Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องเล่าในวันไฟดับ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีประเพณีแบบนี้อยู่ในประเทศไทย!(หรือว่าเราล้าสมัยคนเดียว)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
     สวัสดีเพื่อนๆทุกคนคร้าา วันนี้เราก็มีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้เพื่อนๆฟังในยามไฟดับแถวบ้านเมื่อ2วันที่แล้วกันค่ะ เอ...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราแบบว่าล้าสมัยหัวโบราณไปรึป่าวนะค่ะ เพราะเราเองก็เคยได้ยินแต่เขาเล่ากันมาเหมือนกัน(เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเคยเห็นกันมาเยอะกว่าเราบ้างละ) แต่ในฐานะวัยรุ่นไทยคนนึงที่ไม่ค่อยได้เห็นประเพณีนี้ ก็ขอนำมาเล่าสู่กันฟังถึงประเพณีไทยที่น่ารักๆที่ยังคงอยู่ในประเทศไทยของเราค่ะ (หรือมันน่ารักสำหรับเราคนเดียวหว่า....5555) 

     วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่เราได้เจออะไรใหม่ๆเหมือนกันนะ ตั้งแต่กลับถึงบ้านไฟนี่ดับต้นซอยยันปลายซอยเลยค่ะ ตอนแรกๆก็รู้สึกเซ็งๆอยู่หรอก แต่ว่าหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเพลงดังๆ กับคนที่กำลังสนุกๆแถวบ้าน เราก็ไปดูว่ามันมีอะไร ปรากฏว่ามันคืองานประเพณีรำวงพื้นบ้านที่เขาจัดกัน! มันอาจจะฟังดูธรรมดาหรืออาจจะไม่ค่อยน่าแปลกใจสำหรับบางคน แต่เรากลับรู้สึกว่าวัฒนธรรมไทยที่ดีแบบนี้ ถ้าสำหรับในสมัยนี้ขอบอกเลยหละว่า แทบจะถูกกลืนหรือหายไปจากสังคมไทยของเราเลยคร้าา(หรือเป็นเพราะเราไม่เคยเหนนาา ^^") หลังจากนั้นเราก็ได้เข้าไปในงาน เราได้เห็นวิถีชีวิตเสมือนกับได้ย้อนเวลาเข้าไปสู่โลกสมัยก่อนของไทย จะมีผู้คนมากมายในงาน ตั้งแต่เด็ก หนุ่มสาว ไปจนผู้สูงวัยเลยก็มี ผู้คนก็จะแต่งตัวเต็มไปด้วยลายดอกสีสด สีสันนี่ขอบอกเลยค่ะว่าแสบตาค่ะท่านผู้โช้มมมม บรรยากาศครื้นเครงสนุกสนานมากๆ และจุดไคลแมกซ์ของงานนี้อยู่ที่รำวงให้คนไปเล่นเต้นรำที่เขาเปิดให้เข้าแต่ละรอบนี่แหละ! เปิดให้ตั้งแต่เด็กเล็กไปยันผู้สูงวัยเลย! เราไม่รู้ว่าปกติเขาจะเสียเงินในการเข้าไปเล่นรำเต้นรึป่าวนะค่ะ แต่ที่นี่จะเสียประมาณรอบละ20บาท/คน และนำเงินที่ได้ไปทำบุญค่ะ หรือถ้าหากรอบไหนมีผู้ใหญ่ใจดีเหมารอบในการเต้นครั้งนั้นให้ ผู้คนก็จะเยอะเป็นพิเศษ จากเดิมนี่ว่าเยอะแล้วนะ ยิ่งครึกครื้นทวีคูณเลย อิอิ (อย่างเช่นปกติทุกคนจะต้องจ่ายคนละ20บาท/รอบ แต่มีคนใจดีเหมาจ่ายในรอบนั้น500 คนที่จะมาเต้นก็ไม่ต้องเสียตังค์ ง่ายๆคือฟรีคร้าาา! แต่คนที่เหมารอบให้ต้องจ่ายเงินนะ5555) 


เพื่อให้ได้อรรถรสในการชม เราเลยนำรูปจากInternetมาให้เพื่อนๆดูค่ะ ^^

      
      ตอนแรกเราก็คิดนะค่ะว่า งานแบบนี้สมัยนี้เขาจะมีคนไปเยอะหรอ แล้วงานมันจะกร่อยรึป่าว ผิดคาดค่ะ! เปิดกี่รอบก็เต็มฟลอทุกรอบเลย! และที่ขาดไม่ได้ก็คือ หนุ่มๆก็จะมาควงสาวที่ตนถูกใจหมายตาไว้ไปรำเต้นด้วย(แอบคิดตลอดนะว่ามันไม่น่าเชื่อเลยนะว่าสมัยนี้จะยังมีประเพณีลักษณะนี้อยู่) ผู้หญิงก็จะทำท่ายิ้มๆแอบเขินๆอายๆ ส่วนผู้ชายก็จะคอยชวนรำอย่างสุภาพ ให้เกียรติกันดีค่ะ ส่วนเด็กเล็กหรือลุงๆป้าๆก็จะเต้นชนิดเรียกว่างานนี้กุไม่มีอะไรจะอายละ!55555 (อยากให้เพื่อนๆมาเห็นกับตาเหมือนกันนะค่ะ จะรู้ว่าคุณป้าที่ว่าอายุ 60 70แล้ว สเต็ปแดนซ์ไม่แพ้วัยรุ่นเลย55555) ไอเราก็ดูไปแล้วขำไปเลยค่ะ55555 

       มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เออ...คนสมัยก่อนที่ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมาก ทุกครั้งที่มีงานอะไรแบบนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขามากๆเลยหละเนอะ และก็ได้รู้จักคนเพิ่มด้วย แต่การทำความรู้จักกันแบบนี้ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ดีมากนะ เพราะเขาได้เริ่มรู้จักกันแบบเห็นหน้ากันจริงๆ และการที่เราได้เห็นหน้าคร่าตากันจริงๆแบบนี้ก็จะสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้มากขึ้น รู้จักบางมุมกันได้มากขึ้น(ซึ่งต่างจากสมัยนี้บางทีก็รู้จักกันผ่านแชท เราหรือเขาจะพิมพ์อะไรก็ได้ จนบางทีก็ไม่ได้รู้จักกันจริงๆหรอกค่ะ) อย่างเช่นเริ่มจากเรื่องส่วนตัวหวานๆอย่างการจีบสาวแล้ว ก็นับว่าต่างจากสมัยนี้ในหลายรูปแบบเลยหละ หรืออาจจะเป็นในหลายๆเรื่องเลยก็มี ไม่ได้จะบอกว่าการคุยแชทสมัยนี้ไม่ดีน้าา เราว่ามันก็มีดีในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ว่าบางทีหากเราได้เจอใครสักคนแล้วรู้จักกันแบบเห็นหน้ากันจริงๆ เจอกันจริงๆ แล้วค่อยๆทำความรู้จักกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้รู้ถึงการกระทำของเค้าได้มากขึ้น ทำให้เราได้ใกล้ชิดถึงความเป็นเค้าไม่น้อยเลยค่ะ^^ (เพราะบางทีดวงตาและการกระทำที่ได้เห็นกันจริงๆนี่แหละถึงได้บอกอะไรเราหลายๆอย่างได้ ) ตอนแรกว่าจะเล่าแต่เรื่องไปงาน ไหงมาเข้าเรื่องนี้ซะงั้น5555 
       
        สุดท้ายนี้สิ่งที่เราได้จากไฟดับครั้งนี้ก็ทำให้เราอยากจะแบ่งปันเรื่องราวส่วนหนึ่งให้เพื่อนๆฟังว่า ก็ไม่คิดเลยจริงๆค่ะว่าแค่ไฟดับไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำให้เราได้เจอ ได้มุมมองอะไรหลายๆอย่างเพิ่มขึ้นได้ (บางทีเปลี่ยนบรรยากาศจากหน้าจอวันละหลายชั่วโมง มาใช้เวลาอยู่กับตัวเองและคนรอบข้างบนโลกแห่งความจริง มันก็ดีไม่น้อยเลยนะค่ะเนี่ย) แน่ๆหละประเพณีดีๆของไทยเราแบบนี้ ก็น่ารักไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ  และที่สำคัญ ก็ยอมรับแหละค่ะว่าเทคโนโลยีนี่มันโคตรสะดวกเลย เราเองก็โคตรชอบเลย ติดต่ออะไรก็ง่าย อยากรู้อะไรก็เปิดอินเตอร์เน็ตหาได้ละ แต่บางทีหากเราใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากเกินไป มันก็ทำให้เราอยู่แต่โลกออนไลน์(เอ๊ะ...รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองก็ใช้อยู่5555) ไม่ได้อยู่บนโลกแห่งความจริง อาจจะทำให้เราได้ละเลยอะไรหลายๆอย่างได้ อย่างเช่น ครอบครัวหรือคนที่เรารัก ที่เขาอยากคุยกับเรา รอคอยใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันกับเรา แต่เพราะบางทีเราใช้เวลากับส่วนนี้มากเกินไป ก็ทำให้เราละเลยค่ะ จนบางทีเราก็อาจจะลืมความเป็นจริงกับสิ่งที่เป็นอยู่บนโลกแห่งความจริงหลายๆอย่างในตอนนี้ (เราเองก็เคยเป็น) เพราะฉะนั้นการใช้อะไรพวกนี้หากเราใช้ให้อยู่บนความพอดี มันก็จะสร้างสิ่งที่ดีให้กับเรา แต่ถ้าหากเราใช้มันมากไปก็ส่งผลเสียให้กับเราได้นะค่ะ อย่างเช่น ง่ายๆเลยเรื่องสายตาค่ะ (เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยติดงอมแงม จนตอนนี้สายตาก็สั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ -3-") เพื่อนๆบางคนอาจจะเห็นต่างกับเรา แต่ยังไงก็ช่วยรับฟังเรื่องราวแบ่งปันของคนคิดแปลกๆอย่างเราคนนี้ด้วยน้าาา เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันละกันนะค่ะ^^ 

        ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากนะค่ะที่ได้อ่านบทความของเรามาจนถึงตอนนี้  เรื่องเล่าที่เราเอามาแบ่งปัญอาจจะมีถูกบ้าง ผิดบ้าง ใช้บางคำไม่สุภาพนิดหน่อย หากในส่วนไหนทำให้เพื่อนๆอ่านแล้วรู้สึกไม่พอใจ หรือมีความผิดพลาดยังไงต้องขอโทดด้วยนะค่ะ ขอบคุณทุกคนค่ะ 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น