Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[แลกเปลี่ยนความคิดเห็น] ประเด็นผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้ดราม่าชาวโรฮิงญากำลังมาแรง
ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่อยากให้ประเทศไทยรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเข้าประเทศ
และอีกกลุ่มคือไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง


แล้วชาวบอร์ดละ มีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้ และเพราะอะไร?

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

성황 24 พ.ค. 58 เวลา 21:42 น. 2-1

สำหรับเรา
เราคิดว่าเป็นเรื่องของจริยธรรมและมนุษยธรรมมากกว่า

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดการกับปัญหา
มันเป็นเรื่องของการเมืองล้วน ๆ

0
Silver (บูชาเงิน) 24 พ.ค. 58 เวลา 20:54 น. 4

เรื่องการเมือง ผมไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่หรอก... 

ช่วยไหม... ควรช่วย

ให้พักไหม... ควรให้ หากจำเป็นและนานาชาติขอร้อง

ให้อยู่ถาวรไหม... ห้ามให้อยู่ถาวรโดยเด็ดขาด

ให้อยู่พอมีเรี่ยวแรงแล้วค่อยให้ออก หากไม่ยอมออก ต้องบังคับให้ออก... ปัญหาอยู่ตรงข้อหลังนี้ หากเราบังคับ ก็ทารุณอีก โดนนานาชาติต่อว่าอีก ดังนั้น ให้ย้อนกลับไปเรื่องที่ว่าควรให้พักไหม คำตอบคือ... ไม่ควรให้เข้ามาพักอย่างยิ่ง




1
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 21:52 น. 4-1

เราไม่เห็นด้วยนะ
อาจเป็นเพราะเราตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน
ตอนที่ชาวโรฮิงญาโดนบีบออกนอกประเทศ
เราเลยเรียกคนกลุ่มนี้ว่าผู้ลี้ภัย (ไม่ใช่อพยพ)

มันค่อนข้างต่างจากตอนนี้
ที่มีชาวบังกลาเทศอพยพมาใช้แรงร่วมอยู่ด้วย
เราเห็นด้วยกับท่านส่วนหนึ่งคือ
ให้ช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่ใช่ให้อยู่ถาวร
และเราคิดว่าการส่งไปประเทศที่สาม (อย่างตุรกีที่เขาพร้อมรับ)
กับส่งกลับประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

0
mataveemJ 24 พ.ค. 58 เวลา 22:13 น. 5

รู้สึกว่าเป็นประเด็นที่น่าจะเหนื่อยมากมาย ไม่มีความเห็นใดๆ //เดินออกไปจากกระทู้เงียบๆ

0
ไหใกล้ม่อง (XIUYUN) 24 พ.ค. 58 เวลา 22:35 น. 6

เป็นปประเด็นที่ละเอียดอ่อนพอสมควรเลยนะ

บรรทัดต่อไปนี้อาจนำพาดราม่าได้ ข้ามๆ ไปเหอะ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าประเทศแรกเลยที่ต้องรับผิดชอบคืออังกฤษ เล่นไปพาบรรพบุรุษเขามารบกับพม่าแล้วไม่พากลับ ลูกหลานก็เลยโดยขับไล่

อเมริกา... บอกให้คนอื่นเขารับไปนัก ทำไมไม่รับเองเลยล่ะ โฮมเลสน่ะ แก้ปัญหาได้ยัง

ประเทศไทยน่ะยังมีปัญหาอีกมาก ไม่พร้อมรับเข้ามาหรอก ชุมชนแออัดยังมีเต็มไปหมดเลย ถ้ารับมา ก็อัดกันเพิ่มเข้าไปอีก

สงสัยอะไรอย่างนะ จากพม่ามาไทยใช้เวลาถึง 3 เดือนเลยรึ นานเวอร์ป้ะ แล้วสภาพปลากระป๋องแบบนั้น อยู่ไม่เกินสัปดาห์ก็ตายแล้ว อยู่เข้าไปได้ไง 
อีกอย่างหนึ่งที่สงสัย ในเมื่อหลบหนีออกมา ก็น่าจะเรียกว่าเป็นความลับ แล้วฐาป-- (เซ็นเซอร์ชื่อ) รู้ได้ไงว่าโรฮิงญาอยู่ตรงนั้น รูู้ก่อนทหารอีกนะ แม่นยำขนาดนี้น่าจะเปิดรายการแข่งกับริวดีกว่าไหม

ก็อย่างที่บอก พิมพ์จัดเต็มมากครับ 555 ใครที่ข้ามไปถือว่าโชคดีที่ไม่ได้เห็นด้านมืด (?) ของผมไปนะ 555

6
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 22:43 น. 6-1

เห็นด้วยเลยค่ะที่ว่าประเทศแรกที่ต้องรับผิดชอบคืออังกฤษ
และเราน่าจะมีสิทธิบีบบังคับเขาได้บ้าง

แต่เขาเป็นมหาอำนาจนินะ...

ว่าแต่ ฐาป...(คืออะไรอะคะ) อันนี้คือไม่เข้าใจจริง ๆ

0
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 22:51 น. 6-2

แต่ประเด็นที่ว่า
เราอะมีปัญหาเยอะอยู่แล้ว ไม่ควรหาปัญหาเพิ่ม
มันเป็นความคิดแบบเด็ก ๆ อะคะ
ประเทศมหาอำนาจที่เขามีสิทธิต่อรองให้ทุก ๆ เรื่อง
จะคว่ำบาตรเราเอา

และในเรื่องของมนุษยธรรม
การมองข้ามผู้ที่กำลังลำบาก ก็เป็นเรื่องทีไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเราเองก็ยังพอมีกำลังอยู่ และในสภาวะที่ UN พร้อมที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในครั้งนี้

มันทำให้เราดูแย่สุด ๆ ในสายตานานาประเทศ

0
ไหใกล้ม่อง (XIUYUN) 25 พ.ค. 58 เวลา 07:33 น. 6-3

ครับ ยอมรับว่าเป็นความคิดแบบเด็กๆ แต่ตอนนี้สถานะทั้งการเงินและอื่นๆ ยังไม่พร้อม คนไทยยังเตะฝุ่นไร้งานกันเยอะ ถ้าพวกเขาเข้ามา ยิ่งไม่แย่งงานหนักเข้าไปอีกรึ

มนุษยธรรม มันก็คือการเอิ้อเฟื้อให้ใน "ระดับที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน" ครับ

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 09:57 น. 6-4

งบประมาณดูแลผู้อพยพ
UN จะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมดค่ะ

และในเรื่องแย่งงานทำเนี้ยะ
คือเราไม่ได้รับเขาเข้ามาเพื่อให้เป็นพลเมือง หรือให้ใช้แรงงานอะไรนะคะ
ตรงนี้น่าจะมีกฏหมายคุ้มครองการใช้แรงงานอยู่
เราคงไม่เดือดร้อน เพียงเพราะให้ที่พักพิงแก่คนยากไร้หรอกค่ะ

คุณไม่ลองตรองในมุมที่เราไม่ยอมช่วยเหลือเขาดูบ้างหรือคะ?
ว่ามันจะทำให้เราเดือดร้อนยังไง?
สิ้นค้าทางการประมงของไทยโดนคว่ำบาตรเพราะใช้แรงงานชาวโรฮิงญาอย่างผิดกฏหมาย
เป็นบิ๊กบอสในขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา
แค่นี้ก็หาข้ออ้างให้นานาประเทศไม่ได้แล้วละคะ

อ่อ...
อีกประเด็นคือ ที่คุณบอกว่าสถานะทางการเงินของประเทศอยู่ในสถาวะไม่พร้อม
แล้วที่บริจาคเพื่อช่วยเหลือเนปาลละคะ?
ล็อตแรกที่ส่งไปกว่าร้อยล้าน? ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินหรอกหรือ?

