ขอระบาย...เกี่ยวกับการเลือกมหาลัย และพ่อแม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวเด็กดีทุกคน
พอดีมีเรื่องจะระบาย และปรึกษาด้วยค่ะ
คือเพียงกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อองการเข้ามหาลัยค่ะ ได้ฟังเรื่องราวและคำแนะนำเรื่องเรียนต่อมาก็เยอะ และตัวเพียงเองก็มีความสามารถที่มันเด่นชัดออกมา (แต่ไม่ถึงกับเก่งนะคะ แค่ดีกว่าอย่างอื่น แหะๆ >_<) คือภาษาอังกฤษและศิลปะค่ะ
เพียงฝันว่าอยากทำงานในด้านการโรงแรมมาตั้งแต่ป.หก แต่ช่วงนั้นพ่อแม่อยากให้เพียงเรียนสายวิทย์ คณิตและอยากให้เพียงเป็นพยาบาล เพียงเลยไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกไป และเก็บมันไว้กับตัว
หลายปีผ่านไปจนจบ ม.สาม ก็ถูกชักชวนจากครูประจำชั้นให้ไปเรียนพิเศษทางด้านการออกแบบภายใน ซึ่งศิลปะเป็นเรื่องที่ฉันถนัด (แต่ก็ไม่มาก) พ่อแม่ก็เลยส่งเพียงไปเรียนพิเศษประมาณสองปีและมาสอบ
ปรากฎว่า เพียงสอบไม่ติดคณะมัณฑนศิลป์ค่ะ แหะๆ
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่แม่ที่เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร กลับคุยเรื่องนี้ให้ลูกน้องที่ร้านฟังว่า
....ว่าแล้ว งานศิลเปรอะเนี่ยก็เป็นได้แค่งานอดิเรกนั่นแหละนะ
ฝีมืกระจอก ไร้พรสวรรค์ เรียนมาก็แค่นั้นจะไปสู้คนอื่นได้ยังไง
ไปเรียนคณะบัญชีดีกว่าอีก บริหารอะไรเงี้ยยังจะมั่นคงกว่า...
ฯลฯ
ตอนนั้นตื่นขึ้นมาได้ยินพอดี(กำแพงห้องบาง) เพียงร้องไห้ และไม่กล้าสมัครสอบตรงด้านนี้อีก แม้จะแอบเสียดายสองปีที่ทุ่มเวลาไปกับมันก็เถอะ แต่ก็คุ้มค่าที่ได้วิชาดีๆ ติดตัวมา
เวลาผ่านไปจนจบ ม.หก เพียงสมัครสอบตรงไม่กี่ที่ และก็ไม่ค่อยมีคณะของสายศิลป์เท่าไหร่(อาจจะคิดไปเองหรือหาไม่เจอ?) และก็ไม่มีคณะที่ใช่ เพียงเลยตัดสินใจเตรียมตัวสู่สนามแอดมิชชั่น เพื่อที่จะสมัครคณะการโรงแรมที่ชอบมาตั้งแต่เด็ก
แต่คณะนี้ไม่ค่อยมีในมหาลัยที่กรุงเทพ เลยลองจัดอันดับสี่คณะไว้ที่ ม.ต่างจังหวัดหมด พอคำนวนคะแนนออกมาคร่าว ๆ ในคณะนี้ได้ประมาณ 2X,XXX โอกาสติด 90 เปอทั้งสี่ัอันดับ (ถ้าคะแนนไม่เหวี่ยง)
เอาล่ะ หลังจากเกริ่นมานาน ปัญหามันอยู่ที่....
พ่อแม่เพียงกลับคำพูดซะงั้น ตอนแรกบอกว่าเพียงจะเรียนที่ไหนก็ได้ไม่ว่า ขอให้เรียนจบก็พอ เพราะเป้าหมายของทุกคนก็คือการหาเงิน ดังนั้นลูกไม่ต้องเครียด ไม่บังคับว่าเป็นมหาลัยไหนตามใจลูกเลย
แต่พอใกล้ช่วงแอดมิชชั่นปุ๊บ พ่อแม่ก็เริ่มพูดประมาณว่า...
เรียนไหนก็ได้ลูก แต่คณะบัญชีธรรมศาสตร์ก็ดีนะ
เกษตรบางเขนก็ดีนะ ไปกลับได้ไม่ต้องอยู่หอ
เลือกเอาเลยลูก แต่อย่าไป ม.บูรพานะ ไกลบ้านไป
จนไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นแบบนี้...
