Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากแชร์ให้ฟัง ประสบการณ์ที่จะบอกว่าดีก็ดี จะไม่ดีก็ไม่ดี

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับ

เรื่องของผมมันมีอยู่ว่า ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือซึ่งเคยตกเป็นประเด็นในเพจรับน้องสร้างสรรค์ พอดีเมื่อครั้งวัยเยาว์ของผม (ปี 1) ผมก็ยังมองคนโน้น คนนี้ไปทั่วแหละครับ ชีวิตไม่มีอะไรมาก เล่นไปเรื่อย กับเพื่อนๆ สนุกบ้างเฮฮาบ้างตามประสาผู้ชาย ครับ หนึ่งปีในมหาวิทยาลัยสนุกดีครับ อยู่หอในได้รู้จักเพื่อนมากมาย จนกระทั่งผมได้รู้จักกับเพื่อนนอกคณะ ชื่อ บอล มันหน้าตาดีครับ ขาวๆ ตัวเล็ก ตี๋ๆ หล่อครับ ฮอตเลย สาวๆ กรี๊ดเพียบ ก็ทำความรู้จักกันและสนิทกันมาเรื่อย ๆ จน กระทั่งมันประกวด เดือน ของกิจกรรม ดาวเดือนมหาลัย มันได้เป็นเดือนของคณะหนึ่งครับ .... ผมก็ไปร่วมยินดี แล้วเราก็สนิทกันมากขึ้นครับ ก็จะมีสาวแมนๆเตะบอล ซุ๊ปซิปว่า -บอลไม่ใช่ผู้ชายบ้างหละ เป็นตุ๊ดบ้างหละ ผมก็คุยกับมัน มันก็ขำๆ จนวันหนึ่ง วันนั้นผมต้องไปเรียนที่ คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งมันไกลจากหอครับ มันมีมอไซ ก็มารับผมไป เหล่าสาวเตะบอลก็ ซิป นินทากัน ผมเลยคุยกับมันตอนมันส่งผมเสร็จแล้ว
ผม : บอล มารับชั้นบ่อยขนาดนี้ ไม่กลัวเขาหาเป็นแฟนกันอ่อวะ ?
บอล : คิดมาก เช็คหน้าคิงโตยยยย
ผม : อ้าววววว กระแดวมอนี่หนิ !
แล้วเราก็แยกย้ายกันครับ ก็ไปเรียนตามปกติ จนผมกลับหอ ก็มีเจ้หอ อยู่ก่อนขึ้นหอพอดี
เจ้หอ : หนู !! หนูเป็นก่ ? หนูน่าฮักเน้อ เป็นปั๋วเจ้ก่อ ?
ผม : ป้า ใจเย็นน บะเป็นจ้าวววววว
เจ้หอ : เจ้หันหนูซ้อนรถกับ บ่าบอลฮั่นนะ เป็นหยังกันก่อ ?
ผม : อ๋อออ ไม่ครับๆ นั่นเพื่อนผม
เจ้หอ : น่าฮักดีเน้อ กระเทยเขาตึงเม้าท์กันม่วนขนาด
ผม : ห้าๆ แล้วผมก็รีบขึ้นห้อง
แล้วผมก็บ่นกับไอบอลว่า เพราะมันนิ ทำคนเข้าใจผิดหมดแล้ว ไอบอลได้แต่ตอบว่า "ผิดที่มิงแหนะ ไม่รีบๆ ซ้อนรีบไป ลีลา เขาเห็นหมด"
ผมเลย งง ๆ ว่า อ้าว ตูผิดดดด เรื่องราวไม่มีอะไรมากครับ ... ความสัมพันธ์ของผมกับ บอล ก็สนิทกันมากขึ้นเป็นเพื่อนสนิททีเดียวเลยละครับ แต่เราอยู่คนละคณะกัน
มาวันหนึ่ง บอลมันทักแชทเฟสมาหาผม
บอล : มิง นอนยังวะ ?
ผม : ว่าใดจ้าวว คุณชาย
บอล : คือ ....
ผม : เป็นไรป่าว ? โอเคป่ะวะ
บอล : คือ มีไรจะบอกอะ
ผม : เห้ย ให้ไปหาไหม โอเคไหมวะ ?
