Racia)
กับปีที่แล้วที่มีคนบอกว่า ขอแบบคู่บ้างอะไรบ้าง
เลยถือโอกาสจัดให้เลยขอรับ
ภาพตัวอย่าง สามารถส่องได้ในเพจกับอื่นๆ //แต่ขออนุญาตให้ลุ้นเอาเองว่าฝีมือถึงขั้นไหนแล้ว ยกเว้นเล่นเส้นนิดหน่อยก็ส่องได้ไม่ยากขอรับ
การวาดจะเป็นแบบสลับกันวาดและลงสี 2 ภาพ ฟลู CG คนละ 1 ภาพ
และถ้าถูกใจก็จะมีโบนัสแถม ซึ่งอันนี้ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะกี่ภาพ
กติกา
1.มีนิยายเกิน 10 ตอน และยังไม่กดปิดเรื่อง
2.ไม่ดองนิยายเกิน 3 เดือน
3.แฟนตาซีทุกแนว
4. 1 คน 1 เรื่อง เอาแฟนตาซีคู่ขวัญท่านเลย
5. ใครที่ได้ภาพจากกิจกรรมที่แล้ว...อดค่ะ //ที่รับวาดกับท่านหมวยเมื่อครั้งก่อน ไม่ใช่ของเดือนมีนาปีที่แล้วที่วิลเปิดรับนะ
ปีที่แล้ววิลขอสเปคเคะเมะ
ปีนี้ขอ โมเม้นต์ ขอรับ
ง่ายๆ จะชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง จัดมา
ขอโมเม้นต์ตัวละครสองคน(หรือสามคน)ที่แบบ ท่านอ่านแล้วกรี๊ดกร๊าดและชอบที่สุด ในเรื่องของตัวเอง บอกชื่อตัวละครเพื่อความฟินก็ดี
ไม่จำเป็นต้องส่ออะไรขนาดนั้น ขอแค่รู้สึกว่า นี่แหละเนื้อคู่ (ในหลายๆความหมาย) =w=
หรือจะเอาส่วนนึงในนิยายท่านมาแปะก็ได้ไม่ห้าม (ขอไม่เกินครึ่งแผ่นเอสี่นะคะถ้าจะมามุกนี้ แต่ถ้าเขียนสั้นๆก็ไม่จำกัดบรรทัด)
ไม่จำกัดว่าจะเป็นคนรักหรือไม่ พ่อลูก พี่น้อง เพื่อน ได้หมด
++++++++
ตัวอย่างจากนิยายท่านหมวย
Aesel story อลเวงบันทึกเดินทาง
ตั้งแต่วันแรกที่เฮสเตอร์และคาร์เรย์เห็นเด็กสาวตัวน้อยลืมตาดูโลก ก็ได้ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะปกป้องเธอคนนี้ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต และจะรักเธอตลอดไป พวกเขาไม่ยอมให้ใครมาพรากสายสัมพันธ์ของตนไปได้ เพราะดวงใจของพวกเขาคือ ‘เอเซล’ ตราบเท่าที่พวกเขามีชีวิตอยู่ก็จะรัก และดูแลเอเซลตลอดไป...
ตัวอย่างนิยายของวิลเอง
คิมกับกริช สองคนนี้ถึงจะอยู่ด้วยกันมานานหลายปี แต่ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรมากไปกว่าคนรู้จัก พวกเขาไม่เคยถามเรื่องราวในอดีต ความชอบไม่ชอบหรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ไม่เคยล้ำเส้นของกันและกัน กริชมีนิสัยใจร้อนขี้โวยวาย ก็มีแต่คิมนี่ล่ะที่จะคอยปรามคอยแหย่ให้กริชหงุดหงิดเล่น แล้วถึงจะไม่เคยพูดคุยกันถึงอดีตของอีกฝ่าย แต่กลับรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์แบบคลุมเครือนี่ล่ะที่คือที่สุดของคู่นี้
จากนั้นโพสลิ้งนิยายของท่านลงในนี้ด้วยนะคะ
ปิดรับ เที่ยงพรุ่งนี้... (12.00น. - 4/3/58)
การวัดดวง คือเอาให้เราแบบ อยากอ่านนิยายท่านอ่ะ //วิลใจง่ายนะ สะกิดนิดนึงก็ชอบแล้วไม่ต้องห่วง ฮาาาา
ส่วนท่านหมวย รายนี้ชอบนิยายที่มีกลิ่นอายของจีน ย้อนอดีตด้วย ใครมาแนวนี้เรียกได้ว่าปูพรมแดงแล้ว 80เปอเซนต์ ฮา
ขอบคุณที่สนใจค่ะ // โค้ง
ปล. เลือกดีๆ เพราะเอาคู่ไหนมา ถ้าได้ ก็จะวาดคู่นั้นล่ะ อย่าลักไก่เชียวน้า....
