ว่าด้วยเรื่องนักเขียนไร้พล๊อต
ตั้งกระทู้ใหม่
มีคนแนะนำให้วางพล๊อตเรื่องดู -เราก็นักเขียนมือใหม่เนอะวางพล๊อตคืออิหยัง
แต่พอเริ่มแต่งต่อปุบถึงท่อนหนึ่งก็เริ่มเบี่ยงออกจากจุดจบเรา ดังนั้นเพื่อให้วกกลับที่เดิมทำไงค่ะ ก็แต่งยืดเยื้อละสิ (กรรม)
แล้วพอเริ่มยืดเยื้อก็เริ่มเบื่อ (คนเขียนเบื่อเองนี้แหละ) และด้นสดมันซะเลย
ช่วงแรกๆก็รอดอยู่นะ อันที่จริงก็รอดไปเรื่อยๆได้แต่มันเหมือนนิยายที่ไร้จุดจบสุดๆ
แต่ด้วยความที่ถึงวางกรอบ วางพล๊อตให้ตัวเองก็ไม่ยอมทำตาม หรือทำตามไม่ได้เลยแถสดๆ คิดสดแต่งสดกลับไปแก้บางครั้ง
จะว่ารอดก็รอดแหละ แต่ก็อยากได้วิธีการวางพล๊อตดีๆให้หน่อยนะค่ะ
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาถ้าตั้งผิดก็ขอโทษด้วยนะงับ
20 ความคิดเห็น
ถ้าอยากได้วิธีการวางพล๊อตดีๆ Arkว่าต้องเล่ามาให้ฟังทั้งหมดแล้วดูว่าจะปรับแก้ตรงไหน เพิ่มอะไรเข้าไปให้น่าสนใจ แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหล่ะ จะเล่าให้คนอื่นฟังมันก็มีปัญหาของมันอยู๋
อืม... มือใหม่(กว่า)เหมือนกันก็แนะนำอะไรมากไม่ได้
ฝากที่เหลือกับ คห. ต่อไปด้วย (แตะมือ)
อยากเล่านะ แต่มันก็เล่าไม่ได้ สาเหตุก็มาจาก ยังวางพล๊อตแบบจริงๆจังๆไม่ได้ซักที 555
ถ้ามันเยิ่นเย้อออกทะเล ไปไกลเกินกว่าที่ตั้งใจ และชักเลอะเทอะ วางเรื่องพล็อตก่อน
แล้ว "ทำใจหินๆ ตัด-เวิ่นเว้อนั้นออกทิ้งทั้งพารากราฟต์" เลยค่ะ!!!!!
ตอนนี้ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องการบังคับการเขียนของตัวเองแล้วนะคะ ไม่ใช่เรื่องพล็อต 55555
.
ตัดใจเชือดทิ้งได้มั้ยละคะ? หรือจะปล่อยให้มันออกทะเลต่อไป
เพราะต่อให้มีวิธีวางพล็อตเทพขนาดไหน ถ้าบังคับตัวเองให้เขียนตามนั้นไม่ได้ก็ต้องเจอยาแรงๆค่ะ
พล็อตคือสิ่งสำคัญนะคะ เปลี่ยนแปลงได้ ปรับแต่ง ดิ้นได้ แต่ก็อย่าไหลจนพล็อตที่ร่างไว้กลายเป็นของไร้ประโยชน์ค่ะ ไม่งั้นนิยายจะไร้จุดหมาย จบไม่ลง 5555
.