คือเราไม่อยากให้เข้าใจผิดในประเด็นงบประมาณนะคะ
ประเทศเรามีงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ ในด้านมนุษยธรรมอยู่แล้ว
มันเป็นงบต่างหาก
และ UN ก็ให้งบในการช่วยเหลือเยียวยาอีก
การอ้างเหตุผลในด้านงบประมาณ มันฟังไม่ขึ้นอะคะ

0
ไหใกล้ม่อง (XIUYUN) 25 พ.ค. 58 เวลา 10:16 น. 6-5

UN จะออกงบให้ แต่ใช่ว่าจะออกให้ตลอดไป เพราะทางนั้นก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน จะเจียดให้ตลอดกาลก็ใช่ที่ กลับกัน ชาวโรฮิงญาก็ยังอยู่เรื่อยๆ แล้วงบหลังจากที่ UN เลิกส่ง ใครจะจ่าย

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 11:08 น. 6-6

ก็อย่างที่เราตอบ คห. อื่น ๆ ว่าการช่วยจะมีเงื่อนไขของมันอยู่แล้ว
คนไทยเรามักจะเข้าใจผิด ว่าถ้าช่วย ต้องช่วยตลอดไป
คือเราช่วยเขาให้พ้นช่วงเวลาของความยากลำบาก ไม่ได้อ้าแขนรับเป็นพลเมืองของเรา
การช่วยเหลือมีเงื่อนไข คือจะช่วยเท่าไร และช่วยกี่เดือนกี่ปี

0
K.W.E. 24 พ.ค. 58 เวลา 22:55 น. 8

ใครเริ่มก็ว่ากันไป...

ใครเป็นประเทศที่ควรพักพิงก็ว่ากันไป...

ใครจะรับหน้าที่ประเทศที่สามก็ว่ากันไป...

องค์กรทั้งหลายก็ประชุมกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ตกลงกันให้ดี พิจารณษให้ถ้วนถี่ถึงปัจจัยภายหลังก็ต้องว่ากันไป... ไม่ใช่เอาแค่กดดันบอกให้ประเทศอื่นรับ แต่พอประเทศที่รับขอแบ่งไปให้บ้างกลับเงียบกันหมด... ตกลงให้ชัวร์จะจัดการยังไงให้สมเหตุสมผลที่สุด

แต่ในเหตุเฉพาะหน้าก็ต้องว่ากันเรื่องช่วยเท่าที่ทำได้
เพียงแต่ต้องระวังเรื่องช่องทางด้วย เพราะการเมืองนานาชาติข้นกว่าที่คิด
ถึงจุดหนึ่งก็ต้องผลักดันไปประเทศที่เขารับ

และแน่นอนว่าถ้าจะเอาจริงก็ต้องไล่สืบด้วยว่าเรือพวกนี้มายังไง มันไม่มีทางหรอกที่จะมาถึงน่านน้ำประเทศอื่นง่ายๆโดยไม่มีใครรับรู้ ก็ต้องลากตัวมารับผิดชอบ หาไม่แล้วก็ส่งเรือกลับไปที่นั้นๆ ไม่ก็ประเทศที่สาม

เฉพาะหน้าช่วยได้แต่ไม่ใช่ช่วยทั้งหมด


นอกเรื่องหน่อยเอาไว้เป็นกรณีเทียบเคียง
มีคนเคยเปรยไว้ว่าในโอลิมปิกปี 2012 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพนั้น เขาจะส่งนักเตะลงในฐานะทีมจากสหราชอาณาจักร ซึ่ง สหราชฯที่ว่านั้นประกอบไปด้วย อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ...

ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าประเทศที่ว่ามา เวลามีแข่งทัวร์นาเม้นต์ทางการทั้งหลาย ไม่ว่าจะบอลโลก หรือบอลยูโร พวกเขาจะไม่รวมทีมกันในนามสหราชอาณาจักร แต่จะเล่นในนามทีมชาติตัวเอง และต่างคนต่างก็มีลีคเฉพาะตัวด้วย

แต่ก่อนเคยมีการรวมกันอยู่ จนมีดราม่าหลายๆอย่างสุดท้ายก็ไม่เข้าร่วมทีมอีกเลย จนกระทั่งปี 2012 ที่เป็นเจ้าภาพ อังกฤษจึงต้องส่งทีมเข้าร่วม แต่ข้อน่าสังเกตคือทั้งที่มีลีคถึง 4 ประเทศเหนาะๆ นักเตะมีให้เลือกมากมาย แต่ชุดที่จัดมากลับมีแค่อังกฤษกับเวลส์เท่านั้น

ว่ากันว่าที่รวมกันแค่นี้ไม่ใช่เรื่องตัวนักเตะเท่านั้น แต่มันมีกรณีทางการเมืองไม่แค่ฟุตบอลแต่ยังรวมไปถึงการเมืองอื่นๆอีก ทำนองว่า ขนาดฟุตบอลยังเริ่มได้ กรณีอื่นก็ควรจะได้ ไปๆมาๆ ซึ่งเอาแค่บอลแต่ละประเทศเองก็ยังไม่อยากจะไปรวมกับใครเลยครับ บริหารจัดการเอาเองก็วุ่นภายในอยู่แล้ว ผลก็เลยจบแค่ทีมเฉพาะกิจ ไม่รวมมากให้กลายเป็นประเด็น


ยกตัวอย่างมาก็เพราะว่าการเมืองเรื่องละเอียดอ่อนครับ ช่องเล็กช่องน้อยก็อาจถูกขยายผลในภายหลังได้ ฉะนั้นแล้วช่วยในสิ่งที่สมควรทำไป แต่ไม่ใช่รับเงื่อนไขและทุกกรณี พิจารณาความเหมาะสมและปฏิเสธในบางเรื่องที่อาจส่งผลระยะยาวได้

4
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 23:11 น. 8-1

ค่ะ...
ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของการเมือง
มาเลเซียกลับลำ รับช่วยเหลือโรฮิงญา ก็การเมือง
ถ้าไม่ตระหนักถึงผลประโยชน์ มาเลเซียก็คงโบกมือปฏิเสธแข็งกับเรา

แต่เราแหละที่ดูแย่ที่สุด
เราปฏิเสธแบบแข็งขัน บอกไม่เอาลูกเดียว
ทั้งที่เราสร้างปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์จนตอนนี้โด่งดังไปทั่วโลก
สืบสวนกันไป ก็ทราบว่ามีคนระดับสูงหนุนอยู่เบื้องหลัง
นานาประเทศมองเราไม่ดี มันส่งผลต่อเศรษฐกิจด้วย

อันนี้คือไม่ได้บอกให้เราแคร์มหาอำนาจนะ
ในทางการเมือง เราควรจะตระหนักด้วยว่าเรื่องไหนส่งผลดี เรื่องไหนส่งผลเสีย
และในเรื่องของมนุษยธรรม ถ้าเราไม่ได้อับจนจนเกินไป
เราก็น่าจะช่วยได้

ทั้งนี้ไม่ได้คิดว่าต้องช่วยตลอด ถึงเวลาก็ผลักดันไปประเทศที่สาม (ที่เขาพร้อมรับ)
และส่งกลับประเทศ ให้เขากลับไปดิ้นรนแก้ปัญหาในประเทศของเขาเอง

0
K.W.E. 24 พ.ค. 58 เวลา 23:28 น. 8-2

เปล่าหรอกครับ เท่าที่ตามกระแสในพันทิปบ่นมา

ดราม่าพวกนี้เกิดจากพฤติิกรรมส่วนตัวมากกว่า เอาเข้าจริงหลายคนไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าการเมืองจะว่ายังไง แต่ที่ประเทศเราตอบไปน่าจะด้วยเหตุผลการเมืองมากกว่า

เหตุของดราม่าอาทิเช่น
- โรฮิงญาไม่คิดปรับตัวเข้าหาสังคม ประเทศที่รับดูแล
- มีการกล่าวถึงว่าแม้รับเขามาดูแลเราก็ต้องจ่ายเงินให้เขารายวันด้วย มีกระทู้อ้างว่าเราเป็นเหตุทำให้เขาเสียโอกาสหาเลี้ยงชีพ และร่ำๆมาว่าคนกลุ่มนี้ขอขึ้นราคาเงินด้วย (ซึ่งไม่แน่ใจว่ากรณีลักลอบเข้าประเทศนั้นรวมด้วยไหม ถ้ารวมด้วยก็ไม่สมควรให้ครับ)
- พฤติกรรมที่ไม่ค่อยเห็นบุญคุณคนอื่น อันนี้กล่าวกันมากเลยว่า เราเอาน้ำอาหารไปให้เขา เขาไม่ขอบคุณเรา แต่เลือกจะขอบคุณพระเจ้าที่ส่งของเหล่านี้มาผ่านทางเรา
- พฤติกรรมที่ผลิตทายาทเยอะมาก (ห้องหว้ากอเหมือนจะมีคนเอาสถิติมาแล้วว่าเป็นกลุ่มชนที่สร้างลูกหลายได้เยอะมากกลุ่มหนึ่งเลย)
- ด้วยความเชื่อศาสนานั้น อ้างว่าการคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
- จากสาเหตุผลทำให้คนกลัวว่านอกจากจะเป็นการรับประชากรภายที่สร้างปัญหาแน่ๆ (อย่างน้อยก็เรื่องการปรับตัว) แล้ว อาจจะมีประเด็นเรื่องจำนวนประชากรจากทางเขาที่ต้องบริหารจัดการอีก และแน่นอนว่าเราไปแตะไม่ได้เพราะผิดกฎทางศาสนาเขา
- ประเด็นอื่นยิบย่อย อันนี้ไม่แน่ใจไม่อยากเหมารวม แต่ก็เพิ่มความหมั่นไส้ได้อีก เช่นกินอย่างเดียว จานก็ไม่ล้างให้ จนถูกแซวว่า ล้างจานให้ด้วยในเน็ตในเวลาต่อมา...