อีดิท.// ฉากฟินๆหรือฉากชวนกรี๊ดกร๊าดที่บอกตอนแรก ไม่ใช่ฉากสวีท ฉากจีบหรือตกหลุมรักกันนะขอรับ บอกแค่ประมาณ ชอบคู่นี้เวลาดูแลกัน ชอบเวลาทะเลาะกันแล้วอีกคนจะงอนให้ง้อ บลาๆ อะไรแบบนี้น่ะ หรือจะเป็นการยกบรรยายช่วงพรรณนาความสัมพันธ์ของตัวละครมาให้คนที่ไม่เคยอ่านรู้สึกชอบ เพราะบางทีวิลไม่ได้อ่านของท่าน อารมณ์ร่วมอาจจะไม่ครบถ้วน
แต่ถ้าท่านยืนยันว่าท่านชอบฉากนี้ก็ไม่เป็นไรขอรับ วิลถือว่าบอกไม่ชัดเจนเอง บอกช้าไปมากด้วย ^^;/
115 ความคิดเห็น
นี่ใช่ไหมครับที่ท่าน Racia เกริ่นๆ ไว้
สองสาว กลับมารวมทีมกันอีกแล้วนี่เอง (ฮา)
เข้ามาแล้วรู้สึกเสียดายอย่างสุดซึ้ง ไม่มีอะไรจะมารีเควสรูป TAT
ไม่เชิงท่านเดธ อันที่จริงในเพจข้าน้อยเพิ่งจัดกิจกรรมรีเควสไปขอรับ
ที่เกริ่นไว้คือจะไปรับในกรุ๊ปแบบพิเศษ (ฮา) แต่ยังไม่บอกว่าตอนไหน
อันนี้เป็นงานที่ว่างแผนกันมาหลายเดือนแล้ว (ฮา)
พวกเธอช่างเปี่ยมล้นด้วยพลังงาน เอาความขยันมาแบ่งกันบ้างสิครับ (ฮา)
มีหลายโครงการทำเอาผมงง (หรือจริงแล้ว ผมดันงงไปเอง)
ไม่มีอะไรมารีเควส...
ไว้แคสป์จะรอชมผลงานนะคะ ท่านวิล ท่านพี่เซีย
555+ หลายโครงการขอรับท่านเดธ พลังเดี๋ยวก็หมด(ฮา)
จ้าท่านน้องแคสป์
เข้ามาชักดิ้นชักงอกับกติกาข้อที่ 2
มรั่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไหในมือเรานี่สั่นเลยครับ
ชื่อนิยาย : dominate world/online
ลิงก์นิยาย : http://my.dek-d.com/kingeram/story/view.php?id=1013801
ส่วนที่ตัดจากเนื้อหา : http://writer.dek-d.com/kingeram/story/viewlongc.php?id=1013801&chapter=62
“นี่ฉันเหม่อไปนานขนาดไหนเนี่ย!?”
“ก็... สองชั่วโมงได้มั้ง” เฟยดูนาฬิกา “ตอนนี้จะหกโมงแล้ว”
“ให้ ตายสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะแข็งทื่อไปแบบนั้น” ผมส่ายหน้า นึกถึงตอนคุมิยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วหน้าผมก็เริ่มร้อนๆอีกแล้ว ฮึ้ย!
