Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว Anime Summer 2015 สิ้นสุดการรอคอย อนิเมะญี่ปุ่นยังไม่สิ้นหวัง (มั้ง)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวอนิเมะ Anime Summer 2015 หากการรีวินี้ไม่ตรงใจคนอื่นๆ หรือริวิวโครตอวยไส้แตกเวอร์ก็ขออภัยด้วย เพราะคนรีวิวมันพวกคิโม่ยฮาเร็มครับ

ซีซั่นก่อนไม่มีอนิเมะที่ผมอวย ผมเลยไม่ได้ตั้งกระทู้ครับ แต่สำหรับอนิเมะซีซั่นนี้ ขึ้นชื่อว่าฤดูร้อน อนิเมะญี่ปุ่นจะดีที่สุดในช่วงนี้ครับ และมันก็ไม่ผิดหวังครับ เมื่อมีอนิเมะหลายเรื่องที่ผมตาม (แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีอนิเมะออริจินอลที่ผมสนใจสักเท่าไหร่) และทำออกมาแบบไม่ผิดหวัง  แถมมีหลายแนวอีกต่างหาก ฮาเร็มก็มี แฟนตาซีก็มี โมเอะก็ยอดเยี่ยม หลายรสหลากอารมณ์ครับ

เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมก็ขอรีวิวอนิเมะเท่าที่จะดูได้เอาไว้แล้ว ส่วนหลายเรื่องที่ไม่ได้ดู ก็ขออภัยด้วยครับ คือมันไม่เหมาะกับผมจริงๆ แหละ ทำใจดูจนจบไม่ค่อยได้

 

(ทุกท่านสามารถรีวิว หรือบ่นก็ได้นะครับ เพราะมีอนิเมะหลายเรื่องที่ผมไม่ได้ดู อย่างเช่น หอกอสูรกาย เป็นต้น)

 

 

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 10:51 น. 1
 

  

 

 Gakkou Gurashi

Gakkou Gurashi! เป็นอนิเมะแนวชีวิตประจำวันในโรงเรียน (School-Live!) ที่สร้างจากมังงะของGakkouGurashiเป็นผลงานKaihou Norimitsu(Author) และ Sadoru Chiba (Artist) เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสาว 4 คน ยูกิคุรุมิริอิ และรุ่นน้อง ที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนท่ามกลางซอมบี้กินเนื้อคน และโลกหายนะ (อนิเมะชื่อไทยว่า “โรงเรียนของเราน่าอยู่” มังงะมีลิขสิทธิ์โดยสยาม)

Gakkou Gurashi! เป็นอนิเมะหลอกลวงประจำปี 2015 สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน จ้างให้ก็เดาไม่ออกว่าเป็นแนวดราม่า หดหู่ (ไม่ถึงขั้นปวดตับหรอก) คือมันโครตหลอกลวงผู้บริโภคจริงๆ ครับ คือ ไม่ว่าจะเป็น PV ก็ดูเหมือนการ์ตูนโมเอะชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป  เพลงเปิด เพลงปิดก็แนวโมเอะ (ขนาดตัวอย่างตอนต่อไปยังมุ้งมิงเลยคิดดู)

สำหรับตอนแรกๆ ดำเนินเรื่องเหมือนแนวโมเอะชีวิตประจำวันเหมือนเรื่องอื่นๆ สาวผมชมพูผู้ร่าเริง ทำอะไรก็โกะๆ ไล่จับน้องหมากับลูกน้อง ตัวละครโมเอะ ภาพสีสันสดใส เชื่อว่าใครบางคนที่ดูตอนแรกๆ ก็ดูน่าเบื่อ อะไรว่ะ ก็แนวโมเอะธรรมดา ตัวละครมุ้งมิงกัน เรื่องไหนๆ ก็มี

แต่พอเฉลยตอนท้ายเท่านั้นแหละน่า......... น่าติดตามทันใด

การ์ตูนเรื่องนี้เข้าทำนอง “ยิ้มไว้โลกไม่สิ้นหวัง” ที่พวกเธอก็สามารถยิ้มได้ แม้โลกจะหายนะ สิ้นหวัง ก็ตาม แม้บางคนจะดูเป็นการหนีโลกแห่งความจริง แต่อย่างลืมนะครับว่าพวกเธอเป็นเด็กผู้หญิง หากเป็นคนธรรมดาคงรับสภาพไม่ได้ด้วยซ้ำ บางคนฆ่าตัวตาย บางคนกลายเป็นบ้า แต่สำหรับพวกเธอพยายามมีชีวิตอยู่  ตั้งตัวก่อนก็ยังไม่สายครับ ดีกว่าไปตายดาบหน้า หากเมื่อพวกเธอจัดระเบียบความคิด หาเป้าหมายที่ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว จะไปผจญโลกกว้างที่โหดร้าย มันก็ไม่สายเกินไปครับ

อารมณ์ของการ์ตูนอาจดูแล้วหดหู่ ดราม่า (แต่ไม่ถึงขั้นปวดตับ)โดยเฉพาะฉากปิดหน้าต่าง ทำได้อารมณ์ปวดใจซะเหลือเกิน  แต่ในขณะเดียวกันการ์ตูนยังนำเสนอถึงความหวังของเหล่าเด็กสาว รวมไปถึงการนำเสนอเรื่องมิตรภาพ ความรัก การเห็นอกเห็นใจ การช่วยเหลือกันและกัน ที่เป็นสิ่งที่การ์ตูนโมเอะมีอยู่แล้ว จนคนดูอยากเอาใจช่วยพวกเธอ ปกติการ์ตูนญี่ปุ่นเขาไม่ทำแนวๆ นี้หรอกครับ มีแต่หนีซอมบี้ ยิงซอมบี้ มีฉากเซอร์วิสนมเด้งไปเด้งมา (นมสู้ซอมบี้) แต่ไม่ค่อยนำเสนอเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ 

 

ที่น่าสนใจคือ ตัวอนิเมะ ใส่ความเป็นออริจินอลที่ไม่มีในต้นฉบับด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาที่ไม่มีในมังงะ, รุ่นน้องออกมาตอนแรก (ซึ่งความจริงแล้วรุ่นน้องต้องออกมาตอนหลังนะ แต่คาดว่าตัวอนิเมะคงเล่าย้อนเจอรุ่นน้องครั้งแรกแน่นอน) ไปจนถึงเพื่อนร่วมห้องของหนูหลอน (ที่เชื่อว่าเป็นซอมบี้กินไปแล้ว) ซึ่งจะมีบทบาทยังไงนั้นก็น่าติดตามครับ (ส่วนเนื้อหา ผมว่าคงไม่ออริจินอลจนน่าเกลียดครับ)

เรียกได้ว่าเป็นอนิเมะดีเกินคาดครับ ขนาดผมอ่านมังงะมาแล้ว แต่ก็น่าดูอยู่ดี มันสนุกตรงที่หลอกคนว่าเป็นแนวโมเอะชีวีตประจำวันธรรมดา ดูน่าเบื่อ ก่อนที่จะเฉลยตอนท้ายว่าโลกอันแสนสงบสุขนี้เป็นเพียงการหลอนของหนูหลอนเท่านั้น และตอนนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นอะไรที่หยองจริงๆ

แนะนำคนที่ไม่เคยอ่านมังงะ อย่าอ่านสปอยนะครับ ไม่งั้นเซ็ง และระวังโทรล์ด้วย

           (ไม่รู้ว่าในอนิเมะจะพูดผีดิบเดินได้ว่า “ซอมบี้” หรือเปล่า เพราะว่าคำว่าซอมบี้เป็นลิขสิทธิ์ของมาร์เวล ทำให้เรื่องไหนที่เป็นแนวซอมบี้กัดคนห้ามเรียก “ซอมบี้” อย่างวอกกิ้ง เดด เรียก “วอกเกอร์” (ผีดิบ”, นมสู้ซอมบี้เรียก “มัน” แทน) 

 

3
lมล่ou-lมาUาคาดี้ 14 ก.ค. 58 เวลา 14:45 น. 1-1

หยองตอนท้ายเช่นกันค่ะ ส่วนตัวไม่ได้อ่านแบบมังงะแต่อย่างใด ดูจบรีบเรียกเพื่อนมาเสพเลยค่ะ ดูแล้วอนาคตน่าจะได้รับความล้นหลามพอสมควรค่ะ555

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 10:56 น. 2

 

 

Gate: thus the JSDF fought there

Gate: thus the JSDF fought there (หรือ Gate - Jietai Kare no Chi nite, Kaku Tatakeri) อนิเมะ แอ็คชั่น ตลกแฟนตาซี (เหรอ?) ของผู้ใหญ่ (ผมไม่ได้มองการ์ตูนเรื่องนี้เป็นแนวฮาเร็มแต่อย่างใด)มังงะสร้างจากนิยายของ Yanai Takum เขียนเหมือนปี 2010 (มีห้าเล่มจบ ไม่นับเล่มพิเศษ) ซึ่งตัวอนิเมะมี 24 ตอน

เนื้อเรื่อง Gate: thus the JSDF fought there เริ่มต้นขึ้นในวันหนึ่ง ของปี 20XX ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ถูกโจมโดยกองกำลังจากต่างโลก จนในที่สุดก็สามารถหยุดการโจมตีจากผู้รุกรานได้ จากนั้นกองกำลังป้องกันตัวเองก็ได้ส่งกองกำลังป้องกันตัวเองไปในประตูที่ต่างโลกเข้ามาเพื่อที่จะควบคุมจุดเชื่อมต่อระหว่างสองด่าน ต่อมากองทัพญี่ปุ่นได้ส่งทีมย่อยที่นำโดยพระเอกเรื่องนี้คือ “โยวจิ อิตามิ” เป็นทหารยศร้อยตรี อายุ 33 ปี ที่เป็นถึงหน่วยเรนเจอร์ แต่ โอตามิและพรรคพวกได้เข้าไปพื้นที่ดินแดนของฝ่ายศัตรูเพื่อทำภารกิจลาดตะเวน สำรวจ ช่วยเหลือประชาชนในท้องที่ และผูกสัมพันธ์กับชาวบ้าน (ช่วยเหลือปัจจัยที่จำเป็น)และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

