จะขึ้นปี3แล้วซิ่วดีมั้ยคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนช่วงปีหนึ่งยังเป็นวิชาพื้นฐานเลยไม่คิดอะไรมากคะ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบการว๊ากเท่าไร ตอนนั้นการเรียนก็โอเคนะคะ ติดแค่เรื่องกิจกรรมและสัลคมของเพื่อนๆคะ ถ้าใครเรียนวิศวะย่อมรู้ดีว่าเป็นยังไงนะคะ ภาคเรามีผู้หญิงแค่11คนคะ แถมเพื่อนผู้หญิงเกือบทุกคนก็ดื่มเหลาด้วย ไม่ได้แอนตี้นะคะเพราะก็ดื่ม แต่ไม่เยอะ ช่วงแรกๆเพื่อนชวนไปเราก็ไปคะ หลังๆเริ่มบอยจนเกือบทุกวัน ช่วนนั้นค่อนข้างอึดอัดมากคะ เพราะพอเราไม่ไปดื่มก็เหมือนพลาดหลายๆอย่างไป เพราะเวลาเราไปดื่มจะเจอพวกรุ่นพี่หรือเพื่อนภาคอื่นบ่อยคะ ตอนนั้นแหละคะที่รู้สึกเรื่องสังคมในภาคอย่างแท้จริง เช่นถ้าวันนี้มีการนัดว๊าก รุ่นพี่ก็จะบอกกับน้องที่สนิทกว่าก่อน หรือไม่เพื่อนก็รู้มาจากพี่รหัส มันเลยเป็นปัญหาที่ว่า 'น้องสนิทรู้ก่อนเพื่อน' ช่วงนั้นเฟลมากคะ บางทีเพื่อนคนอื่นรู้หมดแต่เราคนเดียวไม่รู้แบบนี้มันค่อนข้างแย่มากคะ เราเลยไปสนิทกับเพื่อนภาคอื่นมากกว่า
ตอนปีหนึ่งก็จบไปทั้งแบบนั้นคะ ไม่ได้เกลียดหรือทะเลาะกับเพื่อนในภาคนะคะ แต่ก็ไม่สนิทอะไรกันเลยคะ แบบเจอกันก็ทักนิดหน่อย คุยกันบ้าง แต่เวลาพักหรือเลิกเรียนเราก็จะอยู่กับเพื่อนภาคอื่น และปัญหาก็เกิดขึ้นคะ พอปีสองเริ่ทเปนตัวภาคแล้ว บางตัวเพื่อนเราไม่ได้เรียน เราก็เหมือนเรียนคนเดียวคะ คุยกับเพื่อนที่ภาคบ้าง แต่ส่วนใหญ่พวกเขาจะติวกันเป็นกลุ่มคะ เราไม่สนิทก็เลยไม่ค่อยอยากไปติวด้วย เกรดเราค่อนข้างตกลงมากคะ จาก2.9 ลงมา2.3นิดๆ ตอนนั้นแทบร้องคะ แต่เพราะเฉลี่ยยังอยุ่2.5 แม่ก็บอกให้พยายาม
ตอนนี้อยู่ปีสองเทอมสองแล้วคะ คะแนนกลางภาคเพิ่งออก ค่อนข้างแย่มากคะ ถ้าจะรอดคือต้องดรอปถึงสามตัวส่วนตัวเริ่มรู้สึกว่าวิศวะไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเลยคะ ทั้งสังคมและการเรียน มันเหมือนเราไม่เข้าใจมันเท่าไรเลยคะ เกรดตัวภาคมากสุดคือCเองคะ ส่วนที่ยังประคองเกรดเราได้ล้วนเป็นตัวช่วยทั้งหมด(พวกภาษาหรือตัวเลือกบังคับ) ยิ่งตอนนี้เรียนเซอร์เวย์กับคอนกรีตอยู่คะ มันเป็นเกรดง่าย แต่เรารู้สึกไม่ชอบมากๆ เพราะมันทั้งเหนื่อยและร้อนมาก เราอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ทำอะไร แต่วิชาพวกนี้ต้องอยู่กลางแดด เดินเป็นกิโลๆ บางทีต้องยกของที่หนักมากๆ(เซอร์เวย์ก็กล้อง หมุด โพล คอนกรีตต้องแบกซีเมนต์กับพวกของคละ) มันเหนื่อยมากจริงๆคะ
เขียนมาเหมือนเล่าเรื่องมากกว่า แต่เราอยากซิ่วมากคะ แต่ทางครอบครัวไม่ยอมเพราะอยู่ปีสองแล้วเหลืออีกแค่สองปีก็จะจบ แถมทาวมหาลัยก็รับรองเรื่องงานทำหลังจบด้วย(ภาคเรารับแค่50คนคะ มันเป็นโยธาสายเฉพาะด้วย งานส่วนตัวเริ่มรู้สึกว่าวิศวะไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเลยคะ ทั้งสังคมและการเรียนเลยหาค่อนข้างง่าย) แต่เรารู้แล้วว่าใจไม่ให้มากๆ เรียนไปก็ทรมาน แม่ก็พร่ำบอกให้อดทน เรียนจบก็สบายเอง