ขออีกที ฮึ้ย!!
“อื้ม นั่นล่ะ สุดยอดมากเลยล่ะ ปกติคุมิก็ชอบทำอะไรแบบขวานผ่าซากอยู่แล้ว แต่ที่จู... อุ้บ” ผมตีปากเฟยดังเพี๊ยะ เขาเลิกคิ้วมองผมจากนั้นก็ยิ้มให้แทน “หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้วเพื่อน ฮ่าๆๆ”
“ช่างฉันเหอะน่า! เป็นนายโดนเองมั่งก็ไม่ต่างกันแหละเฟ้ย!”
เฟยยักไหล่ “ก็อาจจะ”
“ว่าแต่คุมิไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะตอนนี้”
เฟยเลิกคิ้วอีก “ข้างหลังนายไง”
“ห้ะ!?”
ผม หันหลังขวับ นึกว่าเฟยจะล้อเล่น แต่ที่ไหนได้ คุมิกำลังนั่งหลับบนเตียงดินอยู่ข้างๆผมนี่เอง ผมกระเด็นออกจากเตียงดินที่นั่งอยู่ราวกับกบที่อยู่ในน้ำมันเดือด
“คะ คะ คะ คุมี้!!!”
คุมิค่อยๆลืมตาตื่นและเมื่อผมกับเธอสบตากัน แก้มของเธอก็มีสีเข้มขึ้นและหันหน้าไปอีกทางทันที
“ฉันปล่อยให้พวกนายอยู่กันสองคนดีกว่ามั้ง?”
เฟย ทำท่าจะเดินออกไป ผมรีบยื่นมือไปคว้าลำคอของเขาทันที เนื่องจากชุดเกราะโลหะผสมใยแก้วไม่มีที่ให้จับได้ เฟยส่งเสียงแอ้กเหมือนกบถูกเหยียบแล้วหันมามองผม ผมส่ายหน้าอย่างรุนแรงเป็นการใหญ่ การสื่อสารแบบคุมิคุมิของผมกำลังบอกเขาว่า ‘ขอเหอะ อย่าพึ่งปล่อยตูไว้คนเดียว!’
เฟยยักไหล่แล้วดันมือผมออก จากนั้นก็ไปนั่งบนพื้นตรงนั้นเลย
ผมเองก็นั่งลงเยื้องๆเฟย กลายเป็นการนั่งล้อมวง 3 คน
ผม อยากจะถามคุมิอยู่หรอกว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ...แต่เสียงมันไม่ยอมออกมา ถึงจะหันไปทางคุมิผมก็ยังไม่สามารถอ้าปากถามได้ ไม่สิยิ่งมองเจ้าตัวผมยิ่งไม่กล้าเอ่ยปากถาม ถึงจะอยู่ในเกมก็เถอะ แต่นี่เป็นเกมเสมือนจริงไม่ใช่เกมบนจอสกรีน ที่คุมิทำแบบนั้นก็คือเจ้าตัว ทะ ทะ ทำด้วยความตั้งใจของตัวเองแน่ๆสรุปภาพคร่าวๆ : คุมิ(ญ) ที่กำลังอายม้วนเพราะไปกระแทกริมฝีปากใส่แก้มของเทร็กซ์(ช) ซึ่งอายพอๆกันโดยที่เพื่อนอีกคนชื่อเฟย(ช) นึกขำอยู่ในใจและจะปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง แต่ด้วยความปอดแหกของเทร็กซ์จึงขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อน ทั้ง 3 จึงนั่งด้วยกันอยู่เงียบๆพักหนึ่ง เทร็กซ์กับคุมิที่กำลังอายและเฟยที่พยายามกลั้นหัวเราะ (ทั้ง 3 คนใส่ชุดเกราะโลหะผสมใยแก้วแบบปิดลำตัวถึงช่วงหัวไหล่ จินตนาการได้ตามสะดวก)
อิมเมจของตัวละครคร่าวๆ : http://my.dek-d.com/kingeram/story/viewlongc.php?id=1013801&chapter=34
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ไม่ร้องนะท่าน โอ๋ๆ
ไม่จำเป็นต้องแฟนตาซีจ๋าก็ได้นะท่าน แค่ไม่ใช่แนวปกติก็น่าจะได้
ปักหมุดจองที่ฮะ เดี๋ยวเข้ามารีเควส ^^
ไปธุระสักครู่...