แค่นึกสภาพแล้วก็เห็นภาพปัญหาลอยมากลายๆแล้วครับ
นีขนาดว่าไม่ได้ตีประเด็นการเมืองนะ เอาแค่ภาพลักษณ์นิสัย และพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดเท่านั้น

เพราะฉะนั้นผมไม่แปลกใจที่หลายคนจะไม่เห็นด้วยที่จะรับมาอยู่แบบถาวร และบางคนอาจระแวงกว่าเดิมว่า แค่อยู่ก็เปิดช่องทางการเมืองแล้วดังที่ว่า...


มนุษยธรรมก็เห็นด้วยครับ เพราะหลายคนก็คะนองปากเกิน จะเอาปืนไปยิง จะให้ไปจมเรือเอย

แต่ก็อย่างที่ผมว่า เห็นควรให้ช่วย แต่ต้องช่วยแบบมีเงื่อนไข และชัดเจนว่าจะถึงระดับไหน ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าจะให้รับมันก็ต้องกันทุกประเทศที่ร่วมภาคี เพื่อกระจายประชากรไป ให้ควบคุมง่าย (ซึ่งถ้าเจ้าตัวอยากไปล่ะก็นะ) มิใช่รับไปก่อนแล้วค่อยคุย

เอาเข้าจริงยุโรปกับทางเมกาเลยมั้งที่เป็นประเทศแรกๆที่กระวีกระวาดให้เอเชีย โดยเฉพาะเราที่เป็นหนังหน้าเสื่อเพราะเป็นทางผ่านรับเข้าประเทศ แต่พอเจอกระทู้ประชดมากๆว่า ถ้าเอ็งหวังดีแบบนั้น แถมคุณภาพประเทศดีแบบนั้น ทำไมเอ็งที่พร้อมกว่าไม่รับฟะ?

แรกๆก็เงียบ หลังๆมาพอโดนมากขึ้นถึงเสียงอ่อย ยอมพูดว่าจะรับบ้างก็ได้นะถ้าเขาอยากมา... อืม... พูดแบบนี้แต่แรกก็จบแล้วล่ะครับ...

แต่มันก็สะท้อนว่าไม่ใช่แค่เราหรอกนะที่คิดว่าการรับโรฮิงญาเข้ามาแล้วจะดูแลจัดการได้ง่ายๆเหมือนประชากรในประเทศ แม้แต่ประเทศอื่นๆก็คิดแบบเดียวกันว่ามันเป็นปัญหาแน่ๆ กระทั่งประเทศที่สาม

จนต้องยื้ออยู่นานถึงมีบางประเทศยอมเปิดช่องให้
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็คิดอยู่นะว่าประเทศที่ว่าก็อาจถูกกดดันมาจากอีกสักทางก็ได้...

เพราะของแบบนี้ถ้าจะรับก็ต้องออกตัวแต่เนิ่นๆแล้วล่ะครับ
ไม่ใช่รอให้เรื่องอิ่มตัวก่อนแล้วค่อยยินยอม


สรุปก็คือผมว่าปัญหาไม่ใช่ตัวของโรฮิงญาเป็นหลักหรอก แต่นิสัยและพฤติกรรมมากกว่าที่ทำให้เป็นประเด็นกัน

0
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 23:42 น. 8-3

ประเด็นนี้เราก็หมั้นไส้เหมือนกัน
ทำไมเมกาต้องบีบบังคับให้ประเทศในโซนเอเชียตะวันออกรับไปดูแล
คือเมกาอะ เขาพร้อมในทุก ๆ ด้าน
ถ้ามีมนุษยธรรมจริงอย่างที่พยายามสร้างภาพ ทำไมไม่รับไปเอง

แต่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเลย ว่าเหตุผลที่คนไทยปฏิเสธ
เป็นเพราะพฤติกรรมของชาวโรฮิงญา
เราพูดในฐานะคนที่เคยไปเจอมากับตัว
พฤติกรรมยอดแย่ที่หลาย ๆ คนพยายามอ้าง มันเป็นแค่ส่วนน้อย
ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นกันแบบนั้น
ถ้าจะปฏิเสธด้วยเหตุผลแค่นี้ ก็เด็กเกินไปละคะ

และเราคิดว่า เหตุผลจริง ๆ ที่คนไทยพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ยอมรับ
คือการเหยียดชนชาติ และศาสนา

ขอแก้ไขนิดหนึ่ง...
ปล. เราไม่ได้คิดจะตำหนิคนที่ไม่เห็นด้วยกับการช่วยชาวโรฮิงญานะ
พอดีเราอยู่ข้างเห็นด้วยนะ การแจกแจ้งเหตุผลเลยไม่ค่อยจะเป็นกลางเท่าไร

และ กท. นี้ ขอไม่ดราม่านะคะ
อยากให้ทุกคนพูดคุยและชี้แจงด้วยเหตุผลจริง ๆ
เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ขอให้อยู่บนหลักของเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์

0
nefertari 25 พ.ค. 58 เวลา 08:47 น. 8-4

ถ้าคนไทยมีพร้อม ก็ควรรับ แต่้เท่าที่สังเกตุดู แม้แต่ในประ้เทศ ยังจัดระเบียบชีวิตให้ตนเองยังไม่ได้เลยค่ะ อย่างสิงคโปร มาเลย์ กฎหมายเขาศักดิ์สิทธิ์นะคะ ไม่มีระบบเว้เส้นสายอุปภัถัม แต่ในไทยไม่ใช่ ระบบเส้นมันยังมี เดิมทีคนไทยที่ไร้เส้นก็หางานทำไม่ค่อยได้แล้ว ถ้ารับคนนอกมาอีก รับรองคนไทยได้ตายแน่ๆ

0
성황 24 พ.ค. 58 เวลา 23:13 น. 9-1

เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น?

พอดีเห็นว่าความช่วยเหลือหลั่งไหลไปเนปาลเยอะมาก
เลยไม่ได้ตาม

0
Atara_Mayumi[เมาคำว่าพระเจ้า] 25 พ.ค. 58 เวลา 17:28 น. 9-2

ก็ประมาณว่ามีการบริจาคของเยอะตั้งแต่น้ำ อาหารให้พลังงาน เต้นท์ ฯลฯที่จำเป็นค่ะ แต่ทางรัฐบาลเนปาลบอกว่าส่งของที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประสบภัยค่ะ แล้วก็บอกว่าจะจัดการเรื่องที่พักอาศัยแต่ดำเนินการล่าช้าค่ะ

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 00:05 น. 10-1

สำหรับปีนี้เราเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นค่ะ
ในจำนวนของคนอพยพ มีการสำรวจว่าไม่ถึงครึ่งที่เป็นผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
นอกนั้นก็เป็นผู้ลักลอบเข้าเมือง

0
ซามูไรแมว 25 พ.ค. 58 เวลา 02:38 น. 11

มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกี่ยวข้องทั้งกับการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา

(เนื้อหาข้างล่างต่อไปนี้ อาจสร้างความไม่สบายใจและขัดแย้ง)

