Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เขาว่ากันว่าเภสัชกรจะตกงานจริงหรือ ? หาคำตอบได้ที่นี่

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
กระทู้นี้ยอมรับทุกความคิดเห็นนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณ 5555

สืบเนื่องจากมีหลายครอบครัวมีความลังเลใจที่จะส่งลูกเรียนเภสัช เพราะกลัวตกงาน บางคนเป็นเอามากถึงขนาดกีดกันลูกไม่เอาเภสัชเพราะบอกว่าเงินเดือนไม่เยอะเท่าสายสุขภาพยอดฮิตของสังคมไทย(อันนี้ความจริงก็แล้วแต่ไม่ว่ากัน) แต่ลองเอามาคิดสักนิดเถอะว่าที่อาชีพยอดฮิตนั้นเค้าได้เงินเยอะกว่าเพราะอะไร แล้วมันต้องแลกด้วยความเสี่ยงอะไรอีกมากมาย
แล้วบางคนก็คิดเอาเองว่าเภสัชผลิตออกมาเยอะ จบไปแล้วจะไปทำงานที่ไหน

เราเป็นคนนึทีมีโอกาสได้รู้จักกับเภสัชกรหลายๆท่าน ทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
มีทั้งคนรู้จักที่เป็นเภสัชกรสายโรงงานเค้าทำงานจนตอนนี้เงินเดือนขึ้นไปถึงระดับแสน(บอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่ดีเทลยานะคะ เภสัชฝ่ายวิจัยสายโรงงานค่ะ แล้วเค้าก็ยังไม่แก่นะคะ ไม่เกิน 35) คนต่อมาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนเราเค้าเป็นเภสัชกรสายบริบาลค่ะจบมาใหม่ก็จับฉลากใช้ทุนได้ แต่พี่คนนี้เค้าไม่หยุดแค่นั้นค่ะรับจ๊อบตามโรงพยาบาลเอกชนอีกหนึ่งที่ เดือนนึงรวมๆกันก็เฉียดแสน คนต่อมาจบเภสัชมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย(เรื่องเงินเดือนไม่ทราบ)เราเห็นพี่เค้าก็มีความสุขดีกับการทำงาน
#อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะมีคนบอกว่าเราพูดถึงแต่เรื่องเงิน ถ้างั้นหลายๆท่านก็ต้องยอมรับความจริงด้วยนะคะว่าทุกวันนี้หลายๆท่านก็ทำเพื่อเงินกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะอาชีพอะไร คนที่รักในวิชาชีพและทำงานในหน้าที่อย่างสุดความสามารถก็มีเยอะแยะค่ะ อันนี้ก็ขอชื่นชม

ตั้งแต่เล่ามาก็เห็นแต่มีแต่คนมีความสุขกับการเป็นเภสัชกร แต่เราก็เจออยู่ท่านนึงค่ะ ที่เค้าชอบบ่นว่า เรียนหมอได้เงินเยอะกว่าอีก บอกเลยนะคะว่าตอนนี้เภสัชท่านนี้ได้เงินรวมๆจากรพ.รัฐแต่ละเดือน ห้าหมื่นกว่าบาท ตอนเย็นกลับมาเปิดร้านยา อยู่ในทำเลดีคนเข้าตลอด กำไรแต่ละเดือนนี่ก็ไม่ใช่น้อย แต่แกดันเอาไปเปรียบเทียบกับอาชีพยอดฮิตที่เค้าอยู่รพ.เอกชน แล้วได้เดือนละ 2 แสน (แต่เภสัชกรท่านนี้จะรู้มั้ยว่าเค้าต้องเสี่ยงกับอะไรบ้าง คนรูจักเราที่เป็นอาชีพยอดฮิตเอกชนก็มีค่ะ ได้เงินเดือนราวๆนี้เลยบอกว่า คนที่เข้ามารักษาในเอกชนเค้ามองอาชีพยอดฮิตเป็นผู้บริการ ถ้าทำพลาดนิดหน่อยก็จะฟ้อง ถ้าไม่พลาดก็โชคดีดีไปถือว่าเงินเดือนเดือนนั้นคุ้มกับบความเหนื่อย ไม่ต้องเสียไปกับการฟ้องร้อง )

#อนิจจาชีวิตมนุษย์นี้ไม่รู้จักพอ แต่ก็แล้วแต่นะคะใครมีความสามารถ ใครต้องการทำอะไรก็ทำไป อย่าให้เดือดร้อนคนอื่นก็พอ


