คิดยังไงกับคนที่ชอบบอกว่า 'เรียนคณะ/มอนี้จะไปทำอะไร'
ตั้งกระทู้ใหม่
คือเราเคยโดนเพื่อนคนหนึ่งมันบอกยังงี้เลย แบบ อยากให้เพื่อนมาแชร์ความรู้สึกกัน เผื่อเพื่อนคนนั้นจะเห็นแล้วเอาใจคนอื่นมาใส่ใจตัวเองบ้าง
ไม่ได้มาดราม่า แต่อยากให้แชร์กันจริงๆ
●◤คูยองซะ◥●
26 พ.ค. 58 เวลา 16:41 น.
1,037
views
16 ความคิดเห็น
ผมก็แค่สงสัยอะครับ มันน่าสงสัยจริง ๆ นะ บางคณะแปลก ๆ
เช่น Digital Art ผมก็ยัง งง ว่าจบมาทำไรอะไร เรียนอะไร เปิดคณะนี้ทำไม
คือสงสัยก็ถามด้วยคำพูดที่ดีๆ หน่อยก็ดีค่ะ คือที่เจอมา มันเหมือนดูถูกกันนะค่ะ เราหมายถึงบางคนนะ
ผมก็พูดดีดี นะ
ตกกะจาย เห็น Digital Art เพราะเราคนนึงที่เรียนสายนี้ค่ะ /_\
/ตะเตือนไต ฮึกฮึก
Digital Art ไม่เรียนแค่วาดในคอมแต่เรียนเรื่องโปรแกรมด้วย เป็นการผสมระหว่างพวกศิลป์กับวิทย์คอมค่ะ เพราะฉะนั้นดิจิตอลอาร์ติสสามารถประกอบอาชีพประเภทสายงานมัลติมีเดีย เช่น กราฟฟิคดีไซน์ เอ็ฟเฟคให้กับสื่อภาพยนต์ อะไรแบบนี้ อ้อ มีแอนิเมชั่นด้วย แอนิเมชั่นเนี่ยสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายอาชีพนะคะ หรืออาจจะเป็นอนิเมเตอร์เองเลยก็ได้
ส่วนที่ว่า "เปิดคณะนี้ทำไม" โอ้..เป็นคำถามที่ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะตอบยังไง แต่เป็นคำถามที่ควรให้ผู้ใหญ่ที่เขาสร้างคณะนี้ตอบซะมากกว่านะคะเนี่ย 555555
คิดว่าสร้างขึ้นมาเพื่อให้แยกประเภทอย่างชัดเจนขึ้นมั้งคะ อย่างที่บอกไปตอนแรก ดิจิตอลอาร์ตมันคล้ายศิลป์+วิทย์คอม
จริงๆ ก็มีหลายมหาลัยที่เขาไม่ได้กำหนดคณะ Digital Art ขึ้นมาซะทีเดียว แต่เป็นเอกย่อยๆ อยู่ในคณะอื่นๆ เพราะมันเป็นอะไรที่โคตรผสมเลย
อย่างเช่นมหาลัยเอกชนอย่าง ม.หอการค้า จะเป็นคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น
มหาลัยรัฐบาล มศว เป็นวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดีย มีเราเรียนอยู่ค่ะ
แต่ช้าก่อน! ที่เราเขียนนั่นมันหาได้เกี่ยวกับคำตอบไม่!(.............)
จริงๆ ก็ไม่ได้อยากว่าอะไรอะนะคะ แหะ แต่อยากให้...ถ้าสงสัยว่ามันเป็นยังไงก็น่าจะลองเข้าไปหาข้อมูลมันซักหน่อยจะดีกว่า //___\\;; อาจจะมีอะไรที่เด็ดกว่าที่คุณคาดคิดก็ได้! แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องถามอยู่ดีอ่าเนาะ--
----------------------------
จริงอยู่...โปรแกรมเอย วาดรูปเอย มันอาจจะ "ฝึกเองที่บ้านก็ได้นี่หว่า! เรียนทำห่ามะเขืออะไรวะ!" แต่ว่า การนั่งศึกษาโปรแกรมหรือแค่ฝึกวาดรูปอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ทางของมัน ความคิดสร้างสรรค์ที่เราจะดึงมันออกมามันไม่สุดนะคะ ทั้งการดีไซน์ ทั้งผลตอบรับต่างๆ สังคมอาร์ตติสและเทคโนโลยีที่ควบคู่ไปพร้อมกัน
ก็เหมือนศิลปกรรม อ้ะ จะมาเรียนทำไมฝึกที่บ้านก็ได้! ..อย่านะ อย่า ............./กอดชาวศิลป์กรรมแน่นมาก(?)