ไหลปุ้บ ก็เชือดฉับสับทิ้งค่ะ แล้วเขียนแก้ใหม่ ตัดต่อตัดแปะส่วนที่โอเคไว้ สร้างส่วนเนื้อหาเชื่อมซะหน่อยให้เนียน แล้วเตะมันกลับเข้าทางสายหลักให้ได้
จนวันนึงเราจะถึงจุดที่รู้เองว่าชักไหลแล้วนะ พอๆๆๆๆ 5555555
จากนั้นจะไม่มีการแต่งไหลให้เสียของเปล่าค่ะ
ฮาตรงเฉือดสับทิ้งนี้แหละค่ะ รู้สึกเหมือนต้องมาทำใจเชือดไก่กับมือยังไงอย่างนั้นแหละ 555
อ้างอิงมาจากบทความนึงในเด็กดี
เปิดเรื่อง 25%
กลางเรื่อง 50%
ปิดเรื่อง 25%
http://my.dek-d.com/guopinchaonat/writer/view.php?id=510919
ขอบคุณที่แบ่งปันนะค่ะ //จะลองดู
ในการวางพล็อตควรวางหลวมๆ ครับ เพื่อที่เราจะมีทางในการขยับขยายเรื่องราวให้ได้ โดยที่มันยังอยู่ในเส้นทางที่ต้องการ คุมโทนไปด้วย
แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ต้องใช้วิธีทำทรีตเมนต์เลยครับ นั่นคือ การวางรายละเอียดของแต่ละตอนว่าเราจะให้ดำเนินไปในทิศทางไหน มีต้นกำหนดมาจากที่ไหน เขียนรายละเอียดให้ครบทุกตอนไปเลย เหนื่อยหน่อย แต่อาจจะง่ายกว่าสำหรับการเริ่มต้นของนักเขียนใหม่
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
จะใส่เหตุการณ์อะไรมา หรือมีไอเดียใหม่ๆขึ้นมา ไม่ใช่ว่า-งขึ้นมาได้แล้วเขียนเลยครับ แบบนั้นวางพล็อตยังไงก็ออกทะเลแน่นอน ถ้ามีไอเดียใหม่ ลองเอาไปเทียบเอาไปวางแผนกับพล็อตก่อนว่ามันสามารถนำไปสู่จุดจบที่วางพล็อตไว้ได้หรือเปล่า มันจะเปลี่ยนจุดจบนั้นหรือเปล่า ถ้ามันไม่เข้า ก็ลองหาทางปรับเปลี่ยน จะปรับไอเดียนั้น (ง่ายกว่า) หรือปรับพล็อตหลัก (ยากกว่าเพราะอาจจะต้องเปลี่ยนเหตุการณ์ที่วางไว้หลังจากนั้นทั้งหมด) ก็แล้วแต่
หรือถ้ามันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องตัดมันทิ้งครับ อย่าเสียดาย อย่างมากจดเก็บไว้เผื่อใช้ในเรื่องใหม่ก็พอ ไอเดียมันมาใหม่ๆตลอดแหละครับ
เสียดายก็เสียดายน่ะ แต่ถ้าให้มานั่งเก็บไอเดียนี้ บอกเลยเยอะเกิ้น นับไม่หมด 5555
วางพล็อตค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่จริงๆ เราเองก็กว่าจะวางพล็อตได้ก็ลำบากเหมือนกัน แต่ก็ตัดใจตัดทิ้งไปสองตอนเหมือนกัน เพราะมันไมเข้ากับเนื้อเรื่องที่เขียนไป (เราเขียนไว้ก่อนนะคะ แล้วมาแก้ไขก่อนลงในเวปทีหลัง)
ที่อยากแนะนำจากประสบการณ์ของตัวเองก็คือ วางพล็อตหลวมๆ ไว้ก่อนคะ ตั้งต้นเกิดอะไร จุดจบจะเป็นยังไง กลางๆ เรื่องหรือไคลแมกซ์มีอะไร จากนั้นค่อยๆ เติมลงไปว่าไอเดียตอนนี้จะวางไว้ตรงไหนของเรื่อง
อาจจะต้องใช้ตัวช่วยเป็นการเขียนเป็นฝัง เราไช้วิธีแปะโพสท์อิทตามแบบที่แนะนำในเด็กดีนะ ลองหาอ่านดู มันได้ผลจริงๆ
