นักเขียนตาย???
.
.
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบห้องทำงานของนักเขียนชื่อดัง
เขาตายด้วยอาการช็อก ตรงโต๊ะทำงาน มือยังคาอยู่กับคีบอร์ด
เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐานเสร็จทางมูลนิธิก็มาเก็บศพไป
ถึงจะเป็นนักเขียน ที่มีชื่อเสียง แต่ก็เดียวดายใช้ชีวิตลำพัง
ไม่มีลูกหลาน ทั้งชีวิตเขามีแต่นิยาย ที่เป็นเหมือนทุกๆอย่าง
.
.
ณ โลกแห่งมิติที่666 ไม่ใช่ทั้งนรกและสวรรค์
คำตอบที่ได้รับ คือขอไปนรกจะดีกว่า
.
.
"มาแล้วรึเจ้ากลีบบัว มาเขียนนิยายที่ยังเขียนไม่จบซิ
ที่ผ่านมาทิ้งไปกี่เรื่อง" ฑูตความตายพู่กันสีดำ
ส่งขวดหมึกและปากกาแบบโบราณทีแสนเก่าแก่
ปีศาจตัวเล็กๆช่วย ถือกระดาษ พาเขาไปที่ห้องๆหนึ่ง
มีวิญญาณนักเขียนมากมาย นั่งเขียนไปร้องไห้ไป
แสงสว่างแทบจะไม่มี มีเพียงเทียนอันเล็กปักไว้
.
มีนักเขียนมากมายที่ทำดีไว้มากแต่ยังติดตรงที่ว่า
ต้องมาเขียนเรื่องที่เขียนไม่จบ และแน่นอนว่า
เรื่องที่เขียนไม่จบนั้น มันมีมากพอกับจำนวนหน้านิยาย
"ผมนึกไม่ออกจริงๆครับท่านยมฑูต
บางเรื่องเริ่มไม่ถึงหน้าผมก็ฉีกทิ้ง"
นักเขียนคนดังเขายังต้องทำภารกิจที่ค้างคา
"เห็นภูเขาสูงเสียดฟ้านั้นมั้ย..นั้นแหล่ะมันคือ
กองกระดาษที่เจ้าฉีกทิ้งหนึ่งแผ่น..ก็คือ1เรื่อง
ความคิดของเจ้าในแต่ล่ะแผ่น มันมีแต่เรื่องที่
ข้าเห็น แล้วว่าเป็นเรื่องยาว ไปหยิบมาเขียนให้จบ
หึหึหึ......เรื่องหมึกกับกระดาษ ที่นี่มีให้ไม่มีหมด"
วิญญาณนักเขียนดวงนั้นถึงกับเข่าทรุด
ในโลกคู่ขนานมิติที่666มันช่างน่ากลัว
19 ความคิดเห็น
ฮา... หนึ่งแผ่นหนึ่งเรื่อง แต่กองเป็นภูเขา หนักหนาเอาการสมควรเข่าทรุด
แค่ไม่ต้องเท่าภูเขา ประมาณต้นหญ้าบนภูเขา ก็มากเกินพอ 55
หรือจะเอาเรื่องนี้ไปเขียนเป็นนิยายเพิ่มอีกเรื่องดี 555
โลกหลังความตายของนายนักเขียน :)
เอามาเขียน ระวังจะเป็นอีกเรื่องที่ไปกองอยู่บนภูเขานะครับ -..-
สันหลังวาบเบย 555
"กลีบบัว" ชื่อน้องข้าน้อยซึ่งมันนั่งอยู่ข้างๆ
#ผิดประเด็น
ก่ะไม่มีคนตั้งและนะะ 55
สะเทือนไตเป็นอย่างมาก ToT
เศร้าจัง
ไม่เคยเขียนพล็อตในกระดาษเลย ใส่ MS word ตลอด
เปลี่ยนใจเมื่อไร กด delete ปุ๊บ หายปั๊บ ^ ^
บ๊ายบายโลกมิติที่ 666
อย่าได้ประมาทไป ในมิติ 666 เซิร์ฟเว่อร์
ที่เก็บข้อมูลการพิมพ์ลบๆตั้งแต่การเปิดคอมพิวเตอร์
ครั้งแรกในชีวิต - 3 - ไม่รอดดด
.......