ไม่เรียนแล้ว จะรู้หรอคะ ;w; ยากหน่อยนะ
ง่ายๆเลยครับ ดิจิตอลอาร์ตนี่คืองานออกแบบทางอาร์ตทุกชนิดครับ
แค่ตื่นขึ้นมา เห็นลายปลอกหมอน มันก็งานออกแบบละครับ งานออกแบบมีรอบตัวคุณ
.
.
ปล.คำว่าเปิดคณะนี้ทำไมมันดูแปลกๆดูไม่ดีนะครับ ควรจะใช้คำว่าทำไมต้องมีคณะนี้มากกว่า
และที่มีคณะแบบนี้ขึ้ินเพราะมีความต้องการในท้องตลาดมากขึ้นครับ ไม่งั้นเค้าไม่เปิดหรอกครับ ขาดทุน555
ถ้าอยากถามให้ไม่กระทบคนอื่นเหมือนดูถูก ลองเปลี่ยนมาใช้คำว่า
'เรียนสาขานี้สามารถประกอบอาชีพสายตรงอะไรได้บ้าง'
'การเรียนสาขานี้สามารถประยุกต์ใช้กับอาชีพอะไรได้บ้าง'
'มีอาชีพไหนที่เกี่ยวข้องกับสาขานี้บ้างครับ'
ดูบ้างไหมคะ? (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ยกตัวอย่างให้ดูซอฟท์ลงบ้างรึเปล่า)
เพราะเดี๋ยวนี้จบมาคนทำงานไม่ตรงสายก็มีนะ จบแพทย์ต่อบริหาร จบวิทยาต่อครุ แต่สิ่งที่คนหลายๆคนมาตั้งกระทู้หรือถาม เราคิดว่าเขาน่าจะต้องการคำตอบที่เป็นสายตรงของสิ่งที่เรียนมาน่ะค่ะ มีน้อยคนนะที่จะรู้จักการเรียนต่อป.โท หรือรู้จักพวกตลาดแรงงานว่าต้องการคนกลุ่มไหน
ถ้าพวกคณะที่เป็นพวกวิชาชีพ ไม่เกิดปัญหานี้หรอกฮะ แต่ถ้าเป็นคณะที่กว้าง ไม่มีวิชาชีพที่รองรับชัดเจน เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยก็ถามแหละฮะ เพราะเขาไม่รู้ว่าคณะที่เราเรียนมา (อย่างเช่นวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ) สามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง เพราะคณะพวกนี้ไม่มีวิชาชีพโดยตรง ส่วนงานที่ตรงสาย ก็จัดได้ว่าหายากมากๆ คนจบอย่างอื่นมาบางทีก็ทำแทนกันได้อีก เพราะมันไม่ใช่คณะแพทย์ ทันตะ เภสัช วิศวะ ที่รู้ว่าจบมาก็เป็นตามชื่อคณะ (ถึงจะมีบางส่วนเบนเข็มไปทำอย่างอื่น) แถมอยากเปลี่ยนสายไปแย่งคณะที่ไม่ใช่วิชาชีพ ก็ย่อมได้นะ ถ้าเขาอยาก ตรงนี้ก็เปลี่ยนความคิดอะไรเขาไม่ได้นะ ก็ได้แต่ทำใจ
ส่วนเรื่องมหาวิทยาลัย เพราะประเทศไทยเป็นระบบอุปถัมภ์และมีการแบ่งแยกระดับมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน (ไม่ต้องแย้งว่าบ้านเราเป็นอยู่ที่เดียว ต่างประเทศก็เป็น แถมเราก็ยังเห็นอีกนี่ว่ามีมาตรฐานมาแบ่งแยกระดับมหาวิทยาลัยเยอะแยะ แถมถ้าเราคิดจะต่อโทที่ต่างประเทศ ชื่อมหาวิทยาลัยมีผลมากนะฮะ ถ้าไม่จบจากที่ดังๆมา reject ใบสมัครทิ้งเลยก็มี) ทำให้มีผลเรื่องหางานด้วย แต่มันเป็นแค่งานแรกๆเท่านั้น ถ้ามีประสบการณ์ ชื่อมหาวิทยาลัยก็ไม่มีผลมากแล้ว ยังไงก็เลือกมหาวิทยาลัยดีๆไว้ก่อนแล้วกัน
