เรื่องจริงของโรงเรียนเรา
ตั้งกระทู้ใหม่
1.วันไหนที่ครูขึ้นหน้าเสาธงแล้วพูดว่า วันนี้ครูจะพูดนิดเดียวมันคือเรื่องโกหก
เวลาวันไหนที่ครูขึ้นไปหน้าเสาธงทีไรมันต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆมาบังพระอาทิตย์เลยซักนิดเดียว ได้รับแสงแดดกันเต็มที่ แล้วการที่ครูบอกว่าครูจะพูดนิดเดียวมันคือเรื่องโกหก พูดเรื่องเดียวครุยังเชื่อมโยงถึงเรื่องอื่นๆได้อย่างหน้าอัศจรรย์ใจ
2.คอมในห้องสมุดมีไว้เล่นเกม
คอมในห้องสมุดบรรณารักษ์ก็บอกว่าใช้ศึกษาหาความรู้ แต่ก็ต้องมีเด็กประถมต้นมานั่งรอก่อนห้องสมุดเปิดตอนพักเที่ยง พอห้องสมุดเปิดก็จะเป็นคิวแรกที่ได้ใช้คอม แต่ไม่ได้ใช้หาความรู้หรอก เล่นเกมเต็มที่ แม้ในวันที่ไม่มีเน็ตก็ยังสามารถพยายามเล่นได้
3.ทุกคนใฝ่ฝันที่จะไปรับใบประกาศหน้าเสาธง
การเข้าแถวในตอนเช้าเป็นอะไรที่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง แดดแรงตั้งแต่ยังไม่สาย แต่ที่ที่ร่มที่สุดตอนเข้าแถวคือ หลังหน้าเสาธง แต่ก็มีแค่ประชาสัมพันธ์อาสาที่จะได้เข้าแถวตรงนั้นเพราะนำสวดมนต์ แต่วันไหนที่มีการรับใบประกาศผู้ที่ได้รับจะโชคดีที่สุด เพราะจะได้เข้าแถวโดยไม่ตากแดด ไม่ต้องสวดมนต์ นั่งฟังอย่างสบายใจ ทำให้มันเป็นความใฝ่ฝันที่จะไปเข้าแถวตรงนั้นทุกวัน(แต่มันก็เป็นไปไม่ได้)
4.ผอ.ไปสายที่สุดในโรงเรียน
ถ้าใครไปโรงเรียนหลังเข้าแถวจะต้องเก็บขยะบริเวณหน้าศาลา หรือกลางสนาม กฎนี้ผอ.ออกเอง แต่ก็ละเมิดได้อย่างหน้าตาเฉย
5.วันกีฬาสีจะต้องมีเด็กมัธยมเล่นจ้ำจี้กัน
วันกีฬาสีเป็นวันที่ทุกคนชอบ เพราะไม่ต้องขึ้นห้องเรียนไปเรียนแต่ก็ชอบมีรุ่นพี่บางคนไม่ชอบขึ้นไปเล่นจ้ำจี้กันรอครมาสอน
6.วันกีฬาสีทุกปีท้องฟ้าปลอดโปร่ง
วันกีฬาสีทุกปีจะไม่มีเมฆมาบังพระอาทิตย์เลยแม้แต่ปีเดียว ซึ่งถือเป็นอะไรที่ไม่ต้องเป็นแบบนี้ซักปีก็ได้
7.วันกีฬาสีจะต้องมีนักวิ่งหญิงเป็นลมทุกปี
อันนี้เป็นอะไรที่เราไม่เข้าใจ ตอนซ้อมไม่เคยจะมีใครเป็นลมเลย แต่พอวันจริงเท่านั้นแหละ กองเชียร์กำลังลุ้นอยู่ แต่พอวิ่งมาถึงเส้นชัยทีไรต้องเป็นลมกันทุกที
8.เชียร์ลีดเดอร์รุ่นเล็กเป็นอะไรที่ไม่มีใครสนใจ
เป็นอะไรที่แบบ จะมีเต้นดีอยู่แค่ 2-3 คนนอกนั้นก็ แค่จำท่าเต้นได้ คือแบบว่าทุกคนก็จะไม่ค่อยสนใจรุ่นเล็กเต้นซักเท่าไหร่ ยกเว้นผู้ปกครองของเชียร์ลีดเดอร์รุ่นเล็กเอง
9.เชียร์ลีดเดอร์รุ่นใหญ่เป็นอะไรที่ทุกคนต้องดู
คือเป็นอะไรที่ต่างจากรุ่นเล็กอย่างสิ้นเชิง คือก่อนจะเต้นก็ต้องท่องคำขวัญ(เสียงดังกว่ากองเชียร์ร้องเพลง)งานนี้ใครหลับอยู่มีสะดุ้ง คือแบบพอเสร็จงานเสียงแหบแห้งกันแทบทุกราย แต่เป็นอะไรที่แบบว่า ใครไม่ดูเขาเต้นคือพวกแปลก ใครไม่รู้จักชื่อคนหน้าสุดตกเทรนด์
10.วันปัจฉิมนิเทศคือวันที่คนที่มาสาย มาเช้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
วันปัจฉิมนิเทศเป็นวันที่แบบน้องๆตื่นเต้นกว่าคนจะปัจฉิมนิเทศซะอีก คือสามารถทำให้คนมาสายที่สุดในห้องมาเช้าได้ และเป็นวันที่เจ้าของร้านดอกไม้รวย แต่ในงานนี้จะต้องมีรุ่นพี่ซักคนหนึ่งที่ดอกไม้ล้นหัว และต้องมีอีกซักคนหนึ่งที่จะสบายไม่ต้องแบกรับอะไรเลย (เพราะไม่มีใครให้ดอกไม้)
แสดงความคิดเห็น