Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แอบอ่าน สามสำนักพิมพ์กรุงเทพเม้ามอยจังหวัดภูเก็ต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เชื่อไหมว่า คนภูเก็ตหม่ำขนมหวานเป็นงานอดิเรก

ยิ่งถ้าเป็นชุมชนโบราณของชาวจีน ถือเป็นของดีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะกรรมวิธีแสนละเอียด พิถีพิถัน ซับซ้อนช่างทำขนมต้องใจเย็นขั้นเทพ สมัยก่อนช่วงปิดเทอม พ่อแม่นิยมส่งลูกหลานไปฝากไว้ที่ร้านทำขนมเพื่อฝีกให้มีวิชาติดตัว เริ่มต้นจาก เช็ดโต๊ะ ซื้อของ แยกเมล็ดข้าวสาร ฯลฯ แล้วแต่จะเรียกใช้ ส่วนใครที่ได้ลงครัวเองก็ใช้ว่าทำตามสูตร แล้ว จะได้ขนมที่มีคุณภาพ ฉะนั้นใครอยากเก่งจริงๆต้องตั้งใจ และ อาศัยความอดทนสูงด้วย 

ขนมของคนภูเก็ตมีส่วนร่วมในชีวิตตั้งแต่เกิดยันตาย เช่น

คุณแม่ผู้คลอดเบบี๋หมาดๆมักได้รับ "ขนมพังเปี๊ยะ" เป็นของขวัญ เป็นขนมที่ทำจากแป้งสาลีพองๆคล้ายซาลาเปา ใส่ไส้หวานๆทานกับนมร้อน ช่วยบำรุงร่างกาย

งานหมั้นก็นิยมนำขนมก้องหยุ่น ตังโก๊ย[ฟักเชื่อม] และ ขนมถั่วตัดห่อกระดาษแดง ติดสติกเกอร์ความหมายมงคลจัดไว้ในเสี่ยหยา[ตระกร้าหรือปิ่นโตสำหรับใส่ของหมั้น]

Splash Jungle Water Park

เตรียมชุดว่างน้ำตัวเก่งให้พร้อม แล้วไปสนุกสุดเหวี่ยงกันให้เต็มที่ ในสวนน้ำ "สแปลช จังเกิ้ล"พาราไดซ์แสนหรรษา ที่ได้รับการออกแบบอย่างน่าทึ่ง ละลานตาด้วยสารพัดเครื่องเล่นทางน้ำหลากหลายชนิดหลากหลายระดับความตื่นเต้น อาทิ ล่องห่วงยางชมบรรยากาศรอบๆสวนน้ำ ไปกับล่องน้ำเลซี่ริเวอร์ที่ยาวถึง 335 เมตร พาเด็กๆไปกรี้ดกราดบนสไลเดอร์สำหรับคุณหนู และ สระน้ำเวฟพูล คลื่นทะเลจำลองที่มีความแรงถึง6ระดับ

ภูเก็ตแฟนตาซี

อาณาจักรมหัศจรรย์บันเทิงแห่งท้องทะเลภูเก็ตที่คว้ารางวัลเกียนติยศระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งยังมีโอกาส ถวายการต้อนรับพระบรมวงศานุสวงศ์ไทยและต่างประเทศ ตลอดจนต้องรับบุคคลผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ เชิญตื่นตาตื่นใจไปกับหลากหลายโชว์น่าชื่นชม ด้วยการแสดงสศิลปะวัฒนธรรมไทยทผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ แสง สี เสียง พลุ และ เทคนิคพิเศษตระการตา

แหลมพรหเทพ

แหลมพรหเทพแลนด์มาร์คที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย โดยมีเกาะแก้วน้อย เกาะแก้วใหญ่ เกาะมัน เกาะในยะ และ เรือยอร์ชเป็นองค์ประกอบฉากสวยๆ ยิ่งถ้าวันไหนท้องฟ้าอารมณ์ดี เปิดโอกาสให้เราได้เห็นแสงสีส้มโลมไล้เกลียวคลื่นเป็นประกาย ซัดโขดหินแตกกระเซ็นเป็นฟองที่ปลายแหลม ตะวันดวงโตค่อยๆหล่นสู่แผ่นน้ำอย่างเยือกเย็น เชื่อว่า ณ โมงยามนั้น ทัศนียภาพอันแสนวิเศษ จะสร้างความรู้สึกสงบจนทำให้คุณลืมไม่ลง

