Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กเอกชนอย่างผมมีอะไรสู้เด็กรัฐบาลบ้าง?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเรื่องเลยครับ (ณ ที่นี้ ขอพิมพ์ว่าครับกับผม แต่ผมเป็นผู้หญิงนะ)

เริ่มเกริ่นเรื่องเลย (ยาวมากๆช่วยทนอ่านหน่อยนะครับ)
ผมคือเด็กสอบไม่ติดแอด เมื่อ ช่วง ปี 57
เพราะมีปัญหาเรื่องที่บ้านและโรงเรียน รวมถึงเรื่องเพื่อน
หลักๆคือไม่มีเงินเรียนพิเศษ และบอกตามตรงคือ ไม่มีความรู้อะไร
ครูที่โรงเรียนตอนที่เรียนมัธยมบ่นผมว่าผมมันไร้ค่า เรียนไปก็ไม่ได้อะ ต่อมหาลัยไหนก็ไม่รอด
(เพราะเงี้ยแหละ ถึงไม่อยากไปโรงเรียน)

จบมาเกรดต่ำต้อย 2.72 กว่าๆ(บางคนบอกว่าก็โอเค แต่จริงๆ มันไม่ดูดีหรอกครับ)

ไปสอบ gat pat ได้น้อยสุดๆ O-net อย่าถามมมมม
ผมอ่านหนังสือเองไม่รอด ถนัดให้คนอื่นสอน แต่ไม่มีเงินเรียนพิเศษที่คอร์ดละ 2000 อัพเหมือนเพื่อนๆ

แต่ผมมีสิ่งท่อยากทำให้สำเร็จ คือเรียนวิศวะคอม
พอคะแนนผมแอดไม่ติดที่ไหนตามที่ต้องการ

พ่อผมก็ผิดหวังกับผมมาก พวกเราทะเลาะเรื่องนี้บ่อยๆ แถมเขาก็มีแฟนใหม่ด้วย(แม่ผมหย่ากับพ่อแต่เด็ก)
น้องของพ่อ ก็มาอวดเรื่องลูกของเขาให้พ่อผมฟัง ว่าเขาเก่งมากๆ เตรียมสอบ มหาลัยรัฐดังๆ
มีครูสอนพิเศษมาติวเตอร์ตัวต่อตัวทุกวัน

ผมที่ล้มเหลวกับทุกอย่าง ก็ไม่มีอะไรจะ พูดอะไรกับเขา ได้แต่หา มหาลัยที่มีวิชาที่ผมอยากเรียน
จนเจอ มหาลัยเอกชนแห่งนึง(ไม่ขอเอ่ยนามครับ)

ตอนแรกผมที่ยังมีแผลใจ(หลายๆเรื่อง)อยู่ก็เข้าไปสมัครและเรียนที่นั่น
แน่นอน มีคนสงสัยว่าผมไม่มีเงินเรียนพิเศษทำไมไปเรียนเอกชนได้

คำตอบง่ายๆ ผมกู้เรียนเอาครับ ผมยอมที่จะติดหนี้เพื่อได้เรียนวิศวะคอม เพื่อไม่ให้พ่อต้องมาเสียเงิน
(แต่ซัมเมอร์ต้องจ่ายเองราคาเป็นหมื่น)


เวลาผ่านไป ผมปรับตัวใหม่ เอาจริงๆก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ผมเป็นคนเงียบๆ ตั้งใจเรียนอยู่แล้ว
สมัยมัธยมผมก็นั่งหน้า ถามว่าทำได้ไหม ทำได้บางวิชานะ แต่เพราะไม่มีเพื่อน ไม่มีกลุ่ม บางวิชาผมจึงตก

แต่ พอได้เรียนวิชาที่จำเป็นสำหรับวิศวะคอม ไหนวิชาเรียนต่างๆเกี่ยวกับการเป็นนักศึกษา
เพื่อนในสาขาที่บางทีก็ดี บางทีก็แย่ ทิ้งบ้างไม่ทิ้งบ้าง ทำให้แผลในใจผมเริ่มหายบ้าง
เริ่มยิ้ม เริ่มหัวเราะ อยากมามหาลัยทุกวัน ได้ทำกิจกรรมรับน้อง ที่ใฝ่ฝัน
(อาจจะไม่หรูเหมือนที่คิดเหมือนม.รัฐก็ตาม)