เราไม่รุ้จะทำยังไงดีแล้วคะ มันเหนื่อยมากๆ แต่ก็เสียดายเวลาสองปีเหมือนกันคะ
15 ความคิดเห็น
มีผู้หญิงเยอะนะนี่ ของรุ่นพี่เรียนแถวสามย่านมามีผู้หญิงห้าคน ผู้ชายร้อยกว่าคน วิชาสำรวจนี่เรียนสบายมาก เดินในมหาวิทยาลัยนั่นล่ะ ต้นไม้เยอะไม่ร้อน เรียนตอนเย็นด้วย แล้วก็อย่างพวกแลปคอนกรีต ก็ทำในห้อง เดินออกไปตักคอนกรีตอะไรกองอยู่แล้วง่าย ผู้หญิงปกติผู้ชายเราก็จะช่วยทุกอย่างแบบเทพธิดาเลย ไม่ต้องแบกของหนัก เพราะเรารู้ว่าร่างกายผู้หญิงอาจจะไม่ให้เรื่องพวกนี้
น้องมาได้ครึ่งทาง คงยังไม่ได้เรียนพวก RC-Design หรือพวก Structural Analysis, Soil Analysis แบบเข้มๆ ถ้าอยากได้เกรดดีมากๆ แนะนำให้น้องเปลี่ยนวิธีเรียนนะ หาข้อสอบเก่า หาได้ไหมมานั่งทำก่อนเรียนแล้วแกะเอาว่าจะทำข้อนี้ต้องอ่านจากตรงไหน อย่าไปรอให้เรียนจบแล้วค่อยทำ มันจะไม่เข้าใจและไม่ทัน
เรื่องอยากซิ่วถ้าจะทำก็ต้องทำตอนนี้ล่ะนะ เพราะถ้าขึ้นปี3หรือถึงปี4ต้องทำโปรเจ็คด้วยทั้งปีแล้ว มันจะเป็นอะไรที่เครียดกว่านี้อีก คือคนจะเรียนจบได้นี่ต้องมีกึ๋นอย่างหนึ่งก็คือทนความเครียดๆๆๆไหว บางคนเครียดไม่ได้ก็เรียนไปโน่น6ปีก็ยังไม่จบ พวกนี้หลุดโลกไปแล้ว ที่อื่นเป็นไงไม่รู้นะ แต่ที่สามย่านถ้าใครเปอร์นี่เครียดหนักกันทุกคน เพราะเพื่อนส่วนใหญ่เรียนสี่ปีจบหมด
ถ้าจะซิ่วก็ไม่ต้องเสียดายเวลาแล้วแต่ต้องทำใจยอมรับว่าเราเรียนเหมือนพวกหมอคือจบ6ปี ดังนั้นต้องมุ่งมั่นสร้างอนาคตให้เร็วกว่าเพื่อนที่จบไปก่อนสองปี บางคนบอกไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าน้องเห็นเพื่อนเราเจริญก้าวหน้าเอาๆ แล้วเรายังย่ำอยู่กับที่ เราจะรู้สึกแย่มาก ดังนั้นต้องตัดสินใจให้ดี ลองหาที่เงียบๆนั่งสงบสติอารมณ์สักวันเพื่อคิดอย่างจริงจังดูอีกที
อ้ออย่าลืมว่ามันมี youtube อยู่ วิชาคำนวณโยธานี่มันเรียนเหมือนกันทั่วโลก ดังนั้นว่างๆก็เปิดดูได้
ขอบคุณที่แนะนำค่า จริงๆปัญหาเรื่องเรียนก็ส่วนหนึ่งนะคะ ปีนี้ก็เรียนสตั๊กเจอร์อยุ่คะ ยากมาก ทั้งๆที่นั่ง พยามทำข้อสอบเยอะๆ แต่เหมือนหัวมันไปถึงละมั้งคะ คะแนนออกมาแย่มากคะ เทอมนี้คงต้องทำใจดรอปสตั๊กเจอร สเต้งสองและก็แอปแมท รุ่นพี่ก็บอกว่ามีสิทธิเป้อ เพราะสตั๊กเจอร์ตัวต่อเยอะมาก ใจจริงคิดว่าถ้าเป้อก็คงยอมซิ่วดีกว่านะคะ แต่จะลองเสี่ยงเทอมนี้ดูด้วยคะ
มีผู้หญิงเยอะนะนี่ ของรุ่นพี่เรียนแถวสามย่านมามีผู้หญิงห้าคน ผู้ชายร้อยกว่าคน วิชาสำรวจนี่เรียนสบายมาก เดินในมหาวิทยาลัยนั่นล่ะ ต้นไม้เยอะไม่ร้อน เรียนตอนเย็นด้วย แล้วก็อย่างพวกแลปคอนกรีต ก็ทำในห้อง เดินออกไปตักคอนกรีตอะไรกองอยู่แล้วง่าย ผู้หญิงปกติผู้ชายเราก็จะช่วยทุกอย่างแบบเทพธิดาเลย ไม่ต้องแบกของหนัก เพราะเรารู้ว่าร่างกายผู้หญิงอาจจะไม่ให้เรื่องพวกนี้
