Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แด่ตัวฉัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

หากมีใครหลงเข้ามา ต้องบอกก่อนว่ากระทู้นี้เป็น 'ไดอารี่' ของพี่
(ขอแทนตัวเองว่า 'พี่' นะคะ) เผื่อว่าพี่ได้กลับมาอ่านย้อนหลังอีกครั้ง 
เพื่อเตือนใจตัวเองในภายภาคหน้า หากกระทู้นี้จะสามารถทำให้คนที่กำลังรู้สึกเหมือนพี่
ค้นพบคำตอบพี่ก็ยินดีค่ะ


พี่คิดว่าพี่เป็นเด็กมีปัญหาคนหนึ่ง... คำว่า "มีปัญหา" ของพี่ ไม่ได้หมายถึงเกเร ติดยา แต่หมายถึงปัญหาทั่วๆไปเหมือนเด็กหลายคนที่พึงจะมี ซึ่งปัญหาของเราก็ไม่เหมือนกันจริงไหม?

ครอบครัวของพี่มีฐานะปานกลางค่ะ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร พี่เรียนจบจากโรงเรียนธรรมดาๆไม่ใช่โรงเรียนชื่อดังที่แข่งขันกันเรียนอะไร หากแต่ตัวพี่เป็นคนทะเยอทะยาน...พี่ไม่ได้มองแค่ว่าเราเรียนจบมอหกแล้วจะต่อที่ไหนก็ได้ แต่พี่มองไปถึงมหาลัยที่อยากติด...คณะที่อยากเข้า 

มหาวิทยาลัยที่พี่อยากติด คณะที่พี่อยากได้ มีคะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ
แล้วพี่จะทำยังไงถึงจะเข้าไปเรียนที่นั่นได้...คณะที่คนแข่งกันเยอะๆแบบนั้น
ในช่วงเวลานั้น ในหัวของพี่มันบอกว่า 'ต้องเรียนพิเศษเท่านั้น' ถึงจะช่วยได้

ตอนมอสี่พี่เลยขอคุณพ่อคุณแม่เรียนพิเศษ หมดไปเป็นหมื่นกับสามวิชา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) 
ในตอนนั้นเงินหมื่นสำหรับพี่คือเยอะมาก พี่เห็นคุณพ่อคุณแม่ทำงานหนัก พอหมดคอร์สพี่เลยเลิกขอตั้งใจเรียนในห้องจะดีกว่า (พี่กะว่าค่อยไปขอลงคอร์สตะลุยโจทย์ช่วงมอห้าเทอมสอง เตรียมสอบเข้ามหาลัยจะได้ไม่หมดมาก) 

หากแต่ทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่พี่หวัง พอถึงช่วงเวลานั้นพ่อกับแม่ดูเมินเฉยมากๆพอพี่จะขอเรียน ดูไม่สนใจไม่ใส่ใจ ทำให้พี่กลัว...ตอนนั้นพี่ยังไม่กล้าถามตรงๆเลยได้แต่เก็บเงียบ นั่นคือช่วงเวลาที่พี่เริ่มทำตัวเป็นคนมีปัญหาขึ้นมา

สรุปคือพี่ไม่ได้เรียนพิเศษตามที่วางแผน ทุกอย่างผิดเป้าไปหมด อารมณ์พี่เริ่มเปลี่ยนตอนที่พี่สอบตรงที่แรกไม่ติด พี่เริ่มโทษพ่อกับแม่ว่าเป็นเพราะท่านไม่ส่งพี่ไปเรียน ไม่งั้นพี่คงทำได้ดีกว่านี้ พี่โทษทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นตัวพี่เอง


พี่จบมอหกด้วยคะแนนสะสมรวมเป็นที่น่าพอใจ แต่คะแนนแกท-แพท ห่วยบรม ความหวังสุดท้ายของพี่คือแอดมิดชั่น พี่ไม่มีศรัทธาอะไรแล้วในช่วงเวลานั่น คิดว่าถ้าไม่ติดก็เรียนมหาวิทยาลัยเปิด....

ระหว่างนั้นเวลาที่พ่อแม่พูดถึงเรื่องเรียน พี่จะร้องไห้ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาตลอด เอาแต่ตั้งคำถามว่าทำไมพ่อแม่ไม่ให้หนูเรียนพิเศษ ทำไมๆๆ เพราะอะไร 

จนกระทั่งวันที่พ่อแม่ทนไม่ไหว... คำพูดของแม่ทำให้พี่เกิดจุกในใจว่าทำไมพี่ถึงเลวแบบนี้

แม่บอกพี่ว่า "แม่ขอโทษนะที่ให้หนูได้แค่นี้ ขอโทษที่แม่ไม่มีเงินส่งหนูเรียนเหมือนคนอื่น" แล้วน้ำเสียงของแม่เหมือนจะร้องไห้ มันทำให้พี่รู้สึกโคตรบาป





และพอกลับมาทบทวนตัวเองดู ที่ผ่านมาพี่มองข้ามบางสิ่งบางอย่างมาตลอด
พี่หันกลับมามองตัวเอง....
พร้อมถามตัวเองว่า ทำไมตอนนั้นเราถึงได้อ่อนแอแบบนั้นนะ??