แต่ผมอยู่ฝ่ายยอมให้ช่วยเหลือตามแต่สมควร แต่ไม่อยากให้รับเข้าประเทศไทยครับ

เพราะ...เคยรับมาแล้ว แล้วมีปัญหา เราทำอะไร ๆ ให้ เขาก็ไม่ถูกใจสักอย่าง (เช่น กรณีผู้ลี้ภัยถูกจับแล้วเรียกร้องขออาหารดี ๆ พอไม่ให้ก็ประท้วงอดอาหาร ขอเพิ่มค่าอาหารรายหัว ล่าสุด มีข่าวว่า ขึ้นฝั่งอินโดฯ ปุ๊บ หนึ่งในผู้ลี้ภัยก็ให้สัมภาษณ์ปั๊บว่า ทหารไทยใช้ปืนขู่ให้เขาล่องเรือออกจากน่านน้ำไทย ทั้งที่ไทยช่วยนำอาหารมาให้ ช่วยซ่อมเรือให้ แต่อย่างว่า...เขามีเรื่องกับพม่าก็เรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนาส่วนหนึ่ง และเขาก็ประกาศชัดว่า ไทยเป็นแค่ทางผ่าน เขาต้องการไปประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเหมือนกับเขา คือ มาเลย์ อินโดฯ และอยากไปประเทศที่ 3 ถ้าจะอยู่ไทย ต้องอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่อาจเป็นการแสดงออกทางอ้อมว่า เขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ ประเทศไทยเราแม้ต่างศาสนา ต่างเชื้อชาติ เรายังอยู่รวมกันได้ แต่เขาอยู่ไม่ได้ ถ้าเขามาอยู่ประเทศไทย อาจจะอึดอัดมากกว่ารู้สึกดี เขาก็คงคิดเหมือนกัน จึงขอไปประเทศที่ 3) 

และการที่เขาไม่มีประเทศให้กลับ (เพราะเคยได้ยินข่าวว่า เขาไม่อยากกลับพม่า และพม่าก็มีความหลังฝังใจกับเขามาก คงไม่อยากให้กลับเช่นกัน) ดังนั้น ความไม่แน่นอนว่า ผู้อพยพจะต้องอยู่นานแค่ไหน ทำให้ประเทศที่ถูกบีบให้รับพวกเขาเข้ามาดูแลกังวลเรื่องงบประมาณในการดูแลผู้อพยพซึ่งอาจจะบานปลาย เพราะแม้ UN จะช่วยออกค่าช่วยเหลือ แต่ไม่มีทางให้เงินเราได้ถาวร เพราะจะองค์กรไหนก็ต้องใช้เงินในการดำเนินงานทั้งนั้น

และปัญหาที่หนักอกมาก (เพราะหลายประเทศก็เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว) คือ ผู้อพยพลี้ภัยเหล่านี้ เข้ามาแล้ว ไม่ค่อยจะออกกันครับ อย่าว่าแต่ไทยไม่อยากรับเลย แม้แต่ประเทศอื่น ๆ ในฝั่งอเมริกาและยุโรป ยังไม่ค่อยจะยอมรับผู้อพยพกันเลย เพราะรับมาอยู่ก็มีแต่งบบานปลาย ยิ่งไทยเราเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่การเมืองก็ไม่เสถียร เศรษฐกิจก็ไม่เสถียร งบประมาณที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่เพียงพอ (แถมถูกงาบหายไปไหนบ้างก็ไม่รู้...) ถ้าไทยต้องรับภาระมากกว่านี้ก็จะไม่ไหวเอาครับ 

ดังนั้น เราควรแก้ปัญหาที่ต้นน้ำ ดีกว่าแก้ปัญหาที่ปลายน้ำครับ

แต่อย่างว่า...ปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกมันเริ่มมานานมากแล้ว มันคงประสานกันยาก ก็เหมือนประเทศแถบ ๆ เอเชียกลางใกล้ ๆ เรานี่แหละที่ตอนนี้ก็ยังคงมีความรู้สึกขัดแย้งในเรื่องบางเรื่องแม้มันจะผ่านมานานมากแล้ว เรื่องความรู้สึกบางครั้งก็...แก้ยากนะ (อย่าว่าแต่ใกล้ ๆ เราเลย เอาในประเทศเรานี่แหละก็ยังมีความขัดแย้งที่แก้ไม่ได้ ดูข่าวทีไรก็ปวดใจทุกที คนไทยด้วยกันแท้ ๆ ต้องอีกกี่ศพของทหารและผู้บริสุทธิ์ ทุกอย่างจึงจะจบ...มันกลายเป็นเขตอันตรายที่ใคร ๆ ก็หวาดกลัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่) 

7
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 10:14 น. 11-1

ทุก ๆ การช่วยเหลือมันมีเงื่อนไขของมันค่ะ
เราอยู่ข้างยอมให้ช่วย แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
มาเลฯ อินโด ฟิลลิปปิน ก็มีเงื่อนไขในการรับช่วยเหลือ
มาเลรับ 7000 คน ไม่เกินปี ฟิลิปปินไม่เกิน 3000 คน
และเราก็ไม่เห็นด้วยในเรื่องที่จะต้องช่วยถาวร
เพราะมันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด
สุดท้าย เราก็ต้องผลักดันเขากลับประเทศ เพื่อให้เขากลับไปแก้ปัญหาของเขากันเอง

แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่เราไม่ยอมช่วยเหลือเขาเลย :(

ส่วนเรื่องปัญหากับทหาร
เราไม่อยากให้มองภาพแค่ด้านเดียวค่ะ
ทหารบางคนหุ่งข้าวให้พวกเขากินจริง แต่ทหารบางคนก็ยิงปืนใส่เขาจริง
อันนี้เราปฏิเสธไม่ได้หรอกค่ะ ว่าเรายิงปืนเพื่อขับไล่เขาให้ออกจากน่านน้ำไทย
และเราขอไม่พูดถึงปัญหาในเรื่องสามจังหวัดชายแดนไทย
แต่อยากบอกให้รู้ว่า ปัญหาสามจังหวัดไม่ใช่ปัญหาเรื่องชาติพันธ์และศาสนา
แต่เป็นปัญหาด้านการเมือง และธุรกิจผิดกฏหมายล้วน ๆ

0
ซามูไรแมว 25 พ.ค. 58 เวลา 12:02 น. 11-2

คนไทยกลุ่มที่ไม่ยอมรับเข้ามาเด็ดขาด เพราะชาติพันธุ์ของกลุ่มอพยพเขามีประวัติเป็นนักรบครับ (รบเรื่องอะไร ไปหาอ่านเองนะ ผมไม่ค่อยอยากพูดถึง) เขากลัวว่าถ้ารวมกับ.............เข้าไป จะเกิดจราจลเหมือนที่ประเทศพม่าโดนมาแล้ว อีกอย่างที่กลัว คือ ปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้น คุณก็อย่ามองแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องบางอย่างต้องมองให้ลึกและไกล จะมาหัวรุนแรงฉันจะช่วยอย่างเดียว ไม่มองเหตุผลอื่นประกอบมันทำไม่ได้ และเราไม่ใช่ไม่ช่วย เราช่วยแล้ว ช่วยเท่าที่ทำได้ เขาอยากไปมาเลย์ อินโดฯ เราก็ส่งเขาไป จบ แฮปปี้เอ็นดิ้งทั้งสองฝ่าย ไม่น่าจะต้องมาเถียงกันอีก

ที่สำคัญ คือ ผมอยากให้คุณไปหาอ่านประวัติศาสตร์ให้ดีก่อนแล้วค่อยเถียง เพราะความกลัวและความขัดแย้งทั้งหลายรวมอยู่ในประวัติศาสตร์ทั้งหมด จากนั้น ค่อยเอาประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์รวมกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คุณจะมองภาพออกว่าทำไมประเทศต่าง ๆ จึงไม่อยากรับ เหตุใดจึงเกี่ยงและผลักกันไปมา เหตุผลมันมีมากกว่าที่คุณเข้าใจครับ (ขอโทษนะครับ...ไม่ทราบว่าละลาบละล้วงไหมถ้าผมจะถามว่าน้องอายุเท่าไหร่ ?)