ปล. เห็นด้วยกับ คห.1 บางคณะชื่อแปลกๆมันก็ไม่รู้จะไปทำอะไรได้เหมือนกัน
ทำใจกว้างๆค่ะ
จะเจตนาดูถูกหรืออะไรก็เรื่องของเขา เราไปบังคับให้เขาปั้นคำสวยๆมาไม่ได้ แต่เราปรับความคิดตัวเองได้
พูดตามตรง เราก็ไม่เคยถามใคร แต่ในใจเราก็คิด ทุกวันนี้ก็สงสัย 'เรียนวิทลัยสื่อที่ทำอะไรวะ' ในใจทุกคนก็มีความคิดแบบนี้ แต่จะปั้นคำออกมาแค่ไหนเท่านั้นเอง
ก็คิดซะว่าอธิบายเขาไปให้เป็นวิทยาทาน อธิบายว่ามันดียังไง เท่ยังไง เปลี่ยนทัศนคติคนอื่นให้เข้าใจ แค่นั้นแหล่ะค่ะ
คนหนึ่งคนไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ที่เขาถามก็เพราะไม่รู้ ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับด้านนี้มา ที่ถามอาจจะไม่ได้หมายถึงดูถูกเสมอไป แต่ที่เขาถามอาจเป็นเพราะเขาเป็นห่วง กลัวในอนาคตคุณจะหางานลำบาก
เขาอาจจะแค่สงสัย แต่เลือกใช้คำผิดไปหน่อยเลยเหมือนดูถูกก็ได้นะฮะ
เขาถามไม่สำคัญเท่าว่า เราตอบคำถามนั้นได้หรือไม่ เราคงต้องหาคำตอบไว้ให้ตัวเองด้วยค่ะ ถ้าตัวเราเองยังไม่เชื่อมั่น เราก็จะยิ่งจิตตกหม่นหมอง จะตอบคำถามเขาก็ไม่มั่นใจ
ควรศึกษาดูแนวทางการประกอบอาชีพของคณะที่เราเรียน เราจะได้เตรียมตัวหรือเสริมความพร้อม เช่น คนที่เรียนประวัติศาสตร์ โบราณคดี ก็ไปเสริมทักษะภาษาอังกฤษ ไปอบรมมัคคุเทศน์ สามารถทำอาชีพท่องเที่ยวได้ เชื่อเถอะค่ะ ทุกวิชาชีพมีหนทางของมัน
แล้วต่อไปถ้าใครมาถาม ก็ตอบเขาไปเริ่ดๆ เชิดๆ ได้เลยค่ะ น้องจะตอบได้แบบมั่นใจและภูมิใจในทางที่เราเลือกแล้ว
ก็ต้องดูเจตนาคนถาม ถ้าฟังดูแล้วเขาไม่รู้จริงๆ ก็ตอบไปตามตรง แต่ !!!! ถ้าฟังแล้วดูเหมือนเขาดูถูก หากเป็นเราเราจะตอบว่า "อย่างน้อยเรียนไปจะได้ไม่ต้องโง่เหมือนคนถาม"
ถ้าเค้าถามแบบนี้ก็ตอบไปซิคะว่าทำอะไร หรือว่าตัวน้องเองก็ยังไม่รู้ว่าจบไปทำอะไร
เค้าไม่ได้ดูถูกหรอกค่ะ แต่จะให้พูดว่า จบมาประกอบอาชีพอะไรบ้าง ทำนองนี้ก็แปลกๆนะคะ
ถ้าน้องตอบคำถามของเค้าได้ มันก็จบ ไม่ใช่มาตั้งกระทู้เรื่องแบบนี้
