มีวิธีด้น สร้างเรื่องให้ยาวๆได้ยังไงครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
เพื่อนๆมีวิธีด้น สร้างเรื่องให้ยาวๆได้ยังไงครับ ในขั้นตอนการเขียนเรื่องย่อหรือทำ plot เตรียมเขียน
นักเขียนบางท่านมักจะมีคำถามเสมอๆตอนคิดเรื่อง คิอ plot ว่า ไม่รู้จะเขียนอะไรดี นึกไม่ออก บางคนได้มาแค่สองประโยคก็ตัน ซึ่งจะเป็นปัญหาที่นิยายซะส่วนใหญ่
อยากร้ว่าเพื่อนๆใช้เทคนิคอะไร ด้น เรื่องไปเรื่อยๆ ให้มีเรื่องย่อๆเพื่อเตรียมเขียน?
7 ความคิดเห็น
มีตัวละครเกี่ยวข้องอะไรบ้าง พล็อตหลักควรมีตัวละครหลักร่วมในเหตุการณ์
จากนั้นแต่ละพล็อตหลักค่อยซอยพล็อตย่อย สร้างตัวละครประกอบขึ้นมา
เชื่อมโยงพล็อตย่อยๆ แต่ละพล็อตจากพล็อตหลักหนึ่งไปอีกพล็อตหลักหนึ่ง
พยายามทำให้พล็อตหลักและพล็อตย่อยกลมกลืนกัน ต่อเนื่องกัน ไม่สะดุด
วิธีของคนอื่นอาจแตกต่างกันไป แต่ลุงใช้วิธีนี้สร้างพล็อตมาก่อนร่วม 10 ปีได้ พล็อตจึงยาวมากๆ
ก็วางโครงหลักให้ยืดหยุ่นเข้าไว้ครับ
จากนั้นนึกอะไรได้ก็เอาไปยัดแล้วลำดับหน้าหลังดู เดี๋ยวก็ยาวได้เองครับ ถ้าลำดับลงตัวนี่ เผลอๆจะยาวเกินที่คิดเสียอีก
บางทีพล็อตแทรกก็ไม่ต้องรีบคิดก็ได้ ถ้าเราวางโครงหลักได้ยืดหยุ่นพอ เดี๋ยวก็เอาลงได้เรื่อยๆเอง
นิยายแฟนฟิค RO ของผมตอนแรกวางโครงใหญ่ไว้ที่ 24 ตอนจบ
แต่ ณ ปัจจุบันแต่งไป 110 ตอนแล้วเพิ่งจบแค่ 1/3 เท่านั้นเอง
ไม่รู้จะยาวไปไหน แต่ก็ไม่ได้ยืดเรื่องนะเออ อัดแน่นแอ็กชันดราม่าสนุกๆเพียบ
ประเด็นอยู่ที่วางโครงหลักแบบยืดหยุ่น
ขอบคุณมากครับ
ข้อมูลในส่วนที่ขีดเส้นใต้ไม่สอดคล้องกัน
- พล็อตเขียนไว้ให้เราอ่าน เป็นแนวทางในการเขียนเรื่อง จะยาวหรือสั้นก็ได้ ให้เราเข้าใจพอ
- เรื่องย่อเขียนไว้เป็นโฆษณาดึงความสนใจ ไม่ต้องยาวมาก
ทั้งสองอย่างไม่จำเป็นต้องยาว ยิ่งส่วนเรื่องย่อมีแค่ประโยคเดียวยังดึงความสนใจได้มากกว่ายาวพรืดเป็นหน้า ยิ่งยาวก็ยิ่งไม่มีที่จะยัดลงอีก
อ่ะ ยกตัวอย่าง:
- พล็อต: องค์กรลับใช้ฉากหน้าเป็นโรงงานทำพัดลม มีแผนครองโลกด้วยการฉาบสารเคมีบางไว้บนตัวใบพัด เมื่อเปิดพัดลมสารนั้นจะฟุ้งกระจายเข้าไปควบคุมส่วนสมอง-ประสาทของประชาชน พระเอกเป็นตำรวจสืบสวนที่ต้องมาสืบคดีนี้หลังเกิดเหตุประชาชนก่อจลาจล โดยมีนางเอกเป็นนักข่าวคอยช่วยเหลือ
- เรื่องย่อ: วันนี้อากาศร้อนไหม? ถ้าร้อนก็เปิดพัดลมสิ...