อีกอย่างนะครับ คุณบอกไม่ดราม่า จะพูดด้วยเหตุผล แต่ผมอ่านยังไงก็อารมณ์ล้วน ๆ

คุณมีเหตุผลของคุณ ผมมีเหตุผลของผม ชาติมีเหตุผลของชาติ แต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือก ควรเลือกผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา คุณไม่ใช่คนรับผิดชอบ แต่คนทั้งชาติต่างหากที่ต้องรับผิดชอบและเดือดร้อนครับ

(อ่านข้อความผมแล้วเถียงไปก็เท่านั้น เพราะมีหลายเรื่องที่ผมละไว้ไม่อยากพูดถึง ผมจึงขอให้น้องไปหาข้อมูลอ่านเอง อย่าเอาแต่ทุ่มเถียง อย่าถามเพียงเพื่อจะให้ยอมรับความคิดของน้อง เพราะเรื่องบางเรื่องพูดไปก็ไม่ได้ประโยชน์ มีแต่โทษ) อีกอย่างนะครับน้อง ผมไม่สบายใจที่เห็นน้องกำลังว่าทหารประเทศตัวเองอยู่นะ ทหารที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเหนื่อยยากเพื่อปกปักรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประเทศ ของตัวน้อง และของครอบครัวน้อง และที่ผมงงมากคือ...ทำไมผู้อพยพไม่ยักกะให้สัมภาษณ์ว่า มาเลย์ลากเรือเขากลับน่านน้ำไทย กลับพูดแต่แง่ลบให้ไทย การพูดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้คนไทยส่วนที่ไม่เห็นด้วยรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม

0
เพราะดีฉันจึงมา 25 พ.ค. 58 เวลา 12:18 น. 11-3

ในแง่ปัญหาของสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นปัญหาทางด้านการเมือง และธุรกิจที่ผิดกฏหมาย โดยมีชาติพันธ์และศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
โดยใช้หลักความเชื่อของศาสนามาเป็นผลประโยชน์ ปลูกฝังความคิดที่รุนแรง เกลียดชังเข้าไป และนี่คือคำตอบว่าทำไม ครูไทยถึงถูกฆ่า เพราะกลัวว่าจะไปเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้เด็กๆเหล่านั้นรู้และห่างไกลศาสนามากยิ่งขึ้น
ส่วนประเด็นโรฮิงญา ข้าน้อยก็อยากจะทราบเหมือนกัน ว่าถ้ากลุ่มนี้ไม่ใช่อิสลาม จขกทจะมาตั้งคำถามเรียกร้องมนุษธรรมแบบนี้มั้ย ตอบคำถามในใจตัวเองให้ได้ก่อนว่าความจริงท่านก็เอนเอียงไปทางศาสนา โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อชาติหรือมนุษยธรรมอย่างแท้จริงแต่อย่างใด

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 12:20 น. 11-4

อย่างที่ชี้แจงนะคะ
เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ขอให้อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล
และเรามั่นใจว่าเราชี้แจงด้วยเหตุผลล้วน ๆ
แต่เหตุผลของเราอาจไม่ค่อยเป็นกลาง เพราะเราอยู่ข้างเห็นด้วย
ถ้าคุณอ่านด้วยอารมณ์ ก็อย่าเพิ่งอ่านค่ะ
อารมณ์เสียเปล่า ๆ

และ คห. นี้ เราขอไม่ตอบนะคะ เพราะคุณพิมพ์มาด้วยอารมณ์ล้วน
และเราเองก็ต้องพยายามระงับอารมณ์เช่นกัน

0
ซามูไรแมว 25 พ.ค. 58 เวลา 12:42 น. 11-5

อ่านความเห็นสุดท้ายของคุณแล้วตลกดี เพราะผมน่ะ เคยพูดเรื่องนี้ด้วยอารมณ์มาแล้ว เคยแสดงความเห็นอย่างรุนแรงมาแล้ว (ขอบอกเลยว่า สำนวนดุเดือดกว่านี้ชนิดน้องนึกไม่ถึงเลย) แต่พอเวลาผ่านมานานขนาดนี้ ผมเย็นลงมาก และมองทุกอย่างด้วยเหตุผลมากขึ้น อ่านมากขึ้น หาข้อมูลมากขึ้น พูดด้วยสำนวนที่นุ่มนวลขึ้น

ต้วน้องต่างหากที่อ้างว่ามีเหตุผล แต่ก็ไม่เห็นยกเหตุผลอะไรมาพูดแก้เลย น้องครับ แบบนี้แหละที่เรียกว่ากำลังพูดด้วยอารมณ์อย่างแท้จริง เพราะผมไม่เห็นเหตุผลใด ๆ ในการตอบคำถามของน้องเลย เอาแต่พูดว่าให้ช่วย ๆ เอะอะอะไรก็อ้างว่าไทยผิด ๆ คนตอบคนอื่นเขาอ้างเหตุผลมาเป็นร้อยเป็นพัน น้องก็ปิดหูปิดตาไม่เชื่อไม่ฟัง เถียงอย่างเดียว เถียงทุกประเด็น (บางประเด็นเถียงอย่างข้าง ๆ คู ๆ ด้วยนะ ^_^) เหตุผลอยู่ไหนเอ่ย ผมถึงอยากทราบว่าน้องอายุเท่าไหร่ยังไงครับ

11-3 ความเห็นของคุณอ่านแล้วทำให้เข้าใจได้เลย

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 12:51 น. 11-6

11-3
ประเด็นเรื่องสามจังหวัด เราไม่ขอพูดอะไรนะคะ
เพราะมันไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้โดยสิ้นเชิง

แต่อยากจะบอกนิดหนึ่งว่าถ้าไม่รู้จริงคืออย่าพูด
ประเด็นฆ่าครู คือการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่สามารถสั่นคลอนถึงส่วนกลาง
ปิดหูปิดตา ห่างไกลศาสนาอะไรที่คุณว่ามา ไม่เกี่ยวเลย
ไม่ต้องให้ครูมาเปิดหูเปิดตา เยาวชนที่นั้นก็เรียกได้ว่าห่างไกลศาสนาแล้วค่ะ

อย่างที่คุณถาม? ถ้าโรฮิงญาไม่ใช่อิสลาม เราจะตั้งกระทู้ออกมาเรียกร้องอะไรแบบนี้ไหม?
ขอชี้แจงนิดหนึ่งว่ากระทู้นี้เราไม่ได้เรียกร้องอะไรนะคะ
ชื่อกระทู้บอกชัดเจนว่าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุณเห็นด้วยเพราะอะไร
หรือไม่เห็นด้วยเพราะอะไร
คุณชี้แจงเหตุผลของคุณ เราไม่เห็นด้วยเราก็แย้ง
เราชี้แจงเหตุผลของเรา คุณไม่เห็นด้วยคุณก็แย้ง

เพราะต่างก็มีเหตุผลเพื่อสนับสนุนความคิดของตัวเองค่ะ

และคำถามที่ว่า ถ้าไม่ใช่อิสลามจะตั้งกระทู้อะไรแบบนี้ไหม?
เราว่าเรามีคำตอบสำหรับหัวใจตัวเองดีค่ะ
แค่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแด่กลุ่มอื่น มันไม่มีดราม่าอะไรแบบนี้

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 13:21 น. 11-7

11-5
ช่างคุณเถอะคะ
เพราะคุณคงเป็นประเภทอ่านแล้วจับใจความไม่ได้
และคงจะเป็นประเภทแยกไม่ออก ระหว่าง "เถียง" กับ "แย้ง"

0
nefertari 25 พ.ค. 58 เวลา 08:55 น. 12

เคยอ่ายในเว็บกระปุก พอส่งคนพวกนี้ไปประเทศที่สามปั๊บ พวกนั้นกล่าวหาว่าทหารบังคับเอาปืนขู่ ให้ลงเรือไปประเทศที่สาม แต่ที่เคยดูจากรูปถ่าย ทหารหุงข้าวให้พวกเขากิน เลี้ยงคนก็ไม่ต่างจากอสรพิษ การให้ทานเป็นเรื่องดีค่ะ อย่างคนจีนตอนมาอพยพอยู่ในไทย เขาก็จะรักเมืองไทยมาก แบบนั้นที่สมควรช่วย แต่ถ้าช่วยแล้วมีปัญหาดราม่าต่างๆนาๆเกิดขึ้น ก็ไม่ควรช่วย จะว่าดูเหมือนโหดร้ายก็ช่าง แต่คงไม่มีใครชอบเลี้ยงปัญหาหรอกค่ะ อีกอย่างคนไทยจนๆยังมีอีกมาก เอาแค่เฉพาะคนไทยให้รอดจากความจน ไม่ต้องค้ายา ค้าไม้เถื่อนให้ได้ก่อน และที่ร่สำคัญ กฏหมายพวกเรายังอ่อนมาก คุมหกสิบกว่าล้านคนยังได้บ้างไม่ได้บ้าง และถ้าต้องคุมคนเพืิ่มอะไรจะเกิดขึ้น เขาอพยพมา เขาจะจงรักภักดีต่อชาติไทยแค่ไหน เขาจะคิดไหมว่าน่ี่คือบ้านที่้ขาจะต้องมาอาศัย เขาจะยอมทำตามกม.ไทยไหม หรือมองว่าตนเองไม่ใช่คนไทย กม.ไทยก็ไม่ต้องใส่ใจ การรับคนมา ก็เหมือนธุรกิจที่จะรับลูกจ้าง มันต้องดูเหตุหลายๆส่วนประกอบกัน จึงจะส่ามารถเลือกทางที่ดีที่สุดได้