ไม่รอด
เวลาในมิติที่ 666 1 วันเท่ากับ 100 ปี ของโลก
แง //จนคำพูด
;__;
ดีนะที่เราเป็นอมตะ ไม่งั้นแย่แน่ๆ
ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นอมตะเหมือนเรา แนะนำว่าตอนตายให้พกไฟแช็กลงไปด้วย จะได้เผาภูเขาต้นฉบับทิ้งซะเลยค่ะ
หึ ซาดิส อันตรายๆๆๆ เดี๋ยวไฟไหม้มา ใครจะดับบ
ตายกันให้หมดค่ะ จะได้หลุดพ้นจากการปั่นนิยายตันๆ
โหดแบบนี้ คืนนี้นอนคนเดียวเลยนะๆ
= 3 = ลืมไปนอนคนเดียวอยู่แล้วซิ
นอนกับพี่บูด(ตุ๊กตาหมีที่มีอายุมากกว่าตัวเองสองปี) แล้วก็น้องเบี้ยว(ตุ๊กตาน้องแมวที่ถูกนอนหนุนต่างหมอนจนหน้าเบี้ยวไปข้าง) ไม่ได้นอนคนเดียวค่ะ
ปล.มีถุงเกลืออยู่ใต้หมอน พร้อมสาดใส่ผู้บุกรุกค่ะ
ดีเลยเราจะได้ถือไปหาเอาไปแค่พริกป่น น้ำตาลทราย มะม่วงมะดันน
ขอกะปิด้วยค่ะ
อะเฮื่อ.. แบบนี้พอตายไปก็งานเข้าสิครับ
มีงานจะได้ไม่เหงา เนอะะะ
.........ถึงกับสะพรึง...........
เยี่ยมไปเลยชอบรูปประกอบบ
น่ากลัวมาก เรานี่มีเขียนไม่จบเยอะมากๆๆๆ T^T
สบายล่ะได้ไปเขียนที่นั่นคงเจอนักเขียนเก่าๆชื่ิดังเพียบบ
โหดสลัด! #ช็อคหนักมาก
ช็อคมีเยอะเลยหนักซินะๆๆแบ่งบริจาคให้กับโรงเรียนเพื่อเป็นประโยชน์
โรงเรียนเราใช้ไวท์บอร์ดค่ะ แหม่! บริจาคแห่งโรงเรียนข้างนอกละกัน พอดีใจบุญน่ะนะ -,,-
ขุนแม่...//เอามือทาบอกด้วยความตกใจ(?)
คุณแมวร้องเหมียวหนักมาก
อุต้ะ... ขอนับนิ้วก่อน มีกี่เรื่องที่ร่างพล็อตในเวิร์ดแล้วลบทิ้งวะ...
..
..
.
อ้าว นิ้วไม่พอนับหรอ ..
#ร้องไห้หนักมาก
ให้ยิมนิ้วแมว55
//มองกองสมุดสำหรับเขียนนิยายแล้วหันไปมองนิยายในคอม
เรื่องสมุดน่ะไม่มีปัญหาหรอกมันเป็นแฟนฟิค พอคิดถึงฉากฟินได้เมื่อไรก็มีอารมณ์เขียนเอง แต่ในคอมเนี่ยสิไม่มีฉากฟินเลยแล้วตรูจะแต่งได้ยังไง!!!!!!!!!!
เราเองก็ลบไปไม่ใช่น้อยย
ช่างเป็นจุดจบที่โหดร้ายจริงๆ...ค่ะ
ไปนอนแช่ในกะทะทองแดงยังสบายกว่าไม่ต้องมานั่งเขียน55
แบบนี้โกงได้รึเปล่าคะ?
ประมาณว่า เขียนได้สองหน้าตัดจบที่ไฟฟ้าดับพระเอกตายคาเครื่องเกมส์....
ก็ต้องดูว่าเนียนได้ขนาดหนายย
เครื่องรางยมทูตนี่หว่า?