บอล : ไม่ๆ กุมีไรจะบอกมิง
ผม : อ่า ว่ามา
บอล : ห้ามโกรธนะ
ผม : อ่าาาามมมมม
บอล : กุว่า เวลากุอยู่กับมิง กุมีความสุขดีวะ กุอยากอยู่กะมิงไปนานๆ อยากคุยกับมิงทุกวัน กุว่ากุชอบมิงวะ
ผม : ส่วนเตียนนน อย่าอำ เดี๋ยวตบหัวหลุด
บอล : จริงจังนะเว้ย
ผม : เอ่ออ คือ
บอล : ถ้ามิงรู้สึกเหมือนกัน เราคบกันได้ไหม กุจะไปรับไปส่งมิงไปเรียนเอง ได้ไม่ต้องนั่งรถไปเรียนสาย รถมันก็ช้า อาจารย์มิงเช็คชื่อด้วย
ผม : มิง คือ กุรู้สึกดีนะ ที่มีมิงอยู่ด้วยแต่
บอล : แต่ถ้ามิง ไม่คิดอะไร เป็นเพื่อนกันก็ได้นะ เว้ย อย่าเปลี่ยนไปนะ
ผม : คือ กุชอบผญ เว้ย กุคุยกะ เจน คณะมิงอยู่อะ แล้วคือ กุไม่อยากเสียมิงไปหนา แต่เอางี้ๆ บอกมิงเลยแล้วกัน ว่า กุอะไม่ได้รังเกียจหรืออะไรนะ เอาไว้กุชอบละกุจะบอกมิงคนแรกแล้วกันเคป่าว?
บอล : มิงจะเปลี่ยนไปไหม ?
ผม : ห้าๆ ไม่อะ พูกมารับกุด้วย
บอล : ยิ้ม
มันเป็นความรู้สึกที่ คนที่นี่คงพูดว่า "เงิบ" ครั้งแรกแหละครับที่มีผู้ชายมาบอกชอบ แต่แปลกตรงที่ผมกลับไม่มีท่าทีรังเกียจมันเลย แถมก็สนิทกันกว่าเดิมขึ้นมาเรื่อยๆ อีก โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่สนใจด้วยซ้ำว่า คนที่ผมชอบจะเป็นเพศอะไร ผมรู้แค่ว่า ถ้าผมเลือกแล้ว แปลว่าผมรัก ผมรักที่ตัวเขา ไม่ใช่เพศเขา ซึ่งไอบอลเอง ก็พยายามหยอด ผมนะ ผมก็ว่ามันน่ารักดี ตลกทุกครั้ง เพราะผมรู้สึกสนุกที่ได้ด่ามันเวลาหยอดผม
เราสนิทกันมากขึ้นครับ ... มากจนเป็นขี้ปากคนอื่น ซึ่งผมไม่ได้แคร์อะไร เพราะผมเลือกอยู่กับคนที่ผมอยู่ด้วยมากกว่าคำพูดคนอื่น
จนเวลาผ่านไป 1 ปี มันก็แยกย้ายไปเรียนคณะของมัน ผมก็แยกย้ายมาเรียนคณะของผม เราอยู่ไกลกันนิดนึงครับ
จนกระทั่งคณะผมมีการรับน้องใหม่เกิดขึ้น ซึ่งตัวผมเองอยู่ชมรมบาสเก็ตบอลครับ ก็มีการรับน้องเข้าชมรมเกิดขึ้น แล้วก็มีเด็กใหม่เข้ามาเพียบ
แล้วเพื่อนๆ ก็ให้ผมไปดูแลน้องคนนึงครับ ชื่อว่า ทอย ผู้ชาย ขาวตี๋ หน้าเฉิ่ม ๆ หน่อย ผมก็ เห้ยว่าไง น้องงงง อะไรนะ ?