และอาจเป็นเพราะผมได้เรียนวิชาที่ถนัด ทำให้ ปี 1 ตอนนี้ผมจบมาได้ เกรด 3.22
เกรด 3 ครั้งแรกในรอบ 6 ปี ม.1- ม.6 ไม่เคยได้มันมา
ขอย้ำอีกครั้ง ผมไม่มีความรู้มัธยมเลย เริ่มเรียนใหม่เหมือนพวกเด็กสายอาชีพ

เห็นผมได้เกรดที่โอเคกับตัวผม ได้อยู่มหาลัยที่มอบอนาคตให้
แต่ว่า ผมก็ยังเครียดทุกวัน เรื่องครอบครัว ที่พ่อเริ่มสนใจแฟนใหม่เขามากไป และ เรื่องเงิน...

เพราะผมมีหนี้ จบมา ก็ต้องทำงานใช้หนี้เป็นแสน เรียนเอกชนราคาไม่ถูกหรอก
แถม ถ้าเกรดตก ผมก็ต้องหลุดกู้ และไม่ได้เรียน

(ขอเอ่ยถึงคนที่มีพ่อแม่สนับสนุนเรื่องการเรียน ถ้าคุณได้เรียนก็กรุณาตั้งใจเรียนนะครับ)

และที่สำคัญคือ เด็กเอกชน...จะไปสู้อะไรเด็กรัฐบาลได้?...
ผมที่เรียนได้เกรด 3 ได้เอามันมาอวดพ่อ หลังจากที่ทำให้พ่อผิดหวังกับเรื่องการเรียนของผมมาเป็น 6 ปี

แต่เขากลับไม่สนใจ คิดอยู่ว่า เอกชนก็เรียนง่ายแบบนี้แหละ ได้เกรดดีๆก็ไม่แปลก
ไม่ชม และ ไม่พูดอะไร แค่มองเกรดเท่านั้น ต่อให้ผมได้เกรดเยอะกว่าเด็กรัฐบาล

ก็จะมีคนมาบอกอยู่ดีว่า ก็รัฐบาลมันเรียนยาก เอกชนปล่อยเกรด แค่จ่ายเงินก็ได้แล้ว

คุณคิดอย่างงั้นเหรอ?...

คุณมาดูผม ที่เห็นอย่างเงี้ยก็เรียนแทบตาย ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สบายหนักแค่ไหน ก็ยังเรียน
แค่ขาด ก็ไม่ต่างจาก ม.รัฐอย่างคุณหรอก หมดสิทธิ์สอบไงครับ
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเรียนอยู่ ง่ายหรือยากหรอก รู้แต่ว่า เลือดตากระเด็น ไม่สบายหรอกครับ
คุณบอกว่า ม.รัฐ เกรดไม่ถึงรีไทส์? ม.เอกชนน่ะ ก็ไม่ชิวหรอกรู้ไหม ได้ F ก็ลงเรียนใหม่
แถมค่าหน่วยกิตมากกว่าคุณอีก เฉลี่ยถูกสุด ก็ พันกว่า...มากสุด ราวๆ 6 พันกว่า


ตอนปีนี้ 58 ญาติผู้น้องผมได้ติด มหาลัยรัฐดัง ทั้งตระกูลสนใจเขาผมก็ไม่ว่าหรอก
เพราะเข้าใจว่าผมก็ไม่ได้เรียนเก่ง เงินก็ไม่มีทุ่มทุนเรียนพิเศษเหมือนเขา
ไม่มีความสำคัญ เพราะยังไง ในตระกูลสนใจแต่เด็กที่เก่ง มากกว่า เด็กไร้ค่าอย่างผมอยู่แล้ว

ต่อมา ผมคิดอยากจะซิ่ว...แต่ด้วยเสียงคัดค้านอย่างไม่เข้าใจของทุกคน ทำให้ผมไม่ได้สอบ
(ก็ยังซื้อหนังสืออ่านเตรียมสอบ ไม่สนเว้ยจะสอบ)

ซึ่งคุณเข้าใจนะ ว่ามันต้องตัดสินใจหนักมากๆ

ต่อมาผมเริ่มมีปัญหาเรื่องพ่อและแฟนของเขา ทำให้ผมรู้สึกท้อหลายๆเรื่อง
ต่อให้มีเพื่อนในมหาลัยปรึกษา เขาก็ไม่เข้าใจผมจริงๆ


และไม่นานนัก...ผมก็ได้ขึ้น ปี 2 ต้องเตรียมงานรับน้อง ซึ่งได้อยู่หน้าที่สันทนาการ
ต่อมาก็ได้เป็นพี่คณะ อีก เพราะคนมันน้อย ผมเลยต้องช่วยพวกเขา และทิ้งไม่ได้...