เรามาดูงานที่เภสัชกรสามารถทำได้กันเลยค่ะ
1.เภสัชกร รพ.รัฐ
2.เภสัชกรรพ.เอกชน
3.องค์การเภสัชกรรม อย.
4.โรงงานยา
5.ดีเทลยา
6.อาจารย์มหาลัย ึ
7.เปิดร้านยา
8.ร้านยาวัตสัน บู๊ท บลาๆ
9.ไอเดียดีหน่อย ทำแบรนด์เครื่องสำอาง ยา ของตัวเอง เรามีทั้งความรู้ด้านนี้ดีอยู่แล้ว ย่อมได้รับความเชื่อถือ
10.เภสัช สาธารณสุขจังหวัด

ไม่รู้เหมือนกันว่าอาชีพอื่นเค้ามีเว็บรวมแหล่งหางานแบบนี้มั้ย แต่เภสัชมีค่ะทู้กคน

เว็บ PharmaCafe.com รวมแหล่งหางานแบบเอกชน สำหรับคนชอบอิสระมากกว่าการทำงานรัฐ มีตำแหน่งรับเยอะแยะไปหมด ลองเข้าไปดูนะคะ

ใครจะเป็นเภสัชกรไม่รู้จักเว็บนี้เชยนะคะ 555







แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

เบื่อปั่นกระทู้ 5 พ.ค. 58 เวลา 19:47 น. 1

ขอโทษนะครับ ขอเรียนถามจขกท.หน่อยครับ

จขกท.เรียนจบอะไรครับ ตอนนี้ทำงานอะไร
ใช่เด็กจะแอดมิชชั่นหรือเปล่า หรือเป็นผปค.
เขียนกระทู้นี้เพื่ออะไรครับ

ขอบคุณครับ

3
juniormini 5 พ.ค. 58 เวลา 20:16 น. 1-1

ไม่ได้ปั่นคะ
แต่ปัญหานี้มันเกิดจริงๆ

คือน้องเราที่รู้จักเค้าจะแอดมิดชั่นค่ะ
คือคะแนนน้องอะไม่ถึงทันตะ ความจริงน้องก็ไม่อยากเรียน
น้องบอกว่าน้องจะเลือกเภสัช แม่ก็ไม่ให้ค่ะ เพราะบอกว่าเรียนไปทำไม เดี๋ยวก็ตกานหรอกน่ะค่ะ

เราไม่โกรธความเห็นนี้นะ
ถ้าถือว่าเป็นการปั่น ก็ต้องขอโทษด้วย

แต่หลายๆคนไม่ได้ทำตามฝันเพราะความคิดของผู้ใหญ่น่ะค่ะ

0
juniormini 5 พ.ค. 58 เวลา 20:21 น. 1-2

ถ้ามีความเห็นอื่นๆที่ยังยืนยันว่าเราปั่นจริงๆ

เรายินดีที่จะลบ


แต่เราอยากให้น้องหลายๆคนที่โดนกีดกัน ได้อ่านว่าสิ่งที่พวกเค้าคิดมันถูกบิดเบือนไปเยอะ

0
Limonade 5 พ.ค. 58 เวลา 22:08 น. 1-3

จขทก ปั่นกระทู้ตรงไหนเหรอ ทำไม คห1 ถึงได้มีความคิดแบบนี้
ช่วงนี้ใกล้แอดมิชชั่น เขาก็ให้ข้อมูลให้เด็กไปประกอบการตัดสินใจ
ถ้าปั่นกระทู้ จะดิสเครดิต คงไม่มาโพสบอร์ดคณะเภสัชให้เด็กแห่มาเลือกหรอกมั้ง
ควรจะบอกแต่ด้านแย่ๆ แล้วยกด้านดีๆของสาขาอื่นมาข่มมากกว่ารึปล่าว
ถ้าเด็กไม่ได้มีความสนใจคณะนี้เลยซักนิด คงไม่เข้ามาในบอร์ดหรอก
ถ้าอ่านจบบทความ แล้วยังตีความไม่ได้ถึงวัตถุประสงค์ผู้เขียน ก็เสียเวลา จขทก อธิบายไปก็เท่านั้น

