[รีวิว+ค่าใช้จ่าย] หนีกรุงไป "เกาะสีชัง" โสด เปรี้ยว ก็เที่ยวได้!!
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยได้ยินชื่อมานานช่ะ? เกาะสีชัง เกาะสีชัง เกาะสีชัง ... ที่นี่มันมีดีอะไร ทำไมคนถึงไปกันเยอะจัง เพราะความสงสัยนี่แหละ เลยส่งไลน์ทักเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ "ไปสีชังกันเหอะ" และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้
.
เกาะสีชัง ... ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ เลยเว้ยยยย คือทางขึ้นเรือไปเกาะสีชังอยู่เลยหนองมนมาหน่อยเดียว หน่อยเดียวจริงๆ แก เรามุ่งหน้าจากกรุงเทพฯไปสู่ท่าเรือเกาะลอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง แล้วท่าเรือเกาะลอยก็มีที่จอดรถด้วย(ฟรีจ่ะ)
.
แต่ถ้าใครไม่มีรถ แนะนำรถตู้เส้นที่ไปศรีราชา มาถึงเหมือนกัน เมื่อมาถึงท่าเรือแล้วทุกคนสถานะเท่ากันหมดคือ "ไม่มีรถ" จากตรงท่าเรือคือเดินเอง แบกกระเป๋าเอง ขึ้นเรือเอง ปลายทางก็คือ "เกาะสีชัง"
.
แต่ถ้าใครไม่มีรถ แนะนำรถตู้เส้นที่ไปศรีราชา มาถึงเหมือนกัน เมื่อมาถึงท่าเรือแล้วทุกคนสถานะเท่ากันหมดคือ "ไม่มีรถ" จากตรงท่าเรือคือเดินเอง แบกกระเป๋าเอง ขึ้นเรือเอง ปลายทางก็คือ "เกาะสีชัง"
.
เรือที่จะพาเราไปเป็นงี้ (ส่วนข้างๆ ก็มีสปีทโบ๊ทไว้บริการ) เรือจะมี 2 ชั้น โดยเราสามารถซื้อตั๋วตรงทางขึ้นเรือได้เลย แนะนำว่าให้นั่งชั้นบน เพราะนั่งชั้นล่างเมามากกกก ถ้าใครไม่แกร่งจริงอยู่ยาก ค่าเรืออยู่ที่คนละ 50 บาท นั่งเรือประมาณ 45 นาที
.
เรือที่จะพาเราไปเป็นงี้ (ส่วนข้างๆ ก็มีสปีทโบ๊ทไว้บริการ) เรือจะมี 2 ชั้น โดยเราสามารถซื้อตั๋วตรงทางขึ้นเรือได้เลย แนะนำว่าให้นั่งชั้นบน เพราะนั่งชั้นล่างเมามากกกก ถ้าใครไม่แกร่งจริงอยู่ยาก ค่าเรืออยู่ที่คนละ 50 บาท นั่งเรือประมาณ 45 นาที
.
.
พอมาถึงเกาะสีชังก็จะมีให้เช่ารถ เป็นมอเตอร์ไซด์ให้ขี่เอง กับแบบสกายแลป(อารมณ์ตุ๊กๆ อะ) เราไปกับเพื่อน 4 คน เลยเลือกสกายแลป ราคาอยู่ที่ 550 บาทรวมพาเที่ยว 5 จุดรอบเกาะด้วย อันนี้เราให้ทางที่พักติดต่อให้เลย แนะนำนะว่าใครที่ขี่มอไซด์ไม่แข็ง หรือเพิ่งเคยมาครั้งแรกก็เลือกสกายแลปเหอะ เพราะพื้นที่บนเกาะสีชังขี่รถเองยากกว่าเกาะล้าน ให้พี่เค้าพาไปอะดีแล้ว
.
ก่อนที่จะเข้าที่พัก ก็แวะกินข้าวกันก่อน อันนี้เราซื้อเป็นแพคแกตกับทางที่พัก คือมีสกายแลป(พาเที่ยวรอบเกาะ 5 จุด) + ที่พัก 2 ห้อง + อาหาร 3 มื้อ เราได้มื้อแรกเป็นข้าวเที่ยงที่นี่ กับข้าวที่อยากนำเสนอคือ "แกงส้มผักโสมไทยใส่กุ้ง" อร่อยมากกกกกกก อร่อยจริงๆ ไม่รู้ว่า-ผักนี่มันมีขายที่ไหนหรือเปล่า แต่ที่เกาะสีชังมี อยากเอากลับบ้านเลย 55555
.
