Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากจะมาแชร์ ประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากอีอ้วนดำ จนกลายเป็น…...( มีรูปภาพประกอบ )

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีคีค่ะ เพื่อนๆๆ ชาว Dek.d ทุกคน อันแรกก็ขอแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า เรามีนามว่า มีนา คงเฟื่อง ( ชื่อเล่น. แนน ) 555 ก่อนอื่นต้องบอกว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา หากอ่านแล้วแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ มือใหม่หัดเขียน อิอิ และในวันนี้ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ที่มันอาจจะไม่ได้ดูดีขึ้นมากมายสักเท่าไหร่ ( แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเปลี่ยนไปเยอะมากแค่ไหน? ) งั้นฉันขออนุญาติเรียกตัวเองว่า แนน นะค่ะ จากเมื่อก่อนที่เคยมีแต่คนเรียกว่า อีอ้วน อีดำ ถังแก๊ส อีหมูตอน บางทีก็เรียกทั้ง 2 เลย...อีอ้วนดำ... คือ เอิ่มมมม คนที่เคยถูกเรียกแบบแนน จะเข้าใจความรู้สึกนี้ดีช่ายปะค่ะ 5555555 เลข 5 ล้านตัว  มันรู้สึกเจ็บจี๊ดดดดดไปถึงทรวงในกันเลยทีเดียว เวลาโดนเพื่อนล้อหรือเรียกต่อหน้าคนอื่น แล้วยิ่งต่อหน้าคนที่เราแอบชอบน่ะ มันทำให้เรารู้สึกอายและเสียใจมากๆ ฮือๆๆๆ เอาหละแนนก้อเวิ้นเว้อมาเยอะละ 555555 เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ( อาจจะยาวนิดนึงนะค่ะ ) แต่อยากให้เพื่อนๆได้ลองอ่านดูค่ะ ส่วนใหญ่จะเจ็บมาเยอะ ผ่านมาเยอะ ใช้มาเยอะ พอสมควรเลย กว่าจะได้ขนาดนี้

 .....เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า.....

     เริ่มจากตอนแนนเด็กๆ เลยนะค่ะ ช่วงที่แนนอายุประมาณ 7 ขวบ ถือได้ว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ตัวเล็กมากกกก คือง่ายๆ อีเตี้ยยยยแหละค่ะ 555 เวลาไปโรงเรียนจะต้องยืนเข้าแถวเคารพธงชาติเป็นคนแรกของห้องเสมือ เพราะเค้าเรียงตามความสูง จากเตี้ยไปสูง แล้วยังจะผอมแถมดำอีกต่างหาก พอแนนเริ่มขึ้น ป.4 ( ตอนนั้นน่าจะ 9 ขวบ ) ที่โรงเรียนก็มีการจะจัดงานกีฬาสีประจำปี จะมีเกือบทุกโรงเรียนเลยก็ว่าได้ แล้วก็จะมีรุ่นพี่และอาจารย์จะมามองหาและคัดเลือกเด็กเพื่อที่จะให้เป็นหรีด พออาจารย์และรุ่นพี่เดือนมาถึงห้องเรา เค้าก็ถามเด็กๆขึ้นมาว่า ใคร...อยากเป็นหรีดบ้างค่ะนักเรียน -ด้วยความที่เราชอบเต้นมากๆ ตอนเด็ก แนนก็ยกมือบอกอาจารย์ไป แต่สุดท้ายเค้าก็กลับไม่เลือกเราเลย แทบจะไม่มองแนนเลยด้วยซ้ำไป เค้าเลือกเอาแต่เด็กที่หน้าตาดี ผิวขาว บอกเลยตอนนั้นถึงแนนจะยังเด็ก แต่เชื่อว่าทุกคนก็เสียใจเป็นช่ายปะค่ะ เด็กก็มีหัวใจน่ะเฟ้ย กลับไปบ้านก็ไปร้องไห้กับแม่ บอกว่าเราเสียใจมากๆ

( นี่คือรูปแนนตอน เด็กๆ ตอนนี้น่าจะประมาณ 6 ขวบได้ ) 

     มาต่อกันเลยดีกว่า ( อย่าพึ่งขี้เกียจอ่านกันน้า 555 ) แนนขอไม่เล่าช่วง ป.5-ม.1 นะค่ะ ขอข้ามมาช่วง ม.2 เลยละกัน ช่วงนั้นแนนถือได้ว่าเป็นช่วงที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้น ขี้เหร่มาก  มากถึงมากที่สุด คิดว่าอีดำตับเป็ด 555  และฉายา อ้วนดำ อีถังแก๊ส ก็ได้เริ่มขึ้น แถมยังโชคร้าย มีขี้แมลงวันมาขึ้นตรงระหว่างกลางมุมปากกับจมูก โอ้โห เรื่องความพูดมากไม่ต้องสืบ ทุกวันนี้ก็ยังพูดมากอยู่เลยค่ะ 5555555 แล้วจะมีนิสัยออกห้าวๆ หน่อย เพราะตอนนั้นยังไม่รู้จักเรื่องความสวยความงาม ก็ยังเด็กอยู่เลยเนอะๆๆๆ