หากพกไว้จะได้ไม่ต้องไปนั่งเขียนไง55
เอ่อ คะ..แค่ร่างพล็อตนี่ไม่นับใช่มั้ยคะ!! //ไม่รู้ละ วิ่งหนีดีกว่า ขอตัวไปตามหายาอายุวัฒนะก่อนล่ะ ฟิ้วว
หากร่างแล้วเขียนจบก็ไม่เป็นไรหุหุ
สวัสดีค่ะ คุณปัน
อ่านคำบอกเล่า ของคุณแล้วน่ากลัวค่ะ ไม่ยอมเขียน อู้ ขี้เกียจ ติดเพื่อน(เด็กดีมั้ง) เดี๋ยวตายไป
วิญญาณนักเขียนดวงนั้นถึงกับเข่าทรุด
ในโลกคู่ขนานมิติที่666มันช่างน่ากลัว
เป็นตัวอย่างที่น่ากลั้วค่ะ ขนลุก ไม่ยอมทำตามหน้าที่ที่เกิดมาต้องทำ (นักเขียนนั้นแท้จรริงแล้วเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียนสินะคะ พร>>> สะหวัน (แบบนี้มั้งนะ555 เขียนผิดๆล้อเล่นค่ะ)
แบบนี้ต้องตั้งใจเขี้ยนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แล้วค่ะ เพราะไม่อยากเกิดมาอีก ชาตินี้อยากเป็นชาติสุดท้าย ต้องเขียนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วน้าต้องลงมือแล้วค้า จะไม่กลับมาอีกแล้ววววววววววววววววววววววววววว ไม่เอาแล้วพอแล้วน้า ขอบคุณที่ให้โอกาสในชาตินี้ จะเขียนแล้วค่ะ
จะตั้งใจค่ะ (แต่เมื่อไรไม่รู้ทุกอย่างหาความแน่นอนไม่ได้จริงๆบนโลกนี้ โลกนี้มีความไม่แน่นอนเป็นแก่นสารจริงด้วยสิ เฮ้อ เฮ้อ...)
ขอบคุณคุณปันค่ะ กระทู้นี้เตือนสติได้ จะพยายามเขียนๆค่ะ เขียนเพื่อบลบล้างเหล่าเวรกรรม(ของตน) ได้ไม่ต้องมาพบเจอกันอีกงานเขียนๆทั้งหลายนี่ เพลียๆค่ะ ตั้งแต่เกิดแล้วทุกคนบอกว่าเธอเกิดมาเพื่อเขียนนะ (เวรกรรมมาเป็นปัจจัยหลายคนเห็นได้จริงๆ) มีอยู่ครั้งค่ะไปงานหนังสือระดับชาติเลย(หรือระดับโลกมั้ง เขานักเขียนระดับโลก ขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ) ความที่เป็นคนรักอ่าน รักเขียนตั้งไหนไรมา เป็นสมาชิก บุ๊คคลับหลายๆที่
(หลายประเทศ... จะเจ้งอยู่แล้วค่ะ ค่าสมาชิกมาทีต้องยอมอดข้าว มากกว่านั้นสะสมหนังสือ เป็นสมาชิกนะ จะมีของขวัญมากมายคือหนังสือค่ะ เทศกาลหนังสือทีได้ฟรีๆคือเขาส่งมาให้ ทุกวันนี้นะที่บ้านไม่มีที่อยู่แล้วค่ะ เงินหรือก็ไม่เหลือเพราะต้องขยายห้องแหละชั้นเก็บหนังสืออยู่รํ่าไป เล่ม ปก สวยๆมีค่าต่อความรู้สึกไม่ทิ้งรักษาอย่างดี )
กลับเข้าเรื่องหลังวงเล็บยาวๆ...(คอยจะนอกเรื่องอยู่รํ่าไป ติดนิสัยไม่ค่อยจะดีค่ะ ขออภัย) คือมีอยู่ครั้งหนึ่ง อยากพบเจอนักเขียนชื่อดังที่ว่านะคะ อยากเจอมาก อยากสัมผัสตัวจริงเขาเป็นนักเขียนปรัชญาด้วยชอบเป็นพิเศษเลย ก่อนงานหนังสือหลายเดือนตื่นเต้นมาฝันๆมีความรู้สึกดีๆ กราบพระก่อนนอนนะขอให้ได้สัมผัส(คือขอให้มีโอกาสได้พบเห็น)ขอให้ได้เห็นขอให้ได้เจอ เพราะเขาจะมาให้ลายเซ็นต์นักอ่านหรือแฟนคลับของเขานะ
