Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถึงน้องสอบหมอกสพท.59 ที่กำลังจะสอบอีกไม่กี่เดือน #พักมาอ่านแปบ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พี่เป็นจขกท : ข้อแนะนำในการเตรียมตัวสอบแพทย์กสพท. จากพี่กสพท58 ฝากถึงน้องรุ่นต่อๆไป นะค้าบ
ก่อนจะสอบวิชาสามัญสิ้นปีนี้ กับความถนัดแพทย์ที่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ขอฝากอะไรให้คิดเล็กๆน้อยๆ

(พี่ว่างครับ)

ตอนช่วงใกล้เอ็นท์แบบนี้ มักจะมีรุ่นพี่มหาลัยมาแนะนำการเตรียมตัวสอบหมอให้ที่รร.จนเบื่อ เพราะคำถามยอดฮิตว่า 'ทำไงถึงจะติด' 'พี่มีวิธีเตรียมตัวยังไง' สุดท้ายคำตอบก็เดิมๆ คือ 'ตั้งใจเรียนในห้อง อ่านนส.มากๆนะน้อง' .. ตอนนี้พี่เข้าใจแล้วว่ามันก็แค่นั้นจริงๆอะ มันไม่มีหรอกนะ คำว่า 'สูตรสำเร็จติดหมอ' หรือ 'เคล็ดลับสอบติดหมอ' มีแค่วิธีตรงๆคือถึกทน อยากได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่เคยมีทางลัด มีแค่ทางตรงๆ แต่อาจจะสูงชันหน่อย

ก่อนหน้านี้พี่ก็พลาดมาเยอะนะ สอบสาธิตฬตอนป.1 ไม่ติด สอบสาธิตปทุมวันตอนม.1ไม่ติด สอบมหิดลตอนม.4ไม่ติด สอบหมอขอนแก่นตอนม.6ไม่ติด คือพลาดมาตลอดแหละครับ ถามว่าตอนนั้นพร้อมมั้ยก็พอได้นะ แต่พอดีคนอื่นเค้าพร้อมกว่า แต่ทั้งหมดนั้นก็ช่างแม่งอะ เพราะสุดท้ายความผิดพลาดพวกนั้นก็สอนเรา ความผิดพลาดมันไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรง ถ้าได้เรียนรู้ ที่ผ่านมามันทำให้พี่รู้ว่าต้องพัฒนาอะไร อ่านนสยังไงให้เป็น ที่สำคัญคือจะไม่พลาดจุดเดิมๆ ล้มซ้ำแผลเดิมๆอีก

พี่เชื่อว่าหลายๆคนที่สอบหมอจะมีความคิดเหมือนกันอย่างนึงว่า อ่านไปจะติดมั้ย? ถ้าไม่ติดอะ? ที่ทุ่มอ่านไปทั้งหมดคือไร้ประโยชน์หรอ? อารมณ์นี้พี่ก็เป็นเหมือนกัน แต่ก็ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าเต็มที่อย่างเดียวพอกับการสอบหมอ เลิกคิดเลยว่าจะติดมั้ย พี่ไม่ใช่คนเรียนเก่งมาก แล้วพี่ก็เกลียดหลายๆวิชาที่ต้องสอบ แต่เชื่อดิว่าการเรียนเก่งหัวดี มันไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเลยในการเรียนหมอ เราเลือกไม่ได้หนิ แต่อย่างน้อยก็เลือกที่จะพยายามจน'สุดตัว'ได้ไม่ใช่หรอ ถามตัวเองว่าจริงจังกับมันยัง? จริงจังแค่ไหน? แค่ไหนเรียกจริงจัง? 

แน่นอนว่าสอบเยอะถึง7วิชา เราคงไม่ได้ถนัดทั้ง 7วิชา หรือชอบทั้งหมด บางทีก็ต้องทนกับวิชาที่เกลียด หรือบางทีเราก็รู้อยู่ว่าไม่ได้ใช้ในการเรียนหมอ แต่จะทำไงได้ในเมื่อมันต้องใช้สอบเข้า ทำได้แค่ปรับทัศนคติและเปิดใจกับมันปะ พี่ไม่ชอบเคมี เรียนไปไม่สนุก อะไรก็ไม่รู้ เนื้อหามันดิ้นได้ตลอด ไม่มีความแน่นอน แต่มันต้องทำเพราะมันก็คือ 9.33%ในการสอบเข้า พี่ก็ทำไปเรื่อยๆ บางเรื่องมันก็สนุกนะ ก็เริ่มเอากะมันได้บ้าง อย่าลืมนะ เปิดใจ กับมัน