น้องมาได้ครึ่งทาง คงยังไม่ได้เรียนพวก RC-Design หรือพวก Structural Analysis, Soil Analysis แบบเข้มๆ ถ้าอยากได้เกรดดีมากๆ แนะนำให้น้องเปลี่ยนวิธีเรียนนะ หาข้อสอบเก่า หาได้ไหมมานั่งทำก่อนเรียนแล้วแกะเอาว่าจะทำข้อนี้ต้องอ่านจากตรงไหน อย่าไปรอให้เรียนจบแล้วค่อยทำ มันจะไม่เข้าใจและไม่ทัน
เรื่องอยากซิ่วถ้าจะทำก็ต้องทำตอนนี้ล่ะนะ เพราะถ้าขึ้นปี3หรือถึงปี4ต้องทำโปรเจ็คด้วยทั้งปีแล้ว มันจะเป็นอะไรที่เครียดกว่านี้อีก คือคนจะเรียนจบได้นี่ต้องมีกึ๋นอย่างหนึ่งก็คือทนความเครียดๆๆๆไหว บางคนเครียดไม่ได้ก็เรียนไปโน่น6ปีก็ยังไม่จบ พวกนี้หลุดโลกไปแล้ว ที่อื่นเป็นไงไม่รู้นะ แต่ที่สามย่านถ้าใครเปอร์นี่เครียดหนักกันทุกคน เพราะเพื่อนส่วนใหญ่เรียนสี่ปีจบหมด
ถ้าจะซิ่วก็ไม่ต้องเสียดายเวลาแล้วแต่ต้องทำใจยอมรับว่าเราเรียนเหมือนพวกหมอคือจบ6ปี ดังนั้นต้องมุ่งมั่นสร้างอนาคตให้เร็วกว่าเพื่อนที่จบไปก่อนสองปี บางคนบอกไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าน้องเห็นเพื่อนเราเจริญก้าวหน้าเอาๆ แล้วเรายังย่ำอยู่กับที่ เราจะรู้สึกแย่มาก ดังนั้นต้องตัดสินใจให้ดี ลองหาที่เงียบๆนั่งสงบสติอารมณ์สักวันเพื่อคิดอย่างจริงจังดูอีกที
อ้ออย่าลืมว่ามันมี youtube อยู่ วิชาคำนวณโยธานี่มันเรียนเหมือนกันทั่วโลก ดังนั้นว่างๆก็เปิดดูได้
ลองถามตัวเองว่าทนไหวไหมนะครับ อาจจะทนอีก 2 ปี แล้วพอจบ ลองทำงานดู ถ้าโอเคก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่โอเคก็ค่อยเอาปริญญาอีกใบ ถ้ามีปริญญาทั้งด้านวิศวะ แล้วก็ภาษา น่าจะรุ่งนะครับผมว่า
สู้ๆนะครับ ทำตามที่ใจตัวเองอยากจะทำ คุยเปิดอกกับพ่อแม่ดูครับ บอกไปเลยว่ามันไม่ไหว เอากระทู้นี้ให้เค้าอ่านก็ได้ครับ
ตอนแรกก็คุยกับพวกท่านแล้วคะ คุณแม่ท่านค่อนข้างเสียดายนะคะ ท่านกลัวว่าจบสายอื่นจะไม่มีงานทำ เพราะด้านที่เราเรียนจบมากได้งาน100% แต่เราคิดว่าจะลองคุยอีกครั้งคะ หวังว่าพวกท่านจะเข้าใจ
พี่ๆข้างบนแนะนำดีทุกคนเลย แต่บางทีคุณพ่อคุณแม่อาจมีปัญหาการเงิน ต้องกู้เขามาส่งลูกเรียน จำนำจำนองที่ดินก็พอมีให้เห็น เพราะสมัยนี้ค่าเทอมแพงมาก จึงอยากให้ลูกเรียนจบให้เร็วที่สุด จะได้เลี้ยงตัวเองได้ ต้องคุยกับพ่อแม่ดู มนุษย์สามารถทำงานได้หลายอย่าง เผื่อใจว่าถ้าต้องเรียนวิศวฯต่อ ก็หาเวลาไปพัฒนาศักยภาพด้านอื่นๆที่ชอบๆ และต้องพยายามเรียนให้ดี เป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง การไม่ไปดื่มเหล้าต้องนับเป็นเรื่องดี เพื่อนที่ไปดื่ม ถือเป็นค่านิยมที่ผิดเพราะทำร้ายร่างกายสติปัญญา โกงพ่อแม่ที่ท่านให้เงินมาเรียนหนังสือ นับว่าน่าเศร้าใจที่วัยรุ่นเรียนมาขนาดนี้ยังคิดไม่เป็น