0
เราเข้าใจ 5 พ.ค. 58 เวลา 21:30 น. 2

อื้มจริง เราเห็นด้วยระ แบบ อยากเป็นอะไรก็เป็นเหอะ ถ้าใจมันรักจริงมันก็ไปได้ดีของมันเองแหละ
ถูกป่ะ ทุกอาชีพไม่มีใครยอมอดตายหรอก แถมยิ่งใจมันรักอาชีพนั้น ยิ่งไปได้ไกลด้วย
แบบหลายๆคนอยากเป็นหมอเพราะว่า เออ การงานมั่นคง รายได้ก็ค่อนข้างโอเค เลยอยากเป็น ถามว่าแบบนี้ผิดไหม ก็ไม่ผิดนะ เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
แต่เรานับถือคนที่กล้าเป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็นแล้วเขาทำมันได้ดีมากกว่านะ

คิดว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีมาเพื่อปั่นนะ เราเข้าใจ จขกท.เลย
หลายๆคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพเภสัชผิดๆ หรือไม่ก็ เข้าใจไม่หมดด้วยซ่ำ
เช่นคนทั่วไป เห็น เภสัชอยู่่แค่ตามร้านขายยา กับ ช่องจายยาในโรงพยาบา ก็เหมารวมว่าอาชีพเภสัช ทำแค่นั้น ทั้งๆที่จริงแล้วมันมีมากกว่านั้นมาก
ไม่ใช่แค่เภสัชอาชีพเดียว หลายๆอาชีพหลายๆคณะเลย ยกตัวอย่างเช่น เกษตรงี้
หลายๆคนมองไปถึงว่าจบมา ก็แค่ทำไร่ไถนา ถามว่ามันถูกไหม มันก็ถูกเรื่องทำไร่ไถนา แต่คุณม่ได้เข้าใจมันจริงๆ ว่า เขาไม่ได้แค่ออกไปตากแดดกลางทุ่งนา และก็เอาควายไถนาไปเรื่อยๆซะหน่อยนี่ เขาก็มีวิจงวิจัย งานทางด้านเกษตร นู้นนี่นั่นมากมาย ที่สำคัญอาชีพเกษตรนี้ ก็ถือเป็นหัวใจหลักของชาติเราเลยนะ แต่หลายๆคนก็มองข้ามไป เพราะมีภาพมโนคติในหัวว่า จบคณะนี้มาแล้วต้องมีชีวิต อันลำบากแล้งแค้น ทำไรไถนา นอนกลางดินกินกลางทรายไปวันๆ

0
apotheke 5 พ.ค. 58 เวลา 22:51 น. 3

ยังไม่รู้เลยว่าจขกท.เรียนจบอะไร ตอบหน่อยได้ไหม เผื่อจะได้เชื่อถือ
ทำไมรู้จักเภสัชกรเยอะจัง???
แล้วมีเพื่อนเป็นหมอบ้างเปล่า วิศวะบ้างเปล่า ฯลฯ มาเล่าความดีของอาชีพนั้นๆให้ฟังบ้างสิ

มีความรู้จริงๆ หรือฟังเค้ามา

0
junior 5 พ.ค. 58 เวลา 23:19 น. 4

เราเรียนเภสัชปี 5 ค่ะ
เพื่อนสนิทของพ่อเราเป็นหมอ
ส่วนเภสัชกรที่เราได้อ้างอิงถึงจะอธิบายให้ฟังดังนี้ค่ะ
ท่านแรกเป็นลูกพี่ลูกน้องเราเองค่ะ
ท่านที่สองเป็นลูกพี่ลูกน้องเพื่อนเราค่ะ (เพื่อนเราเรียนหมอ)
ท่านที่สามเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยเราเองค่ะ
ท่านที่สี่ เป็นเภสัชกรที่เปิดร้านยาแถวบ้านเรา เป็นคนที่มีจรรยาบรรณในการจ่ายยามากๆนะคะ อันไหนอันตรายก็บอกว่าจ่ายไม่ได้จริงๆ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์(แต่เสียเรื่องเดียวคือเรื่องที่เราบอก)
เรามีเพื่อนเป็นวิศวะนะ แต่ไม่เคยถามรายละเอียดเพราะมันค่อนข้างคนละสาย (ในนี้เราไม่ได้กล่าวถึงวิศวะนะ)

เราก็สงสัยนิดนึงค่ะ คือบอร์ดนี้มันบอร์ดเภสัชนะคะ
ถ้าเราไปพูดเรื่องแพทย์ วิศวะ บลาๆ คนอื่นเค้าจะมาว่าเรามาผิดบอร์ดรึเปล่าค่ะ

เล่าได้ค่ะข้อดีของอาชีพอื่นๆ เราก็เล่าได้ จะให้เพื่อนเรามาช่วยเล่าด้วยตัวเองก็ได้