หัวใจสำคัญในการเตรียมสอบหมอ ขอแค่3ข้อก็เพียงพอแล้ว 1.ใจรัก 2.วางแผน 3.ขยัน
การมีใจรักนี่โคดสำคัญเลย พี่เคยอยากเข้าแพทย์ด้วยสาเหตุง่ายๆคือเงินเยอะ ตอนนี้เริ่มเข้าใจไรมากขึ้นนะ ว่าไม่ใช่ อาชีพอื่นที่รวยกว่าเยอะแยะ ทุกคนเข้าใจผิดแล้ว มีคนบอกว่า หมอไม่ได้ร่ำรวยไรขนาดนั้นหรอก ถ้าเทียบกับสิ่งที่เราต้องเสียสละ ถ้าเทียบกับการเรียนที่แสนยาวนาน ถ้าเทียบกับการสละเวลาส่วนตัวไปกับการอยู่เวรข้ามคืน ถ้าเทียบกับสุขภาพหรือคุณภาพชีวิตที่อาจจะถดถอยลงไปตอนเรียนหรือตอนทำงาน ดังนั้น คำว่า 'ใจรัก' อย่างเดียวแหละที่เป็นประตูด่านแรก คนเราชอบอะไร ใจรักในสิ่งไหน ต่อให้เหนื่อยขนาดไหนเราก็ยอมปะ แต่เรื่องนี้ทุกคนมักจะไม่คิด เพราะคิดแต่ว่า 'ขอให้กูสอบติดก่อน' หยุดคิดหน่อยก็ดีนะ ว่าเราพร้อมแล้วหรอ ที่จะเหนื่อยกับมันไปตลอดชีวิต ตอนนี้มันแค่เริ่มต้นเอง เครียดอะเด๋วต้องเครียดแน่ๆ แต่เครียดแล้วจะมีความสุขหรือเครียดแล้วไม่มีความสุข?

ส่วนอีกสองข้อคือ วางแผนกับขยัน ก็อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ที่แล้วนะ คือเลิกอ่านสเปะสปะได้แล้วจะสอบแล้ว วางแผนได้แล้วว่าจะอ่านจะฝึกยังไงให้ทัน ให้ไม่ลืม อะไรต้องมาก่อน อะไรต้องรีบฝึก อะไรน้ำหนักเยอะแต่ยังไม่เคยเน้นกับมันเลย อะไรที่อ่อนแล้วต้องรีบงัดขึ้นไม่งั้นจะชิบหาย อะไรที่ฝึกทำแล้วมันคุ้มคะแนนแน่ๆแต่ยังไม่ทำสักที พอคิดได้แล้วก็ขยันให้ถึงที่สุด โดยเลิกคิดถึงผลลัพธ์ได้แล้ว
สรุปคือ ใจรัก,วางแผน,ขยัน แค่นี้พอ ท่องไว้ตลอดนะน้อง มันแค่นั้นจริงๆ

ใครที่ไม่ได้เรียนพิเศษ ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าถ้าคนอื่นมีโอกาสดีกว่าเราสองเท่า เราก็ดิ้นรนให้มากกว่าคนอื่นเป็นสองเท่าก็พอ เผลอๆเราอาจจะนำเค้าก็ได้ เพราะเวลาอ่านหนังสือ เวลาฝึกฝนด้วยตัวเอง เรามีมากกว่าเค้า จริงปะ

แล้วต่อให้เราจะอ่านจะฝึกจบไปแล้วทุกวิชาก็ตาม มันไม่มีหรอกคำว่า พร้อม ... อย่าหยุด ไม่มีคำว่า อ่านเพอร์เฟคแล้ว พี่ยังไม่เคยรู้สึกเลยว่าตัวเองพร้อมแล้วไม่ว่าสนามไหน ขนาดนั้นสนามสุดท้ายอย่างกสพท.ก็ยังไม่แตะจุดที่เรียกว่ากูพร้อม เลย ทำไปเหอะถ้าเวลามันยังมี ทำไปเรื่อยๆ