จริงๆวิลอธิบายไม่ครบ
ถ้าเอาตรงๆคือ อยู่หมวดรักแหวานแหววแต่มีกลิ่นแฟนตาซี ก็ใช้ได้นะท่าน
แอร้กกกกก
ท่านวิลลลล ทำไมต้องสิบตอนด้วยคะ TvT
//ขากไปตอนสองตอนเอง ฮรึ่กกก (อยู่ในอีกไอดีไม่ต้องส่อง)
ท่านวิลทำร้ายท่านจริงๆ /เผ่น
ตอนแรก 15 ตอนค่ะ ฟฟฟฟ
เสียใจ =w=;;
ขอแปะด้วยคนนะคะ ^^
แฟนตาซีหักมุม เพิ่งอัพเมื่อวันก่อนค่ะ
ชื่อเรื่อง: เรื่องเดียว 2 ภาคอยู่ในบทความเดียวกันค่ะ
ภาค 1 [Fake] Fairy Tale นิทาน [หลอก] เด็ก (32 ตอนจบ)
ภาค 2 [Real] Fairy Tale ตำนานนิทานแห่ง [ความจริง] (6 ตอน+++)
ขออนุญาตลบสปอยล์นะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :)))
ปล. เรื่องนี้ไม่วายนะคะ จิ้นได้บ้างเท่านั้นค่ะ
ฟู่
เสียดาย
วิลอยากวาดยูริมาก
แต่ไม่มีคนแปะคู่หญิงกับหญิงเลยสักคู่อ่ะ
ไม่งั้นวิลให้้เลย ฮาาาา
อันที่จริงร้องไห้ผิดข้อค่ะ จะบอกว่าข้อที่ 2
5555
มีแต่คนกอดไหดอง แงงงงงง
กอดคนวาดแทนได้ไหมคะ
นิยายแฟนตาซีผจญภัยค่ะ ไม่มีนางเอก ตั้งใจแต่งให้จิ้นวายได้ แต่ไม่ใช่วายโดยตรง จะอ่านแบบปกติก็ได้ค่ะ
ลงจนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้กดปิดเรื่องค่ะ คิดว่าไม่น่าผิดกติกา
The Shepherd Boy แก๊งป่วนกวนโลกนิทาน
my.dek-d.com/halfanhour/writer/view.php?id=1307536
เมื่อราชินีวีดาถอนคำสาป วิณณ์ก็ไม่อาจกลับไปเป็นหมาป่าได้อีกแล้ว ทว่าทำไมเขาถึงยังมีความสามารถบางอย่างของหมาป่าอยู่ เช่นจมูกไวต่อกลิ่นอย่างตอนนี้ วิณณ์ทำจมูกฟุดฟิด เขาได้กลิ่นหอมที่แสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ
“เป็นอะไรของนาย อากาศร้อนแล้วเป็นโรคบ้าหรือไง” อลันสังเกตเห็นคนด้านข้างทำท่าทางแปลก เหมือนหาอะไรอยู่
หมาป่าไม่ตอบ แต่ก็แย้งอยู่ในใจว่าเขาไม่ใช่สุนัข ทว่าการกระทำกลับตรงกันข้าม เขารู้สึกว่ากลิ่นนั้นลอยออกมาจากเด็กเลี้ยงแกะ เพื่อพิสูจน์ วิณณ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กลิ่นมาจากแถวๆ แขนเสื้อสินะ เขาเลื่อนใบหน้าลงมา
“เฮ้ย ทำอะไรของนาย” อลันรู้สึกได้ลมหายใจอุ่นๆ รดต้นแขน เมื่อหันไปเจอพฤติกรรมสุดประหลาดก็รีบผลักเจ้าหมาป่าออกทันที เด็กหนุ่มถอยออกห่าง เขาลูบต้นแขนตัวเอง ขนลุกซู่ทั้งตัว เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าหมาป่าจะ...