หนังสือ : หลบรักพักร้อนนอนภูเก็ต
Welcome to ภูเก็ต "ไข่มุกอันดามันสวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทองสองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม"

จังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ทั้งเกาะล้อมรอบด้วยทะเลอันดามัน และมีเกาะน้อยใหญ่อยู่ในอาณาเขตแวดล้อมกว่า 30 เกาะ

ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญติดอันดับของประเทศและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก ด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติที่สวยงามทั้งชายทะเลและขุนเขา และ ด้วยหาดทรายขาวนวลดูสบายตา และ น้ำทะเลสีเขียวมรกตสีฟ้าครามสดใส จึงได้รับฉายาว่าเป็น"ไข่มุกแห่งอันดามัน"

เมืองภูเก็ตนี้แต่เดิมพวกที่อาศัยมาก่อนคือ เงาะซาไดและซาวน้ำ หรือที่รู้จักกันว่าชาวเล หลังจากนั้นชาวอินเดียไทยและจีนได้เข้ามาอาศัยปะปนกันส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยน จนเกิดเป็นวัฒรธรรมที่มาผสมผสานรวมกันจนเป็นประเพณีสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น และยังมีงานเทศกาลต่างๆอีกมากมาย ที่ชักชวนนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่ เพื่อนำภาพความประทับใจกลับไปทุกครั้ง

Unseen @ภูเก็ต

หลวงพ่อพระทอง หรือพระผุด เป็นพระประธารอยู่ที่วัดพระทอง หรือ ว้ดพระผุด หรือ วัดนาใน วันเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งก็ได้ตั้งอยู่ที่บ้านนาในตำบล เทพกระษัตรี อำเภอ ถลาง จังหวัด ภูเก็ต โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ประมาณ 21 กิโลเมตร

อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี และ ท้าวศรีสุนทร

ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ เขตอำเภอถลาง ก่อนถึงตัวเมืองภูเก็ต 12 กิโลเมตร ท่านทั้งสองเป็นผู้หญิงที่ต้องบากบั่นตรากตรำทำงาน เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเฉลียวฉลาด เข้มแข็ง เด็ดขาด สมกับที่เป็นเชื้อสายนักปกครอง เมื่อมีภัยศึก ปกป้องเมืองถลางไว้ได้ ซึ้งวีรกรรมและผลงานของท่านนับเป็นแบบอย่างของหญิงไทย ที่ได้รับยกย่องเป็นวีรสตรีเมืองภูเก็ต

PHUKET GATEWAY ประตูเมืองภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวอินเทรนด์ใหม่

ตั้งอยู่ที่บ้านฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง เป็นเสาเรียงรายแนวยาว 29 ต้น ตามแนวคิดที่ว่า เลข 2 หมายถึง ท้าวเทพกระษัตรี และ ท้าวศรีสุนทร

เลข 9 หมายถึงในหลวง ร.9 คุณจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของศิลปะและวัฒรธรรมต่างๆของภูเก็ต ผ่านข้อมูลที่จารึกอยู่บนเสาศิลาทั้ง29 ต้น

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ประติมากรรมเต่าทะเลกับไข่เต่าขนาดใหญ่ด้านหน้าอาคารโดยฝีมือของศิลปินเอกศาสตราจารย์ธนะ เลาหกัยกุล ซึ่งเป็นงานศิลปะที่เล่าเรื่องหาดไม้ขาว สถานที่วางไข่ของเต่ามะเฟือ

สะพานสารสิน ตำนานรักสนั่นภูเก็ต

เป็นสะพานที่สร้างข้ามช่องปากพระ เพื่อเชื่อมระหว่างเกาะภูเก็ต ตรงบริเวณท่าฉัตรไชยกับท่านุ่น จังหวัดพังงา

ถูกก่อสร้างขึ้นในปีพศ2494 และสามารถเปิดใช้ได้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พศ2510 สะพานนี้ให้ชื่อตามนามสกุลนายพจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแก่งชาติในขณะนั้น