แต่ถ้าออกทะเลไปแล้ว ก็คงต้องอย่างความเห็นข้างบนละคะ ค่อยๆ ตะล่อมมันกลับมาในทางของเรา เข้ามาในเส้นทางสูู่จุดจบให้ได้
พยายามต่อไปนะคะ
เอาแค่พล็อตใช่มั้ยคะ
1. วางหลวม ๆ ในหัวไว้ก่อนค่ะ ว่าจะมีฉากไหนบ้าง(เอาที่สำคัญ ๆ ต้องมีให้ได้)
(เช่น ฉากนางเอกถูกแทงเกือบตายและพระเอกยอมแลกชีวิตตายแทน)
2. วางปมใหญ่ของเรื่อง สิ่งที่ต้องให้มันเกิดขึ้นและจบลงได้
(เช่น มีสงคราม พระนางรักกัน บลา ๆ ๆ )
3. คิดฉากโดยรวมของเรื่องเอาไว้คร่าว ๆ ค่ะ เหตุและผลที่เรื่องนี้เริ่มสตาร์ท
4. ทำmind mapping (พิมพ์ถูกมั้ย) ค่ะ ปมที่ตั้งใจให้มี + เหตุผลที่ต้องมี + เฉลยปม
พอทำมาได้ถึงตรงนี้ เราจะเริ่มเห็นเค้าของเรื่องราวแล้วค่ะ
จากนั้นก็เริ่มเขียนได้เลย
ส่วนตัวทำแค่นี้ค่ะ ตอนจบแค่คิดไว้คร่าว ๆ เท่านั้น
ทุกอย่างพลิกแพลงได้ตลอดค่ะ
แต่ต้องให้เดินอยู่ในเส้นเรื่องใหญ่ ๆ กับฉากที่เราวางไว้แต่แรก
อย่าให้ออกทะเลหรือยืดเยื้อเกินไป
ประมาณนี้อ่ะค่ะ
แลดูยิ่งใหญ่สุดๆ 555
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ช่วยได้มากเลย
เราเป็นนักเขียนที่วางพล็อตไว้ตลอด แต่ดันชอบชักใบให้เรือเสีย เอ๊ย ชักเรือออกทะเลตลอด เป็นมันทุกเรื่องเลย กว่าจะกลับเข้ามาตอนหลักได้ ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนี้พยายามหักห้ามใจไม่ให้ออกไปชมทะเลแสนงามตรงหน้าให้มากนัก ไม่งั้นคงได้โดยนักอ่านผู้น่ารักปล่อยเกาะเป็นแน่ๆ // ช่วงนี้ก็ใกล้จะโดนปล่อยเกาะอยู่แล้ว อันเนื่องมาจากไม่ยอมอัพสักที ฮ่าาา
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ //แท๊กมือ
วางพล็อตไว้แล้ว เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต้องเกี่ยวกับพล็อตของเรา ลองถามตัวเองดูว่ามันเกี่ยวมั้ย? ถ้าเกี่ยวก็ใส่เข้าไปได้เลย ถ้าไม่เกี่ยวก็เอาไว้ใส่เรื่องอื่นค่ะ
เขียนแล้ว มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราเขียน แต่ไม่อยากจะตัดทิ้ง จึงแก้ด้วยการปรับบท เขียนเพิ่มเติมให้มันเข้าหาเรื่องที่เรากำหนดไว้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
พี่ริไม่เคยวางพล็อตกับเขาซักที แต่พอมาดูเราเขียนไปไกลมากแล้ว ก็เลยใช้วิธีเขียนตอนแทรกเข้าไปเพื่อโยงให้มันเกี่ยวกับพล็อตของเราค่ะ ^^
นิยายของผมก็ไม่ได้วางพลอตไว้ครับเเค่คิดล่วงหน้าไว้ตอนนึงตลอดอาจจะช่วยได้นิดหน่อยครับ ถ้าไม่คิดล่วงหน้านี่ผมคงตันเหมือนกัน
แบบว่าเพื่อนไม่อ่านนิยายแนวนี้ วิธีนี้จึงล้มเลิกปาย 555
ถ้าคุณเป็นนักเขียนที่สามารถเขียนตามพลอตของตัวเองได้เป๊ะ
นั่นแสดงว่าคุณเป็นนักเขียนที่วินัยสูงมากกกกกกกกกกกกกกค่ะ
เราเองก็เป็นนักเขียนมือใหม่ ยังอ่อนด้อยอยู่มาก แต่สามารถยืนยันได้เลย