“ก็ดมกลิ่นเจ้าไง หอมดี” วิณณ์ที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวตอบหน้าตาเฉย และนั่นก็เป็นการสนับสนุนความคิดของเด็กหนุ่มอย่างดี ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในร่างหมาป่านานเกินไปหรือเปล่า จึงไม่เข้าใจอะไรง่ายๆ แถมยังทำหน้ามึนต่อไป
“นายบอกว่ากลิ่นกายฉันหอมด้วยอย่างงั้นเหรอ ไม่น้า...” หางเสียงของประโยคนั้น ทำให้คนฟังรู้สึกว่าอลันกำลังโอดครวญ
“ข้าหมายถึงกลิ่นที่ติดเสื้อเจ้าต่างหาก” วิณณ์เรียกสติอลัน ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กเลี้ยงแกะคิดอะไรอยู่กันแน่ คิดว่าเขาอยากจะกินเนื้อเหนียวๆ แบบนั้นหรือยังไงกัน ตอนนี้เขาเป็นมนุษย์แล้วนะ “ข้าไม่กินเจ้าหรอกน่า...”
แต่อนิจจา เจ้าหมาป่าหนุ่มไม่รู้อะไรเลย เด็กเลี้ยงแกะไม่ได้กลัวถูกกินเสียหน่อย
อลันชั่งใจอยู่พักหนึ่งก็เชื่อว่าคนตรงหน้าไม่ได้คนอกุศลอะไรแบบที่เขาคิด จึงก้าวไปยืนที่เดิม เขาปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วทำเป็นว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอ่อ กลิ่นอะไรที่นายว่า"
อิมเมจ
วิณณ์ : ชอบวางท่าเพราะว่าตัวเองเป็นหมาป่า ทว่าความจริงแล้วซื่อนิดๆ เพราะเป็นอยู่ในร่างหมาป่านานไปหน่อย ตัวสูง ผมดำ
อลัน : สูงพอๆ กับวิณณ์ เป็นเด็กเลี้ยงแกะธรรมดา ผมน้ำตาล
ไม่ได้ตั้งใจจะให้วาดทั้งสองตอนนะคะ แค่อยากเอาตอนนี้มาแชร์ให้อ่านเฉยๆ ค่ะ เพราะว่าคู่นี้ไม่ใช่คู่หลักที่เราจิ้น แต่ไม่รู้ทำไมแต่งไปแต่งมาเรารู้สึกฟินกว่าคู่หลัก -/////- จะไม่อ่านก็ได้ ขอบคุณมากค่ะ
“ยืนเฉยอยู่ทำไมล่ะครับ ผมบอกให้ถอดเสื้อออก ผมจะใส่ยาให้” เด็กหนุ่มย้ำอีกครั้งแล้วก้มลงจัดเตรียมของที่ต้องใช้ แต่ก็เห็นได้จากหางตาว่าชายหนุ่มเริ่มขยับตัวแล้ว เขาโล่งอกที่คนเจ็บไม่ได้ดื้ออย่างที่คิด ติดอยู่อย่างเดียว ชายหนุ่มลืมอะไรไปลืมเปล่า “คุณจะทำอะไรน่ะครับ”
“ก็ถอดเสื้อไง” วิณณ์ว่าขณะที่กำลังดึงเสื้อออกจาก “เจ้าสับสนอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวให้ข้าทำ เดี๋ยวให้ข้าหยุด”
“เดี๋ยวก่อน...” ธามห้ามอีกครั้งตอนที่เห็นว่าชายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาถอดเสื้อต่อไป “ผมหมายถึงว่าทำไมคุณถึงยังถอดเสื้อผ้าทั้งๆ ที่ประตูยังเปิดอ้าอยู่อย่างนั้นต่างหากครับ
เด็กหนุ่มส่ายหน้าให้คนที่เพิ่งเปลือยท่อนบนไปเรียบร้อย เจ้านั่นไม่มีความอายบ้างเลยหรือไง ไปยืนถอดเสื้ออยู่หน้าประตู คนข้างนอกก็เยอะแยะ นี่ถ้าพวกเขาเห็นว่า...