เรื่องที่คิดจะซิ่วต่อ ม. รัฐ ก็ไม่อยากจะทิ้งเช่นกัน

จนกระทั้งผมล้มป่วยอย่างหนักเพราะความเครียดสะสม

ปวดหัว มันเหนื่อย มันล้า มันเครียดมากๆ ภาพต่างๆในหัวที่ผ่านมาตลอดค่อยๆไหลออกมา
เรื่องราวที่เจ็บปวดทั้งหลาย มันทำให้ผมท้อ...


และ ในที่สุดก็มีความคิดออกมา ทำไมผมต้องเดินตามเขาด้วย?
(เดินตามที่นี้คือญาติผู้น้องอัจริยะของผมที่ได้เข้า ม.รัฐดังๆนะ)

ผมกำลังเดินวนเวียน และ ไม่ก้าวต่อไป...
ยึดติดกับเรื่องในอดีต...

แค่อยากจะ ชนะเพื่อนๆ เก่งเพื่อสบคำประมาทของอาจารย์มัธยม ทำให้พ่อเห็นว่าผมเก่ง
อยากจะ....เข้า ม. รัฐอย่างเขา...เพราะคิดว่า พวกเขาจะให้ความสนใจกับตัวผม

ผมแค่...อยากให้เขามองผมบ้าง....

จะบอกว่า นั่นคือความรู้สึกที่ เ--้-ย มากจริงๆ (ขอหยาบหนักๆ)

ผมตัดสินใจเรียนต่อ ม.เอกชน ต่อไป ดูแลรุ่นน้องที่กำลังเข้ามา
เขาเรียนเก่งก็ช่างเขา ผมจะทำในแบบที่ผมพอจะทำได้

ผมจะเข้าเป็นรุ่นพี่คณะ และ ปี 3เมื่อไร ผมจะเข้าสโมนักศึกษา เพื่อหาประสบการณ์ ที่เด็ก ม.รัฐบางคนไม่มี
มันคือสิ่งที่ผม พอจะสู้พวกเขา ในแบบของผม


แต่ สุดท้ายก็มีอุปสรรคเรื่องสมัครงาน


เด็กเอกชน.....และ.....เด็กรัฐบาล

ร้อยทั้งร้อย บริษัทต่างๆก็สนใจเด็กรัฐบาลอยู่ดี นั่นคือ สิ่งที่เขาพูดกัน


แต่ผมอยากจะ รู้ความจริงว่า เด็กเอกชนอย่างผม มันสามารถสู้เด็กรัฐบาลได้บ้างรึเปล่า?

ต้องการคำตอบ เรื่องราวของผมอาจจะดราม่าน่ารำคาญมากๆ จนพาลไม่อยากอ่านก็เถอะ

ผมเคยถามผู้ใหญ่บางคน แต่เขาก็ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด

ผมหวังว่าจะมีใครสักคนที่ช่วยเหลือผม





และฝากบอกเด็กทุกคนที่ขี้เกียจเรียน ทั้งๆที่มีทุกอย่าง

คุณโชคดีกว่าผม ที่มีคนสนับสนุนให้เรียน

พ่อแม่ให้คุณเรียนพิเศษก็เรียนไปเถอะครับ เพื่อตัวคุณเอง

ถ้าคุณขี้เกียจเมื่อไร หันมามองผมได้เสมอ

ผมอยู่ตรงนี้ มองคุณอย่างอิจฉา(บอกความจริงเลยนะครับ)

ผมไม่มีโอกาศได้เรียนสิ่งที่ดีๆเหมือนคุณนะครับ

เพราะงั้น รีบหันหลังกลับไปให้ไว

แล้วขยันเรียน เพื่ออนาคตของคุณเอง

จำคำนี้เอาไว้ ถ้าคุณมีโอกาศมากกว่าใคร ก็อย่าทิ้งโอกาศนั้นเด็ดขาด











แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

secret23181823 26 มิ.ย. 58 เวลา 20:55 น. 1

ความคิดของคุณไง

ถึงคุณจะเรียนเอกชน  ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จ 
สู้สู้นะคะ รุ่นน้องเป็นกำลังใจให้