Gate เป็นอนิเมะอีกเรื่องที่ถกกันอย่างร้อนแรงในบางบอร์ดครับ คือบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ สาเหตุที่ความเห็นแตกก็คล้ายๆ กับจอมมารเศรษฐ์ศาสตร์นั้นเหละ

            ก่อนอื่นขอเท้าความก่อน Gateนิยายของ Yanai Takum ซึ่งผู้แต่งเคยเป็นทหารมาก่อน แล้วนำความรู้ประสบการณ์ที่ผ่านมาแต่งเป็นนิยาย ซึ่งผมก็ไม่เคยอ่านนิยายนะครับ (เห็นว่า DEX อาจเอามาแปลก็เป็นได้เหมือนกัน)

            ที่นี้มันเกิดปัญหาขึ้นครับ เมื่อ โดย SAO Satoru ได้เอานิยายเรื่องนี้มาวาดเป็นมังงะ ซึ่งคนเขียนคนนี้เนชอบเรื่องสงครามอยู่แล้ว แถมเน้นพวกอวดสรีระ สงคราม  และเรื่อง Gateเช่นกัน คนเขียนได้วางเรื่องคืออยากสร้างโลกนิยายเรื่องนี้ให้สื่อถึงสงครามที่โหดร้าย การปกครองเผด็จการ ของโลกต่างมิติ ซึ่งภาพมังงะนี้ มันดาร์กโครตๆ เช่น ฉากหญิงชาวบ้านข่มขืนกลายเป็นศพ ฉากเลือดสาด มือหลุด ฉากเด็กน้อยถูกฆ่าอย่างโหดร้าย และรับไม่ได้สุดๆ คือฉากล้างเผ่าพันธุ์น้องต่าย เอาตรงๆ นะ ผมเลิกอ่านมังงะเลยเพราะรับไม่ได้กับฉากนี้ แต่หลายคนอวยมากๆ จนมีการตั้งบอร์ดอวยโดยเฉพาะ ทั้งๆ  มังงะนั้นแตกต่างจากนิยายพอสมควร ความจริงแล้วนิยายไม่ได้มีฉากดาร์กๆ พวกนี้ เนื้อหาแฟนตาซีไม่หวือหวา เน้นเรื่องกรีกมากกว่า ฉากข่มขืนแทบไม่มีกล่าวถึง (ข้อมูลจากนักอ่านเงา)

            ในปี 2015 ซีซั่นฤดูร้อน สตูดิโอน้องใหม่มาแรง  A-1 Pictures ก็เอาเรื่องนี้มาทำเป็นอนิเมะ ซึ่งสตูดิโอนี้มีผลงานเยอะมากและประสบความสำเร็จสูง โดยใช้สูตร สร้างการ์ตูนที่เน้นฐานคนดูวัยรุ่น และเนื้อหาต้องเหมาะทุกเพศทุกวัยด้วย

            ใช่แล้วครับ Gate ตัวอนิเมะนั้นยึดมาจากนิยาย ไม่ได้มีอิทธิพลจากมังงะ และต้องการสร้างเนื้อหาให้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และให้หลายคนเข้าใจง่าย ไม่แปลกครับที่ตอนดำเนินเรื่องตอนแรก หลายคนแทบไม่คุ้นเคย เพราะเนื้อหาอนิเมะตอนแรกกว่าครึ่งเป็นเรื่องของการต่อสู้ในกรุงโตเกียวกับผู้รุกราน ซึ่งในมังงะจบเพียงไม่กี่หน้า

            เท่านั้นไม่พอ พอดีคนติดอะไรดาร์กๆ จากมังงะ ก็บ่นอนิเมะต่ออีก ว่า ไม่มีฉากเรื่องสาดอ่ะ ทำไมตัวละครมันแบ๋วจัง คาแร็คเตอร์แตกต่างมังงะอะ กลายเป็นว่าเป็นอนิเมะเอามาเปรียบมังงะซะงั้น

            ก็แล้วแต่คนจะชอบไม่ชอบนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วเรื่องนี้ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาในเรื่องอาจแทรกเรื่องกองกำลังป้องกันตัวเองของญี่ปุ่นในภาพลักษณ์อุดมคติมากเกินไป และที่สำคัญบทของพระเอกจืดจางมาก ไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลาง หรือตัวแปรสำคัญของเรื่องเลย แถมในมังงะพระเอกหนวดแพะดูยังไงก็ไม่เหมือนโอตาคุ เหมือนตาลุงมากกว่า เรื่องฮาเร็มก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะความสัมพันธ์ตัวละครต่างๆ ก็ไม่ได้แนบแน่นอย่างที่คิดหรอก น้ำหนักของเรื่องอยู่ที่ฉากการเมือง สงครามมากกว่า แต่ยอมรับว่าตัวละครออกแบบมาได้โมเอะแท้ๆ แถมคาแร็คเตอร์เจ้าหญิงนี้สเป็กผมจริงๆ แหละ

แต่พอเห็นหน้าพระเอกฮาเร็มแล้ว หมดอารมณ์.....

4
ปั๊มคุง(pump-kun) 14 ก.ค. 58 เวลา 19:06 น. 2-1

เรื่องนี้ยอมรับว่าอวยมังงะมาก่อน เลยหวังว่าปีนี้จะมีเมะเลือดสาดเนื้อหาดิบโผล่ออกมาแจ่มๆ อยู่บ้าง

พลาดแล้ว.... สินะ

0
เงาเงาเงา 16 ก.ค. 58 เวลา 22:47 น. 2-2

อาจเป็นเพราะ นิยาย GATE นั้น เนื้อหาค่อนข้างจะค่อนไปทางผู้ใหญ่อ่านมากๆนะครับ บางที ผู้ชมส่วนใหญ่อาจจะยังยึดติดกับเนื้อเรื่องแบบอนิเมะ ญี่ปุ่น มากเกินไป พวกฮาเร็ม ที่จขกท พูดถึงอะนะ ผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าลองมองอีกมุมหนึ่งละกัน เนื้อเรื่องนี้ผมว่าค่อนข้างเข้มข้น และ เกี่ยวข้องการเมืองมาก มีการวางแผน กลยุทธิ์ สงคราม การฑูต เนื้อหาแน่นปังเลย ผมติดตามแต่มังงะน่ะครับ พึ่งรู้เหมือนกันว่ามันดาร์คกว่าตัวนิยายพอสมควร แต่ชอบมังงะมาก เพราะเซอร์เรียลสุดๆ สะท้อนภาพของสงครามได้อย่างแจ่มแจ๋ว อารมณ์คล้ายๆ ดู GOT เลยอะนะ 555555555555 แต่ต้องขอแนะนำว่าดูไปเรื่อยๆ จะมันส์มากๆ พระเอกไม่ซื่อบื้อเหมือนหน้าตานะเออ ปาร์ตี้พระเอกนี่โหดทุกโลกเลยนะจะบอกให้

0
Cammy 18 ก.ค. 58 เวลา 09:48 น. 2-3

ความจริงผมไม่เห็นด้วยกับการใช้คำว่าดาร์กสักเท่าไหร่ เพราะดาร์กมันไม่ได้ใช้้กับงานภาพ แต่มันใช้กับเนื้อเรื่อง สิ่งที่สอดแทรกด้วย ผมมองว่าเป็นแนวผสมจริงเข้าไปด้วย ไม่ได้ขายแต่ฉากฆ่ากันลูกเดียว

อย่างที่ผมบอก ผมรับไม่ได้ที่ไปทำเผ่าน้องต่าย

0
ไม่รู้ 21 ก.ค. 58 เวลา 17:35 น. 2-4

ยอมรับครับว่าแต่แบบ eng (ปัจจบุันแปลถึงตอนที 47)สิ่งที่ผมชอบคือเรื่องนี้ทหารไม่ kak ใช่ครับปกติผมดูเมะมากี่เรื่องๆทหารจะต้องโผล่มาเป็นตัวลองยาหรือตัวให้เขาอัดโชว์ความเก่งเทพบลาๆๆๆ แต่เรื่องนี้ทหารเก่งโคตรและอิงจากสงครามจริงๆทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อผลประโยชน์จริงๆครับไม่มีใครเลว(คือชั่วพอกันทั้ง2ฝ่าย)ใครถูกยกเว้นกลุ่มฮาเรมพระเอก อ่านเรื่องนี้แล้วติดใจครับแต่ยอมรับว่ามันไม่สมเหตุสมผลเช่น สหรัฐกับรัสเซียและจีน kak กว่าความเป็นจริงมาก

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:02 น. 3

  

 

Non Non Biyori

Non Non Biyori กล่าวถึงตัวละครหลักหญิง 4 คน กล่าวถึงชีวิตของ ฮาโตรุ สาวประถม 5 ที่ดูโตเกินวัย เพิ่งย้ายจากเมืองโตเกียว มายังชีวิตในชนบทแบบนี้ พร้อมเพื่อนร่วมโรงเรียนชั้น ที่เป็นรุ่นพี่มัธยม อย่าง นัตสึมิโคมาริ และเด็กประถม เร็นเงะ ที่เรียนในชั้นเรียนเดียวกันในย่านชนบท เรื่องราวจะกล่าวถึงสภาพแวดล้อมหลายๆ อย่างในเขตนอกเมือง

            Non Non Biyori ถือว่าเป็นอนิเมะม้ามืดของค่ายสตูดิโอ Silver Link. (Baka to Test, Strike the Blood) โดยแท้ครับ ทั้งๆ ที่เป็นอนิเมะจากมังงะ เนื้อหาก็แทบไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลย ไม่ได้อยู่ในโลกแฟนตาซี ไม่ได้มีไททันมรุกราน ไม่ได้อยู่ดาวอังคาร ทั้งเรื่องอยู่ในชนบทที่เต็มไปด้วยทุ่งนา ภูเขา พร้อมกับเสียงดนตรีเบาๆ ชวนง่วง ตัวละครก็มีไม่กี่คน