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 13:11 น. 13

ตอบคุณ ซามูไรแมวนะคะ





คุณบอกว่าเราไม่ควรช่วย เพราะคนเหล่านี้อาจจะเข้ามาอยู่ถาวร
เราว่าเราก็ชี้แจงกลับด้วยเหตุผลนะคะ ว่าทุก ๆ การช่วยเหลือ ต้องอยู่บนเงื่อนไข

เท่าที่เราอ่านทวน เรามั่นใจว่าเรายังไม่ได้ใส่อารมณ์ในการโต้คุณเลย

และที่คุณบอกว่า UN คงไม่ให้งบประมาณตลอดไปหรอก เราเองจะลำบากเอาภายหลัง
แต่ลองดูกรณีผู้ลี้ภัยจากสงครามในพม่าเมื่อสามสิบปีก่อน
ที่อยู่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย ก็ยังอยู่ในการดูแลของสหประชาชาติ

ผ่านมาสามสิบปีแล้ว เราก็ยังรับงบประมาณจาก UN และนานาประเทศในการช่วยเหลือพวกเขา

เราแค่อยากจะบอกว่า สิ่งที่คุณกังวล มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่จะทำให้ประเทศชาติตกต่ำ

ปล. อันนี้คือเราไม่ได้เรียกร้องนะคะ เราแค่ชี้แจงให้คุณทราบ

2
ซามูไรแมว 25 พ.ค. 58 เวลา 18:13 น. 13-1

ใครกันหนอที่ตอบผมว่า

"11-5
ช่างคุณเถอะคะ
เพราะคุณคงเป็นประเภทอ่านแล้วจับใจความไม่ได้
และคงจะเป็นประเภทแยกไม่ออก ระหว่าง "เถียง" กับ "แย้ง""

ตอบแบบนี้ ไม่ใส่อารมณ์แน่เหรอครับ ฮะ ๆ ๆ

คุยกับคนแบบคุณ ผมขอบายดีกว่า คุยด้วยก็เปล่าประโยชน์

ป.ล. มีคนแย้งคุณเยอะเลย เหนื่อยหน่อยนะครับ บ๊ายบาย

0
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 19:08 น. 13-2

คห. 13 เวลา 13.11
คห. 11-7 เวลา 13.21

ที่เราตอบคุณไปใน คห. 11-7 แบบนั้น
เป็นเพราะเราย้อนกลับไปอ่านความเห็นที่ 11-5

และเราคิดว่าคนอย่างคุณ ไม่จำเป็นต้องเสวนาด้วยค่ะ
เพราะมันไร้ประโยชน์ เสียเวลาอ่านและตอบคำถาม
เพราะมันบ่งชัดเจนว่าคนอย่างคุณขาดทักษะการจับใจความ

ที่พยายามค่อนแคะเราก็แค่นั้นละค่ะ
มันไม่ทำให้คุณดูดี ดูโตขึ้นมาหรอก

0
ซ่อนนาม 25 พ.ค. 58 เวลา 14:00 น. 14

UN จะให้งบเราตลอดไปได้จริงเหรอ ?
ให้มาหลายสิบปีก็จริง แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่ให้จะทำยังไงต่อ ?
และงบที่ให้ แม้ให้ก็จริง แต่เพียงพอระดับไหน ?
ผู้อพยพเดิมเพียงพอหรือไม่ ? หากรับมาเพิ่ม จะให้เพิ่มด้วยหรือไม่ ?
และถึงเพิ่ม จะให้เพิ่มทันกับจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นจากความเชื่อของเขาที่ไม่มีการคุมกำเนิดด้วยหรือไม่ ?

และเวลาเกิดปัญหา มันเกิดแค่ในค่ายอพยพหรือลามไปยังบริเวณใกล้เคียงด้วย ?
นอกจากนี้ หากผู้อพยพใช้วิธีการนี้จนเข้ามาในไทยได้ ผู้อพยพกลุ่มใหม่ที่มีอยู่เป็นล้าน จะใช้วิธีเดียวกันด้วยหรือไม่ ?
หากตอนนี้รับ และตอนหน้าไม่รับ จะโดนประณามหรือไม่ ?
ที่บอกว่าไม่รับตอนนี้ เพราะเคยรับมาแล้วและเกินโควต้าแล้วหรือไม่ ?
ซึ่งหากเกินโควต้าแล้วยังรับอีก แปลว่าเราต้องขยายโควต้ารับพวกเขาเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ หรือไม่ ?

และหากรับมาแล้ว ขาดงบสนับสนุน จนทำให้พวกเขาอยู่อย่างลำบาก ไทยจะทำยังไงต่อ ? เอาภาษีของคนไทยด้วยกันไปอุดหรือไม่ ?
ถ้าหากไม่อุดแล้วเขาตาย ประเทศไทยจะโดนประณามเบาหรือแรงกว่าการที่ไม่รับพวกเขาเข้ามาตั้งแต่ต้น ?



คนกลุ่มนี้โหกเรื่องที่ลอยน้ำมาสามเดือนแล้ว
พวกเขาจะโกหกเรื่องทหารไทยยิงปืนใส่เพื่อขับไล่ด้วยหรือไม่ ?
และถึงทหารไทยจะยิงปืนไล่จริง แต่ยิงไปเพราะอะไร ? ด้วยที่ให้การช่วยเหลือแล้ว แต่อีกฝ่ายรั้นจะขอให้ไทยช่วยเกินกว่าเงื่อนไขที่เราทำได้หรือไม่ ?

3
성황 25 พ.ค. 58 เวลา 14:45 น. 14-1

UN จะให้งบเราตลอดไปได้จริงเหรอ ?
- เราว่าไม่จำเป็นต้องตลอดไปหรอกค่ะ ยังไงเราก็ต้องผลักดันเขากลับประเทศ
เพราะเราคิดว่า ประเทศไทยเราไม่จำเป็นต้องรับช่วยเหลือถาวร
แค่วันนี้ นาที ที่เหตุการณ์อยู่ในภาวะวิกฤต และในการช่วยเหลือ เราคิดว่า
ประเทศไทยก็ต้องมีเงื่อนไขว่าจะช่วยได้ในระดับไหน

ให้มาหลายสิบปีก็จริง แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่ให้จะทำยังไงต่อ?
- อย่างกรณีผู้ลี้ภัยจากสงครามในพม่าเมื่อสามสิบปีก่อน เราคิดว่ามันเป็นข้อยืนยันได้
ว่าเราจะไม่โดดเดียวในการช่วยเหลือพวกเขา

และงบที่ให้ แม้ให้ก็จริง แต่เพียงพอระดับไหน?
- ก็คงพอในระดับกินอิ่ม นอนหลับ

ผู้อพยพเดิมเพียงพอหรือไม่? หากรับมาเพิ่ม จะให้เพิ่มด้วยหรือไม่?
- เพราะฉะนั้นเราจึงควรตั้งเงื่อนไขในการรับช่วยเหลือ

และถึงเพิ่ม จะให้เพิ่มทันกับจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นจากความเชื่อของเขาที่ไม่มีการคุมกำเนิดด้วยหรือไม่?
- กรณีนี้ เราคิดว่า มนุษย์ขยายพันธ์ได้เร็วสุดก็ปีละคนอะคะ
หากเราตั้งเงื่อนไขอย่างมาเลและอินโด ว่ารับให้ความช่วยเหลือแค่ปีเดียว
ประชากรเขาก็คงไม่เยอะกว่าเรทของงบประมาณที่ตั้งไว้หรอกค่ะ

และเวลาเกิดปัญหา มันเกิดแค่ในค่ายอพยพหรือลามไปยังบริเวณใกล้เคียงด้วย?
- เท่าที่เราเคยสัมผัส ตัวก่อปัญหาในกลุ่มผู้อพยพ ยังไม่เยอะนะคะ
เทียบกับแรงงานต่างดาวแถว ม. ที่ชอบก่อปัญหา พวกนั้นยังเยอะกว่าอีก
ถึงจะมีการก่อปัญหาไปยังบริเวณใกล้เคียง ก็มีกฏหมายในการควบคุมผู้อพยพไม่ใช่หรือค่ะ?

