นักจิตวิทยา มาเรคคอมเม้นด์หนังสือสำหรับเด็ก ad ที่อยากเรียนจิตวิทยา ^_^

[นักจิตวิทยากล่าวว่า]

ช่วงใกล้แอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาลัยเช่นนี้มักจะมีน้องๆ มัธยมฯ หลังไมค์มาถามว่ามีหนังสือที่ควรหามาอ่านมั้ย? อยากรู้ว่าเรียนยังไง....
ถามกันมาเยอะพอสมควร ก็เลยขอนำมาตอบให้หน้าแฟนเพจซะเลย เดี๋ยวสัปดาห์หน้าก็จะมีงานหนังสือ คงได้มีโอกาสไปช๊อปกัน โดยที่จะแนะนำเบื้องต้นนั้น มี 5 เล่มครับ :-

1. Textbook "จิตวิทยาทั่วไป" โดย สนพ.ม.ธรรมศาสตร์

แนะนำเล่มนี้เพราะเป็นหนังสือที่เป็นตำราเรียนของน.ศ.ชั้นปีที่ 1 ที่เขาใช้เรียนกันในคาบเลคเช่อร์จริงๆ อ่านแล้วจะทำให้เห็นมุมมองที่เป็นภาพรวมได้ว่าจิตวิทยาเรียนเกี่ยวกับอะไร เนื้อหาเป็นยังไงบ้าง จะเห็นได้ว่ามีการปูพื้นเกี่ยวกับชีวะ และ stat อยู่ ซึ่งวิชาเหล่านี้จะมีแยกมาให้เรียนเฉพาะทางในปีสูงๆ ครับ

แอดมินเคยเห็นมีวางขายที่ Se-ed แต่เดี๋ยวนี้หายาก ถ้าไม่มี ก็แวะไปซื้อที่ศูนย์หนังสือแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โดยตรงเลย รับรองว่ามีครับ


2. "โลกจิต" ของ โดย แทนไท ประเสริฐกุล
เล่มนี้ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ให้มากมายครับ เพราะมีคนดังในวงการวิทยาศาสตร์เขียนรีวิวว่าดิบว่าดี อ่านแล้วรักวิทยาศาสตร์ขึ้นเยอะ บลาๆๆ เนื้อหาเกือบทั้งเล่มจะเกี่ยวข้องกับ brain, nueroscience และ psychology ที่มันคาบเกี่ยวกันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราคงทราบกันดีแล้วนะครับว่า จิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่เน้นศึกษาในเรื่องของสมองมากๆ ครับ ไม่ว่าจะความคิด อารมณ์ ความรู้สึก หรือศูนย์สั่งการให้เกิดพฤติกรรมใดๆ ก็มาจากเจ้าก้อนสมองในหัวของเรานี่เอง ใครที่เรียนจิตวิทยา หรือสนใจจะเรียนจิตวิทยา must have! ครับเล่มนี้
เมื่อหลายปีก่อนเล่มนี้ขาดตลาดเลยนะครับ หาซื้อแทบไม่ได้ ไปร้านไหนก็ไม่มี จนรุ่นน้องที่อยากอ่านต้องมายืมของผมไปอ่าน แต่ล่าสุดนี้เห็นมีการตีพิมพ์ออกมาใหม่และเปลี่ยนปกใหม่ด้วย วันก่อนไปเห็นวางขายอยู่ที่ร้านนายอินทร์ หมวดจิตวิทยาครับ ลองดู


3. "จิตวิทยาภาคพิสดาร" โดย Richard Wiseman

ในเล่มนี้จะรวมเกร็ดทางจิตวิทยาสังคมไว้พอสมควร เผยให้เห็นถึงการทดลองทางจิตวิทยาที่ตั้งอยู่บนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กว่าจะได้ผลสรุปมาว่ามนุษย์เราส่วนใหญ่ 'มีแนวโน้ม' จะเป็นแบบไหนนั้น เราจะต้องรวบรวมหลักฐาน เราต้องเก็บข้อมูลกันอย่างไร มีตัวแปรอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง เป็นต้น และที่สำคัญคือมันทำได้เห็นว่าจิตวิทยาก็ศึกษาอะไรแปลกๆ ในมนุษย์เรา โดยข้อมูลเหล่านี้พอจะทำให้เห็นได้ว่า 'ไต๋' ของคนเรานั้นมันช่างลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนพิศวงเสียเหลือเกินแต่ก็พอจับทางได้ จะว่าไปแล้วมนุษย์เรามีพล็อตคล้ายๆ กันอย่างนึง คือช่างขี้เหม็นเสียจริงๆ แต่ก็บอกว่ามันไม่เหม็น (ถ้าเป็นขี้ของตัวเองน่ะนะ)