“แนวขายโมเอะ” ใช่ครับนี่คือสิ่งแรกที่หลายคนคิดเรื่องนี้ครับ คือว่าเป็นแนวขายโมเอะ แต่กลายเป็นว่าเอาเข้าจริง มันมีมากกว่าแนวโมเอะครับ โอเคเรื่องตัวละครเรื่องนี้มีแต่สาวๆ และเป็นเรื่องชีวิตประจำวันนั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นสำคัญที่การ์ตูนเรื่องนี้สื่อคือ “การรักบ้านเกิด” และ “รักชีวิตชนบท” ครับ

 และนั้นทำให้เรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จทั้งเสียงวิจารณ์และยอดขายเป็นอย่างมาก แม้เนื้อหาไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นแปลกใหม่ เน้นหาเน้นชนบท เด็กบ้านนอกก็จริง กลับกันเนื้อหาเหล่านี้มันหายากในการ์ตูนสมัยนี้ครับ สมัยนี้อนิเมะก็มีแต่ แนวโมเอะก็มีแต่พวกชีวิตเด็กมัธยมปลาย, โรงเรียนแฟนตาซีต่อสู้กัน, เลือดสาดอย่างเห็นฉากข่มขืน (ทำไมพวกเอ็งไม่ไปดูมืดว่ะ)

            Non Non Biyori เป็นการ์ตูนที่ตอบโจทย์ “การ์ตูนพักใจ” นะผมว่า คือเราดูอนิเมะตื่นเต้น ดราม่า อะไรมากมายแล้ว มาพักหายใจ พักใจกับอนิเมะสงบสุขแบบนี้ดีกว่า เชื่อเถอะว่าดูจิตใจสงบ โลกน่าอยู่เยอะเยอะ อีกทั้งได้ดูตัวละครสาวๆ  ต่างวัยใช้ชีวิตประจำวันที่แสนจะเรียบง่าย ไร้มลพิษ อบอุ่น น่ารัก ชวนให้หมีตื่นโดยแท้

            อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับคนหวังความตื่นเต้นครับ เพราะมันช่วงง่วงมากสำหรับใครบางคน ดำเนินเรื่องแบบเนิ่บๆ ช้าๆ ดนตรีเบาๆ ตลกนิดหน่อย เป็นจุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้ แต่ถ้าใครชิน ดูไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดความชอบการ์ตูนเรื่องนี้ไม่มากก็ไม่น้อย

สำหรับภาคสองไม่จำเป็นต้องมากความครับ เพราะภาพยังสวย ดนตรี บรรยากาศยังคงสื่อถึงบ้านนอกแสนสงบสุขเช่นเดิม  และตัวละครยังคงมีชีวิตชีวา (ดูแล้วน่ารัก หมีตื่น) แทบไม่แตกต่างจากภาคแรกเลย ส่วนจะประสบความสำเร็จมากกว่าภาคแรกหรือไม่นั้น ก็ติดตามต่อไป

2
Silver (บูชาเงิน) 14 ก.ค. 58 เวลา 14:34 น. 3-1

ผมตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากเลยล่ะ

ชอบมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ภาคสองก็ยังคงคุณภาพไว้เช่นเดิม น่าติดตาม

อยากเห็นเร็นกะยิ้มสักครั้ง จะเป็นไปได้ไหมนะ

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:05 น. 4


 

Senki Zesshou Symphogear GX

            Senki Zesshou Symphogear GX  ภาคสาม เนื้อหาต่อจากภาคสองหลายเดือน ญี่ปุ่นร่วมมือกับอเมริกาเพื่อค้นคว้าวิจัยระบบของSymphogear ให้ลึกยิ่งขึ้น วัตถุโบราณที่สมบูรณ์แบบชิ้นใหม่ ภายใต้ชื่อSacrist S ได้ถูกส่งมาที่ฐานทหารในประเทศอเมริกา ปรากฏศัตรูที่ซ่อนตัวในเงามืด สาวน้อยเวทมนต์โบราณบ้าพลัง และพวก Noise ที่หลงเหลือจากบอสภาคแรก ฟิเน่ (Fine) ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ทำให้ฮิบิกิซึบาสะ และคริส ต้องใช้ Symphogear เพื่อต่อสู้กับพวกNoise เหล่านั้นอีกครั้ง

เป็นภาคที่สามแล้ว สำหรับอนิเมะสาวสู้กัน ร้องเพลงไป สู้ไป ซึ่งผมก็ยอมแพ้ว่าอนิเมะเรื่องนี้ทำออกมาสามภาค ทั้งๆ ที่ผมดูถูกว่าก็เป็นอนิเมะพล็อตทั่วไป สาวน้อยนักสู้  (แบบสาวน้อยเวทมนต์ แต่มาเป็นสาวน้อยใส่ชุดเกราะแทน) ไซไฟ ยูริ  มีดราม่า และจบลงอย่างมีความสุข

            เมืองไทยเราอาจเฉยๆ (แต่ผมเห็นกระทู้อวยเยอะน่ะ) แต่เมืองนอกนี้อวยบอร์ดแทบฟัง ก็ไม่รู้เหมือนกันเป็นเพราะอะไร เพราะเพลงเพราะทีมพากย์ดังแบบดรีมทีม และฉากต่อสู้สุดมัน ซึ่งภาคสามยังเปิดฉากมาด้วยสู้ไป ร้องเพลงไป (เหนื่อยจะตาย) และบ้าพลัง อลังการเหมือนเดิม

            จำได้ว่าตอนอนิเมะเรื่องนี้ภาคแรกฉายตอนแรก เปิดฉากด้วยการตายของตัวละค (ที่คาด) เป็นตัวหลัก ถือว่าเป็นการเรียกกระแสพอสมควร อย่างไรก็ตาม สองภาคถัดมาเปิดฉากด้วยการเปิดฉากศัตรูตัวใหม่แทน

            สิ่งหนึ่งที่เรื่องนี้ดัง อาจเป็นเพราะการออกแบบตัวละครที่โมเอะมีเสน่ห์ดี ผมส้มไม่ค่อยเท่าไหร่ (ชุดต่อสู้ก็ไม่โมเอะ เท่ารุ่งน้องซึน กับรุ่นพี่) แต่พวกเหล่าศัตรูมีสเน่ห์มาตลอด สามนี้ออกแบบเหล่าแม่มดที่แค้นมวลมนุษย์ ลาสต์บอสโลลิตามแบบพิมพ์นิยมเสียด้วย  (แต่เชื่อเถอะ ตอนหลังกลับใจ เข้ากรุนางเอกแน่นอน)  ส่วนลูกน้องนี้โหดลากไส้จริงๆ พับผ่า

            แน่นอนจุดเด่น ของอนิเมะเรื่องนี้คือ มันมีเรื่องให้กริ๊ดอยู่ตลอด โดยเฉพาะฉากตัวละครตาย ไม่ก็ปวดตับทั้งหลายแหล่   แต่เชื่อเถอะ ปวดตับเดี๋ยวก็หาย เพราะมีชุปตัวละคร แต่รู้ทั้งรู้ แต่บอร์ดแทบพังอยู่ดี เวลามีฉากเหล่านี้ (ยกเว้น ผมแดงตาย ภาคแรก ตอนแรก ไม่ชุป)

          ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อดี เอาเป็นว่า เป็นอนิเมะที่ยังเสมอต้นเสมอไป ใครชอบภาคที่แล้ว ก็ยังมันกับภาคนี้ต่อ ภาคนี้ศัตรูโหด โกงขึ้นด้วย  (แต่ในขณะเดี๋ยวกันก็น่ารักน่ากด โดยเฉพาะน้องลาสต์บอส) เชื่อเถอะ เดี๋ยวมีกระทู้สปอยกริ๊ดแตกแน่นอน

2
Yasashiiegao Murasaki 15 ก.ค. 58 เวลา 20:32 น. 4-1

น่าสนใจดีค่ะ
แต่ ท..ทำไมรูปมันดูเรทจังเลยล่ะคะ??
เรานั่งเล่นคอมที่บ้าน คนอื่นเดินผ่านตอนเราเจอรูปนี้พอดี...
เศร้าจัง

0
Hikari 16 ก.ค. 58 เวลา 23:25 น. 4-2

เรื่องนี้เราก็ดูอยู่นะ โดยส่วนตัวแล้วชอบซึบาซะที่สุด เพราะว่าเจ้ 7 หรือก็คือ Mizuki Nana เป็นคนพากษ์ให้เลยล่ะ ยอมรับตรงที่ว่าเพลงที่ร้องตอนสู้นั้น ฟังแล้วได้อารมณ์มากเลย มันมีเสน่ห์ดีนะ เป็นเพราะว่าเนื้อเรื่องเป็นออริจินัลล่ะมั้งก็เลยชอบ มังงะภาคแรกเพิ่งจะวางขายเองมั้ง?(ทำออกมาหลังจากการ์ตูนฉายจบไป2ภาค) ตามเก็บเพลงของเรื่องนี้จนมีเป็นไฟล์เลยล่ะ รักเลย

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:08 น. 5
 

  

OverLord

OverLord  เป็นอนิเมะผลงานจากนิยายเน็ตของMaruyama Kugane ของสตูดิโอ Madhouse เป็นเรื่องตัวเอกพนักงานกินเงินเดือน ใช้ชื่อในตัวละคร ในเกมโลกเสมือน โมมอนกะ(กระรอกบิน) จอมเวทย์โครงกระดูกผู้เก่งกาจระดับต้นๆ ของเกมyggdrasil (ที่เคยเป็นสุดยอดเกมชั้นแนวหน้าDMMO-RPG) หัวหน้าผู้ดูแลกิลด์ Ainz Ooal Gown และแล้ววันหนึ่งวันที่เกมได้ปิดตัวลง มอมอกะ ตัดสินใจที่อยู่เฝ้าจนถึงวินาทีสุดท้ายของวันทำการ ทว่าเวลาได้เลยผ่านกำหนดการปิด มอมอกะ ไม่สามารถทำการออกจากเกมได้ และเริ่มค้นพบว่า NPC ในกิลด์ต่างพูดได้ ตอบสนองได้ และยังค้นพบกับความจริงว่าโลกที่เขาอยู่ นอกเหนือจากสถานที่ตั้งกิลด์นาซาลิกซ์นั้น ณโลกใบนี้ ไม่ใช่ เกมyggdrasil อีกต่อไป แต่เป็นโลกใบใหม่ทั้งใบ