จริงๆในภาคก็มีพวกไม่ดื่มเหมือนกันนะคะ แต่ก็ไม่สนิทอยู่ดี5555 พวกต่างภาคเราก็ดื่มคะ แต่พวกเขาจะคล้ายๆเราที่ดื่มตามโอกาส แต่พอไม่ไปดื่มก็เป็นปัญหาเหมือนกันเพราะรุ่นพี่จะไม่สนิทกับเราเท่าพวกที่ไปดื่ม
สถานะเดียวกันเลย ลังอยู่เหมือนกัน
ยังไม่ได่บอกพ่อกับเเม่ เลย เกรงว่าท่านไม่สบายใจ
ตอนนี้เริ่มเข้าภาคแล้ว วิชาที่เรียนไม่เหมือนกัน ผมก็ชอบไปอยุ่กับเด็กภาคอื่น
ภาคเองไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร5555
ตอนนี้ก้คิดอยุ่ว่า จะเดินต่อไปให้จบ หรือว่าไปเริ่มใหม่
วันไหนถ้าเรียนวิชาภาค มีความรู้สึก อึดอัด ไม่ค่อยอยากเรียนเลย ดูไม่มีความสุข
เป็นเหมือนกันมั้ยคับ
แล้วเธอจะซิ่วไปคณะไรอะ มีคณะที่ชอบอยู่แล้วใช่ป่ะ เราเครียดมากกก. สู้ไปด้วยกัน
เหมือนกันคะ ตอนนี้เรียนสำรวจมันเป็นวิชาภาค บอกตรงเลยว่าไม่อยากให้ถึงวันที่เรียนเลย พอเรียนก็รู้สึกอยากให้มันรีบๆเสร็จไป มันค่อนข้างเหนื่อยนะคะที่ต้องไปเรียนแบบนี้ เพราะรู้แล้วว่าไม่ชอบมันจริงๆ
ตามจริงเราว่าเราชอบแนวภาษาหรือวรรณกรรมมากกว่า ตอนสอบเข้าบอกตรงๆว่าสอบเพราะคิดว่าวิศวะมันเท่ดี(สัมภาษณ์ยังบอกอ.ไปแบบนี้เลย555) พอเอาเข้าจริงตอนนี้เลยรู้ซึ้งว่าถึงเข้าได้แต่เรียนไม่ได้มันทรมานมาก ถ้าเลือกใหมคงเข้าภาษาแบบที่ชอบแล้วละ เธอก็สู้ๆนะ พวกเราต้องพบทางออกแน่ๆ
เราชอบเรียนวิทย สุขภาพ เภสัช
ทางญาติก็ชอบบอกให้เรียนจบให้ไวๆ
หัวอกเดียวกันคะ
Mmaruko (@m-maru-k)
จะซิ่วไปเรียนอะไร อยากเรียนอะไร
เรียน2ปีก็ไม่จบหรอกค่ะ เพราะต้องทนกับอะไรที่เราไม่ได้รักไปตลอดชีวิต ถ้าซิ่วตอนนี้ เสียเวลา2ปี ถ้าทนเรียนต่อ เสียความสุขทั้งชีวิตนะคะ ถ้ามั่นใจว่าไม่ชอบจริงๆก็ซิ่วเถอะค่ะ แต่ถ้าคิดว่าเฉยๆ อยากกลองก่อน ก็อย่าเพิ่ง แต่การได้เรียนอะไนที่ชอบนี่ชีวิตเราจะมีความสุขขึ้นจริงๆค่ะ
มันช้าเกินไปไหมคะ เรากลัวทางบ้านเครียดอ่ะ
เราก็กลัวพวกท่านจะเสียใจคะ เพราะตอนเราสอบเข้าเราก็เลือกสายนี้มาเอง มันเหมือนจะโทษใครไม่ได้เพราะอยากเข้ามาเรียนเองนะคะ
ตอนเรียนยังขนาดนี้นะครับ ถ้าคิดว่าจบไปแล้วสบาย ลืมไปเลยครับ เพราะทำงานจริงๆ คนที่ไปได้ดีในสายวิศวะ ถ้าไม่โปรสุดๆ ก็เป็นคนที่เฟรนด์ลี่มาก แต่ถ้าเป็นคนอินดี้ ไม่ค่อยอะไรกับกลุ่มเพื่อน งานสายนี้ไม่มีความสุขเท่าไหร่หรอกนะครับ
ถ้าค้นพบตัวเองแล้ว ให้รีบตัดสินใจเลยครับ เวลามันไม่เคยรอคอยใคร และมันไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่
ลองทบทวนดูครับ
ขอบคุณมากคะ ตอนนี้อึดอัดเหมือนกันคะ นั่งคุยกับพี่รหัสเรื่องนี้เหมือนกัน พี่เค้าก็พูดเรื่องเส้นสายเหมือนกันประมาณถ้าจบไปรุ่นที่จบเค้าก็จะมาดึงตัวไปเอง แต่ตอนนี้เรากลัวมาก เพราะเราก็ไม่ได้สนิทกับใครเท่าไร
ผมก็ปีสองครับ ซิ่วปีนี้เหมือนกัน เรียนวิศวะภาคเครื่องกล แต่ไปๆมาๆซิ่วไปสถาปัตย์ครับ สอบติดไปแล้วด้วย