นอกจากนี้ หากผู้อพยพใช้วิธีการนี้จนเข้ามาในไทยได้ ผู้อพยพกลุ่มใหม่ที่มีอยู่เป็นล้าน จะใช้วิธีเดียวกันด้วยหรือไม่?
- คำตอบเดิมค่ะ ถ้าไทยจะช่วย ไทยก็มีเงื่อนไขในการช่วยค่ะ

หากตอนนี้รับ และตอนหน้าไม่รับ จะโดนประณามหรือไม่?
- เรามีเงื่อนไขเป็นคำตอบแก่นานาประเทศค่ะ
คงคล้าย ๆ ข้อตกลง หรือ สนธิสัญญา ที่เราตั้งไว้ก่อนจะรับช่วยเหลือเขา

ที่บอกว่าไม่รับตอนนี้ เพราะเคยรับมาแล้วและเกินโควต้าแล้วหรือไม่?
- อันนี้ไม่ทราบค่ะ

ซึ่งหากเกินโควต้าแล้วยังรับอีก แปลว่าเราต้องขยายโควต้ารับพวกเขาเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ หรือไม่?
- อันนี้เราก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
แต่อาเซียนมีกฏด้านมนุษยธรรมอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าไทยจะยอมรับได้แค่ไหน?
จะร่วมมือในทุก ๆ ด้าน อย่างที่ลงชื่อในสนธิสัญญาหรือเปล่า

และหากรับมาแล้ว ขาดงบสนับสนุน จนทำให้พวกเขาอยู่อย่างลำบาก ไทยจะทำยังไงต่อ? เอาภาษีของคนไทยด้วยกันไปอุดหรือไม่?
- ตำหนิสหประชาชาติค่ะ เปิดเวทีเจรจา และท้วงสัญญางบประมาณที่เราต้องได้

ถ้าหากไม่อุดแล้วเขาตาย ประเทศไทยจะโดนประณามเบาหรือแรงกว่าการที่ไม่รับพวกเขาเข้ามาตั้งแต่ต้น?
- ไม่ต้องรอให้เขาอดตายหรอกค่ะ ตอนนี้เราก็ฆ่าเขาให้ตายอย่างเลือดเย็นอยู่แล้ว
(ก็ขบวนการค้ามนุษย์ที่กำลังโด่งดังนั้นไงค่ะ)

คนกลุ่มนี้โหกเรื่องที่ลอยน้ำมาสามเดือนแล้ว
พวกเขาจะโกหกเรื่องทหารไทยยิงปืนใส่เพื่อขับไล่ด้วยหรือไม่?
- ถ้าโกหก เราก็มีสิทธิปฏิเสธ ต่อสู้และแสดงความบริสุทธิ์ของเราออกมา

และถึงทหารไทยจะยิงปืนไล่จริง แต่ยิงไปเพราะอะไร? ด้วยที่ให้การช่วยเหลือแล้ว แต่อีกฝ่ายรั้นจะขอให้ไทยช่วยเกินกว่าเงื่อนไขที่เราทำได้หรือไม่?
- เท่าที่ตามข่าว คือทหารเรายิงเขา เพื่อไล่ให้ออกจากน่านน้ำ
ถ้ามีเหตุผลมากกว่านี้ เราก็ต้องชี้แจงให้นานาประเทศทราบค่ะ
เราเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่พูดไม่ได้เสียหน่อย

0
ซ่อนนาม 26 พ.ค. 58 เวลา 09:39 น. 14-2

>>>ยังไงเราก็ต้องผลักดันเขากลับประเทศ
ทำยังไง ? ในเมื่อประเทศเดิมก็ไม่รับ ค่อนข้างเป็นการหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าเกินไป
ถ้าแค่ UN ให้งบตลอดไปไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าประเทศเดิมจะรับได้ เพราะมันยากยิ่งกว่า

>>>อย่างกรณีผู้ลี้ภัยจากสงครามในพม่าเมื่อสามสิบปีก่อน เราคิดว่ามันเป็นข้อยืนยันได้ ว่าเราจะไม่โดดเดียวในการช่วยเหลือพวกเขา
แต่มันไม่จีรังยั่งยืน เป็นการหวังพึ่งพาคนอื่นเกินไป

>>>ก็คงพอในระดับกินอิ่ม นอนหลับ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอามาพูด
และพอแค่นั้นก็ไม่พอ ต้องเพียงพอที่จะให้เขาสามารถหาทางพึ่งพาตนเองได้ด้วย

>>>เพราะฉะนั้นเราจึงควรตั้งเงื่อนไขในการรับช่วยเหลือ
ประเทศไทยมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือไม่ใช่รึ ? แก้ครั้งนี้ได้ แปลว่าครั้งต่อไปก็แก้ได้ แล้วมันจะกลายเป็นไม่มีเงื่อนไขในที่สุด

>>>กรณีนี้ เราคิดว่า มนุษย์ขยายพันธ์ได้เร็วสุดก็ปีละคนอะคะหากเราตั้งเงื่อนไขอย่างมาเลและอินโด ว่ารับให้ความช่วยเหลือแค่ปีเดียวประชากรเขาก็คงไม่เยอะกว่าเรทของงบประมาณที่ตั้งไว้หรอกค่ะ
ขนาดผู้ลี้ภัยพม่าที่คุณยกมาก็ยัง 30 ปีไม่ใช่เหรอ ? วัฒนธรรมที่ไม่มีการคุมกำเนิด อาจเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าได้

>>> เท่าที่เราเคยสัมผัส ตัวก่อปัญหาในกลุ่มผู้อพยพ ยังไม่เยอะนะคะ เทียบกับแรงงานต่างดาวแถว ม. ที่ชอบก่อปัญหา พวกนั้นยังเยอะกว่าอีก ถึงจะมีการก่อปัญหาไปยังบริเวณใกล้เคียง ก็มีกฏหมายในการควบคุมผู้อพยพไม่ใช่หรือค่ะ?
น่าแปลก ที่คนอื่นที่เขาเป็นผู้ทำงานทางด้านนี้จริง ๆ เขาบอกว่าค่ายผู้อพยพมีปัญหา แปลว่าคุณไม่ได้ลงไปสัมผัสจริง หากมองแต่ด้านนอก จึงไม่รู้ว่ามีปัญหามากแค่ไหนจริง

>>> คำตอบเดิมค่ะ ถ้าไทยจะช่วย ไทยก็มีเงื่อนไขในการช่วยค่ะ
แต่เงื่อนไขที่ว่าก็จะกลายเป็นไม่มีเงื่อนไขทันที เพราะตอนนี้ไทยมีเงื่อนไขไม่รับ หากรับแปลว่าสามารถแก้ไขเงื่อนไขไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นไม่มี

>>> เรามีเงื่อนไขเป็นคำตอบแก่นานาประเทศค่ะ คงคล้าย ๆ ข้อตกลง หรือ สนธิสัญญา ที่เราตั้งไว้ก่อนจะรับช่วยเหลือเขา
เรามีเงื่อนไขอยู่แล้ว แต่นานาประเทศเขาไม่สน เขาจะให้เรารับเพิ่มเท่านั้น

>>> แต่อาเซียนมีกฏด้านมนุษยธรรมอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าไทยจะยอมรับได้แค่ไหน? จะร่วมมือในทุก ๆ ด้าน อย่างที่ลงชื่อในสนธิสัญญาหรือเปล่า
แต่การลงชื่อในสนธิสัญญา ไม่ได้จำเป็นว่าทุกประเทศต้องรับผู้อพยพ

>>> ตำหนิสหประชาชาติค่ะ เปิดเวทีเจรจา และท้วงสัญญางบประมาณที่เราต้องได้
ถ้าเขาไม่ทำ ถึงตำหนิแค่ไหนเขาก็ไม่ทำ มันเป็นง่ายกว่าที่เราจะไม่รับตั้งแต่ต้น