ถ้าถามว่าเรื่องไหนที่ผมรอคอยมากๆ ก็คือเรื่องนี้แหละครับ ระดับแม็กซ์ที่เดียว สาเหตุเพราะจะได้เห็นอนิเมะพระเอกเทพตบเกรียนกากเดนแล้วคราวนี้ และเป็นเรื่องที่คนที่จะแต่งแนวเกิดใหม่ในต่างโลกสมควรอ่านครับ

เรื่องนี้ผมตามตั้งแต่นิยาย (แปลในเว็บตรุกี) และมังงะ (ไม่อ่านสปอยเดี๋ยวเสียอารมณ์) คือมันเป็นนิยายเน็ตที่แปลกนะครับ ปกตินิยายเน็ตเกิดใหม่ในต่างโลกพล็อตจะซ้ำๆ กันจนน่าเบื่อ ออนไลน์ก็เกมยอดนิยม แต่มาคราวนี้เนื้อเรื่องเป็นเกมออนไลน์ที่กำลังปิดตัวลง กับคนที่ไม่ยอมออกจากเกม ซึ่งก็เข้าใจความรู้สึกของพระเอกนะ มันเหมือนผมเลย เล่นเกมออนไลน์ สนุกสนานกับผู้เล่นคนอื่น เลเวลเต็มก็ยังเล่น ยิ่งเป็นหัวหน้ากิลด์ก็ต้องรับผิดชอบ แม้เกมจะเริ่มหมดความนิยมก็เล่นต่อไป จนวันหนึ่งเกมปิดตัวลงมันก็รู้สึกฝันสลาย ต้องจากเกมที่อุตส่าห์เติมเงิน เก็บเลเวล เก็บไอเท็มไป เป็นใครก็ใจหายครับ

นอกจากนี้ ตัวเกมยังนำเสนอเกิดใหม่ในต่างโลกได้อย่างโดนใจผม นิยายหลายเรื่องเวลาพระเอกเกิดใหม่ในต่างโลกก็เอาแต่มุ้งมิ้ง แต่เรื่องนี้พระเอกมีเป้าหมายเลยคือจะครองโลก ไม่ได้มามุ้งมิง และเวลาทำอะไรก็จะทุ่มสุดตัวครับ แจกแจงหรน้าที่ลูกน้อง และตัวเอกก็ทำภารกิจด้วย  แน่นอนว่าหลายคนตกใจว่าพระเอกนั้นเป็นกระโหลกใช่เปล่าว่ะ ตอบว่าใช่ครับ นั้นแหละพระเอก

และที่แปลกคือคราวนี้พระเอก (ส่วนตัวผมชอบเสียงพากย์นายกระรอกนะ สลับเสียงแบบคนธรรมดา กับเสียงตัวโฉด เพื่อให้ดูว่าแม้หน้าโหด แต่จิตใจก็ยังคงเป็นคนธรรมดาอยู่ดี)

ส่วนเรื่องนี้ดาร์กหรือไม่ ส่วนตัวผม ไม่ถึงขั้นดาร์กเวอร์ขนาดนั้น (แม้ภาพประกอบนิยายดูดาร์กๆ ก็เถอะ) มันให้อารมณ์แฟนตาซีในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ได้สดใส แต่มันจริงจัง อะไรมากกว่า

พระเอกก็ไม่ได้ชั่วเกินร้อยครับ (จอมมารแสงนี้ชั่วกว่านี้เยอะ) แต่ให้อารมณ์แบบมนุษย์ธรรมดา ที่แม้ว่าร่างกายและจิตใจจะไม่ใช่มนุษย์แล้วก็ตาม แต่ในใจก็ยังหลงเหลือจิตใจของมนุษย์ ใครทำดีก็ดีตอบ ใครมาร้ายก็ตบจนดิ้น เห็นคนเดือดร้อนก็ช่วย รักลูกน้อง ผมว่านายกระรอกก็เป็นคนดีคนหนึ่งครับ

ทางด้านตัวอนิเมะนั้น เอาตามความรู้สึกส่วนตัวนะ ผมคิดว่าน่าจะอลังการสวยกว่านี้นิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวมถือว่าน่าพอใจนะ มุมกล้อง ฉากพระเอกนั่งบังลังก์อลังการแบบจอมมารดี ตัวละครอัลบัลโด้ตอนแรกก็แปลกตากว่ามังงะพอสมควรแต่เห็นหลายคนบอกว่าชอบตอนหน้าฟินๆ เลยให้ผ่าน (ภาคสอง ทำหน้าโฉดแข่งกับยัยโลลิต้าก็ฮ่ามิใช่น้อย) ก็ให้ผ่านละกัน และการดำเนินเรื่องถือว่าทำได้ดี เข้าใจ แม้บางคนไม่เคยอ่านนิยายมาก็ได้

สำหรับใครอวยใครนางเอก (แต่ผมชอบน้องต่าย) จำให้ขึ้นใจว่า กระดูกไม่มี-นั่นนะครับ  

4
แบล็กควีน 14 ก.ค. 58 เวลา 15:02 น. 5-1

เข้ามากรี้ดดด ถ้าท่าน-มี่ไม่เขียนกระทู้ ข้าน้อยคงไม่รู้ว่ามันออกมาเป็นอนิเมแล้ว ชอบ overlord เวอร์ชั่นนิยายมาก ขนาดแปลเป็นอังกฤษสำนวนยังสวยเลย ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆในแนวนี้

0
Silver (บูชาเงิน) 14 ก.ค. 58 เวลา 15:26 น. 5-2

เสื้อคลุมของพระเอกมันบานใหญ่อย่างกับเอาเต๊นท์มาคลุมตัว ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ น่าจะมีเสื้อผ้าที่รัดรูปกว่านี้

เป็นเมะอีกหนึ่งเรื่องที่ติดตาม

//ตัวละครสาวๆน้อยไปนะ เมดถึงจะเป็นสาวๆก็เถอะ แต่ดูในเมะแล้วเหมือนตัวประกอบทั้งหมดเลย

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 15:41 น. 5-3

ตัวละครสาวๆ ใครจะสู้อัลบัลโด้... เอาให้รอดเจอร่างจริงโลลิต้าให้รอดก่อน

ตอนหลังๆ คิดว่า เมดจะมีบทบาทแน่นอน

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:09 น. 6
 

  

 God Eater

God Eater เป็นอนิเมะจากเกมดัง (บ้านเราดังเงียบๆ) เด่นตรงที่ตัวละครเท่ๆ แต่งชุดอย่างกับไปเดินสยามมากจะไปลุยในสนามรบ

God Eater  เป็นเรื่องราวของญี่ปุ่นในปี 2071 ที่โลกถูกทำลายล้างโดยพวกมอนสเตอร์ที่เรียกตัวเองว่า อารากามิ (Aragami) เหล่ามนุษย์ โดยเฉพาะองค์กรเฟนริล (Fenrir) พยายามปราบพวกนี้ โดยใช้อาวุธที่เรียกว่าGod Arc ซึ่งสร้างมาจากเซลล์ของพวกอารากามิ ผู้ที่ใช้อาวุธเหล่านี้ได้จะเรียกว่า God Eaters ซึ่งอาวุธแบ่งรูปแบบเป็นดาบและปืน

ก่อนอื่นๆ ขอบอกว่าผมไม่ได้เล่นเกมมา แต่ยอมรับว่าโดจินมืดเรื่องนี้แจ่มแท้ๆ โดยเฉพาะสาวลายสก็อต (ชื่ออะไรหว่า  เออ.... ชื่อ อริซา) ที่หลายคนอวยสุดๆ

หลังจากดูอนิเมะก็รู้สึกเฉยๆ นะ คือเนื้อเรื่องมันโครตเชย วนเวียนกับ ปราบปีศาจ สงคราม โลกหายนะ ตัวละครพระเอกแสนจะสูตรสำเร็จ  ฉากต่อสู้ดาบฟัน ปืนยิง  มัน เท่ซะไม่มี แต่เนื้อหาโดยรวมแล้วก็เหมือนแนวทั่วๆ ไปไม่โดดเด่นอะไร (อีกอย่างคาแร็คเตอร์พระเอกแบบนี้มันตกยุคแล้วนะ เอ่อ)

ไม่รู้ความรู้สึกผมเหมือนคนอื่นหรือเปล่า เลยไปดูว่าบอร์ดอื่นๆ รีวิวเรื่องนี้ยังไง ปรากฏว่าติยิ่งกว่าผมอีก บางคนยกเป็นอนิเมะโครตน่าผิดหวังด้วยซ้ำ อย่างแรกเลยคืองานภาพที่ค่อนข้างแปลกๆ แบบมันเหมือนใช้สีน้ำเน่าๆ มาระบายตัวละคร (คงอยากให้สื่อถึงหายนะ โลกมืดมนละมั้ง) ซึ่งผมนึกว่าจะเป็นลายเส้นแบบคม สดใส อลังการกว่านี้ (เห็นบอกว่าเป็นงานภาพที่จะใช้ในเกมภาคล่าสุด)

ด้านเนื้อหา ก็มันตามสูตร พระเอกเรื่องนี้ เป็นตัวละครออริจินอล ไม่ใช่ตัวละครพระเอกในเกม (ซึ่งสื่อว่าเป็นตัวแทนของตัวคนดูนั้นแหละ) ที่ฝึกวิชา มีเพื่อน มีคนต้องปกป้อง แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ ไม่เคยรับจริง ทำให้ยังต้องอยู่ฐาน วันหนึ่งพวกสัตว์ประหลาดโผล่มา ดุจ ดั่งไททันบุก พระเอกเลยต้องไปลุย ตามระเบียบ ไม่ต้องเดาว่าเนื้อหาจะเป็นยังไงต่อ มันเป็นสูตร

