เรียนสายภาษา มีงานรองรับอะไรบ้างหรอคะ(?) พอดีว่า ม.4 จะลองสอบเข้าห้องสายภาษาดู
ตั้งกระทู้ใหม่
คือว่าเรา ตอนนี้ อยู่ ม.3 ค่ะ เรียนห้องวิทย์-คณิต ปกติ แล้วคือ ม.4 มันต้องเลือกสาย .__. กำลังเครียดอยู่ค่ะ พ่อแม่ คาดหวังมาก อยากให้เรียนหมอ ทันตะ เภสัช คือถามว่าเราอยากเรียนไหม ก็ 70:30 ค่ะ คือว่าเราชอบเรียนภาษาด้วย ชอบวิทย์ด้วย แต่ เราได้เกรด 2.5 คณิต มาตลอดค่ะ เลยคิดว่ากลัวไปไม่รอด และที่อยากเรียนรองลงมา คือ ธุรกิจการบินค่ะ อยากเป็นแอร์ ไม่ก็ล่าม ไกด์ ครูสอนภาษา เพราะว่าตัวเองชอบภาษาจีน เกาหลี อังกฤษ เรียนสายภาษาจะดีไหม คือกลัวพ่อแม่ ว่าด้วย ว่าเรียนสายภาษาจบมาได้อะไร TT อธิบายให้ท่านฟังไม่ถูกด้วยค่ะ เพราะเป็นเด็กที่โดนพ่อแม่บังคับมาตลอด เชื่อฟังมาตลอด ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ว่าจะเรียนสายไหนดี TT
-เรียนสายภาษามีงานรองรับ ที่รายได้ดีๆเยอะมั้ย
-สูง 157 เรียนแอร์ฯคงยากสินะคะ TT มีสายการบินไหน
รับบ้างเนี่ย 55
... พิมพ์ผิด หรือใช้คำพูดใดไม่เหมาะสม ทำให้ผู้อ่านงงงวย ขออภัยด้วยนะคะ TT
MylittleBeammie
11 พ.ค. 58 เวลา 19:59 น.
299
views
4 ความคิดเห็น
เป็นไกด์ไงค่ะ ไม่ก็เป็นเป็นครูสอนภาษา คึคึ
- ต้องจบป.ตรี ก่อน จบอะไร งานเยอะไหม ค่อยว่ากัน ถ้าอยากเป็นครู ก็เรียนครู สอบบรรจุไม่ได้ ก็เป็นอัตราจ้าง หรือ สอนเอกชน หรือ ติวเตอร์ ยังได้
ถ้าแค่ม.ปลาย ทุกสายเหมือนกันกับงานที่ทำได้ถ้าจบม.ปลาย ไม่เหมือนกับสายอาชีพ
-ไม่เคยเห็นนะ
เรียตามที่ตัวเองชอบดีกว่านะแก เราก็มอสี่ เราลงภาษาเรียบร้อยละ ชอบเหมือนแกทุกอย่าง เราก็เรียนตามตัวเองชอบ ตามที่ถนัด ถ้าแกตามใจพ่อแม่นะ ระวังเป็นแบบพี่เรา เรียนวิทย์-คณิตตามใจพ่อแม่ พอจะจบม.ปลายดันไม่ชอบ เริ่มไม่ไหว ทีนี้ละไปไม่เป็นเลยน้าา เอาตามที่ตัวเองชอบดีกว่า ละไปอธิบายกับพ่อแม่เอาว่าถ้าเรียนแบบท่านหนูอาจจะจบอนาคตก็ได้นะเพราะไม่ถนัดด้านนี้ ไรงี้อะ ของเราๆก็เถียงท่านไปเยอะเลยท่านกว่าจะยอม สู้ๆนะค้า
วิทย์คณิตโหดนะคะ พี่เจอมาแล้ว เรียนไปหนึ่งปีซิ่วมาศิลป์ญี่ปุ่นเลย 555
รู้ตัวเองดีว่าเป้าหมายชีวิตคืออะไร เลยตัดสินใจซิ่วเร็วขึ้น จขกท.เองก็รู้ตัวว่าอยากเรียนอะไรอยู่แล้วนี่ ระหว่างเภสัชกับแอร์