>>> ไม่ต้องรอให้เขาอดตายหรอกค่ะ ตอนนี้เราก็ฆ่าเขาให้ตายอย่างเลือดเย็นอยู่แล้ว (ก็ขบวนการค้ามนุษย์ที่กำลังโด่งดังนั้นไงค่ะ)
ใช่ แต่การกระทำของคุณทำให้คนที่จะตายมีมากขึ้น เพราะถ้ารับ ขบวนการค้ามนุษย์ก็ยิ่งมาก เหมือนพวกแก๊งค์ขอทานยังไงล่ะ ถ้าไม่สนับสนุนมันก็เกิดไม่ได้

>>> ถ้าโกหก เราก็มีสิทธิปฏิเสธ ต่อสู้และแสดงความบริสุทธิ์ของเราออกมา
ใช่ ดังนั้นจึงไม่รับยังไงล่ะ

>>>เท่าที่ตามข่าว คือทหารเรายิงเขา เพื่อไล่ให้ออกจากน่านน้ำถ้ามีเหตุผลมากกว่านี้ เราก็ต้องชี้แจงให้นานาประเทศทราบค่ะเราเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่พูดไม่ได้เสียหน่อย
แต่ข่าวที่ว่ามาจากปากของฝ่ายผู้อพยพแค่ฝ่ายเดียว แต่หลักฐาน มีภาพที่ทหารไทยช่วยเหลือเขาอยู่

0
ซ่อนนาม 26 พ.ค. 58 เวลา 09:41 น. 14-3

ขนาดผู้ลี้ภัยพม่า คุณก็ยังรู้ว่าอยู่มา 30 ปี
ดังนั้นถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน แปลว่ากลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ ก็จะอยู่ในไทยไปอีก 30 ปีไม่ใช่เหรอ ?

และที่สำคัญเขาไม่ได้อยากจะมาไทย เขาอยากจะไปอินโด ไปมาเลย์ ที่เป็นประเทศอิสลาม ดังนั้นถ้าไทยรับ พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายเพื่อไปสองประเทศนั้นให้ได้
และถ้าประเทศไทยส่งตัวให้เขาไปสองประเทศ เราก็จะเกิดข้อบาดหมางกับสองประเทศนั้น
แต่ถ้าไม่ส่งไป พวกผู้อพยพก็จะอยู่สร้างปัญหาในประเทศไทยต่อไป
และหากส่งคืนเจ้าของประเทศ ไทยเราก็จะมีข้อบาดหมางกับประเทศนั้นแทน

ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือการไม่รับ แต่ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมด้วยการให้น้ำให้อาหารซ่อมแซมเรือ และให้ลอยคอต่อไป

ซึ่งถ้าประเทศอื่นกดดันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพราะมันไม่ใช่ความผิดไทยเราตั้งแต่ต้น
แต่หากรับมา มันจะเกิดปัญหามากกว่า
อย่างน้อยที่สุด ถ้ารับตอนนี้แล้วไม่รับตอนหน้ายังไงก็โดนกดดันอยู่ดี
จะบอกว่ารับแบบมีเงื่อนไขมันเอามาอ้างไม่ได้ เพราะไทยเคยรับมาแล้วและไม่รับอีก
ดังนั้นนานาชาติเขาไม่สนใจเงื่อนไขหรอก เขาจะให้เรารับท่าเดียวเท่านั้น

ดังนั้นแทนที่จะให้เกิดปัญหาเรื้อรังแล้วยังโดนตำหนิเหมือนเดิม
สู้โดนตำหนิครั้งเดียวยังจะดีกว่า


และพวกเขาไม่ใช่ผู้อพยพ พวกเขาคือผู้ลักลอบหนีเข้าเมืองโดยอ้างว่าเป็นผู้อพยพ

0
KEDA 26 พ.ค. 58 เวลา 01:41 น. 15

ช่วยเท่าที่ควรช่วย 

ปัญหาก็คือถ้าช่วยเเล้วเขาไม่อยากจะออกละ ตอนเเรกก็อยากไปประเทศมุสลิม เเต่พอเราช่วยเขาไว้เเล้ว เขาเกิดความพอใจที่จะอยู่ต่อ เเล้วมายึดพื้นที่คนไทยขึ้นมาละ ใครจะมาเเก้ปัญหาตรงนี้ให้เรา นานาชาติหรอ? อเมกาหรอ? ให้เขาไปจัดการชายเเดนระหว่างเเม็กซิโกที่เป็นปัญหาเรื้อรังเเก้ไม่หายก่อนมั้ย?ค่อยยืนมือมายุ่ง เรียกว่าเสือ.กก็ได้นะจริงๆ ตอนนี้เขาอยู่กลางทะเลเป็นปัญหาของคนริมฝั่ง เเต่หากรับเข้ามาเมื่อไหร่เขากลับมาเราต้องรับภาระดูเเล เต็มๆถ้าเกิดมีปัญหาไทยเรารับเต็มๆอีก มองใจเเง่คนเพื่อนมนุษย์อยากช่วยเหลือ เเต่ถ้ามองในอีกเเง่ของการเป็นคนพุทธเอ้าไมอิสลามด้วยกันไม่ช่วยเหลือละ อิสลามทั่วโลกมั่วนิ่งเฉยทำอะไรอยู่ 

เเต่ล่าสุดได้ยินว่าฟิลิปินก็ช่วยรับเข้าไปดูเเลเเล้วนิ 
อ๋อ ได้ยินเเว่วๆมาด้วยไทยมีศูนย์โรฮิงจาอยู่ 5 เเห่งเเล้ว (ไม่ทราบจำนวนคนเเต่ห้าที่นี่น่าจะเยอะนะ)
เเละถ้าไม่ได้มองเเต่โรฮิงจา ไทยก็มีศูนย์ต่างดาว อยู่เเทบๆตอนเหนือด้วย

อย่างน้อยถ้ารับเข้าไว้ไทยก็ต้องจัดหาที่พักพิงเอาไว้ให้ หาข้าว หาน้ำให้กิน หาเสื้อผ้า ผ้าห่ม จัดคนไปดูเเลอีก บางส่วนอยากจะไม่อยู่ในที่ที่จัดไว้ให้ก็หลบหนี ปัญหาที่จะตามมามันเยอะ (มาก)
เราพูดได้ไม่เต็มปากหรอกว่าไม่อยากช่วยเหลือ เเต่เราก็ไม่สามารถจัดการดูเเลโรฮิงจาเหล่านี้ได้ดีพอตามที่เขาต้องการเหมือนกัน มีปลาอยากกินไก่มีไก่อยากกินเนื้อ 
เเละอีกปัญหาที่ได้ยินมา เขาผลิตประชากรได้เร็วมาก อะไรมันจะขนาดนั้น ลำบากจะตายอยู่เเล้ว

รับเข้ามาด้วยใจเมตรตาพร้อมกับปัญหา

เราไม่โทษหรอกว่าเขามีต้นตอมาจากประเทศอะไร เพราะคนไทยก็ไม่ได้ไทยดั่งเดิมกันเท่าไหร่ ไทยมอณ ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทจีน เเละอื่นๆ บรรพบุรุษของเราก็ล้วนส่วนหนึ่งมาจากดินเเดนอื่น โรฮิงจามาจากไหน? ใครส่งมาไม่ใช่ปัญหา เเต่ปัญหาอยู่ที่ตัวเขาเองมากกว่าที่ไม่คิดจะปรับตัว เพื่อที่จะอยู่กับคนอื่นๆ ศาสนาอื่นๆให้ได้ ศาสนามันก็เปรียบเสมือนรั่วบ้า้นที่กั้นเเบ่งอนาเขตความเป็นส่วนตัวเอาไว้ คำว่าประเทศก็คือเเผ่นดินผืนหนึ่ง เเต่ละบ้านมีความเเตกต่างกันออกไป จะทำยังไงให้อยู่ร่วมกันได้อย่างไม่สร้างปัญหาให้ใคร ก็เท่านั้น

ความจริงเราก็อยากจะลงไปคลุกคลีดูสักครั้งนะว่าจะเป็นยังไง รับเเต่ข่าวสารมาจริงรึไม่ใช่หรือมั่ว ไม่ได้ยินกับหู ไม่ได้เห็นกับตา จะไปรู้ได้ยังไง
เเต่ถ้าเอาจริงๆจากใจ ตั้งเเต่ที่พิมพ์ไปทั้งหมด

ให้ข้าวให้น้ำเติมน้ำมันเเละผลักออกไปไม่ให้ขึ้นฝั่ง ให้เขาไปยังทีที่เขาต้องการ 
-เเบบนี้จะเรียกว่า ช่วยหรือไม่ช่วยดี 


0