ขอถามนักเขียนนะคะ แบบนี้มันผิดปกติมั้ยคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยมีความรู้สึกว่าอยากเขียนหลายๆแนวบ้างมั้ย
เช่น
เรื่องเเรกแนวแฟนตาซี แต่เรื่องต่อมาเป็นโรแมนติกซะเเล้ว
เรื่องสามก็เป็นแฟนฟิค เรื่องต่อไปก็แนวออนไลน์ซะงั้น
พูดง่ายๆก็เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆไม่มีจุดยืนของตัวเองเลยค่ะ
เเบบนี้มันผิดปกติมั้ยคะ?
ต้องขอโทษผู้เยื่ยมชมนะคะ ที่ปิดสาธารณะ เพราะหนูซีเรียสมากค่ะเรื่องนี้
14 ความคิดเห็น
ไม่คิดว่ามันจะแปลกตรงไหนนะคะ
เราก็เป็นคนหนึ่งที่เขียนหลายแนว แต่ธีมหลักยังคงมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนจะมากน้อยขนาดไหน ก็แล้วแต่สไตล์ของงาน
จากแฟนตาซีจ๋า สงครามจอมเวท > ดราม่า รักโรมานซ์ > แล้วมาโผล่เกมออนไลน์ > โดยที่ดองงานแนวดิสโทเปียไว้อยู่ด้วย 5555+
เขียนหลากหลาย เรามองว่ามันคลายความเบื่อหน่ายให้ตัวเราเอง
และรีดเดอร์ก็จะมีทางเลือกในการอ่านนิยายด้วย
บางคนชอบแฟนตาซี แต่ไม่ชอบดราม่า เขาก็จะเลือกอ่านงานของเราอีกเรื่อง ^^
ขอบคุณพี่มากๆนะคะ
#กราบงามๆ
ที่ตั้งกระทู้นี้เพราะหนูเผชิญกับปัญหานี้อยู่ค่ะ
จร้า ^^
จริง ๆ นักเขียนนิยายบางท่านก็มีงานหลายแนวนะ
และจะใช้นามปากกาที่แตกต่างกันไปด้วย
เราน่าจะไปด้วยกันได้นะครับ...
เริ่มแรกเลย ผมเริ่มต้นมาด้วยนิยายแฟนตาซีครับ แล้วจู่ๆก็กลายมาเป็นนิยายกุ๊งกิ๊งใสๆ แล้วก็มาเป็นนิยายแนวผู้ใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยแนวสยองขวัญแบบพูนิก้า แล้วมาเป็นออนไลน์ จู่ๆก็มาเป็นแฟนฟิค และมาจบลงที่วาย...
เส้นทางชีวิตผ่านมาหลายแนวมากครับ ;w;
ประวัติงานเขียนของพี่นี่โชกโชนมากเลยค่ะ
เริ่มมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง
ขอบคุณนะคะสำหรับเม้นของพี่ค่ะ
(จริง ๆ คือผมมั่วนะ อย่าหลงเชื่อ 55)
เราก็เช่นกัน หาแนวทางอยู่ (-*-')
ไม่แปลกนะคะ เริ่มแรกเราก็แต่งรักหวานแหววแฟนตาซี รักหวานแหวธรรมดา ก่อนหน้านี้ก็แฟนฟิคนักร้องเกาหลี ตอนนี้มาแต่งวายเต็มตัว แต่ก็เปิดบทความแฟนตาซีแอคชั่นทิ้งไว้เรื่องนึง
เราว่ามันก็ดีนะคะที่เราจะลองเปลี่ยนแนวการเขียนไปเรื่อยๆ การเขียนได้หลายหลากแนวดูได้เปรียบดีนะคะ อย่าคิดว่ามันเป็นการไม่มีจุดยืนของตัวเองเลยค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะแต่งแนวไหน ยังไงสำนวนการเขียนก็บ่งบอกความเป็น "ตัวเรา" อยู่ดี
เม้นนี้จัดว่าคมค่ะ
#กดไลค์รัวๆ
5555555 ขอบคุณค่ะ
เรื่องปกติครับ ผมมองว่านั่นคือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ทำไปเรื่อยๆถึงจุดหนึ่งเราจะเริ่มอิ่มตัว แล้วรู้ตัวครับว่าแนวไหนคือแนวที่เราชอบสุด แนวไหนน่าจะแต่งได้ถนัดที่สุด
ถ้าไม่ติดว่าผู้อ่านรอล่ะก็ ผมก็แนะนำให้ลองแต่งหลายๆแนวดูนะ เอาเป็นเรื่องสั้นๆที่จบได้จะดีมาก ถือเป็นการฝึกและพัฒนาตัวเองไปอีกแบบครับ
เป็นคำแนะนำที่เริ่ดมากค่ะ
และตอนนี้กำลังทำตามที่พี่บอกอยู่พอดีเลยค่ะ
ไม่ค่ะ เรายังเคยคิดเลยว่าต่อจากเรื่องที่เราแต่งอยู่เนี่ย อยากจะลองแต่งนิยายแนวผีๆดูบ้าง (เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านแนวนี้อยู่แล้วค่ะ แต่คงต้องศึกษาอีกสักพัก) ในอดีตและปัจจุบันนี้เขียนแต่แนวโรแมนติกดราม่าเข้มข้นมาตลอด ฮาาา เคยคิดจะลองแต่งนิยายแนวรักใสๆ หัวใจสีชมพู๊ชมพูนี่ไม่เคยแต่งได้สักทีเลยค่ะ 5555 เรื่องต่อๆ ไปอาจจะมีพวกเวทย์มนต์เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างแต่แบบยังคงคอนเซปต์นิยายรักไว้อยู่ล่ะค่ะ อิอิ
