บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองติดอยู่ในกรอบมากเกินไป เลยจินตนาการไปได้ไม่สุด
ตั้งกระทู้ใหม่
ในการแต่งนิยายของตัวเองเอาไว้ค่ะ
บางทีก็คิดว่าตัวเองบางครั้งก็แอบ realistic ไปนิดนึง ขนาดเรื่องล่าสุด
พยายามจะแต่งให้หลุดกรอบของตัวเอง โดยการลองแต่งแนวที่รู้สึกว่า
มัน surreal ขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไปได้ไม่สุดค่ะ
คือบอกตรง ๆ ว่าเวลาไปอ่านบางเรื่อง แบบก็รู้สึกอินนะคะ แต่พอคิด
ตามไปเรื่อย ๆ ด้วยแล้ว ก็จะนึกถึงความเป็นจริงไปด้วย ทำให้พออ่านแล้ว
ก็จะแอบนึกภาพตามไปไกลกว่านั้น เช่นว่า
แล้วบางเรื่องเขาไม่เห็นจะล็อคประตูห้องเลย ไม่กลัวคนเปิดเข้ามาเจอหรอ
แล้วไหนจะเรื่องเสียงอีก แอบสงสัยว่าประตูห้องพระเอกเก็บเสียงหรือเปล่า 555+
คือ ถ้าเราจะเขียนฉากแบบนี้ปุ๊ปนี่แบบยาวมาก เพราะจะต้องบรรยายเยอะมาก
เช่นว่าห้องเป็นห้องเก็บเสียง พระเอกต้องไปล็อกประตู แถมคงต้องไล่เลขา
หน้าห้องไปไกล ๆ เพราะ เรารู้สึกว่าคนระดับนี้เค้าควรจะต้องรักษาภาพพจน์
ของตัวเองระดับหนึ่ง เค้าคงไม่อยากจะให้ลูกน้องได้มารู้เรื่องพวกนี้ เพราะ
ความน่าเชื่อถือมันก็อาจจะลดลง
ส่วนเรื่องล่าสุดนี่อ่านละฟินมาก แต่ถ้าเป็นเราเขียนเราคงไม่กล้าเขียนหลาย ๆ อย่าง
เพราะอย่างฉากทิ้งข้าวของไว้ริมทะเล แล้วลงไปเล่นน้ำ ถ้าเป็นเรา ๆ จะอดคิดไม่ได้ว่า
เอ้า เค้าไม่กลัวของหายหรอ กลับขึ้นมาคงจะไม่ได้นอนสวีตหรือเดินจับมือกันริมหาด
เพราะพระนางคงมือถือ กระเป๋าตังค์หายไปเรียบร้อย ได้ไปสถานีตำรวจกันแทนที่
จะโรแมนติก 555+
รู้ทั้งรู้นะคะว่าเป็นนิยาย แต่ก็อดคิดเทียบกับความเป็นจริงไม่ได้
มาแขร์กันได้นะคะ ว่าเพื่อน ๆ แอบเป็นเหมือนเค้าบ้างหรือเปล่า
ปล. เจ้าของเรื่องที่เราพาดพิงอย่างอนนะคะ เราไม่ค่อยมีเวลาอ่านเยอะหรอกค่ะ
แต่เรื่องของคุณนี่เรา love มากจริง ๆ เพราะฉากริมทะเลนี่มันแบบโรแมนซ์มาก
แต่เราก็ดั้นคิดไกลไปหน่อย บางทีเราก็ยังแอบขำตัวเองเลยว่าก็เป็นคนที่คิดไป
ได้เนอะ
19 ความคิดเห็น
ต่างจาก จขคห. ติดในอารมณ์และความสนุกมากไปจนลืมเชิงเหตุเชิงผล :)
ตรรกะวิบัติเลยฮะ 555
นิยายคุณ wat_r เป็นนิยายที่เราอ่านแล้วรู้สึกอินกับอารมณ์ตัวละครมากอ่ะค่ะ
มันบอกไม่ถูก บางทีรู้สึกกลัวแทนฟ้า บางทีก็หน่วง ๆ แทนพระเอก
ทำไมตัวเองถึงตรงกันข้ามนะ ลืมนึกถึงความเป็นจริงตลอด ต้องกลับมาคอยด้นเหตุผลใส่เข้าไป