วันงานหนังสือนะคะ โอ้โห คนเยอะมาก เขาถูกห้อมล้อมเต็มไปหมด มีบอดี้การ์ดด้วย เวทีถูกยกขึ้นสูงนิดหน่อยสปอร์ตไล้ท์จับ(มีการสัมภาษณ์และถ่ายทอดวีดีโอ) ดิฉันนะไปตั้งแต่เช้าข้าวไม่ได้กิน คนเบียดเสียดกันมาก ได้ยืนตรงกลางๆ(งานนี้ยืนค่ะ ทั้งที่ไปแต่เช้าก็ยังได้ที่ตรงกลาง ผู้คนเยอะมาก) มีการทักทายพูดคุยถาม-ตอบ เขาเป็นกันเองมาก คนเยอะมากเบียดเสียดเพื่อได้โอกาสสัมผัสและใกล้ชิดกับเขา ครึ่งค่อนวันเลย
ในที่สุดดิฉันก็ท้อ ไม่กล้าเบียดนะ ไม่กล้าผลักใสตัวเอง ล้มเลิกความตั้งใจ หิวก็หิว (เป็นวัยรุ่นน้อยๆมั้งตอนนั้นความอดทนไม่มีพอ)ในที่สุดก็ตัดใจหันหลังกำลังจะเดินออกจากไป "เดี๋ยว ๆๆเธอคนนั้นน่ะ หยุดๆ หยุดก่อน เธอมีอะไรที่จะถามหรือคุยหรือเปล่าเธอยังไม่ได้ลายเซ็นนะ ฉันเห็นเธอตั้งแต่เช้าล่ะ เธอคนนั้นน่ะ" พูดพร้อมชี้มือไปที่กลุ่มคนยืนช่วงกลางๆ สปอร์ตไล้ท์ มุนว่อนๆไล่จับหลายคนที่เคลื่อนไหว ดิฉันหันกลับ พร้อมชี้นิ้วไปที่อกตัวเอง "ไช่ๆเธอนั้นล่ะ มานี้หน่อยสิ" ดิฉันเดินกลับไปหาเขากัาวขึ้นบนเวทีเตี้ยๆนั้น เช็คแฮนด์ๆ พูดคุยกันหลายประโยค ดีใจมาก เป็นบุญ เป็นนิมิตหมายที่ดีกับตัวเอง ดีใจจนนํ้าตาไหล(ตื้นตันโชคดี จริงนะคะรู้สึกเช่นนั้น)
ในโอกาสนี้บทสนทนาทั้งหมดจะไม่ถ่ายทอดนะคะ แต่ ประโยคที่ทำให้ดิฉันสับสนคือ "ฉันเห็นเธอตั้งแต่เช้าจากจุดที่เธอยืนฉันเห็นออร่าส่องสว่างมากระทบสายตาของฉันตลอดเวลา จากที่พูดคุยกันนี้บอกได้ว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียน แต่เธอจะเป็นนักเขียนที่ "...." ขอให้เธอตั้งใจ คำที่เขาบอกนั้นเป็นคำที่ดิฉันไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร มาวันนี้ก็ยังตีความหมายไม่แตก ขอไม่บอกนะคะ เพราะเป็นคำที่อาจจะเป็นอะไรที่มีความหมายอาจจะดีสุดๆและอาจจะเป็นอะไรที่แย่สุดๆค่ะ สับสนค่ะ สับสนมาจนวันนี้ ทรมานน่าดูเลย นี่อาจจะเป็นกรรมเวรอย่างแน่นอน
ได้โอกาสเขียน(อีกแล้ว ขอบคุณค่ะ)ยาวๆมว้ากเลย ที่เขียนมานี้ ไม่ไช่การโฆษณาตัวดิฉันเองแต่ประการใดนะคะ ไม่ไช่การตักตวงอะไรๆจากสังคมทั้งนั้น นี่เป็นคำบอกเล่าแบ่งปันที่อยากเข้าร่วมกิจกรรมกระทู้ของคุณ(ยังอยู่ในประเด็นของคุณอยู่นะคะ)ในรูปแบบของดิฉันค่ะ รูปแบบที่ว่านี้ คือ ฝึกหัดเขียนค่ะ ที่เขียนมานี้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เฉยๆค่ะ เห็นกระทู้นี้ทำให้เกิดความทรงจำและระลึกว่าตนนั้นคงเกิดมาเพื่อเขียนๆแน่ๆ เขียนผิดๆ ถูกๆ ตกหล่น เขียนแบบมีแต่นํ้าไม่มีเนื้อ เขียนแบบออกทะเล เขียนแบบนํ้าท้วมทุ้งผักลุ้งโหลเหลง นั้นก็เห็นๆว่าเคยเห็นเพื่อนๆบอกเล่าแนะนำและวิจารณ์ให้ในที่นี้ แต่จะอย่างไรก็ชอบเขียน(ถึกมากด้วย ไม่ยอมเลิกเขียนเห็นๆนะ เห็นหรือเปล่าคะ) สงสัยจะเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียนจริงๆล่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนักเขียนทั้งเก่า ใหม่ มืออาชีพ ระดับปรมาจารย์(ตั๊ก..ม้อ)ทุกคนด้วยค่ะ