ปล. ผมจบปวชอิเล็กทรอนิกส์
ปล.2 ทางครอบครัวก็ไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกครับ ก็หาเหตุผลไปพูดคุยตลอด สุดท้ายท่านก็ตอบตกลงครับ
ผมว่าถ้าใจมันไปแล้ว อยู่ไปมันก็มีแต่ไม่มีความสุขครับ
ตอนผมเรียนวิศวะก็ทะเลาะกับแมทตลอด 55555555555555
-นี้ก็เหตุผลนึงครับแต่ไม่ใช่หลักๆ
ผมก็เลยมาคิดดูว่า -สองปีเนี้ย โอนหน่วยกิตไป ม เปิด ได้ไหมอะไรยังไงบ้าง อันนี้ยังไม่ได้ศึกษาเลยครับ ถ้าใครรู้ก็รบกวนบอกหน่อยนะครับ :3
แมทที่ว่านี้ Math นะครับ ไม่ใช่ รูมเมท -_-
พอจะบอกได้มั้ยคะ ถ้าจะซิ่วต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เพราะตอนเราติดเราติดตรงนะคะ ไม่ได้แอดด้วยเลยไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้ควรเริ่มอะไรก่อนดี ขอบคุณนะคะ
เราก็อยู่ปี2นะ กำลังจะซิ่วเวลาเราเรียนวิชาในสาขาเป็นเหมือนเธอเลยไม่ค่อยมีควาสุข ไม่อยากเรียน แต่เราชอบเรียนวิชานอกสาขามากกว่า5555 เรารู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนปี1แล้วแต่ยังฝืนตัวเอง 55555แบบว่าเสียดาย กลัวจะแอดไม่ติดด้วยไรงี้ พอขึ้นปี2แน่นอนว่าวิชาในสาขาจัดหนักจัดเต็มแนนอนเราก็เลยตัดใจเลยว่าทำไงเราก็ต้องซิ่วแน่นอน ถ้าเธอมีคณะไว้ในใจแล้ว คิดว่าตัวเองไม่ไหวจริงๆแล้ว เรียนไปวันๆแบบไม่ทีความสุข ไม่มีจุดมุ่งหมาย เราว่าก็น่าจะซิ่วอะ ส่วนทางครอบครัวของเราตอนแรกก็ไม่โอเค กลัวเสียเวลาอีก2ปีก็จบ ไม่เสียดายเวลาหรอ เรียนๆไปเหอะไรงี้ แต่เราก็ต้องอธิบายบอกกเหตุผลให้ท่านเข้าใจ ตอนเราคุยนี่ร้องไห้ด้วยยคุยด้วยอะแบบดราม่ามากกก สุดท้ายก็โอเคเข้าใจกัรทั้งสองฝ่าย ท่านก็คงอยากเรามีความสุข ไหนจะในอนาคตที่เราจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต TT
#สู้ๆๆนะถามใจตัวเองดูดีๆว่าจริงๆเราต้องการอะไร :)
ขอบคุณมากคะ เราจะพยามคุยกับพวกท่านใหม่นะคะ
ที่หนูเรียนมานั้นตอนต้นถือว่าดีเลยทีเดียว แต่อาจจะเป็นเพราะหนูไม่จริงจังกับวิชาที่เรียนอยู่มากกว่า คืออาจจะเที่ยวมากไปหน่อย(ไม่ได้ตำหนิกัน แต่อยากให้มองตัวเอง) หรืออาจจะไม่ได้ดูหนังสือเตรียมสอบ พอเกรดลดลงๆ ก็เลยทำให้ใจเสีย และหดหู่ หนูตั้งใจเพิ่มขึ้นอีกนิด อึดใจเดียวผมว่าเกรดน่าจะดีขึ้น ถึงตอนนั้นหนูอาจจะกลับมารักสิ่งที่เรียนอยู่ เพราะมีกำลังใจจากเกรดที่ดีขึ้นนั่นเอง... อีก 2 ปีก็จบแล้วครับ ถึงตอนนั้นหากไม่พอใจกับสิ่งที่เรียนมา ก็ทำอย่างที่ คห.3 (Ellonaire) แนะนำมาดีมากครับ ก็ยังไม่สาย คือทำปริญญาอีกใบ เอาหน่วยกิจบางส่วนไปเทียบโอน เธออาจจะได้ 2 ปริญญาใน 5-6 ปี แต่ถ้าซิ่วตอนนี้ 6 ปี ได้ปริญญาเดียว และก็ยังไม่รู้ว่าอีกปริญญาที่จะได้นั้น เธอชอบมันหรือไม่อีก ??? หรืออีกกรณี จบ 4 ปี ต่อโทไปเลย อีก 2 ปี จบมาน่าจะสวยกว่าครับ.... เอาใจช่วยครับ....