0
E-wa 26 มิ.ย. 58 เวลา 21:04 น. 2

(เป็นแค่ความคิดจากการที่ได้ยินมา ไม่ใช่ประสบการณ์จริง เพราะดิฉันเพิ่งกำลังจะเข้าปีหนึ่ง)

ไม่มีเงินเรียนพิเศษ >>> อินเทอร์เน็ตมีก็เสิร์ชหาสิ วิดีโอสอนมีเยอะแยะ พวกสำหรับเด็กทางไกลบนดอยอะไรนั่นก็ได้(อย่าดูถูกนะ ฉันเข้าใจสมการเคมีได้ก็เพราะวิดีโอนี่) ไม่งั้นตอนอยู่ในห้องเรียน ไม่เข้าใจตรงไหนทำไมไม่ถามครู ถามเพื่อน ถ้าคุณเข้าใจในห้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษ

โอเค เรื่องในอดีต ผ่านแล้วผ่านเลย ปล่อยมันไป

เอกชนสู้รัฐได้ไหม >>> อันที่จริงดิฉันไม่ใส่ใจเรื่องจะรัฐหรือเอกชนนักหรอก ดิฉันคิดว่า ตัวบุคคลเองต่างหากที่สำคัญ พ่อแม่ดิฉันมักจะพูดเสมอว่าเกรดไม่ใช่ตัวตัดสินชีวิตจริง เพื่อนพ่อแม่หลายคน ซนๆ ดื้อๆ ป่วนๆ โดดบ้างเรียนบ้าง เรียนเกือบไม่จบ แต่พอจบมา เจริญรุ่งเรืองเป็นใหญ่เป็นโต หน้าที่การงานมั่นคง ในขณะที่พวกเรียบร้อยๆ คะแนนสูงๆนั้น เอาเป็นว่าชีวิตค่อนข้างเรียบง่าย ทำไม? เพราะพวกไม่ค่อยเรียนเขาเอากิจกรรม (ไม่ได้จะว่าเรียนไม่ดีนะ) เพื่อนฝูง คอนเน็คชั่นเยอะ (ก็ไม่เชิงจะเรียกว่าเส้นสายแต่ในความคิดดิฉัน มันความหมายบวก) ทำให้เขารู้การทำงานร่วมกับคนอื่น คนรู้จักมีตำแหน่งว่างเขาก็แนะนำกัน ก็หางานง่าย แต่ก็ต้องดูความสามารถตัวเองจริงๆเช่นกัน

คุณก็ดูน่าจะเข้าใจอะไรมากกว่าดิฉัน ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ทำในสิ่งที่รักมันจะไม่มีวันทรยศคุณ

#ขออภัยที่ดิฉันก็ไม่รู้ความจริงเช่นกัน

0
น้ำฝน 26 มิ.ย. 58 เวลา 21:34 น. 3

เราก็เรียนเอกชนนะ เราเข้าใจความคิดแต่ละคนคิดต่างกัน เราสู้คนอื่นไม่ได้เรื่องสอบเข้าแต่เราสู้คนอื่นได้เรื่องการใช้ชีวิตบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน เราเรียนเอกชน มันทำให้เรานึกถึงคนในครอบครัวมากขึ้น ห่วงพ่อแม่มากขึ้น เริ่มพยายามเก็บเงินมากขึ้น ประหยัด เพราะ อะไรต่างๆแถวนั้นก็แพง เราว่าการอยู่เอกชน ทำให้เรามีความอดทนนะ อดทนต่อการที่ถูกคนอื่นดูถูก คนอื่นชอบบอก จ่ายครบจบแน่ เราอยากจะบอกทุกม.สอนคนให้มีคุณภาพทุกที่นั่นแหละ เราดูถูกใครไม่ได้หรอก ทำตัวให้สูงดีกว่ากดตัวเองลงต่ำ ด้วยคำพูดของเราเอง เราภูมิใจที่ม.เอกชนสอนอะไรหลายอย่างที่เราแทบไม่เคยได้รับจากที่ไหนรักเลย