ว่ามีนักเขียนน้อยมาก ที่เขียนตามที่เอาพลอตได้เป๊ะ เป๊ะ เป๊ะ
แต่เราทำนะคะ การร่างพลอตของเรา
เราใช้วิธีการคือการเขียนคร่าวๆ ว่า ใน 1 ตอน เราจะเล่าอะไรบ้าง
ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เช่น
ตอนที่ 1 (จากนิยายของเราที่กำลังลงตอนนี้นะคะ)
บรรยากาศโรงเรียน, เสียงฝีเท้า, เล่าเรื่องการเรียนการสอนในโรงเรียน,
บรรยายนางเอก, นางเอกขอบคุณ, ผอ. ฝากฝังเอกภพให้นางเอก,
ปิดตัวละครอลินดา (ผอ.) ... บลาๆ
แล้วจะเผื่อพื้นที่เอาไว้ข้างๆ เพราะตอนเขียนเราไม่มีทางเขียนได้หมด
จากที่เราพลอตไว้ หรือไม่เขียนอะไรเพิ่มเติมเลยเป็นไปไม่ได้
เราจะจดเอาไว้ ว่าเราเพิ่มอะไรบ้าง ตัดอะไรบ้าง วันนี้เขียนได้ถึงกี่หน้า
แต่ก่อนหน้านั้นเราจะวางทุกอย่างเอาไว้แล้ว เพื่อให้ตัวเองเห็นภาพ
นางเอก พระเอก คนรอบตัว ประวัติส่วนตัวของตัวละคร
จะต้องมีรายละเอียดทุกอย่าง เพื่อให้เราสามารถเห็นภาพได้มากที่สุด
การหาข้อมูลแล้วรวมเอาไว้ในที่เดียวกัน จึงสำคัญมาก
นิยายหนึ่งเรื่อง เรามีสมุดหนึ่งเล่ม เพื่อเขียนทุกอย่างลงไป
เช่น พระเอก ชื่อ จักรวาล ไพศาล อายุ 34
ขาว สูง หุ่นกำยำอย่างคนออกกำลังกาย ใบหน้าเรียว
กรามแกร่ง คิ้วดำดกหนา ดวงตาคมภายใต้กรอบตาชั้นเดียว
ที่แวววาวราวจับผิดเสมอ จมูกสันสวย ริมฝีปากหยักอิ่มเต็มสีชมพูอ่อน
ผมตัดสั้น ปัดข้างหน้าขึ้นเวลาไปทำงาน ใส่แว่นเวลาทำงาน
เวลาทำงานหรือทำอะไรเพลินๆ หรือเวลาเครียด จะชอบยกมือ
ขึนลูบคิ้วขวา บลาๆๆๆ....
การเขียนพลอตดีที่เราสามารถเห็นภาพรวม
เราสามารถเห็นข้อบกพร่องได้ว่า อะไรมันขาดหายไป
อะไรมันไม่เชื่อมโยง นิยายของเราจะครอบคลุมทุกประเด็น
ถ้าเราตอบคำถามของเหตุการณ์หรือตัวละครไม่ได้
เราจะหยุดไปนานมาก จะคิดจนกว่าจะตอบคำถามนั้นได้
แล้วค่อยลงมือเขียน เพื่อไม่ให้คนอ่านเกิดคำถามในความไม่สมเหตุสมผลเหมือนเรา
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าจะช่วยให้งานเขียนออกมามีวินัยมากขึ้นนะคะ
เราเองก็มือใหม่ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องวินัย
เพราะบางครั้ง บางวัน ก็เขียนได้แค่ 3 ประโยคเท่านั้นเอง
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้กันและกันเนอะ ฮี่ๆ :D
และหวังว่าวิธีของเราน่าจะพอช่วยคนอื่นๆ ได้บ้าง
ปล . แต่งานเขียนเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ เรามีวิธีแบบนี้
บางคนเขียนดีกว่าเรามากๆ ก็อาจไม่ได้ทำวิธีเดียวกันนี้ก็ได้
ลองหาวิธีที่ตัวเองทำแล้วสบายใจ เหมาะกับตัวเองดูค่ะ
คิดว่านั่นน่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด)