เป็นคำแนะนำที่แปลกๆๆนะครับ "ทำปริญญาอีกใบ เอาหน่วยกิจบางส่วนไปเทียบโอน เธออาจจะได้ 2 ปริญญาใน 5-6 ปี แต่ถ้าซิ่วตอนนี้ 6 ปี ได้ปริญญาเดียว" "หรืออีกกรณี จบ 4 ปี ต่อโทไปเลย อีก 2 ปี จบมาน่าจะสวยกว่าครับ" ตกลงจะเอาใบปริญญา?? คุณจะมีสักกี่ปริญญาแต่ถ้าคุณทำมันไม่ได้ดี(เพราะคุณไม่รักมัน) คุณก้ไส้แห้งครับ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคือชีวิตที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และเราจะอยู่กับมันได้ทั้งชีวิตเพราะเราสามารถทำมันได้ดีตั้งหาก ถ้ามันเปนสิ่งที่คุณรักและปรารถนาไม่มีคำว่าเสียเวลา!!! ถึงคุณจขกท นะครับ ไม่มีใครตอบคำถามคุณได้ดีที่สุดนอกจากตัวคุณเองนะครับ ไม่มีใครรู้ว่าคุณต้องเจออะไรบ้าง ต้องทนทุกข์เรื่องใดบ้าง สถานการณ์ครอบครัวเป็นอย่างไง ไม่มีใครเข้าใจและรู้ดีเท่าตัวคุณนะครับ ชีวิตของคุณ คุณต้องเปนคนเลือกเอง เพราะมันคืออนาคต ของคุณ คนอื่นก้ได้แต่แนะนำ ตามคหสต ก้เท่านั้น!! แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวคุณเอง และสิ่งที่ผมกล้ายืนยันนั่นก้คือ " ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ คือชีวิตที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก " เพราะคุณจะทำมันได้ดีและอยู่กับมันได้ คุณไม่ต้องไปสนใจเสียงชาวบ้าน นอกจากเสียงของความต้องการของใจคุณหรอก แล้วก้จงพิสูจน์มันว่าคุณทำได้และทำได้ดี มากกว่าที่คนอื่นคิดไว้ซะอีก
*** สุดท้าย ขอให้คุณโชคดีกับการเลือกชีวิตที่ตัวเองต้องการนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ ^^
ขอบคุณทังความคดเห็นที่11 และ11-1นะคะ เราจะตัดสินใจดูคะ
ถึงคห.ที่11 จริงๆเราเป็นคนไม่เที่ยวนะ ประมาณเรียนเสร็จก็กลับหอเลย เพราะแบบนี้เลยไม่มีเพื่อนคบ5555
คือเราเคยซิ่วเหมือนกันจากที่นึงไปที่นึง รอบตัวเราคนซิ่วเยอะมาก แต่ต้องถามตัวเองก่อนว่าใช่หรือไม่ใช่
ไปคณะอื่นก็หนักนะ เหมือนหนีเสือปะจระเข้เลย แต่ถ้าเราชอบมันจะทำได้ดีกว่านี้
ลองคุยกับครอบครัวจริงๆจังๆหรือยังเอ่ย ลองเปิดใจคุยกัน แต่ถ้าเค้ามีปัญหาด้านการเงิน เราว่าเธอเรียนให้จบแล้วค่อยหาเงินไปต่อปริญญาตัวที่สองเองดีกว่า เพราะอย่าลืมว่าบางทีเค้าต้องการให้เราหาเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นที่พึ่งพิงของพ่อและแม่ ให้อดทนเรียน แต่ถ้าเค้ามีเงินพอส่งได้ ก็โอเคเลย บอกเค้าตามตรง แล้วแสดงความมุ่งมั่นอยากที่จะซิ่ว บางคนแก่กว่าเธอเยอะมาเริ่มปีหนึ่งใหม่ก็ออกถมเถ แต่พวกที่เรียนจบหาเงินมาเรียนเอง พวกนี้ก็เยอะ แล้วแต่ฐานะทางครอบครัวหล่ะค่ะ
เรื่องเกรด เราว่าเธอต้องคุยกับเพื่อนอ่ะ คือเพื่อนสำคัญมากนะสำหรับการเรียนมหาลัย ใครว่าไม่สำคัญ ไม่จริงเลย การติว การอ่านไรงี้ ถ้าเราได้อ่านกับเพื่อน เราจะรู้จุดบกพร่องของตนเองว่าเราผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ให้คนเก่งๆสอนได้ แต่เราก็เข้าใจนะ ว่ามันก็ปี2ละอ่ะ จะเริ่มหาเพื่อนตอนนี้มันก็ไม่สนิทเท่ากลุ่มที่มันจับกันมาตั้งแต่ต้น สมัยเราเรียนมัธยมก็เป็นคนเรียนคนเดียว เกรดก็ออกมาไม่ดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถหากลุ่มได้ เรื่องนี้เราว่าเธอต้องพยายามเข้าหาคน ไม่ต้องสนิทขนาดไปเที่ยวด้วยกัน แต่หาคนที่ใจดีๆ สอนเราเรื่องการเรียนอย่างเดียวได้มั้ย แบบขอร้องให้สอนเราหน่อย ขอติวด้วยนะไรงี้ ต้องลองดูค่ะ
