Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

บินลัดฟ้าตามหาฝัน ฟิ้วๆ3 ตอนความอดทน

ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีตอนกลางคืนดึกนะค้าา นี่ต่อจากสองกระทู้ที่แล้ว อันนี้อันแรก http://www.dek-d.com/board/view/3500787/ ส่วนอันนี้อันที่สองนะคะ http://www.dek-d.com/board/view/3500826/ ลองเข้าไปดูกันได้เลย เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ  วันนี้จะเชมาเล่าเรื่องราวของตัวเองที่เจอแล้วแบบต้องร้องโฮกันเลยทีเดียว  ประมาณว่าเพื่อนๆคนไหนที่จะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนปีนี้หรือคิดที่อยากจะเป็นขอแนะนำให้ลองอ่านดูเลยค่ะ  55555555555 คืออีตอนแรกอ่ะนะคะเราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้โอ้ยแบบเศร้าร้องไห้โฮๆเลย 55555 เล่าละ คือเรื่องมีอยู่ว่า เรามานี่1 ปีใช่มั้ยคะ คือตอนแรกนี่ไม่คิดหรอกเรื่องอาหารเนี่ย แต่พออยู่นานๆไปคือโคตรคิดถึงอาหารไทยมากมากของมากๆ จนมันทำให้รู้สึกว่าอาหารไหนก็ไม่ดีเท่าอาหารไทยเราอีกแล้ว 5555555555 คือแบบโฮสของเราไม่เค้าไม่ชอบอาหารไทยเพราะมันเผ็ดมาก เราชอบกินอาหารเผ็ด โฮสเราพยายามหาอาหารเผ็ดๆมาให้แต่ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้เรารู้สึกเผ็ดเลย โฮสแบบนี่ลิ้นเธอมีปัญหาหรือเปล่า  คือเปล่านะแค่มันไม่เผ็ดเลย55555555555 แล้วมันทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่างมากเลย เช่น เราต้องยอมรับมันแค่ปีเดียวเองแล้วอีกอย่างก็ฝึกความอดทนของเราด้วย ยอมรับเลยนะคะว่าเราก็มีโฮมซิคบ้าง คิดถึงพ่อแม่ เพื่อน และทุกๆอย่าง แต่เราก็กลับมาคิดว่าเราก็อยู่กับพ่อแม่ของเราไปไม่ได้ตลอดค่ะ มีเพื่อนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนเรานี่แหละค่ะ เค้ามาจากอิตตาลี่ คือเค้าเป็นคนนิสัยดีนะคะ แต่มันมีอยู่จุดนึงที่ทำให้เค้าอยากกลับบ้านมาก เค้าคิดถึงบ้านมาก สุดท้ายเค้าก็ต้องกลับบ้านไป ส่วนตัวเองคิดว่ามันไม่ถูกเลย เอาจริงๆคือเค้าอยากไปอยู่เมืองที่ดีกว่านี้อยากเที่ยวอยากช้อปปิ้งอย่างนี่ แต่การเป็นนักเรียนแลกเปลี่นยคือมันต้องยอมรับทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะได้อยู่ในเมืองใหญ่หรือเมืองเล็ก ในเมื่อเรามีโอกาสแล้วทำไมเราเลือกที่จะตัดมันไม่ยอมรับมันละคะ จริงมั้ย มีน้อยคนนะคะที่จะได้มาแลกเปลี่ยนบางคนเค้าอยากมาใจจะขาดแต่เค้าก็มาไม่ได้แต่บางคนอย่างเคสเพื่อนคนนี้แหละค่ะ มีโอกาสแต่กลับตัดโอกาสนั้นทิ้งไปสูญเปล่าต่อหน้าต่อตา การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคนมีชีวิตที่แตกต่างกันไปค่ะ มันไม่มีใครหรอกนะคะที่จะมีชีวิตที่หรูหรามากเหมือนทุกอย่างโรยด้วยกลีบกุหลาบ มันไม่ใช่เลยค่ะ บางคนชีวิตอาจจะดีมากเจอโฮสที่ดีมากคือแบบรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแต่เชื่อเถอะค่ะในเรื่องดีๆนั้นมันก็ต้องมีเรื่องไม่ดีเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจเสมอ มันสอนหลายอย่างมากค่ะ สำหรับตัวเราเองเราก็คิดนะคะว่าเราเป็นคนใหม่ เรายอมรับเลยว่าเนี่ยเราเปลี่ยนไปมากพอสมควรเหมือนกันค่ะ จริงๆก่อนมาเราเป็นคนที่คิดมากมากๆแคร์ไปสะทุกอย่างเลยจนบางครั้งเราคิดว่าทำไมเราต้องเป็นแบบนั้น แล้วพอมาที่นี่คือแบบมันเฉลยทุกๆอย่างเลยค่ะ คนที่นี่นะคะไม่มีใครแคร์ใครเลยค่ะ เค้าไม่มัวมานั่งคิดมากจนทำร้ายตัวเองไม่มีเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่แคร์ใครเลยนะคะ มันแค่สอนเราว่าแคร์คนที่เราควรที่จะแคร์มากกว่า