ตำนานความรักที่เหมือนนิยายนี้ ได้ถูกถ่ายทอดจากชีวิตจริงของหญิงสาวที่มีฐานะดีแห่งเมืองภูเก็ต กับชายคนหนึ่งเป็นเพียงคนขับรถรับจ้างเท่านั้น ทั้งคู่ถูกขัดขวางทุกวิถีทางจากพ่อแม่ฝ่ายหญิง ไม่ให้รักกันจนในที่สุดเมื่อความรักถึงทางตัน วันที่ 22 กพ พศ2516 ทั้งคู่ผูกผ้าขาวม้าเอาตัวติดกัน แล้วกระโดดลงจากสะพานสารสินลงสู่ทะเล และ หลังจากนั้นสะพานแห่งนี้ถูกจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์รักแท้แห่งเมืองภูเก็ตสืบต่อมา

พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว 

ตั้งอยู่ที่ถนนกระบี่ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งสถานที่แห่งนี้เดิมเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งชาวจีนฮกเกี้ยนบรรพบุรุษชาวจีนรุ่นแรกที่อพยพมาอยู่ที่ภูเก็ตได้ร่วมกันตั้งขึ้น ตัวอาคารแบบชิโนโปรตุกีส บนหน้าจั่วอาคารเรียนมีรูปปั้นเป็นรูปค้างคาวแดง ซึ่งสื่อถึงความหมายการรู้หนังสือเป็นโชคอันยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความตระหนักในการให้การศึกษาแก่ลูกหลานชาวภูเก็ต และ หัวใจสำคัญของการศึกษาอยู่ที่การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ ปรัชญาในการดำเนินชีวิต
 

หนังสือ: เที่ยวง่างได้ส่วนลด ภูเก็ต+เกาะสวยงาม

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คื

1. คูปองลดราคา อาหารและที่พัก ที่ไม่มีวันหมดอายุ

ด้านหลังคูปองมีลายเซ็นเจ้าของร้านว่า ใช้ได้จริง ไม่มีวันหมดอายุ

ถ้าใช้ไม่ได้แปลว่าร้านเจ๊งแล้ว

2. ความต่างระหว่าง ตึกฝรั่ง กับ ตึกแถวจีน

เขตเมืองเก่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นสามารถย้อนยุคไปได้จนถึงในสมัยรัชกาลที่5 ซี่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองสุดๆของภูเก็ต ในสมัยพระยารัษฏานุประดิษฐ์มหิศรภักดี[คอซิมบี้ ณ ระนอง]มีการสร้างอาคารบ้านเรือนมากมาย 

คฤหาสน์ หรือ อังมอเหลา[แปลว่าตึกแบบฝรั่ง]

เป็นตึก2ชั้น ขนาดใหญ่ ผนังก่ออิฐ ฉาบปูน มีความหนามาก มีลวดลายปูนปั้น และ การตกแต่งคล้ายคลึงกับอาคารตึกแถวรวมถึงการจัดช่องหน้าต่างทำให้มีความกลมกลืนกับอาคารตึกแถวรวมถึงการจัดช่องหน้าต่างทำให้มีความกลมกลืนกับอาคารตึกแถวเป็นอย่างดี

อาคารเก่า พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว

เปิดบริการทุกวัน 9.00 - 17.00น

ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาท

นำกล้องถ่ายรูปเข้าไปเสียงเงินเพิ่ม 100 บาท

ต่างชาติคนละ 200 บาท

อาคารหลังนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมือร่วมใจของบรรพบุรุษชาวจีนฮกเกี้ยนเมื่อปี 2477 เพื่อใช้เป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนให้กับลูกหลานชาวภูเก็ต โดยมีสัญลักษณ์ปูนปั้นรูปค้างคาวสีแดงบนยอดอาคารด้านหน้า สื่อถึงความหมาย"การรู้หนังสือคือโชคอันยิ่งใหญ่" ภายในมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาและการพัฒนาเมืองภูเก็ต รวมทั้งความเป็นอยู่พร้อมวิถีชีวิตของชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่

อาคารเก่า คฤหาสน์พระพิทักษ์

ที่ตั้ง : 