สู้ๆนะ
ขอบคุณนะคะที่แนะนำ จริงๆตอนเทอมที่แล้วเราก็เคยไปติวกับเพื่อนที่ภาคนะคะ(ภาคเราจะกิจกรรมใหเพื่อนกับรุ่นพี่มาติวแต่ละวิชา) แต่เราว่ามันไม่ค่อยได้เท่าไร แบบตอนที่ติวเราติวกันทั้งภาค กลุ่มเพื่อนท่สนิทกับบคนที่ติวก็จะนั่งหน้า ให้ถามหรืออะไรได้ง่าย ส่วนใครที่อยุ่กลุ่มอื่นเขาก็จะคุยกันไม่ก็เล่นมือถืออยุ่ด้านหลัง เราก็นั่งหน้าๆนะ แต่พอเริ่มคุยกันก็กลายเป็นไม่รู้เรื่อง เรื่องบางเรื่องพอถามเพืาอนที่นั่งข้างยังเคยหัวเราะเราแล้วบอกว่า ไม่เข้าใจจริงอ่ะ มันเฟลมากเลยคะ หลังจากนั้นก็ไม่อยากติวกับเพื่อนที่ภาคอีกเลย
เราก็เหมือนเธอนะ เข้าใจเรยอ่า เราก็เรียนวิศวเหมือนกัน แต่เราอยากเรียนสายสุขภาพมากกว่า และปีนี้เราซิ่ว เราก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ต้องคุยกับพ่อแม่ ครูที่ปรึกษา ญาติ ทุกคนคัดค้านหมด แต่เราคุยกับเค้าทุกวัน แสดงให้เค้าเห็นว่าเรากระตือรือล้นจริงๆที่จะไปคณะใหม่ เพื่อที่ให้เค้ามั่นใจว่า ถ้าซิ่วไปแล้วจะเรียนได้ดี ไม่ต้องซิ่วหรือมีปัญหาอีก เราใช้เวลา 6 เดือนเต็มๆกว่าท่านจะเข้าใจ ระหว่างนั้นก็เตรียมตัวสอบ อ่านหนังสือเตรียมสอบแกทแพท ตอนนั้นคิดว่าถ้าพ่อแม่ยังไม่อนุญาติ เราจะสอบให้ติดก่อน แล้วไปบอกว่าเราแสดงให้เห็นว่าเราอยากเรียนจริงๆ อันนี้วิธีของเรานะ
ส่วนเรื่องซิ่วดีไหม เราก็เรียนมา2ปีเหมือนกัน และซิ่ว ต้องคิดให้ดีว่าเราไม่ชอบเพราะมันไม่ใช่เนื้อหาวิชาที่เราจะนำไปเลี้ยงชีพอีก40ปีนับจากจบไปและต้องอยู่กับมันตลอดชีวิต หรือ เพราะความยากลำบากของสังคม เนื้อหาวิชา สภาพแวดล้อม ถ้าเป็นอย่างแรกซิ่วเลย ถ้าเป็นอย่างหลังขอให้ลองทบทวนดูอีกนิดว่าปัญหาพวกนี้เราเลือกไม่ได้ สังคม ผู้ร่วมงานเราเลือกไม่ได้ ถ้าผ่านวันนี้ไปได้เราก็จะโตขึ้น
สุดท้ายมีอาจารย์วิศวะท่านหนึ่งกล่าวในยูทูบว่า "ถ้าเป้าหมายที่เราจะไปคือภาคใต้ แต่ตอนนี้เราขับรถไปทางทิศเหนือ เรารู้ว่ามันผิดทาง เราก็ต้องยูเทิร์นรถกลับ ถึงจะช้าเสียเวลา แต้อย่างน้อยเราก็เข้าใกล้ความฝันเรามากขึ้น" สู้ๆน้า เป็นกำลังใจให้ เด็กซิ่วต้องเจออารมนี้หมดทุกคน แล้วมันจะผ่านไป ขอให้ติดคณะที่หวังน้า....
ขอบคุณมากคะ เราว่าจะรอดูเทอมนี้ถ้าไม่รอดก็คงต้องไปเหมือนกัน ตามหาความฝันน่าจะดีที่สุด
สวัสดีค่ะ พี่เป็นคนนึงที่เรียนวิศวะเหมือนกันค่ะ
ขอแบ่งเป็นพาร์ท ๆ เนอะ น่าจะยาว
ว๊าก
------------------------------------------------------------------------------------
ตอนปี 1 พี่ก็สนิทกับเพื่อนนอกภาคค่ะ แต่ก็ค่อย ๆ รวมกลุ่ม ตบ ๆ กลับมาอยู่ในภาค
พี่อยากบอกว่า กิจกรรมว๊าก มันเป็นกิจกรรมขำ ๆ
น้องผ่านปี 1 มาแล้ว ไม่รู้สึกว่า มันเป็นแค่กิจกรรมกระชับมิตรหรอคะ
แรก ๆ พี่ก็เซง เฟล หงุดหงิด หลัง ๆ เนี่ยชิน เฉย ๆ แค่เมื่อยมากกก
พี่ ๆ ที่ว๊ากตัวจริงนิสัยจริง ๆ ก็ไม่ได้เหมือนพี่ว๊ากซักหน่อย
เรียน
----------------------------------------------------------------------------
เรื่องเรียน พี่ว่าน้องควรไปรวมกลุ่มกับเพื่อนค่ะ