ทอย : ผมทอยครับพี่
ผม : เอ้อ พี่เป็นรุ่นพี่แค่ปีเดียวเอง ได้ข่าวเป็นนักกีฬาด้วย พี่คงไม่ต้องดูแลมั้ง เราดิต้องดูแลพี่
ทอย : ยินดีที่ได้รู้จักครับ (มันยิ้ม)
ผม : คนเหนือป่ะเนี่ย
ทอย : ครับ
ผม : พูดเมืองได้ป่าว พี่มาจากกรุงเทพ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
ทอย : รู้ครับ อู้ได้ แต่บ่าจ้างครับ (ได้ครับ แต่ไม่ค่อยถนัด)
ผม : สอนอ้ายกำเน้อ (สอนพี่ด้วยนะ)
ทอย : พี่ ๆ ไปเล่น กัน
ผม : เออ พี่สงสัยทำไงให้มือเป็นตุ๊กแกวะ เวลาเขามาแย่ง พี่จะได้ดึงลูกหนึบๆ
ทอย : พี่ต้อง ตบท้ายดังๆ แล้วบอก ว่า ไป๊ !!! ครับ
ผม : (ลองทำตามเลยครับเสียงดังมาก)
ทอยมันหัวเราะครับ ตลกที่ผมทำตาม สรุปคือ มันหลอกผมครับ
ผม : อ้าว ไอทอย หลอกพี่หรอวะ ไอเวรรรร (โยนลูกบาสใส่มัน) ซึ่งทอยมันรับได้ ครับแล้วก็ เลี้ยงบาสมาแกล้งผมให้ผมแย่ง แล้วมันก็พูด ไป๊ พร้อมตบเท้าใส่ผม ผมก็ตลกมัน ไล่เตะมัน จนพี่กระเทยคนนึง ตะโกนมา
พี่กระเทย : มิงสองคน กลับไปเล่นที่ห้องกันไหมคะ ร้ายนะคะ บ่าได้เลยๆ
ผมกับทอยได้แต่ยืนหัวเราะกันอยู่งั้นครับ ผมก็ทำท่า จะทุบหัวมัน นึกแล้วก็ตลกตัวเอง แล้วก็แนะนำรุ่นพี่ในชมรมตามปกติคับ
พอจบเราก็แยกย้ายกันกลับหอ อยู่ๆ มีข้อความเตือนว่า มีคนแอดเฟสบุ๊คมาครับ "น้องทอยแอดมา" ผมก็กดรับตามปกติครับ แล้วก็มีข้อความเข้า
ทอย : พี่รับเร็วจังคับ เฝ้ามือถือหรอ
ผม : งวย ถืออยู่พอดี
ทอย : กำลังจะแอดผมอยู่อะดิ๊
ผม : ก็กำลังหาเฟสอยู่นะ เจอเด็กกวนทีนงี้ ตลกดี
ทอย : หรออออออ ห่างกันแปปเดียวคิดถึงซะละ
ผม : กุพูดสักคำยัง ว่าคิดถึง
ทอย : ผมล้อเล่นนน พี่อยู่หอในหรือนอกอะ
ผม : นอกดิ ปีสองละ อยู่หอในไม่ได้
ทอย : เฒ่าก็เอี้ยะ
ผม : แหม อายุห่างกันเน๊าะ โถ่
เรากวนประสาทกันอยู่พักใหญ่ๆ ครับ แล้วมันก็ขอตัวไปหาอะไรกิน เสร็จแล้วก็กลับมา บอกผมว่า มันมาแล้ว คุยกันประสาพี่น้อง คุยไปเรื่อยครับจนมารู้ทีหลังว่า อีก 2 วัน มีกิจกรรมของคณะต้องไปเข้าค่าย ซึ่งตัวผมไม่ได้ไปหรอกครับ ( เป็นพี่ว๊าก ซึ่งยังไม่เปิดตัว จริงๆเขาห้ามผมสนิทกับน้อง แต่ผมกลับรู้สึกว่า มันก็ไม่เสียหายและผมควรแยกหน้าที่ กับ ส่วนตัว ด้วย ให้ผมใส่หน้ากากตลอดเวลาคงไม่ไหว ) แล้วพอคุยกันเสร็จก็เข้านอนกันไปตามระเบียบครับ
วันต่อ มาหน้าที่พวกผมคือ ไปจองสนามให้ มันก็เหมือนรู้ดี ทักผมมาตั้งแต่ ตี 5 บอกให้ไปรับมันหน่อย มันจะมาด้วย ซึ่งผมปฏิเสธครับ ไม่อยากรบกวนน้อง อีกอย่างมีเพื่อนนัดกันไว้แล้ว สุดท้ายครับ ก็ไปรับมันจนได้ แล้วไปจองสนาม จน 6 โมง เพื่อนผมไม่มีใครโผล่หัวมาครับ บรรยากาศตอนนั้น คณะอื่นก็ไม่มี มีแต่ผมกับมันอยู่กันสองคน กริ๊กกริ้ววว ตลกมากครับ แรกๆ ก็ชวนคุยกัน สักพัก ง่วงครับ ผมนอนซบแขนมัน มันก็นอนซบหัวผม เป็นภาพที่ตลกดี เอ้อ ผมลืมบอกไป มันสูงมากกว่าผม 5 เซนติเมตรครับ