อย่างไรก็ตาม ฉากต่อสู้เรื่องนี้ยอมรับว่ามัน มีทั้งจังหวะซูมเข้าซูมออก เลือดสาด ดาบฟัน ปืนยิงเป็นชุด ทำให้ความน่าเบื่อในตอนแรกๆ หายไปบ้าง (แต่หลายคนบอกว่า มันก็น่าเบื่ออยู่ดีนั้นแหละ)

โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยเล่นเกม ก็เฉยๆ นะ เพราะผมก็ไม่เข้าใจหลายอย่าง บนโลกของ God Eater ซึ่งเนื้อเรื่องขาดการปูพื้นฐานตัวละครจึงไม่ค่อยอินสักเท่าไหร่ ไม่เหมือนไททันที่ปูตัวละคร ความสัมพันธ์ของตัวละครมันแน่นกว่ามาก

ปล. ตอน 0 โครตเวอร์ ทีมหนึ่งไม่ตายสักคน ทั้งๆ ที่เตาปรมาณูระเบิดนะนั้น  

5
ปั๊มคุง(pump-kun) 14 ก.ค. 58 เวลา 19:12 น. 6-1

เป็นเรื่องแรกของซีซั่นที่เห็นแค่ปกกะ PV แล้วเลือกที่จะตามโดยไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่ม
ด้านงานภาพผมว่าแหวกแนวน่าสนใจดีนะ พอดูเมะเยอะๆแล้วเริ่มรู้สึกเบื่องานภาพแบบเดิมๆเข้าซะแล้ว ชอบก็แต่ฉากแอคชั่นของ UFOtable ที่ถูกการรันตีจากเมะเรื่องก่อนๆ มาก่อนแล้ว โดยไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะคงเอกลักษณ์การต่อสู้แบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมอีกหรือเปล่า

ปล. ขอลายแทงโดหน่อยฮับ

0
no one know 14 ก.ค. 58 เวลา 21:23 น. 6-3

6-2 อย่าชี้โพรงให้กระรอกในบอร์ดเด็กดีจิ - -"

0
SDGOโทชิโร่ 17 ก.ค. 58 เวลา 10:49 น. 6-4

ส่วนตัวผมเชียร์ God Eater ตอนเเรกมันตัดสิ้นอะไรไม่ได้ครับ บอกไว้เลย เกม์ยังไม่จบไม่ต้องนับศษ อารากามิ ไม่เเปลใจที่คาแร็คเตอร์พระตกยุค เพราะเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 5 ปีที่เเล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคลจะออกมาตอนหลังครับ เเละจะอธิบายเรื่องต่างๆของอนิเมะไปที่ระตอนครับ ว่าอารากามิเกิดมาได้อย่างไร เพราะอะไร จะให้มาบอกตอนเดี่ยวกันหมดก็คงจะไม่ได้ เเล้วจะเหลืออะไรให้ดูต่อระถ้าบอกหมดเเล้ว โดนส่วนตัวเเล้ว

0
Cammy 18 ก.ค. 58 เวลา 09:50 น. 6-5

พอดีพระเอกเรื่องนี้ออริจินอล.....

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:13 น. 7

 


            Kangoku Gakuen

Kangoku Gakuen เป็นอนิเมะจากมังงะขายดี ผลงานของ Hiramoto Akira ตีพิมพ์ในนิตยสาร Young Magazine จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์Kodansha ตั้งแต่ปี 2011 ถือว่าเป็นมังงะที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามเรื่องหนึ่ง โดยไม่มีออกทะเลเลยแม้แต่น้อย

เรื่องย่อของคุกโรงเรียน กล่าวถึงนักเรียนหนุ่ม 5 คนที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนฮาจิมิตสึ โรงเรียนสตรีล้วนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนชายเข้ามาเรียนเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเขาทั้ง 5 เป็นนักเรียนชายกลุ่มแรกที่เข้าโรงเรียนที่เต็มไปด้วยผู้หญิงพันกว่าคน แต่อนิจาไม่มีนักเรียนหญิงคนใด คุยกับพวกเขาเลย จนได้คิดจะก่อเรื่องขึ้นแล้วถูกจับได้ ตามกฎและอำนาจของสภานักเรียนใต้ดิน ทำให้พวกเขาต้องถูกส่งตัวเข้าห้องขังร่วม 1 เดือนในคุกของโรงเรียนแห่งนี้

เป็นอนิเมะที่ผมดูแล้วขำดีในตอนแรกๆ แต่พอดีผมไม่ได้อวยเรื่องนี้ จึงไม่คิดที่จะตามต่อ

มุกตลกของการ์ตูนเรื่องนี้ อารมณ์แบบว่าเนื้อหาเหมือนดราม่าจริงจัง แต่ด้วนนิสัยของตัวละคร และหน้าตัวของตัวละครแล้ว ทำให้ออกมาตลกอย่างช่วยไม่ได้ ขนาดฉากดราม่ายังตลกฮ่าแตกเลยคิดดู โดยเฉพาะเจ้าอ้วนหน้าไข่ถือว่าเป็นตัวฮ่าของเรื่องเลยก็ว่าได้ (เรียกได้ว่าตัวละครชาย ขโมยซีนพระเอกเกือบหมด)

ตอนนี้มังงะดำเนินเรื่องมากกว่าร้อยตอนแล้ว มาดูตอนแรกๆ ก็รู้สึกแปลกๆ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงของผู้สร้างเหมือนกัน

นอกจากนี้เนื้อหาอนิเมะไปเร็วกว่ามังงะมาก แค่ตอนแรกก็ 10 ตอนของมังงะแล้วมั้ง (มั่ว) ใครดูมังงะมาก็อาจขัดใจบ้างไม่มากก็ไม่น้อย

ในเรื่องกราฟฟิกแล้ว ถือว่าด้อยกว่าเมื่อเทียบกว่ามังงะเรื่องอื่นๆ แต่สีหน้าตัวละคร (โดยเฉพาะผู้ชาย) ทำได้เข้าท่าดี เช่นเด่นของเรื่องนี้ คือตัวละครทั้งชาย และหญิง ที่มีจุดเด่นมากๆ เรียกได้ว่าขโมยซีนพระเอกอย่างสนุกสนาน จนบางคนอวยตัวละครชาย แม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้หล่อเลิศ แต่เนื้อหามันสื่อเรื่องมิตรภาพ เพื่อนแท้ (ร่วมทุกข์ ร่วมสุข) ทำให้ตัวละครชายดูหล่ออย่างไม่น่าเชื่อได้

ตัวละครหญิงแม้จะมีเจ๋งๆ หลายคน แต่หลายคนอวย “ฮานะ” (พากย์ด้วยคะน้า) คนนี้มีโมเดลเป็นของตนเองด้วยนะเอ่อ

อย่างไรก็ตาม จุดขายหนึ่งของการ์ตูนเรื่องนี้ คือฉากเซอร์วิสสุดโหดของรองประธานซาดิสต์ (ทั้งๆ ที่ในบรรดาตัวละครหญิงแล้วออกมาเยอะสุด แต่ไม่มีใครอวยเลย ฮ่า) กลับถูกบั่นทอดลดลงอย่างน่าเสียดาย

สรุปคือผมแนะนำให้คนที่สนใจจะดูเรื่องนี้ให้ไปอ่านมังงะ

2
White Frangipani 15 ก.ค. 58 เวลา 03:38 น. 7-1

"ขนาดฉากดราม่ายังตลกฮ่าแตกเลยคิดดู"

เรื่องนี้น่าติดตาม ชอบอะไรที่ตลกๆ แต่เห็นภาพแล้วไม่กล้า โป๊จัง โป๊มากเล๊ย

ปิดตาปิดตา >_<

0
ปั๊มคุง(pump-kun) 16 ก.ค. 58 เวลา 23:03 น. 7-2

มังงะแรกๆก็สนุกดีนะ แต่พอหลังจากพวกนางเอกเข้าคุกไปแล้วความอัประรีย์ของมุกในเนื้อเรื่องอยู่ในเกณฑ์ที่ผมรับไม่ได้

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:20 น. 8

 

 

Monster Musume no Iru Nichijou

Monster Musume no Iru Nichijou หรือชื่อไทย ชีวิตป่วนรักของสาวมอนสเตอร์ เป็นอนิเมะสร้างจากมังงะของ OKAYADO (ลิขสิทธ์ไทย ค่ายที่ทำเจ็งแล้ว)  โดยเป็นเรื่องราวของพวกมอนสเตอร์สาวจากต่างโลกที่มาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับมนุษย์ โดยหนุ่มธรรมดาอย่าง คุรุสึ (ซึ่งทั้งเรื่องแทบไม่มีใครเอ่ยชื่อพระเอกคนนี้เลย) กลายมาเป็นอาสาสมัครของทางรัฐบาล ที่ต้องอยู่ร่วมกับมอนสเตอร์สาวมากมายในบ้านของเขา

ตัวการ์ตูนก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่ชีวิตประจำวัน ที่พระเอกต้องเลี้ยงดูพวกสาวมอน ในบ้านเดียวกัน  หากปกติหากเราพูดถึงสาวมอน เราจะนึกถึงพวก สาวหูหมา สาวหูแมว น้องมังกรโลลิมีปีก ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีสาวๆ จำพวกนี้ครับ เพราะเรื่องนี้เน้น “สาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์” (Half-Human Hybrid) ซึ่งมันเป็นสายเฉพาะทางมาก พึ่งมาฮิตแบบเงียบๆ ในวงการสายมืด

ถ้าถามว่ามันมีเสน่ห์ตรงไหนกับสาวครึ่งคนครึ่งมอนสเตอร์แบบนี้ คือมัน “สาวมอนสเตอร์ครึ่งมนุษย์”) เป็นผสมผสานของเพศหญิงที่มีความสวยงาม กับสิ่งน่ากลังและน่าขยะแขยงของสัตว์และแมลง ไม่ว่าจะเป็นงู, แมงมุม หรือมีส่วนที่ดูแล้วไม่น่ารักเลย ดูแล้วมัน “แปลก” ดี มั เห็นอะไรธรรมดามาเยอะแล้วขอลิ้มลองของแปลกประหลาดบ้าง ยิ่งไม่สมบูรณ์แบบยิ่งชอบ ยิ่งผิดศีลธรรมยิ่งชอบ มีส่วนผสมของความน่ากลัวหวาดเสียวยิ่งชอบ ซาดิสต์รุนแรงยิ่งชอบไปใหญ่ ซึ่งมนุษย์เองก็ต้องการความหลากหลายในเพศรสอยู่แล้ว