ศิลปะมันก็แค่งานอดิเรก แกจะวาดลงไปในสมุด หาดทราย หรือวาดหาเงินกลับบ้านแบบมาสเตอร์แกก็ได้นะ ไปเรียนอะไรที่มันมั่นคงดีกว่า
บ้านแกอยู่รังสิต ธรรมศาสตร์ เกษตรก็อยู่ใกล้ ๆ ก็เลือกแอดที่นั่นเลย จะไปเลือกทำไมต่างจังหวัด ไกลบ้าน ไกลหูไกลตา
แม่เป็นคนส่งแกเรียน ตราบใดที่เงินที่แกใช้เป็นของแม่ แกก็ต้องเลือกเรียนใกล้บ้าน จะไปเช่าหอ?ไร้สาระน่า แค่เงินส่งแกเรียนก็ลำบากพอแล้ว อย่าหาภาระมาเพิ่มได้มั้ย
แกได้คะแนนแอดตั้ง 2xxxx กว่า นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแกสามารถเรียนได้ ชอบหรือไม่ชอบไม่สำคัญ
เห็นมั้ยล่ะว่าแม้สิ่งที่ใช่อาจจะไม่ชอบ แต่สิ่งที่ชอบอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ
v
v
ประโยคพวกนี้ทำเอาเพียงพูดไม่ออกเลยค่ะ เหมือนถูกมีดแทงอกเลยค่ะ
พ่อแม่ไม่อนุญาตให้เพียงเข้าเรียนเอกชน(แม้จะกู้ทุนได้) ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็รู้อยู่ และก็กดดันเพียงอย่างไม่ยาก
ตั้งแต่ตอนเด็ก เพียงก็ถูกปลูกฝังว่าไม่ให้ผิดคำพ่อแม่ อยู่ในกฎที่ท่านขีดไว้ เพียงไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อน ไปไกลสุดได้แค่ฟิวเจอร์รังสิต (ตัวเพียงยู่รังสิต) ไม่เคยกลับดึกเกินหนึ่งทุ่ม สอบได้เกรดดีๆ มาตลอด เพียงถูกจำกัดอิสระทางกายไปแล้ว และนี่เพียงก็กำลังจะถูกจำกัดอิสระทางความคิดไปด้วย...
ถ้ายังเป็นแบบนี้ อีกไม่นานเพียงก็จะได้เรียนในคณะที่ไม่ใช่ และไม่ชอบ เพียงจะทำยังไงดีคะ?
1 ความคิดเห็น
น้องเพียง...น้องช่างน่ารักจิงๆ ไม่เคยไปไหนไกลๆ กลับบ้านไม่เกินหนึ่งทุ่ม น้องจะไปเรียนต่างจังหวัดได้หรือค่ะ บ้านอยู่รังสิต ก็เรียนธรรมศาสตร์สิค่ะ คะแนนแอด 2x,xxx นับว่าสูงอยู่จะไปเรียนม.เอกชนทำไมค่ะ ลองแอดมิดชั่นก่อนดีไหม ลองไล่รายชื่อคณะต่างๆ ดูว่าอันไหนอยูในคณะที่ใช่ ชอบภาษาอังกฤษเรียนศิลปศาสตร์ไหม หรือชอบศิลปะ ก็คณะสถาปัตย์หรือคณะศิลปกรรม ถ้าม.เกษตรก็คณะมนุษย์ศาตร์ สาขาการท่องเที่ยว หรือสาขาภาษาอังกฤษ คืออาจไม่ใช่คณะที่เกี่ยวกับการโรงแรมแต่ก็เป็นคณะที่อยู่ในขอบข่ายที่น้องสนใจ และพบกันครึ่งทางกับพ่อแม่ พี่อ่านดูรู้สึกว่าท่านจะไม่อยากให้เรียนไกลบ้่าน คงห่วงแต่ไม่ยอมพูดตรงๆ ดีๆ พาลไปพูดเรื่องเงินๆทองๆ กับว่าคณะที่น้องจะเลือกเรียนซะงั้น
ลองเลือก ม.ที่เรียนกรุงเทพฯ สัก 2อันดับ อีก 2อันดับเอาแบบตามใจน้อง จะเอา จ.ไหนก็เอา จัดอันดับดีๆจะได้ไม่หลุดแอด ลองต่อรองกับคุณพ่อคุณแม่ อธิบายให้ท่านเข้าใจ พบกันครึ่งทาง
สู้ๆ นะค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?