พอถึงสนามเปิดจองได้ ผมกับทอย ก็ ได้จองเสร็จแล้วก็ไปส่งมันกลับไปนอน เราได้คุยอะไรกันเยอะครับจึงรู้ว่า สาเหตุที่มันมาเรียนที่นี่ คณะเดียวกับผม เพราะแฟนเก่ามัน (ผู้หญิง) มาเรียนคณะเดียวกันครับ ผมก็ โอ้!!! บางอ้อเลยทีเดียว นับว่าไฟต์ดีครับ แล้วผมก็แลกเบอร์กับมันไว้ เผื่อจองสนามวันอื่นๆ
ก็ไม่มีไรครับ ตอนซ้อม ก็ผมก็คู่กับมันเล่นกันเฮฮา แล้วก็กลับ แล้วมันก็ต้องเตรียมตัวไปค่ายของวันรุ่งขึ้น
เมื่อถึงวันค่าย ..... ผมนอนตามปกติครับ กว่าจะตื่นก็ 11 โมงแล้วหละ
ส่วน เจ้าทอย คงไม่ต้องเดา ไปค่ายกับเขาแน่นอนนนน คณะจัดค่ายธรรมมะครับ แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นมันคงเบื่อ ผมก็ทำธุระของผม เตรียมแผนรับน้อง แล้วก็มีข้อความส่งเข้ามาว่า "มารับหน่อยดิพี่ ผมเบื่อ" มันก็ไม่รู้จะอะไรดลใจผม จึงตอบกลับไปว่า " เออเดี๋ยวไป " แล้วมันก็ ยิ้มกลับมาครับ
พอผมไปถึง ผมก็พบว่า มันจัดกระเป๋าให้ผมพากลับเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งบอกเพื่อนมันว่าผมจะมารับกลับ ผมตลกมาก
ทันทีที่ผมไปถึง มันก็วิ่งมาหา แล้วบอกว่า
ทอย : พี่ มารับผมแล้วใช่ป่าว
ผม : ห๊ะ
ทอย : เอาผมกลับน๊า
ผม : เอออ อ่ะๆ (หลอกมัน) มันดีใจมากครับจะวิ่งไปหยิบกระเป๋า
ผมจึงบอกว่า ล้อเล่น แล้วมันก็ทำหน้าบูด 5555 นึกภาพดิคับ ภาพคนหน้านอย มันตลกมาก
ผมจึงอธิบายว่า : ผมเอากลับไม่ได้ เดี๋ยวผมโดนว่า มันไม่ดีนะ เข้าใจพี่เน้อ
ทอยมันก็คงโกรธแหละครับ ก็เดินหายเข้าไปในศาลา ผมก็เดินไปนั่งข้าง ๆ
ผม : เห้ยยย อย่าโกรธดิ ก็เอากลับไม่ได้จริงๆ อ่า
ทอย : อืม แล้วจะมานี่ทำไมอะ
ผม : เอ๋า ก็เราบอกให้มาอะ พี่ก็มา
ทอย : ก็ให้มารับกลับอ่ะ
ผม : ก็มันกลับไม่ได้ เดี๋ยวอาจารย์ดุพี่ ดุทอยด้วยนะ
ทอย : อืม (ทำหน้าบึ้งเงียบ และนั่งสมาธิดาด)
ผม : ป่ะ งั้นกลับ
ทอย : หันมายิ้มครับ แล้วบอกจริงนะ
ผม : แต่ต้องเอาไปไว้หอพี่นะ (ทำหน้ายิ้มๆใส่มัน)
ทอย : งั้นไม่ไปอะ
ผม : งั้นพี่กลับก่อนนะ
ทอย : เออ (หน้าบึ้ง)
ผม : กำ เห้ยอย่างี้ดิ (แล้วพี่สต๊าฟก็เดินมาเอ็ดผมให้ผมออกไปจากบริเวณนั้นครับ ผมเลยต้องกลับหอเลย) ซึ่งระยะทางจาก หอ ไปวัด คือ ไกล มากกกกกกกก ถึงมากที่สุด
ผมไม่รู้จะทำไง เลยส่งข้อความไปบอกมันว่า "ขอโทษนะ พี่เอากลับไม่ได้จริงๆ อาจารย์จะว่าพี่ได้ เข้าใจนะ"
ทอยมันอ่านครับ แล้วตอบว่า "เออ" ซึ่งไม่ต้องรอบก็รู้ครับ มันโกรธเต็มๆ คนเตรียมผ้าแล้วนี่เนอะ
ผมก็เลยบอก " เอากลับอะ ทำไม่ได้หรอก เอางี้กลับมาเดี๋ยวเลี้ยง ข้าว เลี้ยงหนม เลี้ยงไอติม เลี้ยงนม เคป่าว "
ทอย : ก็ได้ (ยิ้มกลับมา)
ผม : เออ้อออ หายโกรธแล้วใช่ป่ะเนี่ย ?
ทอย : อืมมมม อย่าถามมากหน่า
ผม : โอเค ๆ เดี๋ยวเลี้ยงๆ ไม่เบี้ยวละๆ
แล้วก็เลิกคุยกันครับเพราะ มันต้องถึงเวลาทำอะไรสักอย่าง ผมจำไม่ได้
ปล. ตอนนี้ตัวหนังสือเต็มละครับไว้ผมจะมาต่อให้ฟังต่อ ผิดพลาดอะไรขอโทษไว้ด้วยนะครับ ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น

>