ตอนแรกๆ ก็กังวลเหมือนกัน ว่าตัวอนิเมะจะมีแสงศีลธรรมมากหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีฉากเซอร์วิสโหดๆ เยอะ แต่พอมาดูตอนที่ 1 แล้วถือว่าถูกใจพอสมควร เพราะแทบไม่มีหมอกศีลธรรมให้รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด คุณภาพก็ดีมากเพราะสตูดิโอ Lerche, Seva นั้นเก่งเรื่องภาพคมชัดอยู่แล้ว รวมไปถึงมุมกล้องต่างๆ ก็ทำออกมาน่าสนใจด้วย โดยเฉพาะฉากพระเอกต่อยหน้าคน-ทำออกมาได้สะใจดีแท้ นี้มับฉากเวอร์วิส ฉากลาเมียรัดพระเอกนี้ทำออกมาฟินเวอร์ (ผสมลามก, สยองขวัญ พระเอกจะตายห่-)

สาวมอน เป็นแนวฮาเร็มครับ ซึ่งผมกับหลายคนอวยนักหนา ก็อย่างที่บอกตัวอนิเมะไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ก็ดำเนินเรื่องแบบฮาเร็มแท้ๆ แบบบริสุทธิ์ มันสนุกตรงพวกสาวๆ เป็นสาวมอนที่มีความน่ารัก ความแปลก ประหลาด น่ากลัว  ในเวลาเดียวกัน มันสนุกตรงที่พระเอกโดนสาวพวกนี้รุมทึ้งแบบไม่น่าจะรอดได้ (แต่ก็รอดมาได้) ส่วนพระเอกเองเป็นเพียงคนธรรมดา (ที่อึดนิดหน่อย) แม้ว่าหน้าตาจะไม่หล่อ อ่อนแอ แต่พระเอกก็ไม่เคยทำให้ผู้หญิงเสียใจหรือร้องไห้ แม้ผู้หญิงคนนั้นครึ่งหนึ่งจะมีความน่าเกลียดก็ตาม แต่พระเอกกลับไม่เคยรู้สึกรังเกลียดเลย แถมมีความรับผิดชอบ เลี้ยงพวกเธอโดยไม่มีบ่น (ตื่นเช้า เติมน้ำลงอาบน้ำ ทำอาหาร จ่ายตลาด) แถมมีภัยอันตรายพระเอกก็ปกป้องพวกเธอไม่คิดชีวิตด้วย (แม้พระเอกอ่อนแอกว่าพวกเธอก็ตาม)

สรุปเป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มที่ดำเนินเรื่องตามต้นฉบับครับ ภาพสวย ไม่ค่อยมีหมอกบัง เหมาะมากสำหรับสายฮาเร็มบริสุทธิ์เริ่มต้นที่จะดู

 

4
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:21 น. 8-1

ปล. สาวไซครอปโมเอะจะตาย แสดงว่าตาไม่ถึง

0
K.W.E. 14 ก.ค. 58 เวลา 18:51 น. 8-2

เอาดีจนได้ดีแฮะคนวาดเรื่องนี้ สมัยหลายปีดีดักจำได้ว่าเคยเห็นลายเส้นแนวคนพยายามอยู่ร่วมกับครึ่งสัตว์แบบฉันสามีภรรยาในเวปดันบารุ

ต่อมาหลายปีให้หลังนักเขียนท่านนี้ก็ออกผลงานมังงะเรื่อง Monster Musume โดยตัวละครหลายตัวก็มาจากคาแรกเตอร์ดั้งเดิมในเรื่องสั้นมินิ

ล่าสุดได้เป็นอนิเมกันเลยทีเดียว...


ดีๆเปิดแนวรสนิยมความรักใหม่ๆกัน ขำ
ไว้มีโอกาสจะลองหามาดูบ้างล่ะ

ปล. แต่เรื่องนี้ผมสะสมฉบับญี่ปุ่นอยู่นะ ช่วงหลังไม่ได้เข้าคิโนะเลยไม่รู้ถูกทิ้งไปกี่เล่มแล้ว

0
vampire yuki 18 ก.ค. 58 เวลา 09:00 น. 8-4

เรื่องนี้ไม่ใช่แนว แต่ดูไปตอนนึงกลับติดหนึบเลย
อยากรู้ว่าสาวมอนจะพาเรื่องยุ่งอะไรมาให้พระเอกอีกบ้าง
เจ๊สมิธแหล่มมากๆๆ เซนทอเรียก็เท่ ลาเมียกับปาปี้ก็น่ารัก

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:24 น. 9

 

 

            Shimoneta to Iu Gainen ga Sonzai Shinai Taikutsu na Sekai  

Shimoneta to Iu Gainen ga Sonzai Shinai Taikutsu na Sekai  อนิเมะชื่อโครตยาว แปลเป็นไทยว่า โลกอันแสนน่าเบื่อที่เรื่องตลกลามกไม่มีทางออก เป็นอนิเมะจากไลท์โนเวลAkagi Hirotaka ภาพประกอบโดยEight Shimotsuki ออกมาเมื่อปี 2012 ซึ่งกว่าถึงประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 16ปีข้างหน้า หลังกฎหมายแบนสื่ออนาจารเพื่อเยาวชนทุกชนิดถูกบังคับใช้ โอคุมะ ได้มาพัวพันกับองค์กร SOX ที่ต่อต้านกฏหมายที่ก่อตั้งโดย อายาเมะ ซึ่งเขาถูกบังคับให้ต้องร่วมก่อการร้าย ซึ่งสร้างปัญหาต่อ แอนนา ประธานนักเรียนหญิงที่เขาชอบ

ดูอนิเมะเรื่องนี้นึกถึงประธานหื่น (Seitokai Yakuindomo) ความจริงธีมของเรื่องน่าสนใจ แต่เนื้อหาค่อนข้างเรตพอสมควร (ที่จริงน่าจะมาก) ไม่เหมาะสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หากจะดูควรให้ผู้ปกครองมาดูด้วย (จะได้โดนด่า)

            Shimoneta to Iu Gainen ga Sonzai Shinai Taikutsu na Sekai  เป็นการ์ตูนที่ถูกปกครองด้วยสังคมที่เรื่องเพศในที่สาธารณะเป็นเรื่องผิดหมาย การ์ตูนโป๊, ของเล่นลามก  เป็นสิ่งชั่วร้าย กฎหมายเรื่องเพศแรงมาก ส่วนตัวพระเอกเองก็เรียนในโรงเรียนที่เด่นศีลธรรมที่พวกเด็กวัยเดียวกันห้ามมีความรักในวัยเรียนก่อนบรรลุนิติภาวะ

ปกติแล้วสังคมเรามองเรื่องเพศเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอยู่แล้วครับ และหลายฝ่ายพยายามจัดการปัญหารักในวัยเรียน อันก่อให้เกิดปัญหาท้องก่อนวัยตามมา และวิธีแก้ปัญหาในเรื่องก็คือ แบนเม่ง อะไรที่ลามกแบนเม่งให้หมด เพิ่มโทษให้หนักๆ  ส่วนความเพศก็ไม่ต้องรู้ มีหน้าที่เรียนก็เรียนอย่างเดียว  ก็คล้ายๆ กับบางประเทศแหละ  ที่โทษการ์ตูนบ้างละ โทษเกมบ้างละ แต่ไม่เคยโทษละครหลังข่าว นางแบบโชว์บิกีนี นิยายเว็บเด็กบี NCสักนิด  (อันหลังนี้มั่ว)

แต่ในขณะเดียวกัน การแบนเรื่องลามกเหล่านั้น ทำให้มนุษย์สูญเสียอิสรภาพในการเรียนรู้ ซ้ำร้ายยังทำให้บางคนเก็บกด ระเบิด เหมือนพระเอกและนางเอกเรื่องนี้แหละครับ

            ความจริงโลกของพระเอกสงบสุขมากๆๆๆๆ แต่มันโครตน่าเบื่อ เชื่อสิ มีแต่กฎระเบียบ ทำผิดนิดผิดหน่อยก็หาว่าเป็นพวกลามก สังคมเอาแต่หวาดระแวง มันโครตน่าอึดอัดครับ ทำนองเหมือนมันสื่อถึงสังคมอันเป็นระเบียบ ทำตามกฎของญี่ปุ่น ที่ชาวโลกยกย่องนักหนา เพราะอาชญากรต่ำ แต่ในขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ยินดีเรื่องเหล่านี้หรอก พวกเขาก็อยากมีอิสรเสรี ไม่อยากตกเป็นทาสของสังคม ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กรอบ พระเอกและนางเอกจึงพยายามระบายออกมาเพื่อต่อต้านสังคมแบบนี้  การแหกกบฏต่อสังคม ธีมแบบนี้ในการ์ตูนญี่ปุ่นก็มักจะมาเอามาเล่นอยู่บ่อยๆ

            อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ทำให้มีเล่นมุกเล่นคำ (หื่น) คนไทย งง แด๊กสนิท และมีเสียง ตู๊ด (ดูดเสียง) เยอะมาก หากดูนานอาจเอียนได้

ส่วนตัวละคร ตามความคิดเห็นส่วนตัว ผมชอบยัยผมเขียวที่เอาแต่ถามเรื่องใต้สะดือกับพระเอกตลอด (ผมชอบสไตล์สาวอดนอน) ส่วนพระเอกงั้นๆ นางเอกก็บ้าไปไม่ค่อยสมจริง (ดีไม่ดี อาจทำให้พวกสิทธิสาวแว่นเป็นลมได้) ส่วนประธานไม่ค่อยโมเอะเท่าไหร่ 

 

1
l&#039;arc fan 30 ก.ค. 58 เวลา 20:39 น. 9-1

ลองดูมาสองตอน ผมรู้สึกว่าโลกในเรื่องนี้เหมือนเอานิยายเรื่อง Farenheit451 กับ Minority report มารวมกันเลย