พี่จับมือหน่อยค่ะ
เพราะหนูก็มีความคิดแบบนั้นเหมือนกันเลยค่ะ
เขย่ามือรัวๆ เลยค่ะ 555
ส่วนตัวคิดว่าคนที่อยากเขียนและเขียนได้หลากหลายแนวนี่เก่งนะคะ เรายังอยากทำได้บ้างเลย แต่ในชีวตจริงแต่งได้แค่แนวเดียว พยายามจะลองแต่งแนวอื่น แต่สุดท้ายก็ตัน เพราะงั้น…ไม่แปลกหรอกค่ะ ไม่ต้องคิดมากเนอะ
อืมมมมม
ที่พี่พูดมันทำให้หนูหายคิดมากไปเยอะเลยค่ะ
ผมเป็นคนที่เขียนแนวแฟนตาซีอย่างเดียว
ตอนนี้อยากลองไปเขียน รักแฟนตาซีดูบ้าง อยากรู้ว่าผลตอบรับออกมาจะเป็นอย่างไร (เห็นว่านิยายรักได้ตีพิมพ์ง่ายกว่า จึงสนใจ)
ไม่ผิดหรอกครับที่จะเขียนหลายๆแนว แต่ทางที่ดี ยึดทางใดทางหนึ่งไปเลยจะดีกว่า เพราะผมเชื่อว่า นิยายแต่ละสาย มีการคิด มีการวางพล็อตที่แตกต่างกัน การบรรยายก็แตกต่างกัน ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เขียนข้ามไปข้ามมามันไม่เป็นอะไรก็จริง แต่จะให้เด่นสักสายคงทำได้ยาก
เป็นค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่0 .0
คือเราเป็นคนที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างนิยายมาจากสิ่งรอบตัว ซึ่งเมื่อได้แรงลันดาลใจมาหนึ่ง สมองก็จะทำการคิดพล็อตนิยายได้ไหลปรื๊ดถึงตอนจบภายในวันเดียว
ซึ่งขอบอกเลยว่า
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ
ทุกๆคนคงจะรู้ๆกันอยู่ว่านิยาย จะให้เขียนทีเดียวตั้งแต่เริ่มแรกจนจบเรื่องเลยมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องของเรานั้นที่คิด มันยาว
คำถามที่ใครหลายคนอาจสงสัย ทำไมไม่ไปเขียนเรื่องสั้นแทนซะละ ถึงยาวก็รวมในตอนเดียวได้ หรือไม่ก็ค่อยมาแต่งต่อใหม่
เอาล่ะ สำหรับปัญหาที่สองคือ เราขี้ลืม
พอผ่านพ้นหนึ่งวันปุ๊ปเราจะจำ-ที่คิดไว้ตอนแรกไม่ได้ แล้วก็ต้องนั่งคิดมุขใหม่
ใช่ มันจะไม่มีปัญหาเรื่องคิดมุขใหม่เลย ถ้าไม่มี ปัญหาแรก
อย่างที่บอกว่าเราสามารถคิดนิยายเรื่องๆหนึ่งออกมาได้จากสิ่งต่างๆรอบตัว เพราะงั้นเราก็ต้องเจออะไรที่เป็น แรงบันดาลใจใหม่
ซึ่งแรงบันดาลใจนั้นมันก็ได้มีแค่อันเดียว
ยกตัวอย่างเช่น
Like or Love?
เป็นนิยายที่เราคิดพล็อตไว้ แต่ไม่กล้านำมาเขียนเพราะว่านิยายที่เหลือดองก็ยังมีอีกมาก
ต้นกำเนิดของมันก็มาจากที่แค่วาดรูปเล่นเท่านั้นเอง....
ทุกวันนี้เราก็ยังคิดนิยายเรื่องใหม่ๆได้อีกหลายสิบเรื่องเลย ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่แนวเดียวกัน
จากแฟนตาซี=>ไปต่างโลก=>ไปแนวออนไลน์=>ไปแนววาย=>สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่แนวรักหวานแหวว
ซึ่งความจริงก็คิดแนวสยองขวัญอยู่ ณ ตอนนี้
คนมีจินตนาการสูงนี่...ลำบากเนอะ(พิมพ์มาซะยาว)
ใช่ค่ะ เพราะหนูเป็นพวกมโนขั้นรุนแรงระดับห้า มันก็เลยทำให้พล็อตหลายเเนวเยอะมากกกกเลยค่ะ
ไม่แปลกนะครับ เป็นเหมือนกัน แต่จะยึดทีมผจญภัยเป็นหลัก
เราก็เป็นนะ ตอนนี้แต่งแฟนฟิค แนวรักแฟนตาซี คิดพล็อตเรื่องต่อไปเป็นแนวโรแมนติกปนๆดราม่า อีกเรื่องว่าจะเขียนแนงสืบสวน 55
เรื่องปกติมากเลยครับ
ไม่แปลกนะจ่ะ (^^) ไม่มีใครมากำหนดสร้างกรอบความคิดของเราได้หรอก
เขาเรียกว่าตัวเรายังหาสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัดจริงๅไม่ได้ ก็สามารถทดลองใันไปได้เรื่อยๆล่ะนะ ยิ่ง dek-d เปิดกว้าง ให้มีการเลือกสไตล์การแต่งฟิคเองได้ ก็ยิ่งืำให้เราสามารถค้นพบตัวเองได้ง่ายขึ้นอีกด้วย พยายามเข้านะค่ะ
ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?