ปล. ส่วนตัวว่าการคำนึงถึงความเป็นจริงก็ไม่ได้เป็นการปิดกั้นจิตนาการขนาดนั้น การแต่งนิยายก็ต้องอิงความเป็นจริงบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวเรื่องและรสนิยมต่าง ๆ ของทั้งคนอ่านและคนแต่ง
ขึ้นกับแนวจริง ๆ แหละค่ะ มันทำให้เรายังแต่งอีกหลาย ๆ แนวไม่ได้ เช่น แฟนตาซี
แต่เราชื่นชมผู้ที่มีจินตนาการนะคะ เพราะความคิดแต่ละท่านล้ำและครีเอทกันมาก
เคยอ่านมังกรหยก สนุกจริง
ผมเป็นพวกชอบมองไกลๆแต่ว่าไปไม่ค่อยถึงครับ
ทุกอย่างมันอยู่ในหัวก็จริงแต่จะเขียนออกมาเป็นตัวอักษรนี่ทำไมมันยากจังนะ
ผมนี่นั่งร้องไหเลย
ฝึกเยอะ ๆ ค่ะ เค้าก็ยังไม่เก่ง แต่รู้สึกว่าแต่งมากขึ้น ก็บรรยายได้ดีขึ้นบ้างค่ะ
เข้ามายกมือ มีอาการคล้าย ๆ กัน
ของเรานี่ลามไปถึงพล็อตด้วย เป็นคนคิดพล็อตไม่ค่อยแหวกเท่าไหร่ เพราะมีกรอบนี่แล
จับมือค่ะ เราเข้าใจคุณเลย นั่นเป็นเหตุผลที่บางทีก็ยังไปไหนได้ไม่ไกลนัก
เวลาอ่านนิยาย ก็เป็นแบบ จขกท.เลย
หลายครั้ง ชอบคิดให้มันอยู่ในฐานความจริง จนกลายเป็นการจับผิดนิยายเขาไปซะงั้น แต่ก็ไม่ได้บอกไรเตอร์นะ แค่เก็บไว้ในใจ 555 ส่วนเวลาเขียนผลงานของตัวเอง บางครั้งก็ชอบมองให้มันอยู่ในฐานความจริงมากไป จนต้องบอกกับตัวเองว่า มันเป็นนิยายนะ ไม่ใช่เรืองในชีวิตจริงนะเห้ย
เป๊ะเลยค่ะ ก็ต้องพยายาม balance 2 ฝั่งให้สมดุลขึ้นมั้งนะคะ
บางครั้งก็เอาอารมณ์กับความสนุกมาก่อน แต่บางครั้งก็เป็นเหมือน ท่าน จขกท. ฮะ
คือมันแล้วแต่อารมณ์อ่ะ
ถูกค่ะ บางช่วงก็เป็นหนัก บางช่วงก็เป็นน้อย
เราก็คิดแบบ จขกท. นะคะ
แต่เราคิดถึงความเหมาะสมระหว่างฐานะ ประธานบริษัทกับลูกน้องค่ะ
55555+
คือตรงนี้ ถ้าเป็นคนนอก ฝ่ายหญิงจะโดนมองว่าติดลบทันที
ส่วนฝ่ายชายจะถูกมองว่า กับใครก็ได้ใช่ไหม(ที่เป็นลูกน้อง แล้วลูกน้องอาจจะโดนมองไปด้วย)
จะคิดว่าเราถือตัวก็ได้ค่ะ แต่เราค่อนข้างเป็นห่วงภาพลักษณ์ฝ่ายตรงข้าม 555555
(ทางบ้านก็สอนมาให้ระวังเรื่องการวางตัวกับลูกจ้าง ผช เหมือนกัน -*-)
ถ้าจะให้เราแต่งแนวๆ นี้ ก็คงให้นางเอกลาออกจากที่ทำงาน ถ้าพระเอกคิดจะแต่งอะนะ
หรือไม่ก็เปิดตัวนางเอกคนนี้ต่อสังคมก่อนที่จะให้เธอมาทำงานกับตน
ก็เข้าใจว่าสังคมสมัยมันมีอะไรเสื่อมๆ เยอะ
เรื่องบางเรื่องไม่เหมาะสมก็ยังทำให้มันดีงามได้
=w=
เป็นเหมือนกันเป๊ะเลย
แต่นั่นสินะคะ เรื่องบางเรื่องไม่เหมาะสมก็ยังกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปได้