เราว่าคุณคงเป็นนักเขียนที่เก่งมากๆแน่ๆเลย //ปรบมือถี่ๆ เราวางพล๊อตกี่ครั้งก็ล้มกี่ครั้งเลยวางเผื่อไว้เพียบ 555 ยังไงก็จะพยายามค่ะ
ไม่เก่งเลยค่ะ ฝีมือยังต้องปรับปรุงอีกเยอะมากๆๆๆๆ
แต่อาศัยอ่านประสบการณ์ของนักเขียนหลายๆ ท่านช่วยเสริม
แล้วก็หาวิธีที่เหมาะกับตัวเองเจอเท่านั้นเองค่ะ :D
การแต่งนิยายของผมไม่เคยมีการวางพล็อตมาก่อนเลย ไม่ควรเอาอย่างหรือลอกเลียนแบบ
เรื่องแรกแต่สะเปะสะปะไปบ้างเหมือนกัน เคยแต่งจนจบไปแล้วตอนนี้เอามาแต่งใหม่
คล้ายกับว่ามีโครงเรื่องอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องพึ่งพล็อต
เรื่องที่สองก็แต่งไปได้สักตอนสองตอน สมองมันก็คิดฉากจบไปเองโดยไม่ต้องบังคับ พอแต่งอีกตอนด้านหน้า ก็คิดกระโดดข้ามตอนต่อที่ยังไม่ได้แต่งไปคิดตอนท้ายเรื่องประติด
ประต่อกับฉากจบเลย ไม่ได้ตั้งพล็อตเลยคงจะรอมันลอยมาเองละมั้ง
มีอีกเรื่องแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วในหัวแต่ไม่ได้ลงคอมฯ แบบว่าดองมานาน ไม่ต้อง
วางพล็อตเพราะมันจบไปแล้ว อันนี้ไม่ควรลอกเลียนแบบเพราะดองนานเกินไปจริงๆ
ช่วงหลังนี้มีตั้งกระทู้เกี่ยวกับวางพล็อตกันหลายกระทู้ ก็เลยรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้มันยังไง แบบว่าเรามนุษย์พิสดาร เอาไว้เรื่องต่อไปก็แล้วกันนะ
บอกตามตรงทึ่งคอมเม้นนี้มาก เราทำไม่ได้อ่ะถ้าให้ไม่คิดฉากจบไว้ก่อนเรื่องคงออกทะเลจริง เก่งๆ
โอ้ยยย....กระผมวางพรอตมาต้นเรื่องครัช และ แต่งสด(ไม่ใส่ถุง) เห้ย...ไม่ใช่ละ แต่งสด สร้างเหตุการณ์เชื่อมๆกัน พอช่วงกลางเรื่องกระผมก็เริ่มมาแนวทางว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แบบนั้น และจบ ซึ่งผลงานเรื่องแรกก็รีบจบแบบสุดๆ
แต่งเชื่อมเหตุการณ์เป็นอะไรที่ยากมาก (เคยลองแล้ว) แต่อาจจะแค่สำหรับเรามั้ง เพราะแต่ละเหตุการณ์ที่คิดมาเชื่อมไม่ได้เลย 55555 (หมายถึงของเรานะ)
ไม่มีพล็อตก็ดีนะ ผมคนนึงล่ะที่ไม่มีพล็อตเลย อาศัยทั้งด้นสด แถสด มั่วสด แต่ก็ยังมีชีวิตต่อไปได้ สำหรับผมแล้ว ไม่มีพล็อตมีข้อดีอยู่เหมือนกัน
เคยทำเหมือนกัน อยู่อ่ะอยู่ได้นะ แต่ตัดจบไม่ได้เพราะด้นไปไกล T T
เพราะการวางพล็อตมันไม่เข้ากับผม ด้นสดไปจะดีกว่า ลุ้นทั้งคนอ่านยันคนเขียน (จะออกมาแนวไหน)
แนะนำให้ตรวจคำผิดหน่อยนะคะ อย่างเราถ้าเจอนักเขียนที่พิมพ์คำผิดเยอะมากๆก็หมดอารมณ์อ่านเหมือนกันค่ะ เช่น พิมพ์นะคะ ผิดเป็น นะค่ะ
ดาเมจรุนแรง 555