หัวมุมถนนกระบี่ตัดกับถนนสตูล

ปัจจุบันให้ร้านอาหาร Blue Elephant เช่า

เปิด 11.30- 14.30 น , 18.30-22.30น

บ้านพระพิทักษ์ชินประชา สร้างขึ้นเมื่อปี พศ 2466 โดยพระพิทักษ์ชินประชา[ตัณฑวนิช] ซึ่งได้สร้างบ้านชินประชา ซึ่งเป็นบ้านสไตล์ ชิโน-โปรตุเกส หลังแรกของภูเก็ต ปัจจุบันบ้านชอนประชาเป็นพิพิธภัณฑ์ ของตระกูล "ตัณฑวนิช"

อาคารตึกแถว [เตี๊ยมฉู่]

มีลักษณะเด่นที่มีช่องทางเดินต่อเนี่องถึงกันโดยตลอดสำหรับกันแดดกันฝนอยู่ด้านหน้า เรียกว่า "หง่อคาขี่ หรือ อาเขต" หลังคาทรงสูงมุงด้วยกระเบื้องดินเผามีร่องมุมแหลมรูปตัววี ประตูด้านล่างมีการตกแต่งลวดลายแบบจีน ชั้นบนมักเป็นบานหน้าต่างขนาดใหญ่ ลวดลายที่พบมีทั้งได้รับอิทธิพลจาดสถาปัตยกรรมในยุโรป ตั้งแต่ยุคคลาสิคประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล มาจนถึงยุคอาร์เดโค[1920-1939] รวมทั้งศิลปะจีนและอินเดีย รวมถึงลวดลายที่คล้ายลายไทยก็มีให้เห็นถึงความสวยงามที่แปลกตายิ่งนัก

โรงแรมออน ออน ถนน พังงา

โรงแรมแห่งแรกของเมืองภูเก็ต สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2472 ออกแบบโดยชั่งชาวปีนัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ราคาห้องพักแรกเริ่มเมื่อเปิดให้บริการตกคืนละ 80 สตางค์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเคยใช้ถูกเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ เรื่อง เดอะบีช ที่เข้ามาถ่ายทำในภูเก็ตเมื่อ 10ปีก่อน 

อาคารชาร์เตอร์แบงค์

ปลายสุดของถนนพังงา จะตั้งของอาคารชาร์เตอร์แบงค์ หรือ ธนาคารนครหลวงไทย เป็นสถาบัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส สร้างในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี[คอซิมบี้ ณ ระนอง]สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ซึ่งเห็นความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยจึงได้สร้างอาคารนี้ขึ้นมา
3. ความแตกต่างระหว่าง หมู่เกาะซิมิลัน และ หมู่เกาะสุรินทร์ฺ

ภูเก็ตเกิดปรากฏการณ์ สึนามิ และ ปรากฎการณ์ฟอกขาวของประการังเมื่อประมาณปี 2553 ที่ทำให้ปะการังตายไปจำนวนมาก ปัจจุบันเริ่มมีแนวปะการังเกิดขึ้นใหม่ให้ได้เห็นพอสมควร ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ภูเก็ตคงเป็นที่ดำน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทยอย่างแน่นอน

หมู่เกาะ สุรินทร์ หมู่เกาะนี้เป็นที่ดำน้ำลึกอย่างเดียวนะคะ

ในหนังสือเล่มนี้มีจุดดำน้ำทั้งหมด 10 จุดนะคะ และ แผนที่ด้วยแบบละเอียด มีจุด GPS ด้วยนะคะ

การเดินทางมี2แบบคือ

1. เดินทางโดยเรือหางยาวจากทางอุทยานฯ ค่าเดินทางอยู่ที่ 100 บาทต่อรอบ

โดยให้บริการ2 รอบคือ รอบ 9.00 และ รอบ 14.00 น

ค้องใช้บริการทั้งหมด 4 รอบเพื่อให้ครบ 10 จุดนะคะ

2. นำเที่ยวโดยบริษัททัวร์



จุดดำน้ำที่น่าสนใจหมู่เกาะ สุรินทร์ 5 จุด

1. หินกองหริอหินราบ อยู่ด้านเหนือของเกาะสุรินทร์เหนือ เป็นกองหินโผล่พ้นน้ำขนาดลึก 

มีสันหินทอดยาวไปทางตะวันตก ใกล้เกาะมีหินขนาดใหญ่จำนวนมาก ด้านตะวันออกเป็นผาชันลาดสูง ความลึกมากกว่า 30 เมตร 