เพียงแค่มันไม่ใช่เรื่องแนว Triller แบบนิยายDystopia หลายๆเรื่องทำเท่านั้นเอง

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:27 น. 10

 

 

Jitsu wa Watashi wa

Jitsu wa Watashi wa เป็นอนิเมะสร้างจากการ์ตูนมังงะของ Masuda Eiji โดยเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม Kuromine Asahi ที่เป็นพวกที่เก็บความลับไม่เคยอยู่เรียกได้ว่าไม่อยู่ก็ว่าได้ ซึ่งตัวของพระเอกหนุ่มคนนี้ได้ไปแอบชอบสาวคนหนึ่ง และได้รู้ความจริงที่ว่าคนที่เค้าแอบชอบนั่นเป็นแวมไพร์ จึงต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ทั้งๆ ที่พระเอกเรานั้นเก็บความลับไม่เป็น

            เป็นการ์ตูนที่ดังเงียบๆ ไม่ค่อยพูดถึงในบ้านเราสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะในมังงะช่วงแรกลายเส้นไม่สวยเลยสักนิด (เพื่อนสมัยเด็กพระเอกก็โครตลิงวองลิงค่างอีก) แถมพระเอกสไตล์รักเดียวใจเดียว (นางเอกสัมปทาน ไม่มีช่องว่างให้ใครสักคน) ส่วนตัวผมคิดว่าปัจจุบันพนระเอกสไตล์แบบนี้ไม่นิยมในฮาเร็มแล้วละ (ฮาเร็มมันสนุกตรงที่ลุ้นคนอื่น อวยนางรองครับ อวยนางเอกอย่างเดียว แล้วจะเชียร์คู่รองทำมะเขือทำไมไม่ทราบ ในเมื่อรู้ผลแล้ว เชื่อเถอะครับ ที่บอร์ดแห่งนี้ สปอยการ์ตูนพระเอกประเภทนี้ทีไร เก็บศพเกลื่อนเลย)

            ส่วนตัวก็ดำเนินเรื่องตามสูตรของมันนะ เด่นตรงที่ตัวละครเอามายำกันได้ ไม่ว่าจะเป็น แวมไพร์, มนุษย์ต่างดาว, พวกภูตต่างๆ ที่ใส่คาแร็คเตอร์แบบเพี้ยนๆ  ส่วนฟินหรือเปล่านั้น มันก็ไม่เชิงว่าจะฮาเร็มจ๋า แบบบริสุทธิ์สักเท่าไหร่ เพราะมีการสอดแทรกเรื่องตลก บ้าบอ ของตัวละครอื่นๆ เข้าไปด้วย ทำให้เนื้อนี้เรื่อยๆ จนปาไปร้อยกว่าตอนแล้วมั้ง (ถ้าจำไม่ผิด)

            สำหรับอนิเมะ ไม่รู้สินะ พอดีผมไม่ชอบพระเอกสไตล์รักเดียวใจเดียวสักเท่าไหร่ (เหมือนให้เราบีบชอบนางเอกหลัก ส่วนนางเอกไม่มีลุ้นเลย) แต่หากตัดเรื่องนี้ไป ภาพสวยครับ อย่างน้อยก็ดีกว่ามังงะช่วงแรกๆ แหละ (เชื่อเถอะใครดูมังงะเล่มแรกแทบหมดอารมณ์) เนื้อหาก็กลมกล่อมดี (แต่เพื่อนชายของพระเอก ส่วนตัวผมว่าเยอะไปนะ ทำให้ตัวละครเยอะล้นไปด้วย) สิ่งที่ชอบคืออย่างน้อยเพื่อนสมัยเด็กน่ารัก และหัวหน้าห้องมนุษย์ต่างดาวก็น่ารัก จนคิดว่าสูสีนางเอกแวมไพร์สัมปทานเลยแหละ

            ข้อเสียคือ ในมังงะผมชอบตัวละครเรื่องนี้ยิ้มปากกว้างนะ เป็นเอกลักษณ์ แต่ในอนิเมะนางเอกไม่ค่อยปากกว้างอะ นั้นจุดขายเลยนะเอ่อ

2
Cammy 18 ก.ค. 58 เวลา 09:54 น. 10-2

ริโตะก็ยังคงรักฮารุนะอยู่

สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร ฟรีเมียรลีกไม่ได้แข่งกันนัดเดียว อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ และสิ่งที่ผมคิดกำลังจะกลายเป็นจริง ชนิดหักปากกา

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:32 น. 11

  

Joukamachi no Dandelion

Joukamachi no Dandelion เป็นอนิเมะที่สร้างจากมังงะ 4 ช่องเรื่อง ผลงานของ Kasuga Ayumu โดยเป็นเรื่องราวของ9 พี่น้อง ครอบครัวซากุระดะ ที่ดูภายนอกอาจจะธรรมดา แต่ว่าพ่อของเด็กๆ ในบ้านนั้นเป็นถึงพระราชา แถมทุกคนยังมีพลังพิเศษอีกด้วย และเพื่อความปลอดภัยรวมถึงการที่ประชาชนจะได้เลือกว่าใครจะขึ้นครองราชย์ต่อไป บ้านนี้เลยถูกจับตามองตลอดด้วยกล้องวงจรปิดกว่า 2,000 ตัวที่ติดไว้ทั่วเมือง โดยตัวเอกเรื่องนี้คือซากุระดะ อากาเนะ ลูกสาวคนที่ 3 ของครอบครัวซากุระดะที่มีนิสันขี้อาจ และไม่ชอบชีวิตที่ถูกจับตาด้วยกล้อง ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นพระราชาให้ได้เพื่อยกเลิกกฎนี้

เออ..... จะมีใครด่าผมหรือเปล่า ว่าผมดูอนิเมะแล้วรู้สึกเฉยๆ (แต่ก็ดูจนจบ) คือ ต้องเข้าใจนะครับว่าอนิเมะมาจากการ์ตูนสี่ช่อง ซึ่งมันก็ไม่ใช่แนวตลกบ้าบอ เป็นมันเป็นอารมณ์แบบอมยิ้มครับ และสิ่งที่ผมผิดคาดคือเป็นอนิเมะยาว (20 กว่านาที) แทนที่จะแบบ 3 นาทีจบ

ความจริงตัวอนิเมะก็สนุกดีครับ เนื้อหาก็ลื่นไหล แต่ปัญหาคือสไตล์การเล่าเรื่องค่อนข้างงั้นๆ (คงไม่เหมาะกับผมละมั้ง) อีกทั้งเรื่องนี้ตัวละครเยอะ ส่วนมากก็เน้นพวกพี่ๆ น้องๆ ทั้ง 9 นั้นแหละ แต่ปัญหาคือเพราะเยอะ คาแร็คเตอร์จึงจะเป็นต้องออกแบบให้จำง่าย และคาแร็คเตอร์ก็ว่าใช้หลักสูตรสำเร็จของการสร้างคาแร็คเตอร์พิมพ์นิยมด้วย และที่นี้ปัญหาคือบทมันชน (คนนี้มีหน้าที่ปล่อยมุก คนนี้มีหน้าที่แบบนั้น น้องคนเล็กก็ต้องร่าเริง )  และคาแร็คเตอร์ทั้ง 9 มันเกิดไม่เข้ากัน (คือไปกันคนละทางเลย ไม่เข้าขากัน จนมองไม่น่าเป็นพี่น้องกัน ) เชื่อเถอะใครที่ไม่ชินจะเกิดความรู้สึก มั่วๆ เมาๆ แบบนี้ในตอนแรกๆ  (หากไม่อ่านมังงะ หรือชอบเรื่องนี้เป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว

สำคัญผมก็มีปัญหาคาใจตลอดทั้งเรื่องนี้คือ ตกลงแล้วพ่อมันมีกิ๊ก (เยอะ) ใช่เปล่า เพราะพวกลูกๆ ทั้ง 9 คน ไม่มีใครเหมือนพ่อ แม่ สักคน เพราะสีผม-นิสัยไม่เหมือนกันเลย (ยกเว้นพวกลูกๆ ผมดำ พอจะเหมือนพ่อบ้าง แต่ไม่มีใครเหมือนแม่สักคน)

อย่างไรก็ตาม Joukamachi no Dandelion ก็เป็นอนิเมะน้ำดีครับ แถมยังสอดแทรกสิ่งที่อนิเมะสมัยนี้ไม่มีด้วย นั่นคือเรื่อง “ครอบครัวอบอุ่น” แม้ทั้งหมดจะมีนิสัยแตกต่างกัน (ดูช่วงอายุครับ ไม่เท่ากันเลย) แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเป็นพี่น้องกัน แม้ทั้งหมดมีฐานะสูงส่ง แต่ก็ใช้ชีวิตแบบสามัญชน ไม่ถือยศศักดิ์ พี่น้องสามัคคี ช่วยเหลือกันลักัน ไม่แก่งแย้งกัน  สิ่งเหล่านี้ไม่เห็นในญี่ปุ่นแล้วครับ (แม้แต่พี่กินตับน้อง, กับพี่น้องรบราฆ่าฟันกัน)

            สรุปคือ Joukamachi no Dandelion เป็นการ์ตูนที่ดูสบายๆ ดูแล้วอบอุ่น เน้นความสามัคคีของครอบครัว ที่มุกอาจแป๊ก และกางเกงในบินได้!!