ที่ตัวน้องเองคิดว่าเค้าดูถูก เพราะใจของน้องเองก็ดูถูกคณะที่น้องเลือกค่ะ
ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติครับ เพราะในปัจจุบันมหาวิทยาลัยมันถูกมอง/คาดหวังในฐานะโรงงานฝึกอาชีพผลิตแรงงานสู่สังคม (รัฐบาลก็มองเช่นนี้ไม่งั้นจะตอบอย่างไรว่าทำไมถึงต้องเอาภาษีมาทุ่มให้การศึกษา) ถ้าไม่อาจจะตอบได้ว่าคุณเรียนแล้วประกอบอาชีพอะไรได้มันจึงถูกมองว่ามันไม่ตรงกับสิ่งที่คาดหวัง โดยเฉพาะคณะที่ไม่รู้จักว่ามันมีภาพผูกโยงกับอาชีพอะไรก็มักจะถูกถามถึงเป็นพิเศษ
แต่อย่าลืมว่าแนวคิดเรื่อมหาวิทยาลัยก็เป็นแนวคิดรับเข้าจากตะวันตก แนวคิดดั้งเดิมเรื่องมหาวิทยาลัยนี้แต่เดิมก็ไม่มีขึ้นเพื่อตอบสนองการสร้างอาชีพ แต่เป็นเพื่อการตอบสนองต่อการเรียนรู้หรือสร้างความรู้ใหม่ๆ ซึ่งความคิดนี้ก็ยังเหลือในรูปของพวกศาสตร์บริสุทธ์ต่างๆเช่น รัฐศาสตร์ สังคมวิทยา วิทยาศาสตร์ นั่นแหละครับ ซึ่งพวกนี้เพื่อตอบรับก็แนวคิดการผลิตแรงงานจึงมีการปรับให้มาสู่เชิงประยุกต์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ทิ้งแนวทางเดิมของตนฉะนั้นจึงตอบได้ลำบากเมื่อถามถึงในเชิงอาชีพ เพราะศาสตร์ของมันคือองค์ความรู้และวิธีศึกษาล้วนๆจะเอาไปประยุกต์เพื่อทำอาชีพอะไรมันเรื่องของผู้เรียนเป็นหลัก
คำถามแบบนี้..ไม่นึกว่าจะมาเพื่อนรุ่นเดียวกัน เคยได้ยินแต่มาจากญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงวัยและพ่อแม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะถามอันเนื่องมาจากความที่แกไม่รู้จริงๆ ว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร และเรียนเพื่อประกอบอาชีพอะไร
ดังนั้นเป็นธรรมดาที่น้องจะรู้สึกว่าเพื่อนสื่อสารไปในทางไม่สร้างสรรค์ ออกแนวดูถูกนิดๆ กวนประสาทหน่อยๆ เพราะเพื่อนที่ดีและห่วงเราจริงย่อมต้องไม่ทำให้เรารู้สึกระคายหูเวลาที่มันถาม..ใช่มั้ย
จงปล่อยเพื่อนไปเถอะคะ เมิงไม่รู้ ก็ไม่ต้องรู้ กรูรู้ของกรูละกัน
จริงๆเค้าอาจจะไม่ได้ดูถูกอะไรหรอกนะ เอาจริงๆบางคณะไม่รู้จบไปทำไรจริงๆ เพราะสายงานมันคาบเกี่ยวกันค่อนข้างมาก จนเรียนต่างคณะแต่ก็สามารถทำงานด้วยกันได้ก็ งง เหมือนกัน บางคนมั่นหน้ามาก บางคนนะ บอกว่าเรียนคณะนี้ก็ทำงานคณะนี้ได้ ทั้งๆที่คนจบสายตรงเค้าก็ยังไม่มั่นหน้าขนาดนี้ -เราก็เพลีย บางคณะเห็นต่างประเทศเปิดก็เลยเปิดตามมั้ง แต่ไม่ได้ดูทรัพยากรบ้านเรา ไม่ได้ดูสามารถตลาดแรงงานในบ้านเรา ไม่ได้ดูว่าเทคโนโลยีส่วนใหญ่ก็นำเข้ามาทั้งนั้น จะให้ไปผลิตอะไร อันนี้ก็เพลีย