(อันนี้คือรูปตอน ม.2 ขนาดอยู่ในที่ร่มกับกลางแจ้งก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ 5555 ) ตอนนี้แนนก็จำไม่ได้ว่า สูงและหนักเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆดูเอาจากความบานของหน้านะค่ะ 

     ต่อมาแนนเริ่มขึ้น ม.4-6 แนนก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้น เริ่มโตเป็นสาวมากขึ้นช่ายปะ แต่ก็มีสิวขึ้นเต็มหน้าเลย เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยจะดูแลผิวหน้าสักเท่าไหร่. ก็เลยคิดอยากจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ช่วงนั้นก็ยังเด็กอยู่ แนนก็จะไม่ค่อยมีตังสักเท่าไหร่ เพราะแม่ก็ไม่ได้ให้เงินใช้อะไรมากมาย ( เพราะแนนเป็นลูกแม่ค้า ) เพียงแค่พอมีเงินซื้ออุทัยทิพย์ 555 ช่วงนั้นฮิตมากคร้าาาา เพราะมันไม่แพงมาก ขวดละ 19 หรือ 25 บาทก็ไม่รู้ จำไม่ได้ละ ( แล้วจะเล่าทำไมว่ะ 555 ) เริ่มแต่งหน้า แต่งตัว ทำผม ก็เริ่มมีการยืดผม เพราะแนนเป็นคนผมหยักโศกมาก ถึงขั้นหัวฟูเลยหล่ะ จนมีคนเรียกว่า สิงโต ฮึฮึ เริ่มต่อผม ดัดผม แล้วช่วงนั้นก็เริ่มมีแฟน ด้วยความแรสของแนนด้วยแหละ 555555 ก็เปลี่ยนได้เท่านี้เอง

อันนี้คือรูปช่วงตอน ม.4-6 ทรงผมจะแตกต่างกันไป ) 

    พอจบ ม.6 จะขึ้นมหาวิทยาลัย ก็เริ่มสนใจตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น แต่งตัวมากขึ้นกว่าเดิม  เพราะแนนคิดเสมอนะว่าขึ้นมหาลัยฉันต้องสวย ตอนนั้นตัดผมสั้นด้วยนะค่ะ  ง่ายๆคือแรสค่ะ 55555 แต่ก็ยังอ้วนอยู่นะ ช่วงนั้น 54 กิโลกรัมได้ ชอบใส่ส้นสูงไปเรียน ( ม.รังสิต ) ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองสวยแล้วน่ะ แต่ในสายตาคนอื่นกลับไม่เลย มองเราขี้เหร่มาก เหมือนตัวอะไรสักอย่าง แล้วตอนนั้นมีแฟนอยู่คนนึง เรียนอยู่โรงแห่งหนึ่ง อยู่แถวพหลโยธิน เวลาไปเที่ยวกับแนน จะชอบพูดว่าเราไม่สวยอายคนอื่น อย่ามาเดินจับมือ ทั้งๆที่-มาจีบกูเองเนี่ยน่ะ หึหึ แนนมีแฟนก็จะทำสิ่งดีๆให้ รู้ม่ะมันพูดว่าไร ที่ทำแบบนี้กลัวโดนทิ้งหรอ เท่านั้น!!!แหละ แนนก็เลยเลิกเลยจร้า อีกอย่าแนนโดนคนแถวบ้านดูถูกไว้มากมาย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาแนนก็พูดกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เราจะต้องสวยให้ได้ เราจะต้องดูดีให้ได้ จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเราได้ เราจะต้องผอมให้ได้และสาเหตุนี้แหละที่แนนแค้นฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ 55555 แนนเป็นอาฆาตแรงมาก ถ้าได้เกลียดแล้วเกลียดมากๆ ช่วงนั้นแนน และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแนน อีกอย่างแนนโชคดีที่มีแม่คอยสนับสนุนในทุกๆอย่างๆ ง่ายๆนางเป็นสปอนเซอร์ให้แนน 5555 แม่ก็พาไปเข้าคอสลดน้ำหนัก ของเพอร์เฟคสลิม หมดไปตั้ง 4 หมื่นกว่าบาท น้ำหนักลงมาแค่ 4 โลเอง จาก 54 เหลือ 50 กิโลกรัม ( แต่ตอนนั้นแนนได้ย้ายมาเรียนที่ ม.กรุงเทพแล้ว ไม่มีรูปช่วงนั้นให้ดูนะค่ะ )..........