แต่ต่อให้คนหมู่มากทำกัน แต่ถ้าเรื่องไหนเราเห็นว่าผิด มันก็คือผิดค่ะ
อ่า เราประหลาดอยู่คนเดียวหรือป่าวเนี่ย
สำหรับเรา เราสนุกกับการอิงหลังความจริงมากที่สุดเลยนะคะ
มันทำให้ลุ้นดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น //บางทีตัวละครก็ไม่ได้ทำตรงตามเราคาดหมาย
ไม่นะคะ ต่างคนต่างมุมมอง เราว่าส่วนหลายคนคงไม่ยึดติดกับ
เรื่องความสมจริงมากขนาดเราด้วยค่ะ เพราะเค้ารู้สึกว่ามันเป็นนิยาย
ไม่ใช่เรื่องจริง
เราก็คิดเหมือน จขกท. นะค่ะ เราก็อ่านนิยายเรื่องหนึ่งอยู่ พระเอกทำนางเอกท้อง ไปๆมาๆพระเอกโมโหเลยผลักนางเอกตกเตียง ปรากฏว่าเด็กในท้องแท้งไปคนนึงนางเอกท้องลูกแฝด แต่โดนกระเเทกแบบนั้นปกติเด็กก็ไม่น่ารอดทั้งคู่ไม่ใช่หรอ? เรางงมากมายแต่ก็ไม่ได้ถามผู้เขียนนะค่ะ #แอบบ่น
หลาย ๆ คนก็คงคำนึงถึงเรื่องเหตุผลรองรับเยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย
อันนี้เราก็ไม่แน่ใจค่ะ ถ้าแยกรกกับถุงน้ำคร่ำกันก็มีสิทธ์รอดรึเปล่าหว่า
แต่พระเอกใจร้ายแท้เน้อ = =
บางทีเราก็คิดนะ ว่าถ้าตัวละครเรามันคิดตามหลักความจริงเนี่ย เรื่องทั้งหมดก็คฃไม่เกิดอะไรขึ้นเลย ทุกคนคงแบบ
"เราอย่าทำอะไรลึกลับๆ เพี้ยนๆ แล้วหันมาพูดคุยเหมือนคนปกติกันมั้ย"
"ดี!"
แล้วเรื่องก็จบภายในสองบรรทัด555
ใช่ค่ะ บางทีถ้ามัน real มาก มันจะไม่เกิด conflict ที่จะทำให้
ตัวเรื่องเดินไปต่อได้ เราก็เข้าใจจุดนี้ค่ะ
นิยายสองบรรทัด
ชอบๆ 555+
ขึ้นกับแนวด้วยแหละค่ะ เรื่องเหตุผลรองรับแบบนี้ มันทำให้เรายังแต่งอีกหลาย ๆ
แนวไม่ได้ เช่น แฟนตาซี
แต่เราชื่นชมผู้ที่มีจินตนาการนะคะ เพราะความคิดแต่ละท่านล้ำและครีเอทกันมาก
เคยอ่านมังกรหยก สนุกจริง ๆ คิดแต่ละซีนได้ไงไม่ทราบค่ะ บรรเจิดสุด ๆ
ก็ต้องแต่งให้คนอ่านสนุกจนลืมหลักความจริงอะครับ
เหมือนภาพยนต์ที่ฉายอยู่ทั่วไปเนี่ย
ถ้ามาถ่างตาดู จะพบความไม่สมเหตุสมผลเพียบเลย
แต่เรามองข้ามเพราะเราสนุกกับมันไงครับ
แต่ก็ต้องไม่ขาดความสมเหตุสมผลจนเกินไป
(แนะนำได้ แต่เหมือนผมเองจะทำไม่ค่อยได้ 555555555555555)
คงจะต้องทำให้มันสนุกจนคนอ่านลืมจริง ๆ มั้งคะ เวลาอินนี่
อาจจะมองข้ามไปได้พอสมควร แต่ยังไงก็คงต้องหาสายกลาง
ระหว่างทั้ง 2 อย่างมั้งนะคะ เพราะความสมเหตุสมผลก็คงต้อง
รักษาไว้ให้ตัวเรื่องมันยังโอเคอยู่เช่นกัน