แนะนำให้อ่านเรื่องที่แต่งไว้อย่างละเอียดอีกรอบคับ แล้วไอเดียมันก็จะออกมาเอง แต่ถ้าไม่ได้ ก็ให้ทำเหมือนเนื้อเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นอดีต(แบบว่าเรื่องทั้งหมดคือเหตุผลให้เกิดความสัมพันธ์ในตอนนี้) แล้วก็ดูว่ามีความสัมพันธ์หรือปริศนาไหนยังค้างคาอยู่ จากนั้นก็รวบรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วก็คิดคับ ว่าคำตอบของปริศนานั้นคืออะไร หรือถ้าเป็นในรูปแบบความสัมพันธ์(ซึ่งยากหน่อย) ก็ให้ลองคิดคับ ว่าจะจบความสัมพันธ์แบบนั้นยังไง จากนั้นไม่ว่าทั้งรูปแบบของปริศนาหรือความสัมพันธ์ ก็ให้คิดไคลแมกซ์ขึ้นมาหนึ่งอย่าง เอาที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่ทำให้รับรู้ปริศนานั้นหรือทำให้เกิดความสัมพันธ์นั้น หรืออิงฉากจบที่คิดไว้ในตอนแรกก็ได้ จากนั้นก็กำหนดฉากจบซะ ลำดับอย่างละเอียดทุกฉากทุกเหตุการณ์ จากนั้นก็ลงมือเขียน ...ตรงนี้แหละสำคัญที่สุด!!! ห้ามวอกแวกเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีไอเดียใหม่หรือเก่าผุดขึ้นมาก็ให้รีบขุดหลุมฝังมันซะ! แล้วก็รัวคีย์บอร์ดปั่นให้จบ!(จะกำหนดเดธไลน์ให้ตัวเองไว้ก็ดีนะ แบบว่าถ้าทำจบภายในวันนี้จะซื้อสิ่งที่ต้องการให้ตัวเอง อะไรเงี้ย) แล้วหลังจากนั้น ก็ยิ้มโบกมือลาเหล่าลูกๆ(ตัวละคร)ที่รักได้เลย ...วิธีนี้ควรทำให้จบในสิบตอน ก็นะ มันเหมือนกับการสร้างเรื่องใหม่เลย ถ้าเกิดไม่ระวังก็มีหวังได้เดินเรือใหม่แน่
สุดท้ายก็ สู้ๆคับ!!!
Fighto des!!!!!!
อ่านๆหมายมั่นว่าจะทำให้ได้พอเจอ วิธีนี้ควรทำให้จบภายใน 10 ตอนปุบ ลาเลยค่ะ โหม่งโลก
ปล.ไม่เคยแต่งจบภายใจสิบตอนสักที T T ยังไงก็จะ Fighto ค่า 555
คือ... นิยายเราได้ตีพิมพ์ 2 เรื่องแล้ว และทั้ง 2 เรื่องนั้น จะบอกว่าตัวเราก็ไม่เคยวางพล็อตเรื่องเลย555555
แค่คิดว่าอยากแต่งแนวนี้ ให้มันเริ่มต้นแบบนี้ดีกว่า แล้วเขียนไปเรื่อยๆ เขียนไปคิดไปพลาง ไม่รู้ว่าจะให้จบยังไง เขียนไปก่อน เพราะเราวางพล็อตไม่เป็น เราเลยใช้วิธีเขียนจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่เจอเอง ซึ่งมันไม่ง่ายเลยกว่าจะพาให้จบเรื่องโดยไม่ให้เนื้อเรื่องออกทะเลได้5555
ปรบมือดังๆ//แปะๆ นับถือสุดๆ มองตัวตาเป็นประกาย*.* ยินดีกับสองเรื่องที่ตีพิมพ์ด้วยนะค่ะ
ขอบคุนค่าาา มันเป็นการแต่งตามอารมณ์เหมือนนักแต่งเพลงน่ะค่ะ เอาสิ่งที่เจอในแต่ละวันมาเขียน
แต่ก็ไม่ดีนะคะ เพราะถ้าเราไม่เจออะไรที่สร้างแรงบันดาลใจได้เราจะตื้อทันทีค่ะ นักเขียนควรวางพล็อตก่อนดีที่สุด
เป็นอีกคนที่ด้นสดมาตลอด วางไม่เป็น เขียนไปเรื่อยๆเท่าที่สมองจะคิดได้ ความคิดจะจินตนาการออก เรื่องเลยออกมาเพี้ยนๆ ภาษาแปร่งๆ...ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ไม่สามารถจริงๆ..
อ่านแล้วแอบขำ (เพราะมันกระแทกตัวเอง) 555 สู้ๆค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?