“ทำไมต้องปิดประตูล่ะ” วิณณ์เลิกคิ้วขณะหันไปมองช่องว่างในวงกบ “เย็นดีออก”
เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลยหรือไง ตอนเฉพาะตอนที่พวกผู้หญิงกลุ่มใหญ่ผ่านมา พวกเธอจ้องมาทางนี้ตาโต ก่อนจะพากันก้มหน้ายิ้มเขินอายแล้วเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว ธามกล้าพนันได้เลย พวกเธอไม่ได้หน้าแดงเพราะเห็นแผงอกที่มีกล้ามเนื้อของวิณณ์หรอก
“เอ่อ ปิดประตูเถอะครับ” ธามหันหน้าหนีตอนผู้หญิงอีกกลุ่มที่เดินผ่านไป กลุ่มนี้มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไป พวกเธอส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันเบาๆ
“ปิดทำไม ดีจะตาย” คนหลงตัวเองทำท่าขรึม “ดูสิ พวกเธอชื่นชมกล้ามงามๆ ของข้า”
“ผมเกรงว่าจะไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิครับ” เด็กหนุ่มผมทองโพล่งขึ้นมา ดับจินตนาการของชายหนุ่ม เขาตรงไปปิดประตูไม้เสียงดัง ก่อนจะถอนหายใจ “...ก่อนที่คนจะเข้าใจผิดไปทั้งหมู่บ้าน”
“เจ้ากลัวอะไร” วิณณ์ยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความสงสัย “พวกเธอเห็นเจ้านั่งอยู่ที่เตียง ในขณะที่ข้าถอดเสื้อ เจ้าคิดว่าพวกเธอจะเข้าใจอะไรผิด”
นั่นแหละที่เด็กหนุ่มกลัว สมัยเรียนอยู่เขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านเสียด้วยสิ... ถ้าเจ้าหมาป่าจอมซื่อนี่ยังไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เขาก็จะปล่อยผ่านแล้วนะ
“ช่างมันเถอะครับ” ธามกล่าวอย่างอ่อนใจ ขณะหลุบตาลงหนีคำถามตื้นๆ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าคนซื่อ ที่รอยแผลบนแผงอกเขามีร่องรอยของการรักษาบ้างแล้ว “แผลคุณเกือบหายแล้วนี่ครับ”
“แหงล่ะ ข้าไปให้หมอรักษาหลังจากมากถึงที่นี่”
“แล้วคุณยังต้องการให้ผมใส่ยาให้อีกหรือเปล่า”
“แล้วเจ้ายังอยากจะใส่ยาให้ข้าอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”
เอ่อ... เมื่อกี้วิณณ์ตอบว่าอย่างไรนะ ดูเหมือนว่าธามจะไม่ได้อะไรกลับมาจากการตั้งคำถามนั้น เอาเถอะ เด็กหนุ่มผมทองกุมขมับก่อนจะเดินนำไปที่เตียง “ถ้างั้นผมใส่ยาให้ก็ได้ครับ จะได้ไม่เสียเที่ยว นอนลงที่เตียงครับ”
“จะให้ข้านอนหงายหรือคว่ำล่ะ”
ธามจ้องหน้าคนถามกลับโดยไม่ให้คำตอบใด ไม่รู้ว่าว่าทำไมตัวเองจึงทำเช่นนั้น เพื่อแกล้งกลับหรือเพราะเหนื่อยใจในความซื่อ (บื้อ) ของคนร่างสูงกันแน่
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?