เลิกจับผิดความคิดของตัวเองครับ แต่ต้องไม่ถึงขั้นขนาดที่ผิดหลักความเป็นจริงแบบพระเอกโดนยิงขาแล้วตายทันทีอะไรเทือกนี้นะครับ ^ ^
ยากเหมือนกันนะคะ แต่พยายามออกจากกรอบให้ได้มากกว่านี้ค่ะ
ลองมีความสุขไปกับมันดูครับ นิยายคือโลกแห่งความฝัน โลกอีกโลกที่เราเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น ในฐานะที่เราเป็นพระเจ้า เราไม่ควรเอากฎเกณฑ์ของโลกอื่นมากำหนดโลกของเราครับ ถ้าเรามัวแต่คิดนั่นคิดนี่จนชีวิตชีวิตในโลกใบนั้นไม่มีความสุข ตัวละครของเราจะเสียใจเอานะครับ ^ ^
เราก็ชอบคิดแบบเจ้าของกระทู้ค่ะ ชอบคิดว่า อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ทำแบบนั้นล่ะ ทำไมทำอะไรขัดๆ แบบนี้สะดวกกว่าเยอะเลย หรือใครมันจะไปทำอะไรแบบนั้นในชีวิตจริงกันล่ะ อะไรงี้ ฮ่าๆ นึกว่าเป็นคนเดียว เพราะชอบตั้งคำถามกับเรื่องคนอื่นเลยตั้งคำถามกับเรื่องตัวเองเสมอด้วยค่ะ ต้องพยายามปิดช่องโหว่ในนิยายตัวเองเท่าที่จะทำได้เหมือนกัน
พยายามปิดช่องโหว่ในนิยายตัวเองเท่าที่จะทำได้เหมือนกันค่ะ แต่บางที
คนเราก็มองเห็นจากมุมที่ตัวเองยืนอยู่ แต่ถ้าคนอื่นมองอาจจะเห็นข้อผิดพลาด
บางอย่างที่เราไม่เห็น ก็เลยอยากได้คนช่วยวิจารณ์นั่นแหละค่ะ
ผมก็เป็นเช่นเดียวกับจขกท. มันอาจเป็นเพราะเรามีประสบการณ์มากจนสังเกตเห็นความผิดแปลก
แต่การติดใจทั้งหมดจะหมดไปทันที หากเป็นเรื่องที่เขียนดี เพราะมันจะทำให้มองข้ามไปเอง
นักเขียนฝีมือเยี่ยมทักษะสูง แม้มีจุดผิดปกติให้ติบ้าง แต่ชั้นเชิงการเล่าเรื่องจะทำให้ทุกอย่างสนุก
โดยส่วนตัว แม้บังคับตัวเองให้ไม่คิดมาก แต่อะไรที่มันผิดปกติชัดเจน อย่างไรมันก็ต้องสังเกตเห็น
นั่นแหละเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เลิกอ่าน (ฮา)
บางทีก็แอบคิดว่าหรือเราเป็นคนเยอะเอง บางคนเค้าอาจจะละไว้ในฐานที่เข้าใจรึเปล่า
แต่ส่วนตัวยังทำไม่ได้เท่าไหร่ค่ะ กับงานของตัวเอง ใส่รายละเอียดเยอะจนบางทีก็รู้สึกว่า
มันยาวไปมั้ยเนี่ย แต่ถ้าไม่บรรยายบางจุดก็จะทำให้รู้สึกว่างานไม่สมจริง 555+
ถ้าเจอของเราก็ทักได้เลยนะคะ ไม่มีเหวี่ยงกลับค่ะ เราว่ามีคนติดีกว่าไม่มีคนอ่านค่ะ 555
คงต้องพยายามฝึกเขียนให้สนุกมากพอที่คนอ่านจะมองข้ามบางจุดให้ได้สินะคะ
เราก็เป็นเหมือนคุณ จขกท. นะ แต่ก็เข้าใจว่ากำลังอ่านนิยายอยู่นะ หรือดูหนังอยู่นะ ก็จะพยายามปล่อยๆ ความคิดแบบเป็นจริงออกไปบ้าง