เราขอพูดอีกครั้งนะคะ ว่าเราค่อนข้างแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนเราต้องการให้ผู้ใหญ่หลายๆคนได้มองเห็นความจริงบ้าง ผู้ใหญ่เหล่านั้นน่ะฟังเค้ามาทั้งนั้นค่ะ เห็นแค่เพียงภายนอกก็ตีความหมายกันเอาเอง

เราเห็นแก่น้องๆที่เจอแบบน้องเราค่ะ

3
apotheke 5 พ.ค. 58 เวลา 23:42 น. 4-1

ตอนนี้เข้าใจจขกท.แล้ว...ที่เขียนตามข้างบนไปเพราะ

1.เราก็รักเภสัช และคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดแต่เรื่องดี หรือพูดแต่เรื่องรายได้ คนอื่นอาจจะหมั่นไส้ และไม่ใช่ว่าอาชีพนี้จะดีไปเสียหมด ทุกอาชีพก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยในตัวเอง

2.จากข้อความของจขกท.มีการเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น ซึ่งอ่านดูก็รู้ว่าหมายถีงอาชีพหมอ ซึ่งเราเห็นว่าไม่ควรไปพาดพิงถึงอาชีพใดๆ เพราะทุกๆคนก็รักอาชีพของตัว และมีการตัดสินใจดีแล้วจึงเลือกที่จะเรียน อย่าไปเปรียบเทียบกันเลย

3.ทำไมคุณแม่ไม่ให้น้องเรียนเภสัช แต่ให้จขกท.เรียนได้ คิดว่าคงไม่ใช่น้องแท้ๆใช่ไหม

4.คุณแม่เค้าก็ย่อมมีเหตุผลของท่าน เราไม่ควรไปก้าวล่วง ลูกใครใครก็รัก คุณแม่ท่านก็มีเหตุผลของท่าน เรายังไม่อยากให้ใครมาครอบเรา แล้วเราจะไปเปลี่ยนท่านได้อย่างไร

สรุป เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละครอบครัว เราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว และทุกอาชีพล้วนดีหมด ขอให้เก่งจริงในสาขาของตนย่อมประสบความสำเร็จเหมือนกัน อย่าพูดแต่เรื่องดีของอาชีพเราจนไปก้าวล่วงอาชีพอื่น

0
junior 5 พ.ค. 58 เวลา 23:47 น. 4-2

เราบอกข้างบนอยู่นะคะว่าน้องที่รู้จัก

เราไม่โกรธนะ555

0
junior 5 พ.ค. 58 เวลา 23:52 น. 4-3

เรื่องก้าวล่วงอาชีพอื่นก็ยอมรับว่ามันก็มีจริงค่ะ

แต่เราอธิบายชัดนะคะว่าทำไมเค้าถึงได้เงินเยอะเพราะเค้าเสี่ยงไงค่ะ แล้วเราก็ตีแผ่จากคนที่เรารู้จัก คือครอบครัวของน้องคนนี้เป็นครอบครัวหนึ่งที่ถูกกระแสสังคมครอบงำ
เราไม่ได้พูดด้วยนะคะว่าดีกว่า แล้วเราก็ไม่ได้พูดว่าค้าแย่กว่า
แล้วเราก็พูดกำกับทุกครั้งว่า มันก็เป็นเรื่องของแต่ละคน ใครมีความสามารถอะไรก็ทำ ขออย่าให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ

อันนี้เราก็ไม่โกรธนะคะ เพราะเรายอมรับทุกความคิดและทุกข้อสงสัย

0
junior 5 พ.ค. 58 เวลา 23:23 น. 5

เราดีใจมากนะคะที่มีคนเข้าใจเจตนาของเรา
ขอบคุณ คุณLimonade กับ คุณเราเข้าใจ

เรารู้ดีค่ะว่าการมาตั้งกระทู้แบบนี้จะทำให้มีคนเข้ามาตำหนิ หรือคลางแคลงใจ


พร้อมๆกับคนที่เข้ามาให้กำลังใจ ขอบคุณมากนะคะ

3
Bomber 7 พ.ค. 58 เวลา 02:03 น. 5-1

เป็นกำลังให้ จขกท นะครับ
ชอบกระทู้ตีแผ่เกี่ยวกับอาชีพเภสัชกรมาก
ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาบอกจุดยืนของอาชีพเราว่าเราทำอะไรได้บ้าง
เรามีดีอะไรบ้าง อาชีพเราก็คงเป็นอาชีพที่คนอื่นดูถูกดูแคลนไปตลอด