จบๆๆๆยาวๆๆๆ เขียนแล้วจบไม่ได้ด้วย เกิดเป็นอีกโรคที่อาจจะเป็นกรรมซํ้าซ้อนค่ะ ขออภัย เจอกันกระทู้หน้านะคะคุณปัน ^__^
ขอบคุณคุณปันอีกครั้งค่ะ กระทู้นี้เกิดเป็นแรงบันดาลใจ
รักกระทู้นี้เป็นพิเศษเลย ไม่กลัวการที่ต้องชดใช้กรรมเวรค่ะ(กรรมในที่นี้คือการเขียน) ไม่ชดใช้ก็ไม่สิ้นสุดสินะ
ได้เจอนักเขียนที่ชอบก็น่าดีใจนะ เราเองก็ชอบอ่านพวกหนังสือพิมพ์
อาจจะต้องไปตามหาหลายคนหน่อย 5555 น่าชื่นชมนักเขียนในอดีต
การเขียนด้วยมือ มันเมื่อยมาก สมัยนี้มีคอมเลยสบายหน่อย เราว่า
วดีคงจะไม่มีปัญหากับการเขียยด้่วยมือ เขียนได้เรื่อยๆเลยซินะะะ
สุขสันต์วันสงกรานต์นะ เราไม่เปียกเลยปีนี้ หึหึ
สวัสดีค่ะ
มาเม้นต์นี้(ที่คุณเขียนมา)ตามมุขไม่ทันค่ะ ยอม ยอม (ยกธงยอมรับเลยค่ะ555)
ดิฉันเคยเม้นต์ที่เด็กดีนี้นะคะว่าตัวเองนั้นลายมือภาษาไทยสวย(กล้าบอกนะเรา^ ^) ตัวหนังสือสวัสๆเอียงขวา( ตัวหนังสือของคนเจ้าชู้555 คุณพ่อเคยบอกว่าอย่างนั้น)
แต่คุณคงได้พิสูจน์แล้วนี่คะว่าที่ดิฉันเม้นต์ไปอาจจะไม่จริงมั้งนะ เพราะคุณมีโอกาสได้เห็นกับตาแล้วนี่ ตัวหนังสือภาษาไทยจ่าหน้ากล่องของฝากจากอิตาลี่เป็นลายมือของดิฉันเอง ดูไม่ได้เลยไช่ไหม? (เอ่ย)
ช็อคกับตัวหนังสือของตัวเองมากค่ะ รู้สึกว่าแย่มากนะ ทิ้งไปนาน มาวันนี้พิมพ์ด้วยคอมเนอะ ลายมือเสียหายหมด
เมื่อวานเกิดแรงบันดาลใจค่ะ อยากที่จะเริ่มตั้งใจเขียนนิยายจริงๆเสียทีได้ไปรื้อชั้นหนังสือของตัวเอง(กรุเก่าๆ) ที่เก็บๆไว้มีอยู่หลายเรื่องที่แต่งๆไว้อยากนำมาปัดฝุ่นเพื่อเดินตามความฝันเสียทีนะ ไล่ๆอ่านๆค่ะ เห็นตัวหนังสือตัวเองชอ็คคล้ายเห็นผีเลย คือช่วงอายุประมาน 12-13-14-15 ปี (เห็นจากวันที่ที่ลงไว้หัวมุุมกระดาษค่ะ)นั้นทำไมเขียนได้สวยมาก ดูมือจะนิ่ง ตัวหนังสือเสมอเรียงสวยงามเป็นระเบียบ สีของดินสอ(ลายเส้น)หรือก็เสมอต้นเสมอปลาย มาวันนี้แย่มาก(คุณคงเห็นแล้วล่ะ)เลย เสียใจและเสียดายค่ะ
เดี๋ยวจะต้องตั้งใจเริ่มใหม่ลองวาดฝันอีกครั้งด้วยดินสอค่ะ จริงแล้วชอบเขียนด้วยมือจริงด้วยทำไมคุณรู้ด้วยนะ
วันนี้วันที่ 16 คงยังไม่หมดเทศกาลต์สงกรานต์นะ อย่างนั้นขออนุญาตคุณปันรดนํ้าเลยดีกว่าเนอะ เอ้า...เท เท (เอาตรงไหนดี5555)
ขออวยพรให้คุณปันมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง จะนึกหรือหวังสิ่งใดก็ขอให้คุณสมหวังทุกๆประการค่ะ
ยาวๆเช่นเคยล่ะ^ ^ (ขออภัยค่ะ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?