สายการบินต่างประเทศมีรับค่ะ สูงไม่ถึง 160 รู้สึกจะเป็นญี่ปุ่นหรือไงไม่รู้ เพราะเขาทำคอนเซ็ปต์ว่าแอร์โฮสเตสไม่ต้องสูง โปร่ง แต่ขอให้น่ารัก ตัวเล็ก 555 แต่จขกท.มีโอกาสสูงได้อีกนะคะ กินนมแล้วก็ออกกำลังกายยืดตัวบ่อยๆ ค่ะ เดี๋ยวก็สูง
พี่ไม่อยากให้จขกท.คิดนะคะว่าลงเรียนวิทย์ไปก่อนเพื่อพ่อแม่ เพื่ออาชีพที่กว้างขวาง เพราะภาษาน่ะเรียนเมื่อไรก็ได้ อย่าคิดแบบนี้ค่ะ เพราะถ้าจขกท.จบมัธยมแล้วจะเบนสายมาภาษา ขอบอกเลยว่าต้องสู้กับพวกเด็กศิลป์เยอะมาก ภาษาคือการสะสมความรู้และมันเปลี่ยนไปได้ตลอด พัฒนาได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนวิทย์คณิตที่เน้นทฤษฎี จขกท.เคยได้ยินเด็กวิทย์บ่นกันไหมคะว่าเรียนแต่ทฤษฎีไปแล้วใช้ทำอะไรไม่ได้ พวกวิทย์คณิตเนี่ย ถ้าไม่เคยได้ยิน ก็ได้ยินซะเลยวันนี้จากปากพี่นี่แหละ มันเป็นเรื่องจริงค่ะ ไม่งั้นพี่ไม่ตัดสินใจซิ่วหรอก 555 แต่ภาษาน่ะ น้องคิดดูดีๆ นะคะว่าเราต้องใช้ ต้องสื่อสารตลอด ยิ่งอาเซียนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นมันก็ยิ่งสำคัญค่ะ เรียนภาษาไปได้ใช้แน่นอน พี่คอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นค่ะ
ปล.เด็กวิทย์คณิตบางคนที่บอกว่าเดี๋ยวไปเอาอังกฤษเพิ่มข้างนอกก็ได้น่ะ เขาต้องพยายามหลายเท่ากว่าจะเก่งได้นะคะ เด็กวิทย์ที่พี่เคยเจอส่วนใหญ่อ่อนแออังกฤษมากมาย ที่ว่าจะทำให้ตัวเองเก่งอังกฤษขึ้นให้ได้น่ะแทบไม่มีผลอะไรเลยเพราะเขาทุ่มเทให้ภาษาได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็น เนื่องจากวิทย์คณิตเน้นหนักที่ 4 วิชา คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เมื่ออยู่สายนี้การบ้าน 4 วิชาก็เยอะ โครงงานก็มาเต็ม สอบนู่นนี่นั่นตั้งเยอะตั้งแยะ การแข่งขันก็สูงด้วย จขกท.เคยสังเกตไหมคะว่าในโรงเรียน เด็กสายวิทย์จะเยอะกว่าสายศิลป์เป็นเท่าตัว (โรงเรียนเราและอีกหลายๆ โรงเรียนเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าโรงเรียนจขกท.เป็นแบบนี้หรือเปล่า) ดังนั้นเรียนสายวิทย์ไปทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่ได้อยากเป็นในทางสายวิทย์ก็จะลำบากมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็กังวลกับการแข่งขันกับคนอื่นตั้งมากมายนี่แหละค่ะที่พี่เคยเจอ 555
ขอบคุณค่าา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?