4. "เจาะจิตวิทยา" โดย Nigel C. Benson

หนังสือเล่มนี้คลาสสิคมากครับ เป็นการรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับ "จิตวิทยาเบื้องต้น" (เบื้องต้นจริงๆ) แล้วสำหรับใครที่ไม่มีความรู้ทางจิตวิทยามาก่อนเลย ถ้ามาอ่านเล่มนี้แล้วจะเข้าใจแบบร้อง "อ๋อ" ได้เลย เพราะคอนเซปต์ของหนังสือนี้จะมาบอกว่า "จิตวิทยา" ที่เขาศึกษากันนั้น มันศึกษาอะไรบ้าง นอกจากนี้ภายในเล่มก็มีภาพวาดการ์ตูนประกอบเนื้อหาด้วย ซึ่งช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้นเยอะ ดังนั้นกล้ายืนยันได้เลยว่าอ่านแล้วคุณจะ get ถึงแก่นอันเป็นรากฐานของศาสตร์จิตวิทยาได้เลย ฟันธง & คอนเฟิร์ม

เล่มนี้วางขายอยู่ทั่วโลกครับ ได้ข่าวมาว่าขายดีในระดับ international กันเลยทีเดียว เพราะมีการแปลในหลากหลายภาษา (รวมถึงภาษาไทยด้วย) แอดมินซื้อมาจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ ส่วนที่ร้านอื่นไม่เคยเห็นมีวางขายนะครับ ยังไงก็ลองสอบถามพนักงานให้ช่วยเช็คดูว่ามีของมั้ย เริ่มจะเป็นแรร์ไอเทมไปอีกเล่มแล้ว


5. "วิธีปั่นหัวคนด้วยสถิติ" โดย Darrell Huff

เป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้เลยคนเรียนจิตวิทยา หนีเลขไม่พ้นแน่นอน (ใครจะเรียนจิตวิทยาเพราะคิดว่ามันไม่มีเลข รีบปรับทัศนคติด่วน เพราะมันมี! และยิ่งมีเยอะขึ้นในปีสูงๆ) เพราะการที่เราจะไปทำระเบียบวิธีวิจัยหรือสร้างงานทดลองต่างๆ ก็จะต้องมีองค์ความรู้ในเรื่องของคณิตศาสตร์-สถิติอยู่มากพอสมควร ถึงจะออกแบบการวิจัยนั้นได้ ดังนั้นในหลักสูตรของจิตวิทยาที่เปิดสอนกันในระดับปริญญาตรี, โท, เอก จะมีวิชา "stat" ที่บังคับให้เรียนเสมอ

หนังสือเล่มนี้จึงเข้าทางคนเรียนจิตวิทยาเลยครับ เพราะเนื้อหาของมันเกี่ยวข้องกับสถิติที่ประยุกต์ใช้กับศาสตร์แขนงอื่น เช่น จิตวิทยา การตลาด ฯลฯ โดยมันไม่ใช่สถิติเพียวๆ (ถึงบางบทอ่านแล้วจะรู้สึกว่ามันเพียวเกินไป เข้าใจยากก็เถอะ) แต่ก็ถือว่าอ่านสนุกใช้ได้ นอกจากนี้มันยังแอบบอกทริคว่าเราจะใช้สถิติในการหลอกคนอื่นๆ กันยังไง หรือกลับกันมันก็ทำให้เรารู้ว่า เราถูกหลอกเพราะตัวเลขและสถิติมานานขนาดนี้โดยที่ไม่ทันได้สังเกต คราวต่อไปจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับสถิติคงจะระวังความคิดให้มากขึ้น ฮ่าๆๆ อ่านเล่มนี้แล้วจะโดนหลอกจากข้อมูลทางสถิติได้ยากขึ้นกว่าเดิม recommended เลย

Comments

[ผมนี่แหล่ะกล่าวว่า]

ป.ล. นำมาจากเพจ PSYCHOLOGIST CAFE' จ้า