คิดดูดีๆว่าตอนนี้เราเหลือเวลากี่เดือน แล้วไม่กี่เดือนต่อจากนี้มันแลกกับอนาคตของเราอีกกี่สิบปี จะพอฉุกคิดแล้วก็เลิกคิดเรื่องอื่นๆนอกจากหนังสือได้มั้ย พี่ว่ามันคุ้มมากนะถ้าจะแลกกัน ตอนที่พี่สอบพี่ก็คิดแบบนี้แหละ เพราะรุ่นของพี่ มีเวลาปิดเทอมเต็มๆ 6 เดือนก่อนที่จะเข้ามหาลัย 6เดือนนี้เราจะทำไรก็ได้ โคตรคุ้มที่ตอนม.6ทั้งปีจะอดทุกอย่างไปอ่านหนังสือซะ ให้ได้ที่เรียนดีๆ แล้วเอาเวลา6เดือนนั้นมาปลดปล่อยทุกอย่างที่เราอยากทำจะดีกว่ามั้ย ตอนนี้อยากทำอย่างนั้นอย่างนี้แทบใจจะขาด แต่คิดดีๆดิว่า หลังสอบเสร็จเราจะทำแบบนั้นอีกเท่าไหร่ก็ได้ ตอนนี้จะเหนื่อยขนาดไหนก็เหอะ เดี๋ยวก็หายเหนื่อยเองแหละ  

ท้อได้ก็ลุกได้ เหนื่อยได้ก็พักได้ แต่อย่านาน รีบๆกลับมาฮึดต่อ หาแรงบันดาลใจอะไรมาดึงเราไปต่อให้ได้ พี่เคยเหนื่อยๆเนือยๆเบื่อๆเหมือนกัน มีอยู่วันนึงแม่พี่ก็บ่นให้ฟังว่า ปวดหัวเข่า แม่พี่อายุสี่สิบปลายๆ แล้วอาการปวดหัวเข่าก็เป็นๆหายๆมานานละ แต่ไม่ชอบหาหมอ แม่มาพูดกับพี่แบบทีเล่นทีจริงว่า 'เข้าหมอให้ได้นะแล้วมารักษาหัวเข่าม๊าหน่อย' ได้ฟังปุ๊บเราก็มีแรงฮึดขึ้นมาซะงั้น เออเด๋วกุจะทำให้ฝันแม่กุเป็นจริงถถถถ

แต่ก่อนพี่เคยขำพวกเด็กที่ขึ้นBTS-รถเมล์-รถสองแถว แล้วท่องศัพท์ครูสมศรี หรือถือหนังสือเล่มหนาๆของบีม ติ๊กคำตอบไปโหนรถไป แต่พอพี่ขึ้นม.6 พี่ก็ต้องทำแบบพวกนั้นเป๊ะเลย ทำทุกครั้งที่ขึ้นรถหรือรอที่ชานชาลา ปกติพี่ก็ไม่เนิร์ดนะ แต่ช่วงเวลานั้นพี่ก็ไม่ได้กลัวเพื่อนหรือกลัวใครมาหาว่าเราเนิร์ดละ  เพราะตอนนั้นอนาคตเราสำคัญกว่า   เวลาที่เสียไปตอนเราอยู่บนBTS-รถเมล์-รถสองแถว ฯลฯ รวมๆกันทั้งปีมันเยอะมากนะ เยอะพอที่จะทำให้เรากลายเป็นdictionaryเคลื่อนที่ เยอะพอที่จะอ่านชีวะจบได้หลายรอบ 

'สม่ำเสมอ ย้ำคิดย้ำทำ ทำบ่อย ทำซ้ำไปซ้ำมา ทำแล้วทำอีก สิ่งพวกนี้จะทำให้เราสำเร็จ ไม่ใช่การออกตัวแรงแค่วันสองวัน แล้วก็ไฟมอดไป'

มีคนบอกว่า
การเข้าหมอนั้นยาก 
การเรียนหมอนั้นยากกว่า 
แต่ที่ยากที่สุดคือการเป็นหมอที่ดี 

เออมันก็จริงนะ เข้าหมอแมร่งยากจริง แล้วหลังจากนี้ถ้าน้องสอบติด แล้วเข้าไปเรียน ก็คงเหนื่อยต่ออีกหลายเท่า เหมือนสอบเข้าหมอทุกปีอ่ะ แต่เลือกเส้นทางนี้แล้วก็ต้องยอมนะครับ