.
แล้วก็นั่งสกายแลปต่อมาสักพักก็ถึงที่พักแล้ว ที่นี่เลย "ปารีฮัท รีสอร์ท" ณเดชณ์-ญาญ่า เคยมาถ่ายละครที่นี่นะเออ
.
.
สวยช่ะ? คือเราอะ เป็นคนถ่ายรูปไม่เป็นเว้ย สามารถใช้สมาร์ทโฟนดีๆ ถ่ายรูปออกมากากๆได้ รูปจริงสวยกว่านี้อีก 18 ล้านเท่า ที่พักเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีเปลให้นอนเล่นด้วย คือภาพรวมดีมากเลยนะ อากาศเย็น นอนเปล แต่เสียตรงไฟในห้องมืดมาก อาจจะทำเพื่อคู่รักที่มาฮันนี่มูนฟรุ้งฟริ้งมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าเรา "โสด" ไม่ฟรุ้งฟริ้งด้วยไง 5555+
.
.
บรรยากาศรอบๆ ก็ประมาณนี้แหละ แต่ที่นี่เงียบมากเลยนะ สัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ไม่ค่อยมี เลยได้นั่งเม้าท์มอยหอยกาบกับเพื่อนๆ สนุกมาก เวลาที่อยู่ด้วยกันมันมีความสุขกว่าการถูๆ สมาร์ทโฟนนะตัวเทอว์
.
.
พอสักหกโมงครึ่งก็แบบ ... หิว ... ทางรีสอร์ทบอกว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์บาบีคิวปิ้งย่าง เป็นอาหารทะเล แต่ก็แอบผิดหวังเบาๆ นะ คือ มื้อเย็นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ข้าว + กับข้าว ที่เติมแบบไม่จำกัด
.
ส่วนที่ 2 คือปิ้งย่างอาหารทะเล อันนี้ให้ 2 คนต่อ 1 ชุด เราไปกัน 4 คนก็ได้มา 2 ชุด ในหนึ่งชุดก็มีไก่บาบีคิว (- -*) ปลาหมึก กุ้ง เสียบไม้มาให้ย่างง่ายๆ ก็โอเค กับข้าวอย่างอื่นอร่อยดี ให้อภัย 5555+
.
ส่วนที่ 2 คือปิ้งย่างอาหารทะเล อันนี้ให้ 2 คนต่อ 1 ชุด เราไปกัน 4 คนก็ได้มา 2 ชุด ในหนึ่งชุดก็มีไก่บาบีคิว (- -*) ปลาหมึก กุ้ง เสียบไม้มาให้ย่างง่ายๆ ก็โอเค กับข้าวอย่างอื่นอร่อยดี ให้อภัย 5555+
.
.
แล้วเรื่องตื่นเต้นมันต่อจากนี้คือ ... คืนนั้นที่เราไป เป็นคือที่เกาะสีชังไฟดับทั้งเกาะ คือแบบ ... อาบน้ำอยู่ไง นึกออกม่ะ? ตอนที่นั่งนับเลขอยู่(เล่นไพ่)ก็ไม่ดับ มาดับตอนอาบน้ำ แล้วดับนานด้วย ดีนะล้างตัวเสร็จแล้ว ก็เลยได้อีกหนึ่งบรรยากาศในวันนั้นคือ "การนั่งคุยกันรอบกองไฟ" แล้วไฟที่ว่าคือโคมไฟนีออนนะ ไม่ใช่ไฟแบบที่เราไปลูกเสือ ก็เป็นอีกบรรยากาศที่ถ่ายรูปมาไม่ได้ เพราะมันมืดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
.
คุยกันจนแบตโคมไฟนีออนเกือบหมดอะ ไฟถึงมา แล้วก็แยกย้ายเข้านอนกันเหอะ ....
.
.
.
.