สุดท้ายเราเป็นเลือกเรียนเอง เรายังไม่เเน่ใจหรอกว่าเราจะเข้าคณะอะไร อยู่ที่ไหน จนกว่าเราจะติด จนกว่าเราจะได้ชื่อว่า เป็นนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้นๆ คนเรามีหลายมุมมองหลายความคิด เเต่เราเชื่อว่า สาขาทุกคณะมีงานทำ อยู่ที่เราจะทำงานไหมต่างหากละ //ปล่อยเพื่อนไป //มานั่งรอเเอดเเบบปี58 ก็ได้นะฮาๆๆ
ก็นิ่งไปซักพักอะนาย...
ติดสตั๊นท์แล้วตอบว่า ...อืมนั่นสิ อาชีพอะไรดีน้าาา ' v ' )
ตีความคนถามได้หลายแบบนะครับ ก็อย่างที่เม้นบนๆบอกไปนั่นแหละ อาจจะเกิดจากอยากได้คำตอบจริงๆ หรือเป็นเชิงดูถูกก็เป็นได้
แต่อยากให้ย้อนดูตัวเองด้วยครับ ว่าที่ตอบ(หรือจะตอบ)กลับไปเนี่ยมันฟังดูเข้าท่ามั้ย? จริงอยู่ว่าเค้าอาจจะพูดมาอย่างไม่มีเหตุผล แต่เราจำเป็นต้องตอบ(หรือตอก?)อย่างไม่มีเหตุผลกลับไปหรือเปล่า? เพราะการตอบอย่างไม่มีเหตุผลกลับไปอาจจะเป็นการสะท้อนให้เห็น(ในสายตาของเขา)ว่า "คุณก็ไม่รู้เหมือนกัน" "สุดท้ายคุณก็แค่เรียนไปเฉยๆให้มีที่เรียนพอ" "คุณมันแค่คนไม่มีเป้าหมายคนนึง"
โดยส่วนตัวนะครับ ตอบไปตรงๆเถอะครับไม่ว่าจะถามจริงหรือดูถูก ถ้าถามจริงก็ถือว่าเป็นการช่วยให้คนรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ถ้าดูถูกก็อธิบายให้เขาเห็นซะว่าเค้ากำลัง"ดูผิด"
แต่ท้ายที่สุดนะครับ "อย่าเถียงกับคนโง่ เพราะเขาจะดึงคุณลงมาระดับเดียวกับเขา แล้วเอาชนะด้วยประสบการณ์" -มาร์ค ทเวน
จบคณะนี้ทำอะไร โดนถามบ่อยมาก ส่วนใหญ่เพราะคนที่ถามไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เพื่อนเรียนพาณิชนาวีก็มีคนถามว่าเรียนมาแล้วจะทำงานอะไรได้ เพื่อตอบกลับไปว่า "ป้าไม่รู้เหรอว่าทุกวันนี้เค้าส่งสินค้ากันทางเรือ เพราะมันขนได้เยอะกว่าเครื่องบิน" ต้องตอบกลับไปประมาณนี้อ่ะ ถ้าคนถามเค้าถามเชิงจะดูถูกอ่ะนะ เพราะมันจะทำให้คนถามดูโง่ไปทันที แต่ถ้าเค้าเพราะไม่รู้ หรือเค้าถามเพราะอยากรู้ก็ตอบเค้าไปดีๆนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?