บางครั้งอะไรที่ทำให้เราไม่สบายใจเลย ทำให้เราคิดมาก มากๆ ท้อค่ะตอนนั้นเราท้อ แต่เราคิดว่าเราต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะ ถ้าเราผ่านมันได้นะคะเราจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก ยิ่งถ้าเราโตไปมากกว่านี้นะคะเราจะเจอโลกหลายโลกมากทั้งคนที่จริงจังกับเราโลกที่แคร์เราโลกที่เราแคร์ค่ะ เชื่อว่าหลายๆคนต้องผ่านมันไปได้ค่ะ จากเราเป็นคนที่คิดลบไปเกือบสะทุกอย่าง แต่อยู่นี่ขอบอกเลยนะคะว่าถ้าเรามัวแต่คิดลบนี่อยู่ไม่ได้จริงๆทุกอย่างต้อง + ค่ะ ! ตอนอยู่ใชไทยนี่เราเป็นคนขี้เกียจมากเลยนะแบบขี้เกียจอ่านหนังสือขี้เกียจทำงาน แต่พอมานี่ด้วยความที่เราต้องพัฒนาภาษาของเรา เราก็ต้องขยันมากๆค่ะ เรื่องการเรียนก็เหมือนกันถ้าเรามัวแต่คิดว่ามาเนี่ยไม่ต้องสนใจเรื่องเรียนมากก็ได้ บอกเลยนะคะเราก็จะไม่ได้ไรมากเลย การเรียนเป็นส่วนที่ช่วยพัฒนาภาษาของเราค่ะ เรียนง่ายกว่าก็จริงได้เกรดง่ายก็จริงแต่ถ้าเราไม่ขยันนะคะ F ลอยมาเลยค่ะ จริงๆมานี่เราได้ F วิชานึงด้วย จริงๆนักเรียนแลกเปลี่ยนนี่ห้ามได้ F เลยนะคะ แต่รู้มั้ยคะวิชาไร วิชาภาษาอังกฤษของอังกฤษนี่แหละค่ะ คือมันเรียนเหมือนเราเรียนวิชาภาษาไทยเรียนเจาะลึกไปอีกหลังการบลาๆ ยากมากแล้วเค้าเอาเราไปเรียนของ Senoir คือม.6 อ่ะนะคะ แบบยากมาก ตอนนั้นแหละค่ะที่ทำให้เราลองฮึ้บ! ขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยเพราะครูเขาไม่เข้าใจเราด้วยค่ะ ตอนนั้นแบบท้อล่ะท้อมากทำไงจะถูกส่งกลับมั้ย เลยตัดสินใจลุกขึ้นสู้แล้วเปลี่ยนคลาสค่ะ เลยเกรดก็ดีขึ้นมาเป็น B เลยค่ะ ขอบอกเลยว่าตอนนั้นนี่ท้อมาก -เราก็ไม่กล้าบอกแม่ที่ไทยด้วยอ่ะนะคะเพราะกลัวเค้าแบบเป็นห่วงตอนนั้นเราแอบไปร้องไห้คนเดียวหลายครั้งมาก แต่เอาเถอะผ่านมาละ คือเราผ่านจุดร้ายๆมาหลายจุดมากๆแต่เราก็ผ่านมาได้นะคะ มีอยู่ครั้งนึงค่ะเรื่องนี่สอนเราแบบมากๆ สอนให้เราเห็นหลายอย่างมาก คือตอนนั้นเราไปทริปกับทางโครงการค่ะ เราต้องไปเดินขึ้นเขาลงเขาแบบคืออีตอนเดินลงไม่เท่าไหร่ค่ะแต่พอตอนเดินขึ้นนี่สิ แล้วคือทางมันเป็นหิมะค่ะแบบรองเท้าเราก็ไม่ช่วยไรเลยตอนนั้นใส่ไปแค่ผ้าใบธรรมดา ทั้งเรียนทั้งเปียกเท้าทั้งหนาว คือตอนนั้นคิดแบบเราตายแน่ตายตรงนี้แน่ๆไม่ไหวแล้วเหนื่อยมากคือเดินตามหลังเพื่อนค่ะ แต่ตอนนั้นเราเดินกับรุ่นพี่ของเราคนนึงเป็นคนไทยเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นเราสองคนแบบ ฮึ้บๆ บ้างล่ะ พอฮึ้บได้ 5วิ ก็โอ้ย พอโอ้ยก็ฮึ้บสลับกันไป จริงๆนะคะตอนนั้นไม่คิดว่าจะได้กลับไปเลยแบบเหนื่อยมากคือถ้าทางไม่มีหิมะนี่เราไปได้สบายมากแต่นี่คือไร คือถ้าพลาดทีนี่ตกตาย-_- แต่แม่งก็ผ่านมาได้ค่ะ ตอนนั้นเราฟังเพลง วัดใจ ค่ะ เราสองคนกับรุ่นพี่นี่คือเดือนไปร้องไปแบบ จนทำให้เรามีแรงจริงๆฮึ้บๆเดินจนถึง คือสอนเยอะมากจากสถานการณ์นี้คือเราต้องอดทนมากๆค่ะ มากของมากที่สุด คือยอมรับนะคะว่าก็เคยไปเดินเขาหลายๆที่ แต่คือทีนี้มันแบบทรมารณมาก หิมะ ลื่นก็ลื่น จริงๆเป็นคนที่อดทนกับอะไรแบบนี้ไม่ได้เลยนะคะ แต่แม่งก็ต้องอดทนแล้วต้องผ่านมันมา เฮ้อนึกแล้วยังเหนื่อยเลย555555555555555 เอาเป็นว่าเพื่อนๆคนไหนที่คิดกำลังท้อหมดแรงนะคะ ขอบอกไว้เลยนะคะถ้าเราอดทนแล้วยอมรับมันนี่เชื่อเถอะจุดหมายปลายทางมันสวยงามเสมอค่ะ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ พี่ตูนกล่าวไว้ค่ะ สู้นะคะทุกคน ไว้เจอกันกระทู้หน้าอีกนะคะ ขอบคุณทุกคำติชม ไม่ว่าจะเป็นทางเฟสทางไลน์  ไว้เจอกัน อรุณสวัสดิ์นะคะ^^ 

แสดงความคิดเห็น

>