หกโมงเช้าของอีกวัน ... อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ... มีที่นึงของปารีฮัทที่ทางรีสอร์ทบอกให้ไปตั้งกะเมื่อวาน (แต่ขี้เกียจ) ก็เลยแบบ เอาว่ะ!! ไหนๆ ก็ตื่นเช้าแล้ว แดดไม่ร้อนด้วย ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นหน่อยก็ดี
.
ทางเดินโหดมากกกก เหนื่อยมาก แล้วนึกออกป่ะว่าเพิ่ง สภาพชุดนอน+รองเท้าแตะ แล้วไปปีนเขาแข่งกะค้างคาวในถ้ำอะ แต่ก็ไปถึงได้นะ พอไปถึงจุดชมวิวที่ว่านี่หายเหนื่อยเลย สวยมากกกก อากาศดีมากกกก เหมือนได้มาฟอกปอด
.
.
.
ลงมาก็หิวสิ ... หาข้าวกินสิครับ รออะไรล่ะ และนี่ก็คืออาหารเช้าของที่นี่ อร่อยนะ ข้าวต้ม ต้ม ต้ม ต้ม ต้ม ...
.
.
พอเกือบเที่ยงเราก็ออกจากที่พัก โปรแกรมถัดไปคือ "เที่ยวรอบเกาะ" ก็เป็นพี่สกายแลปคันเดิม มารับเราแล้วพาไปเที่ยว ที่ที่พาไปก็จะมีถ้ำเขาขาด หาดถ้ำพัง สะพานอัษฎางค์ฯ และวัดหลวงพ่อเขาใหญ่
.
.
ด้วยความที่เหนื่อยและล้ากับแดดมาก เลยขอให้พี่เค้าพาไปแวะร้านข้าว ซึ่งร้านที่แนะนำชื่ออะไรไม่รู้อะ T_T อยากจะบอกว่าอร่อยมาก ราคาไม่แพงเลย อยู่ใกล้ท่าเรือด้วย
.
.
สุดท้ายก็ต้องโบกมือบ๊ายบายให้กับเกาะสีชัง แบกร่างที่ได้ฟอกปอดกลับไปทำงานต่อ ....
.
.
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป (4 คน)
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ คนละ 3,400 บาท ... สำหรับเรา เราว่าแอบแพงนะ 555+ ค่าใช้จ่ายตรงนี้คือ ค่ารถ+ค่าทางด่วน+ค่าเรือ+ค่าที่พัก+ค่าข้าว 5 มื้อ(ที่พัก 3 หากินเอง 2)+สกายแลป+ค่าอื่นๆ จิปาถะ โดยภาพรวมก็โอเคนะ เป็นเกาะที่น้ำใสดี มีหาดเดียวที่ลงไปเล่นน้ำได้ อากาศเย็นสบายมาก ถึงแม้ว่าแดดจะแรง แต่ลมเย็นก็แรงเช่นกัน
.
เกาะสีชัง เหมาะกับการไปนั่งชิลๆ ไม่ได้มีร้านเพลงครึกครื้นแบบเกาะล้าน แล้วก็ถ้าไม่คิดมากเรื่องที่พัก สามารถคุมงบให้น้อยกว่านี้ได้ แต่ต้องหาข้อมูลดีๆ นะ เปรียบเทียบหลายๆ ที่ดู
.
ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวที่เที่ยวอีก เราชอบเที่ยว ไปในเมืองไทยนี่แหละ ที่สวยๆ ยังรออีกเพียบบบบบบบบบบบบบบ
.
ปล.ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคับ
ปล.2 ขออภัยภาพไม่ค่อยสวยเลย
ปล.3 ถ้ากระทู้นี้โอเค รอบหน้าจะพาไปเที่ยวใหม่นะ 5555+
11 ความคิดเห็น
ชอบตรงห้องพักมีเปลอ่ะะ
แต่ยังเราเด็กเกินไป
ร้อน
บ้านเราอยู่ที่ชลบุรีนะ เกาะลอยก็ไปบ่อย แต่ไม่เคยข้ามไปเกาะสีชังสักที # เห็นแล้วอยากไปมาก สักวันฉันจะไปให้ได้!!! #เก็บตังก่อน-_-^
เราไปบ่อยมาก ค่าสกายแลปแอบแพงนะจ้ะ ปกติ 250 บาท ไปได้ทุกที่ เหมาทั้งวัน
ใช้กล้องอะไรถ่ายค่ะ
อาหารน่าอร่อย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?