พี่คิดว่าพี่อ่อนแอ อ่อนแอมากๆถึงมากที่สุด 
ในตอนที่พี่เจอปัญหา ทำไมพี่ถึงไม่เอาเวลาที่โทษคนนั้นคนนี้ มาหาทางออกหละ
พี่มีเพื่อนเก่งๆหลายคน มีครูเก่งๆ มีหนังสือแบบฝึกหัด มีอินเทอเน็ตไว้ทำอะไร 
ทำไมพี่ต้องรอให้ใครมาป้อนความรู้ให้ ทำไมพี่ไม่เดินเข้าหามัน
และที่สำคัญ ก่อนสอบพี่ไม่ได้เตรียมตัวจริงๆจังๆเลย พี่เอาแต่บ่นอยากเรียนพิเศษแต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้หยิบแบบฝึกหัดมาลองทำเป็นการเป็นงาน

พูดง่ายๆคือ พี่เชื่อว่าถ้าเรียนพิเศษจะสอบติด แต่เราไม่ได้เรียนเราจะพยายามไปทำไม มันเลยทำให้พี่ไม่ตั้งใจเอง พอผิดหวังก็โทษคนอื่นเมื่อให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง

มันเป็นความคิดของคนอ่อนแอ พี่ไม่อยากให้น้องๆที่มีความเชื่อแบบนี้ อยากให้ลองสู้กับมันสักตั้ง หากน้องรู้สึกหิวข้าวแล้วพ่อแม่ไม่ออกไปซื้อให้น้อง...ถ้าน้องไม่ออกไปซื้อเอง แล้วน้องจะได้ข้าวมากินหรือ?

ถ้าน้องอยากเรียนคณะที่น้องหวังจริงๆ น้องต้องไม่หยุดเพียงเพราะอุปสรรคที่มาขวางกั้นไว้อย่างแน่นอน ถ้าทางตรงไปไม่ได้ก็ต้องเดินอ้อมไปแทนจริงไหม...แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจออุปสรรคแล้วน้องไม่อยากสู้ต่อ หรืออยากหยุด ลองถามตัวเองดูว่า เราอยากเข้าคณะนั้นแน่หรอ

สารภาพนิดหนึ่ง คณะแรกที่พี่สอบตรงไม่ติด พอมาทบทวนดูทีหลังมันทำให้พี่รู้ว่าพี่ไม่ได้อยากจะเรียนคณะนั้นจริงๆ เพราะพี่ไม่ได้พยายามทำอะไรเพื่อมันเลย ต่างจากคณะที่สอง แม้จะมีเวลาเตรียมตัวแค่สองเดือนเพราะมารู้ตัวช้าเกินไปว่าอยากเข้าคณะนี้ และถึงพี่จะไม่ติดแต่พี่ก็รุ้สึกว่ามันใช่สำหรับพี่ หลังจากที่กลับมาทบทวนแล้วน่ะ


สำหรับเด็กแอด59 ถ้าใครที่เจออุปสรรคบางอย่างอยู่ พี่ไม่อยากให้น้องเป็นแบบพี่คือโทษคนอื่น โทษนั่นโทษนี่...เวลาที่เราพูดเราอาจจะรู้สึกโล่ง แต่สำหรับคนฟังยิ่งเป็นพ่อแม่เรามันเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจ (ทุกวันนี้พี่ยังรู้สึกผิดอยู่) เวลาเจอปัญหาอย่าจดจ่อที่มัน อย่าเอามันมาทำให้เรารู้สึกแย่ แต่จงมองหาทางออกของปัญหา...มันมีหลากหลายทาง แต่อยู่ที่เราจะเลือกไหม

(เช่นพี่ เรียนพิเศษไม่ได้ แต่ใช่จะหมดหนทางในการเตรียมสอบเข้ามหาลัย แต่พี่เลือกที่จะเพิกเฉยและจมอยู่กับความคิดที่ว่าต้องเรียนพิเศษเท่านั้น...จริงอยู่ว่าพยายามไปเราอาจจะไม่สมหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องมาเสียดายทีหลังจริงไหม? พูดแล้วเสียดายคะแนนแกทแพทจริงๆ) 


สำหรับชีวิตพี่พอพลาดสอบตรง พลาดแอดฯ พี่ไม่คิดว่าพี่ล้มเหลว พี่คิดว่านี่คือจุดเริ่มต้น...พี่ตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยเปิด ถึงใครๆจะว่ายังไงก็ตาม แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป...

สู้ๆนะเด็ก59 ใช้เวลาที่น้องมีให้คุ้มค่าที่สุด !!

ส่วนตัวพี่นั้นได้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปเป็นคนแบบนั้นอีกแล้ว 

แด่ตัวฉัน


แสดงความคิดเห็น

>