ถ้าคิดจะเรียนต่อไปอีก 2 ปี ไม่มีทางที่น้องจะอยู่คนเดียวได้
อย่ารู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก ค่อย ๆ ปรับทัศนคติ คุยกันให้มากขึ้น
คนอื่น ๆ เค้าไม่ได้คิดอะไรหรอก
พี่ก็มีโมเม้นโดดเดี่ยวนะ ตอนปี 1 แรก ๆ เพราะวิชาพวก อิ้ง ไทย เรียนกันคนละเซค ไม่สนิทกับใครเลย มันก็เหมือนกับตอนน้องเปิดเทอมใหม่ ๆ ยังหาเพื่อนไม่ได้ ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไป :) เพราะเพื่อนเนี่ยแหละ เกรดพุ่ง
โปเจค+งาน
----------------------------------------------------------------------------
การเรียนมหาลัยสิ่งที่ได้มาเต็ม ๆ ไม่ใช่ความรู้ อาจจะได้บ้างไม่ได้บ้าง เรียนผ่านไปก็ลืมอยู่ดี
คิดในแง่ดีเค้ากำลังฝึกให้น้องอดทน จัดระเบียบชีวติ มีความรับผิดชอบ
พี่เข้าใจโมเม้นนั้นนะพี่ก็เครียด นี่กำลังหาเรื่องคลายเครียดอยู่ 55555
โปรเจคปี 3-4 หนักมากจริง ๆ ปี 3 มีคลาสโปรเจคเกือบทุกตัว
ปี 4 เมกกะโปรเจคจบอีก เหนื่อยมาก ๆ และท้อมาก ๆ แต่น้องต้องอยู่กับมันให้ได้
คนอื่นก็ผ่านมันไปพร้อม ๆ กับน้อง น้องไม่ได้อยู่ในโมเม้นนั้นคนเดียว อย่าท้อ (บอกตัวเอง)
ซิ่ว
---------------------------------------------------------------------------
สุดท้ายเรื่องซิ่ว พี่มีเพื่อนคนนึง เรียนมาด้วยกันปี 1-2 แล้วพบว่าภาคที่เรียนอยู่มันไม่ใช่ ฮีเลยทำการสอบหมอ และลาออก เพราะติดหมอแล้วจ้าาาา
ชีวิตดี๊ดี เพื่อนในภาคนี่อิจฉาตาร้อนผ่าว ๆ นั่งหน้ามัน อยู่หน้าคอม ฮ่าๆ ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าอยากเรียนอย่าลังเล เป้าหมายมีไว้พุ่งชนนน
สู้ ๆ นะคะ
สุดท้าย ฝากถึงน้อง ๆ ทุกคน
--------------------------------------------------------------------------
พี่ไม่ได้ว่าอะไร จขกท นะ แต่นี่เป็นตัวอย่างนึงของการเลือกเรียนโดยเลือกมหาลัย
ถ้าพบว่าสิ่งที่เรียนไปแล้วมันใช่ มันไปต่อได้ ก็ถือว่าดีไป
แต่ถ้าน้องคนไหนเลือกแค่มหาลัย คณะอะไรก็ได้ หรือภาคอะไรก็ได้
อยากให้ระวังไว้ ถึงจบแล้วจะไม่ได้ทำงานสายนั้น ๆ น้องต้องอยู่กับมันไปอย่างน้อย 4 ปี
นไม่ใช่ 4 ปีที่จะผ่านไปเฉย ๆ สบาย ๆ เหมือนตอนเรียนมัธยม
มันเป็น 4 ปีที่หนักหน่วง
ทุก ๆ ปี น้องจะรู้สึกว่าตัวเองมองอะไรได้กว้างขึ้น คิดเยอะขึ้น โตขึ้นแบบก้าวกระโดด
เพราะเค้าฝึกฝนให้น้องยอมรับ อดทน มีวินัย ในหลาย ๆ ด้าน
สิ่งเหล่านี้มันซึบซับเข้าไปเองจากการใช้ชีวิตในมหาลัย
ขอบคุณมากคะ ยอมรับคะว่าตอนที่เข้าที่นี่ก็เพราะมหาลัย5555 ส่วนเรื่องคณะตอนม.6เราเรียนภาคพว. มันเหมือนโดนปลกฝังตั้งแต่ที่เรียนว่า หมอ วิศวะ วิทยาศาสต์ เภสัทนะดี พอคิดจะสอบ ก็เลือกแต่คณะพวกนี้ไปโดยปริยาย ตอนนี้เพิ่งมารู้ตัวตอนเรียนมหาลัยนี่ละคะว่าเราชอบภาษามากกว่า
อยู่วิศวะปี 2 เหมือนกันเลยค่ะ แต่ตอนนี้ซิ่วแล้ว เพราะเรียนวิศวะไปก็ไม่ใช่ทาง ไปเรียนแล้วไม่มีความสุข
ตอนนี้รอแอดเข้าคณะใหม่อยู่ค่ะ ตอนซิ่วแรกๆพ่อแม่ก็ถามว่าทำไมถึงซิ่ว เราก็บอกเหตุผลไปตามตรงเลย พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ พ่อแม่เราอยากให้เราเรียนที่ไหนก็ได้ที่เรามีความสุข
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?