ด้นสด ใครจะเอาไปเขียนก็เอาไปเถอะ ไม่หวง
เดี๋ยวก่อนนะครับ... น่าจะมีอะไรเข้าใจผิดแล้ว สั้นขนาดนั้นคงไม่ใช่เรื่องย่อแล้วล่ะครับ
เรื่องย่อก็คือเรื่องราวในนิยายทั้งหมดตั้งแต่ต้นยันจบฉบับย่อ แต่ยังคงรายละเอียดไว้ให้รู้ว่าใครทำอะไร แล้วก็จบอย่างไรไม่ใช่หรือ ถ้ามีอยู่แค่นั้น คงเป็นได้แค่คำโปรยแหละครับ
ขอบคุณครับ
ผมหมายถึง จะสร้างเรื่องให้ออกมายาวๆได้ไง
ผมใช้จินตนาการวางโครงเรื่อง
คือนึกภาพในแต่ละฉากเอาไว้ เรียงมันไปเรื่อยๆเหมือนหนังหนึ่งเรื่อง หากนึกภาพไม่ออก ลอกนึกถึงภาพยนต์สักเรื่องที่เพิ่งได้ดูไป เราจำได้ใช่ไหมว่าเหตุการณ์ไหนอยู่ช่วยต้น เหตุการณ์ไหนอยู่ตอนท้าย แล้วเหตุการณ์ย่อยๆละมีอะไรบ้าง ให้เรานึกภาพนิยายของเราไว้ แบ่งออกเป็นตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลาย อาจไม่จำเป็นต้องจดก็ได้ เพื่อให้นิยายสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
เวลาผมวางพล็อตยาวๆก็แบบนี้แหละครับ มีภาพตอนต้น มีภาพตอนกลาง ส่วนภาพท้ายๆไม่มี เพราะเป็นนิยายที่แต่งไม่มีวันจบ (เกมส์ออนไลน์) ผมเขียนจากภาพที่เห็น (ฉากแรก) พยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ไปจนถึงช่วงภาพตอนกลางให้ได้ (ฉากที่ 2,3) และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ (ฉากต่อๆไป)
และสำหรับเรื่องราวที่ซับซ้อน มีปม แนะนำให้มีภาพตอนท้ายสุดของเรื่องในหัว เช่น พระเอกได้กับเพื่อนนางเอง... ทำไมจึงเป็นแบบนั้น? ให้วางแผนจากตอนท้ายเลย ฉากไหนนางเองต้องเดี้ยง ฉากไหนที่พระเอกพบกับเพื่อนนางเอกเป็นครั้งแรก คิดจากตอนจบ จะทำให้วางปมได้ดี...