 

1
ปั๊มคุง(pump-kun) 14 ก.ค. 58 เวลา 19:16 น. 11-1

หวังว่าจะเป็นหนึ่งในเมะบำรุงตับ
บอกตรงๆ เรื่องนี้ตามเพราะหัวดำกะหัวฟ้า อย่างอื่นไม่สน

0
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:36 น. 12

 

  

 

To Love-Ru Darkness

            อนิเมะสร้างจากมังงะฮาเร็มยอดนิยมของเคนทาโร่ ยาบูกิ (Kentaro Yabuki)  ซึ่งเป็นซีซั่นสอง ต่อจากซีซั่นแรก ที่ยังคงเป็นเรื่องของมหาเทพฮาเร็มยูกิ ริโตะ ที่ต้องปวดหัวกับความรักของสาวๆ ที่แอบชอบตน ไม่ว่าจะเป็น “ลาล่า”  , “ฮารุนะ” ทำให้ “โมโมะ” น้องสาวลาล่ามีความคิดคือต้องตั้งฮาเร็มเพื่อแก้ปัญหา หากนี้น่าจะเพิ่มตัวละครลาสต์บอสโลลิไม่ใส่กางเกงใน “เมโนซีส” และร่างสุดยอด “ยามิร่างมืด” ด้วย

            อนิเมะคู่บุญของสตูดิโอ Xebecหลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จล้นหลาม เมื่อปี 2012 (ความจริงมันก็ไม่เหงาสักเท่าไหร่ เพราะว่ามีตอนOVA แทรกเป็นระยะ และมังงะตอนใหม่ๆ) ผิดจากผลงานอื่นๆ ของสตูดิโอนี้ที่ผ่านมายอดขายน้อยอย่างน่าเห็นใจ ทั้งๆ ที่เป็นสตูดิโอที่มีผลงานมากมายตั้งแต่สมัยก่อน แต่ช่วงหลังๆ ตกอับกับอนิเมะหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเนกิเมะก็โดนแฟนๆ ด่า พร้อมกับสุดอนาถกับเรื่อง Heroic Age ไซไฟอลังการจากทีมกัมดั้มถั่วแต่ผลงานออกมาโครตน่าผิดหวัง น่าเบื่อ บรมโครต (ติดอันดับการ์ตูนโคตรน่าผิดหวังในชีวิตของผมเลยคิดดู) จนถึงทุกวันนี้อนิเมะส่วนใหญ่ที่มาจากค่ายนี้ส่วนใหญ่เริ่มเน้นนมมากขึ้นอย่างที่เห็นล่าสุดที่จบไป เช่น Triage X(2015) (อย่างน้อยก็ขายพวกมาเนียได้บ้างน่า) ส่วน Tokyo ESP (2014)เจ็งตามระเบียบ

ดังนั้น  To Love-Ru Darkness จะเป็นอนิเมะความหวังโดยแท้ครับ เพราะเป็นอนิเมะเรื่องเดียวในตอนนี้น่าจะทำกำไรมากที่สุด เพราะยอดขายบลูเรย์ปี 2012 ติดอันดับต้นๆ แม้ว่าเป็นอนิเมะตามต้นฉบับมังงะที่หลายคนดูมาแล้วก็ตาม แต่ตัวอนิเมะก็ทำอะไรหลายอย่างตอบโจทย์คนดูมังงะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่ทำตรงมังงะ (แม้จะมีการดัดแปลงเล็กน้อย) ภาพสวย ฉากเซอร์วิสสุดโหดเฉียดมืดที่ทำได้ถูกใจเหล่าแฟนๆ แบบไม่มีเผา ดังนั้นน่าจะเรียกแฟนเก่าที่ติดตามเรื่องนี้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม หกลายคนอาจทำใจ เวอร์ชั่นจอแก้วนี้สักนิด เพราะว่าฉากเซอร์วิสเหล่านี้จะถูกกลบด้วยแสงศีลธรรม และหมอกม่วง ที่เจิดจ้าเหลือเกิน ชนิดว่าแสบตาไปข้าง หลายคนคงโครตรำคาญตา วิธีเดียวที่จะแก้ได้คือต้องรอเวอร์ชั่นบลูเรย์ออกเท่านั้น

แม้ว่า อาจไม่ใช่การ์ตูนที่มีเนื้อหาที่คืบหน้า หลายคนที่ชอบดูก็คงชอบฉากเซอร์วิส แต่ความจริงสิ่งที่ผมชอบ คือมันไม่มีเรื่องดราม่าความรักครับ ปกติแนวพวกฮาเร็มแท้ๆ นี้มักจะมีนะ แต่เรื่องนี้ไม่มีดราม่าความรักแต่อย่างใด ใครที่ไม่ชอบพวกดราม่าแบบGE สามารถสบายใจเรื่องนี้ได้

ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่มีอวยโหด แบบผมทองนางเอก ผมดำนางเอกหรอก.... เพราะมันสนุกตรงที่มันอวยตัวละครหลากหลาย ทุกคนมีดีมีเด่นด้อยต่างกันไป ไม่มีสัมปทานด้านใดด้านหนึ่ง

 To Love-Ru Darkness อนิเมะซีซั่น 2 คุณภาพยังเหมือนซีซั่นแรกๆ ครับ (มาเสียเรื่อง อยากให้มีเพลงประกอบแทรกสักนิด พอไม่มีนี้ ดูบรรยาเหงาๆ ไปหน่อย) ส่วนตัวรอฉากการปรากฏตัวของเมโนซีส และฉากมหาเทพปราบยามิร่างมืดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันขนาดไหน

            แน่นอนรอดู BD ดีกว่า หมอกลงหนาเยอะเหลือเกิน  

1
Cammy 14 ก.ค. 58 เวลา 11:39 น. 13

 

 

Bikini Warriors

กลุ่มผู้กล้าที่ผจญภัยแนว RPGเพียงแต่เป็นโลกที่กลุ่มผู้กล้าล้วนแต่เป็นหญิงสาวใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่ (แต่ละคนออกแบบโดยนักวาดที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Fighter (ออกแบบโดย Hisasi), Paladin (ออกแบบโดยOnigiri-kun), Mage (ออกแบบโดยsaitom) และ Dark Elf (ออกแบบโดยOda Non))

เป็นอนิเมะสั้นๆ ประมาณ 3 นาทีกว่าๆ ทำขึ้นเพือโปรโมตฟิกเกอร์ครับ เหมาะสำหรับขาหื่น ขายนม คนคลั่งชุดเกราะบิกินี่ (แน่นอนว่ารวมถึงผม)

เพื่อเข้าใจชุดเกราะบิกินี่มากขึ้นว่าทำไมเห็นตัวละครใส่ชุดนี้ไปรบ ไม่หนาวบ้างเหรอ ชุดเกราะบิกินี่ ถือว่าเป็นหนึ่งในชุดเก่าแก่ของโลก (ปานนั้นเชียว) ในวงการการ์ตูน ไม่เพียงแค่ญี่ปุ่นเท่านั้น ในวงการ์ตูนอเมริกันก็พบเห็นบ่อยครั้งมาก เพราะเรามักเห็นบ่อยๆ ในนักรบสาวหรือนักผจญภัยสาวสุดเซ็กซี่ ใส่ชุดเกราะที่เหมือนชุดบิกินี กางเกงใน (สวมรองเท้า ถุงมืด) ถือดาบขนาดใหญ่ และนอกจากนักรบสาวแล้ว ก็มีพวกเอลฟ์ นักธนูเอลฟ์ หรือไม่ก็จอมเวทย์ร่ายมนต์ (ของจอมเวทย์ต้องสวมเสื้อคลุมและหมวกปีกกว้างด้วยเพื่อบ่บอกว่าเป็นแม่มด)

            แม้ภายนอกชุดเกราะบิกินีจะดูเหมือนพลังป้องกันต่ำ แต่บางเรื่องก็มีอธิบายแล้วว่าเกราะมีการร่ายเวทมนต์หรือทำพิธีกรรมบางอย่างเอาไว้ ให้ผู้สวมชุดเราะบิกีนี่มันสามารถป้องกันอันตรายจากอาวุธหนักได้ (ซึ่งตลอดทั้งเรื่องเราก็ไม่เห็นสาวใส่เกราะบิกินีใดๆ ที่เลือดตกยางออกในการสู้รบเลยแม้แต่น้อย) และนอกจากนี้ยังมีพลังที่ทำให้ผู้ใส่ทนทุกสภาพอากาศ ไม่ร้อน ไม่เย็น ไม่หนาว ทำให้สามารถเดินกลางแดน กลางหิมะได้อย่างสบาย

 

Wakaba Girl เรื่องราวของ โคฮาชิ วาคาบา คุณหนูที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนธรรมดา กับเพื่อนๆของเธอที่ประกอบด้วย โมเอโกะ เด็กสาวที่บริสุทธิ์ผ่องใส มาโอะ เด็กสาวที่ชอบทำตามใจตนเอง นาโอะ เด็กสาวที่เคยเป็นนักกีฬาแต่ตอนนี้ชอบที่จะจิ้น ชาย-ชาย

-อนิเมะสั้นๆ 3 นาทีกว่าๆ เพื่อมาดูสาวโมเอะคุยกัน แบบมุ้งมิง

 

Danchigai เรื่องของ ฮารุกิ และ 4 พี่น้องหญิงของเขาที่คอยหาเรื่องให้เขาได้ตลอดเวลา

-อนิเมะสั้นๆ 3 นาทีกว่าๆ เพื่อมาดูน้องสาวซึน กับน้องสาวโลลิ

 

Suzakinishi the Animation เป็นอนิเมะเกี่ยวกับสองสาวนักพากย์Suzaki Aya และ Nishi Asuka มารับบทเป็นตัวเองในอนิเมะ

-อนิเมะสั้นๆ 3 นาทีกว่าๆ เพื่อมาดูสาวหัวโต กับมุกตลกขำๆ

 

 

Wakako Zake เรื่องราวของวาคาโกะ สาวออฟฟิควัย 26 ที่มีความสุขกับการกินและดื่มสุรา

-อนิเมะสั้นๆ 3 นาทีกว่าๆ เพื่อมาสาววัยทำงาน โสด (ดูหน้าก็รู้แล้วทำไมโสด) มานั่งกินปลาแกล้มเหล้า

 

1
Cammy 16 ก.ค. 58 เวลา 10:33 น. 18


ความจริงเหลือ ฮูมารู ที่ดีไปแล้ว แต่พอดีหมดก๊อก ขออภัยด้วย

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ดังกว่านี้ ผมไม่ได้ดูนะครับ (บางเรื่องดูนิดเดียว แล้วปิดเลย) ไม่ได้เขียน ผมจึงขอจบเรื่องที่ดูไว้เพียงเท่านี้

0