สู้ๆค้าบ

ทอย
Ac129
Bm23

แสดงความคิดเห็น

>

41 ความคิดเห็น

lightforlife 14 พ.ค. 58 เวลา 21:42 น. 2

#จริงจังแค่ไหน #แค่ไหนเรียกจริงจัง
 อ่านกระทู้นี้เสร็จปีหน้าซิ่วมาลองอีกสักตั้งดีกว่า

0
lightforlife 14 พ.ค. 58 เวลา 21:44 น. 3

#จริงจังแค่ไหน #แค่ไหนเรียกจริงจัง
 อ่านกระทู้นี้เสร็จปีหน้าซิ่วมาลองอีกสักตั้งดีกว่า

0
bell 15 พ.ค. 58 เวลา 16:18 น. 5

อื้อหือออออ มีกำลังใจขึ้นเยอะอ่ะ
ชอบตรงคำพูดนี้มาก
"มีเวลาปิดเทอมเต็มๆ 6 เดือนก่อนที่จะเข้ามหาลัย 6เดือนนี้เราจะทำไรก็ได้ โคตรคุ้มที่ตอนม.6ทั้งปีจะอดทุกอย่างไปอ่านหนังสือซะ ให้ได้ที่เรียนดีๆ แล้วเอาเวลา6เดือนนั้นมาปลดปล่อยทุกอย่างที่เราอยากทำจะดีกว่ามั้ย"

ขอบคุณมากน้าาาาาา ^___________^

0
ooop 15 พ.ค. 58 เวลา 16:44 น. 6

เฮ้อออนั่นสิ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แลกกับที่เรายอมอดใจสักนิด อดทนสู้มัน เพื่ออนาคตของเรา สู้ๆครับ ผมเด็ก 59
ว่าแล้วก็ปิดเฟสก่อน5555เยี่ยม

0
กสพท.59 15 พ.ค. 58 เวลา 18:58 น. 14

พี่เริ่มอ่านสอบจริงจังกี่เดือนก่อนสอบ กสพท. คะ ขอบคุณค่ะ
ป.ล.ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับคำแนะนำและกำลังใจของพี่ค่ะ

0
the_jechi 15 พ.ค. 58 เวลา 19:35 น. 15

แรงบันดาลนี้ ไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้า แน่นอน สู้สักหลายๆ ยก กับไอ่ การติว เนี่ย

0
เดียร์ 15 พ.ค. 58 เวลา 19:38 น. 16

ตอนนี้กำลังเรียน ม.4 คณิต - วิทย์ค่ะ อยากเป็นหมอเพราะได้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย ถ้าหากวันนึงพ่อแม่เราป่วยเราก็ดูแลท่านได้
ชอบประโยคนี้ของพี่ทอย
"ใครที่ไม่ได้เรียนพิเศษ ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าถ้าคนอื่นมีโอกาสดีกว่าเราสองเท่า เราก็ดิ้นรนให้มากกว่าคนอื่นเป็นสองเท่าก็พอ เผลอๆเราอาจจะนำเค้าก็ได้ เพราะเวลาอ่านหนังสือ เวลาฝึกฝนด้วยตัวเอง เรามีมากกว่าเค้า จริงปะ"
เพราะน้องก็ไม่ได้เรียนพิเศษอะไรเพราะ ฐานะทางบ้าน แต่พอได้อ่านประโยคนี้ทำให้มีกำลังมากๆเลย ขอบคุณค้า
เดียร์

0
mark 15 พ.ค. 58 เวลา 21:36 น. 18

โอออ โออ่ เจ้าเด็กหนุ่มของแม่ โอออออ โอออ่ เจ้าเด็กหนุ่มของพ่อ FCพี่ทอย

1
ToyParin 15 พ.ค. 58 เวลา 22:59 น. 18-1

มาเปนเพลง555 นี่มาร์คไหนวะ มาคแมค มาคซเลอร์ มาคกะปิ มาคหนอน

0
namkhang 15 พ.ค. 58 เวลา 21:53 น. 20

ตอนนี้อยู่ ม.3 คิดไว้ว่าอยากเรียนหมอ จะตั้งใจให้ถึงที่สุด อ๊ากกก เจ็บหัวเบาๆ

1
ToyParin 15 พ.ค. 58 เวลา 22:56 น. 20-1

เพิ่งม.3สนุกกะชีวิตมัธยมไปก่อนครับ5555 และก้ตั้งใจเรียนเก็บไปเรื่อยๆ

0