//ที่จริงแล้ว แถไปเรื่อยๆก็ได้ครับ ฝึกฝีมือไปก่อน เมื่อไหร่เข้าใจแล้วว่าการแต่งเรื่องยาวเป็นอย่างไร ค่อยจับงานจริงๆจังก็ยังไม่สาย
ใช้วิธีเดียวกัน นึกภาพ
ขอบคุณมากๆครับ
พอจะจับหลักได้ล่ะ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ
เคยสงสัยเหมือนกันว่า คนอื่นเค้าเขียนนิยายกันยังไง 2-300 หน้า -เรานี่ ได้มา 150 น้ำตาแทบไหล
สงสัยว่าปมยิบย่อยคงเยอะพอมั้งคะ จะได้แลดูไม่ยืด
จริงครับ บางเรื่องแต่ละเล่มหนามากๆ ตัวหนังสือเล็กแถมมีเป็นสิบเล่ม เล่ากันยาว ทึ่งเหมือนกัน
ของผมร้อยหน้านี่ก็แทบแย่
ของเรา... สี่คำถามที่ใช้ในการเริ่มต้น
นิยายแนวไหน ตัวเอกเป็นใคร เริ่มเรื่องยังไง และจบเรื่องยังไง
จากนั้นคิดปม ปม ปม ... แล้วกำหนดว่าจบกี่ตอนแล้วนั่งตั้งชื่อตอนไปเลย
(บาทีมั่วเอาอ่ะชื่อตอนนั้นค่อยเปลี่ยนอีกที
ตอนตั้งชื่อตอนก็คิดไปด้วยว่าจะดำเนินเรื่องยังไง ความคิดของคนเราก้าวกระโดดได้ไวกว่ามือพิมพ์ ถ้าทำแบบนี้เหมือนกำลังคิดเรื่องไปเรื่อยๆแต่ในความไวที่มากกว่าเพราะไม่ต้องเขียนอะไรเยอะ เช่น ตอนที่ 1 เสียงเพรียกหาแห่งรัตติกาล ตอนที่ 2 การจากลาที่น่าเศร้า << อยู่ๆก็เขียนชื่อตอนแบบไม่คิด ก็อาจเริ่มแต่งไปว่าทำไมเกิดเสียงนั้น ใครได้ยิน ได้ยินเพราะอะไร สนใจเสียงนั้นไหม และอื่นๆที่ปล่อยให้ตัวเอกเวิ่นเว้อไป ต่อด้วยตอนที่สองให้เอาตอนแรกมาโยงเช่นเสียงนั้นทำให้อะไรเกิดขึ้น เกิดขึ้นแล้วดีร้ายยังไง เกิดขึ้นแล้วทำให้ใครเป็นอะไร เกิดขึ้นแล้วต้องเดินทางเพราะอะไร แล้วเศร้าเนื่องด้วยเหตุผลใด - แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในขอบข่ายที่กำหนดทางงานเขียน เช่นว่าเป็นแฟนตาซี สยองขวัญ หรืออะไร เพราะจะทำให้ดำเนินเรื่องของสภาพร้องข้างง่ายขึ้น)
หลังจากตั้งชื่อตอน ก่อนแต่งจริงให้เขียนเรื่องย่อจากชื่อตอนไล่เรียงไปทีละตอน ประเด็นคือตอนเขียนก็จิตนาการไปว่าเรื่องจำดำเนินไปยังไงแบบคร่าวๆ
(วางปมไว้ว่าเกิดตอนไหนเฉลยตอนไหน)
เสร็จแล้วสุดท้ายก็แต่งนิยายให้ดำเนินไปแล้วโยงปมที่วางไว้เข้ามาอยู่ในท้องเรื่อง
อาจปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่ดำเนินทั้งตัวเรื่องและชื่อตอนด้วย
เป็นวิธีแปลกๆที่ได้ผลดีสำหรับเรา
คือแบบตอนแรกก็ไม่รู้จะเขียนยังไง นี่ก็พึ่งลองเขียน(แฟนตาซี)
แต่แบบนี้เรื่องไม่ตันเพราะเหมือนเตรียมเขียนจนจบแล้ว
ดูเหมือนจะยุ่งยากเนอะ 555
ปล.เป็นวิธีที่เราทำดังนั้นได้ไม่ได้ไม่ว่ากันน้า
ปล.2 มือใหม่จ้า
เป็นวิธีทีแปลกครับ! ผมมีหลักการมาก ขอเอาไปใช้บ้างครับ
ขอบคุณมากๆครับสำหรับไอเดีย คำแนะนำ
นิยายแนวไหน ตัวเอกเป็นใคร เริ่มเรื่องยังไง และจบเรื่องยังไง
สี่ประโยคนี้เป็นคีย์เลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?
บทความที่คนนิยมอ่านต่อ