ให้อาชีพนี้ได้พูด ได้เผยแพร่ข้อดีข้อเสียบ้างเถอะครับ เห็นหลายกระทู้มากที่มาแนวนี้จะโดนตำหนิว่าเปรียบเทียบกับคณะนู้นคณะนี้บ้าง เหน็บแนมสารพัดสารเพ

อยากบอกอีกอย่างนึงคือ หลายคนก็มากบดานอยู่คณะเภสัชฯ เพื่อซิ่วไปคณะแพทย์ กับ ทันตะ ก็บ่งบอกแล้วว่ามันมีความหมายว่าอะไร แทนที่คนที่อยากเป็นเภสัชจริงๆ จะได้มานั่งเรียนกลับถูกคนพวกนี้มานั่งทับที่ จนภาพลักษณ์คณะนี้เสียไปหมด ถูกมองว่าเป็นคณะที่มีแต่คนอยากเป็นหมอแต่สอบไม่ติดบ้าง (มองในอีกด้านที่ไม่โลกสวยมันเป็นจริงในสังคม ถูกไหม หรือไม่จริง)


บางทีก็หมดกำลังใจ แต่ก็ยังเชื่อมั่นในอุดมการณ์
#เลือดเขียวมะกอกในตัวมันพลุ่งพล่านเลยครัช
โกรธแล้วนะ

ป.ล.พิมพ์ผิด พิมพ์มั่ว อ่านไม่รู้เรื่อง ขออภัยด้วยนะครับ ง่วงนอนจริงๆ

0
junior 7 พ.ค. 58 เวลา 12:42 น. 5-2

เรื่องจริงสมัยนี้ เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ ตามความเห็นนี้เลย
อยากให้เด็กๆทำอะไรด้วยใจรักเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าเนาะ คือเราก็คงทำได้แต่นี้ค่ะ เพราะใครอยากจะทำอะไร อยากจะเป็นอะไร เราก็คงไม่มีอิทธิพลขนาดนั้น


เราอ่านรู้เรื่องค่ะคุณBomber คุณไม่ได้พิมพ์ผิดพิมพ์มั่วหรอกค่ะ 555

0
Limonade 5 พ.ค. 58 เวลา 23:42 น. 6

ไม่เคยเห็นหรอ หลายๆกระทู้ มาถาม เรียนไรดี เภสัช กับสัตวแพทย์
คือเรียนคนละสาย งานคนละอย่าง ต่างกันคนละโลก อยากเรียนสัตวแพทย์
แต่บอกว่า ที่บ้านให้เลือกเภสัช คิดว่าหางานง่ายกว่า สัตวแพทย์(ตรงนี้เคยเข้าไปตอบกระทู้น้องเขา เปิดโลกให้ข้อมูลหลายๆด้าน)
เว็ปนี้มีเด็ก ม.ปลาย เยอะ บางคนก็ไม่รู้ข้อมูลของคณะเลย เภสัช4ปี ต่างจาก6ปี ยังไง เคยเห็นไหม ถามว่า เรียนศิลป์คำนวนเรียนเภสัชได้ไหม บริบาลกับเทคโนต่างกันอย่างไร เภสัชล้นตลาดจริงเหรอ ร้านยาเกลื่อนเมือง อนาคตจะตกงานไหม
หลายคนที่เขารู้ ก็อยากจะอธิบาย ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแต่ละด้าน 
ให้เด็กประกอบการตัดสินใจ เลือกสาขาที่ตนคิดว่าเหมาะสมที่สุด
ส่วนเรื่องที่พูดเรื่องเงิน คือมันเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาของเด็กสมัยนี้ เพราะมีเด็กมาถามทุกปีเรื่องเงินเดือน ช่องทางการทำงาน จะเอาแต่เรียนที่ชอบอย่างเดียวสมัยนี้มันไม่ได้แล้ว ความชอบคนเรามีเป็น10อย่าง แต่ก็ต้องดูตลาดงานด้วย จะให้จบไปเตะฝุ่นก็ไม่ใช่เรื่องป่ะ ซึ่งตรงนี้จขทก ก็มาให้ความรู้ เพราะผู้ปกครองและเด็ก รวมถึงผมเมื่อก่อนก้ไม่รู้เลยว่าทำงานที่ไหนได้บ้าง วิชาชีพไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์โดดเด่นไร ตั้งแต่เกิดจนจบ ม.ปลาย เจอเภสัชที่ ช่องจ่ายยาโรงพยาบาลกับ ร้านขายยา ที่บางร้านก็ไม่ใช่เภสัช ตอนจะสอบเข้าถึงมาหาข้อมูล พึ่งรู้ตอน ม.6ว่า มีทำงานโรงงานด้วยนะ หลากหลายแผนก และอีก7อย่างที่ จขทก บอก