2.อ่าวนอน อยู่บริเวณเกาะสุรินทร์ใต้ ห่างจากที่ว่าการอุทยานฯไม่มากนัก นั่งเรือหางยาวประมาณ10 นาทีก็มาถึงได้

3. อ่าวสุเทพ ถือเป็นอ่าวใหญ่รับคลื่นลมบ้างในบางช่วงลมเข้าทางตะวันตก บางครั้งก็มีคลื่นเดิ่งเข้ามาเป็นระยะ

แม้ไม่เป็นอันตราย แต่คลื่นเดิ่งแบบนี้ก็ทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับทะเล เมาเรือได้ชะงักนัก

แต่ถ้าวันไหนคลื่นลมสงบฟ้าใส อ่าวสุเทพก็เหมือนสวนน้ำใต้ทะเลน้ำนิ่งใสแจ๋ว

4.อ่าวผักกาด เป็นอ่าวเล็กๆอยู่เลยอ่าวเต่าไป นี่งเรือประมาณ 20-25 นาทีก็ถึง

ถ้ามาหมู่เกาะสุรินทร์ แต่ไม่มาอ่าวผักกาด แปลว่ามาไม่ถึงหมู่เกาะสุรินทร์

5. เกาะมังกร ชื่อนี้ได้มาจากการที่ถ้าใครได้ดำน้ำลึกแล้วจะพบว่าพื้นที่บริเวณนี้เปรียบเสมือนเป็นคอนโดที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นกุ้งมังกร โดยจะมี

ปะการังลูกใหญ่คล้ายภูเขาใต้น้ำลาดชันลงต่ำไป นอกจากนี้ยังสามารถพบปะการังรังผึ้ง ปลาไหลมอเรย์ยักษ์ และ ปลาการ์ตูนชนิดอานม้าได้อีกด้วย

-------------------------------------------------
หมู่เกาะสิมิลัน

ช่วงเปิดเกาะ เดือน พฤษจิกายน - เมษายน ของทุกปี

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ สิมิลันมีพื้นที่ครอบคลุม 80,000 ไร่

ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525

คำว่า สิมิลันเป็นภาษายาวี หรือ มลายู แปลว่า 9

มี 9 เกาะ เรียงจากเหนือ มา ใต้ คือ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู

หมู่เกาะสิมิลัน สามารถดำน้ำได้ทั้งตื้น และ ลึก



ตัวอย่างเกาะที่น้ำตื้น เช่น 

เกาะสิมิลัน หรือเกาะแปด 

เกาะสิมิลันเป็นเกาะที่มีขนากใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน

ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งหาดทรายขาวละเอียดนุ่ม

ด้านเหนือของเกาะจะมีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตาเช่น

หินรูปรองเท้าบู้ท , หินรูปหัวเป็ดโดนัลดัก, 

หินรูปเรือใบเป็น hilight ของเกาะนี้



ตัวอย่างเกาะน้ำลึก เช่น เกาะบางู และ เกาะหูยง

เกาะบางู หรือเกาะเก้า

มีกองหินคริสมาสต์เป็นจุดขายของเกาะ 

จนนักท่องเที่ยวอดใจไม่ไหวที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปน้ำสีฟ้าใสประกอบกับหินตั้งตระหง่านก้อนโต

ฝูงปลาน้อยใหญ่ อาศัยตรงนี้หลบภัยและหาอาหารแถวนี้


เกาะหูยงหรือเกาะหนึ่งเป็นเกาะที่ยาวที่สุดในเก้าเกาะเป็นเกาะที่มีเต่าทะเลมาวางไข่

ถ้าอยากไป แนะนำให้เอาหนังสือเล่มนี้ติดมือไปเที่ยวด้วยนะคะ

หนังสือมี พิกัด GPS และ แผนที่ท่าเรือ ท่ารถ จุดดำน้ำต่างๆ ถ้าเดินทางเองให้หนังสือนำเที่ยวเล่มนี้เป็นไกด์ให้คุณนะคะ

อย่าลืมเอารองเท้าแตะมาเดินที่ชายหาดด้วยนะคะ ในวันที่แดดร้อนเดินเท้าเปล่า ระวังเท้าพองนะคะ

แนะนำติชมได้นะคะ

instagram : tarontourdotcom , taron_bts
facebook : tarontourdotcom
t
umblr : tarontourdotcom

 

แสดงความคิดเห็น

>