0
jkaddict 26 มิ.ย. 58 เวลา 21:41 น. 4

เอกชนก็สู้รัฐได้ ไม่งั้นคนที่เรียนจบจากเอกชนทุกคนเดินเตะฝุ่นกันเป็นแถวแล้ว บริษัทที่ไม่ดูสถาบันมันก็มี เพียงแต่อาจจะไม่ใช่บริษัทชื่อดังเท่านั้นเอง แต่เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มมีประสบการณ์ คุณจะออกไปสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆเขาก็รับพิจารณาอยู่แล้ว ชื่อเสียงมหาลัยที่ว่าสำคัญมันก็แค่ตอนสมัครงานครั้งแรกเท่านั้นแหละ 

ปล. โอกาสเขียนแบบนี้นะคะ

0
My min@Tea 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:53 น. 5

เอกชนก็สู้รัฐได้ค่ะ(อดีตคนที่เคยเรียนร.ร.เอกชนมา)เราคิดว่ามันไม่เกี่ยวหรอกค่ะว่าเกรดได้เราไหร่อะไรประมาณนั้น คุณไม่ต้องสนใจหรอกค่ะแต่ที่แน่ๆ ขอให้คุณตั้งใจทุกๆด้านและก็สานมิตรให้เยอะๆค่ะเพราะพอจบมามันอยู่ที่'ประสบการณ์ชีวิตและการทำงานเป็นทีม'      

0
Shalnark Diabolus 27 มิ.ย. 58 เวลา 17:21 น. 6

คุณมีความสามารถรึเปล่าล่ะครับ? มันไม่เกี่ยวว่าคุณเรียนจบหรือไม่ ไม่เกี่ยวว่าจบมาจากไหน ไม่เกี่ยวว่าจบอะไร ไม่เกี่ยวว่าจบเกรดเท่าไหร่ ถ้าคุณมีความสามารถคุณก็อยู่รอด ถ้าคิดจะเป็นใหญ่อย่าขังตัวเองอยู่ในกรอบค่านิยมจอมปลอมครับ - -

0
tayakonmungkun 5 ก.ค. 58 เวลา 11:51 น. 7
เกี่ยวด้วยเหรอ รัฐ เอกชน ขอนอกเรื่องนิดนุง ผมว่า รร เอกชนดีกว่า รร รัฐบาล.. รร เอกชนนักเรียนไม่เยอะ ครูดูแลเอาใจใส่ทั่วถึง และก็เรียนหนักอยู่นะ ค่าเทอมเป็นหมื่นสองหมื่น
ค่าใช้จ่ายเยอะหน่อย
รร รัฐบาล เวลารับนักเรียนรับน้อยตอนวิ่งไปสมัครหลายที่แต่ตอนม.ต้นผมไปสมัครที่เดียวโชคดีติด 555 ม.ปลายก็จะเข้ารรเอกชนบ้างล่ะ (ผมก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอก วิชาไหนเก่งก็ได้เกรดดีหน่อยวิชาไหนเฉยก็น้อยหน่อย ธรรมดา) เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยเยอะหรอก เพิ่งพาอาสัยไม่ค่อยได้ต้องช่วยตัวเอง #บางคน 
ทางครอบครัวผมก็ค่อยสนใจผมหรอกผมมีแม่คนเดียวพ่อเสีย แม่มีแฟนใหม่ แม่มักจะคาดหวังกับน้องมากกว่า เอาใจน้องกับพ่อเลี้ยงมากกว่าไม่เคยรู้สึกว่าแม่รักเราเลย ไม่เคยบอกรัก ไม่เคยอวด ไม่เคยกอด ไม่เคยชม บางครั้งก็อิจฉาเพื่อนมาก พวกเค้าดูรักกันดี.. เวลาพูดกันก็ไม่ค่อยดีหรอกเราจะทะเลอะกันบ่อย ผมงอลบ้าง ผมจะไม่ค่อยคุยอะไรกับแกหรอกวันคุยคำสองคำนี่เหละ เดี๋ยวจะทะเลอะกัน ..... เข้าใจ จขกท เลย ไม่ว่าจะยังไงใครจะว่าไงไม่สนทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำ ทำไมต้องตามคนอื่น .....เยี่ยม
0