0
junior 6 พ.ค. 58 เวลา 09:19 น. 7

ถ้ามีน้องๆที่มีความตั้งใจจะเป็นเภสัชจริงได้อ่าน
เมื่อจบไปขอให้น้องตั้งมั่นในความดี ความซื่อสัตย์
ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ พอดีเห็นคุณLimonade พูดเรื่องเคยเจอร้านยาที่ไม่มีเภสัช


พี่เลยอยากจะขอบอกน้องๆว่า อย่าเป็นเภสัชแขวนป้ายเด็ดขาดนะ มันจะทำให้คนอื่นเค้ามาดูหมิ่นศักดิ์ศรีเราได้ อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย เราจะปล่อยให้คนไม่มีความเรื่องยามาทำหน้าที่แทนเราได้ยังไง


ถึงตอนนี้เราจะยังไม่จบไปเป็นเภสัชกร ถ้าพบเห็นการแขวนป้าย
ก็โทรแจ้งได้นะ
สายด่วนอย. 1556 ค่ะ

2
มิ้ว 6 พ.ค. 58 เวลา 23:31 น. 7-1

เเขวนป้ายคืออะไรหรอค้ะ พี่ เเบบหมายถึงอะไรประมาณนี้ค้ะ #หนูไม่รุ้เเละไม่เข้าใจค้า ??

0
junior 7 พ.ค. 58 เวลา 00:42 น. 7-2

คือการที่เอาใบประกอบไปวางตามร้านยา (มีไว้แค่ประดับให้ดูน่าเชื่อถือ) แต่จริงๆแล้วคนจ่ายยาในร้านนั้นไม่ใช่เภสัชกรค่ะ
แล้วเภสัชเจ้าของก็จะได้รับเงินตอบแทนจากการที่มาวางแค่ป้ายค่ะ

0
พูดไม่ค่อยเก่ง 6 พ.ค. 58 เวลา 23:46 น. 8

เป็นกระทู้ที่มองได้หลายมุมนะครับ(ทั้งมุมดี มุมไม่ดี มุมดราม่าก็ได้)
ก็คงต้องยอมรับนะครับว่าผู้ปกครองทุกคนก็อยากที่จะให้บุตรหลานของตนได้ในสิ่งที่ตนเองนั้นคิดว่าดีที่สุดแหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ทำแล้วรายได้สูง และมีหน้ามีตาในสังคมด้วย ฉะนั้นผู้ปกครองบางท่านก็อาจจะไปโฟกัสเรื่องเงินค่อนข้างมาก กระทู้นี้ก็เป็นอีกที่นึงครับที่สามารถนำไปบอกให้ทางบ้านทราบได้ว่าวิชาชีพนี้ก็มีรายได้ที่สูงได้(แต่ไม่ใช่ทุกคนนะครับ)
ส่วนคนที่จะเข้ามาเรียนในคณะนี้นะครับ(ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม) ผมไม่อยากให้ไปโฟกัสเรื่องเงินเรื่องรายได้มากเกินไป เมื่อเข้ามาแล้วควรที่จะหาตนเองมากกว่าครับว่า เรานั้นชอบหรือถนัดในสาขาไหนมากกว่า แล้วจะนำความรู้ไปใช้ในสาขานั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่วิชาชีพ และสังคมต่อไปอย่างไรมากกว่า ซึ่งไม่ว่าจะสาขาไหนรายได้ก็ถือว่าพอใช้ได้แหละครับ(ส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้นครับ)
ส่วนเรื่องจบมาแล้วตกงานหรือไม่นั้น ตรงนี้พูดยากนะครับ เพราะมันขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างครับ
ถ้ามีโอกาสคงได้พูดกันต่อไปครับ

0
ใจเย็นนนน 9 พ.ค. 58 เวลา 09:56 น. 9

ไม่ตกนะ พ่อเราเป็น 55+ (แต่เรื่องรายได้แล้วแต่ความขยันกับความสามารถ)วิชาชีพพวกสุขภาพอย่าไปคิดเรื่องรายได้เป็นปัจจัยหลักเลย

0