แต่ถ้าบางฉากบางตอนไม่สมเหตุสมผล ถ้ามาบ่อยเกินสามครั้ง(และถ้าเป็นเหตุการณ์สำคัญๆ) ก็จะทิ้งเลยเพราะไม่รู้สึกอินแล้ว ทนความเว้อร์เกินขนาดไม่ค่อยได้
อ่านไปหลายเรื่อง ก็เลยลองดูสิว่าตัวเองจะลองเขียนนิยายเองแบบไม่เกินจริง(นัก) แล้วจะทำให้มันเป็นนิยายสมเหตุผลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้จะเป็นไปได้ไหม
เขียนเรื่องไปได้ประมาณ 20% แบบลำบากพอควร เขียนไปคิดไปว่าจะทำยังไงให้ไม่ดูเกินไป จนดูไม่เป็นนิยายเท่าไหร่ หาเรื่องให้ตัวเองจริงๆ เลย ^^
จริง ๆ โจทย์ที่ว่าทำยังไงให้มัน real แต่สนุกนี่ฟังดูท้าทายดีออกค่ะ
สู้ ๆ นะคะ คุณ รสดา
ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าไม่ได้เขียนนิยาย
แต่ให้ตัวพระเอก นางเอก เขาเขียนไดอารีชีวิตของพวกเขาอยู่
เรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ ตามวันเวลา จนบางทีก็สงสารแฟนคลับว่าเขาจะเบื่อกันไหม ??
เอาจริงๆเราชอบนิยายแบบสมเหตุสมผลมากกว่านะ อันไหนที่ไม่มีเหตุผลเราจะรำคาญมาก
เรื่องไหนมีการใส่ที่มาที่ไป ใส่สิ่งที่ควรจะเป็นในชีวิตลงไปเราจะชอบมากๆเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าคนเขียนมีความใส่ใจ ลแม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ มันทำให้อ่านแล้วอินกว่าเดิมอ่ัค่ะ. เหมือนสัมผัสได้ว่านี่คือเรื่องจริง ไม่รู้สิคะ สำหรับเราคิดว่านิยายเรื่องไหนที่เขียนออกมาเหมือนเรื่องจริงมากที่สุด คนแต่งคือสุดยอดแล้วค่ะ
ทำไมเรากลับคิดว่า....
เป็นหน้าที่ของผู้เขียน ที่จะต้องทำให้ผู้อ่านลืม/ลดความใส่ใจในกรอบของความจริงลงไป
ว่าไงดี แต่งนิยายนี่เราว่ายากนะ ต้องทำให้ทุกอย่างสมเหตุสมผลในความไม่สมเหตุสมผล คือจะไม่มีเหตุผลทุกอย่างล่องลอยไปหมดก็ไม่ได้ เหตุผลมากไปก็เครียด ไม่สนุก ไม่อิน ยิ่งพวกนิยายแนวแฟนตาซี/ผจญภัยฯลฯ เนี่ย...ส่วนตัวคิดว่าหาเรื่องที่ถูกใจยากมากเลยค่ะ...
เข้าใจจขกท.เลย แถมยังคิดด้วยล่ะ ว่าตัวเราเองเนี่ย คิดอะไรมากไปรึเปล่า เรื่องมากจริงๆเลย...แล้วก็กลายเป็นทะเลาะกับตัวเองความคิดขัดกันเอง เวลาเราแต่งนิยายนี่คือนั่งลบแล้วลบอีก แก้แทบจะทุกครั้งที่กลับมาอ่าน ผล....ดองสนิท lllorz
ช่วงนี้กำลังพยายามเลิกคิด ให้มันเพลาๆลงบ้างค่ะ ไม่รู้จะมีผลมากน้อยแค่ไหน แต่จะลองพยายามดูซักตั้งค่ะ
สู้ ๆ นะคะ ขอให้ทุบไหแตกค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?