( นี่คือรูปแนน ช่วงปี 1 เรียนอยู่ที่มอรังสิต ) รูปไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นะค่ะ   พอหมดคอร์สรลดน้ำหนักแล้ว คือแนนก็ยังไม่พอใจ ในน้ำหนักและรูปร่างของตัวเอง แนนก็ได้เริ่มสรรหายาลดน้ำหนัก ที่กินแล้วว่าดี กินแล้วลดจริง กินแล้วช่วยเรื่องผิวพรรณ ที่เค้าว่าดีแนนซื้อมากินหมดอะ แต่ก็ซื้อราคาตามงบประมาณที่ตัวเองพอมี 555555 ช่วงที่กินลงไหม ลงนะ แต่ก็ไม่มาก ก็ลง มา 2 กิโล เหลือ 48 กิโล จากนั้นแนนก็ได้อ้อนวอนขอแม่ทำจมูก เอาหล่ะศัลยกรรมเริ่มมา มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงเราอยู่แล้วชิป่ะ ตอนนั้นพึ่งอายุ 19 เอง ปกติแล้วเค้าจะให้คนที่อายุ 20 ปีขึ้นไปแต่ด้วยที่มีแม่ใจดี อยากให้ลูกสาวสวย แม่ก็พาส่งที่โรงพยาบาลเลอร์ลักษณ์ จัดซิลิโคลนเมกามา ช่วงนั้นราคาเบ็ดเสร็จ อยู่ที่ 13,050 บาท ( หมอปิติ ) แล้วพอแนนทำจมูกเสร็จ แม่ก็มารอรับกลับบ้าน คือนางน่ารัก ( ขออวยแม่หน่อยนะ555 ) แล้วหลังจากที่ทำจมูกได้ 3 เดือน แนนก็ไปเริ่มดัดฟัน โดนหมอถอนไป 8 ซี่ หน้าไม่เรียวได้ไงหล่ะ 55555 บางทีคนแถวบ้านมาถามแม่ว่า ลูกสาวไปตัดกรามมาหรอ เอิ่มมมม สตั้น 3 วิ  แล้วจากนั้นแนนก้อเริ่มขัดผิว บำรุงผิว กินคลอลาเจน ( สำหรับแนนColly Pink กินแล้วขาวใสจริง ) คือง่ายๆ เอาทุกอย่างที่เค้าบอกว่ากินแล้วผอมกินแล้วขาว แนนซี่จัดหมด 555 ที่นี้ก็เริ่มขาวขึ้น เริ่มผอมลง ( บอกเลยตามตรง ) ว่ากินยาลดน้ำหนัก + ควบคู่กับการออกกำลังกาย + ควบคุมอาหาร เห้ยๆๆ 1 เดือนกว่าๆ ผ่านไป คือได้ผลอะ น้ำหนักลงมา 6 กิโล กว่า จาก 48 กิโล เหลือ 42 กิโล คือปลื้มมาก ตอนนั้นก็เริ่มมีคนบอกว่าสวยขึ้น ไปทำอะไรมาผอมลง เราก็เริ่มดีใจ ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น มากขึ้น

( นี่รูปช่วงที่ทำจมูกมาแล้ว ดัดฟัน ลดน้ำหนักเหลือ 42 กิโลกรัม )

      พอขึ้นช่วง ปี 2-3 แนนก็เริ่มผมยาว เริ่มขาวขึ้น แต่น้ำหนักก็มีขึ้นมีลง แต่ไม่มากเท่าไหร่ ขึ้นลง 2-3 กิโลกรัม เริ่มรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น 55555 มโนไปเองอีกละ วิธีที่ทำให้แนนขาวขึ้นคือ แนนขยันขัดผิว ( แนนใช้กากกาแฟผสมมะขามเขียก ขมิ้น นมสด เกลือขัดผิว ) อาทิตย์ไหนขยันก็ ขัด 2-3 ครั้ง ขี้เกียจก็อาทิยต์ละครั้ง  ขยันพอกผิว  ผอกหน้า ( จะใช้เป็นพวกครีมมาส์กหน้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่แนนจะเน้นใช้สมุนไพรค่ะ พวกโยเกิต ขมิ้นสด น้ำผึ้ง มะมาน ) พอกอาทิดละ 1-2 วัน และก็ขยันทาครีมทุกวัน อะไรที่ทำให้ขาว ทาหมด ( ใช้แบบไม่กลัวเป็นมะเร็งกันเลยทีเดียว 5555555555555 )  แต่แนนก็ทาบ้างไม่ทาบ้าง เพราะบางทีก็มีอารมณ์ขี้เกียจ อยากสวยห้ามขี้เกียจนะค่ะสาวๆ พอเริ่มมีคนชมว่าสวย เราก็จะเริ่มรู้สึกแฮปปี้ คือเรามีความสุขนะ สิ่งที่เราทำมามันดีขึ้นและได้ผล ( เริ่มจะสวยละน่ะ ) อีอ้วน อีดำ เริ่มหายไป 555 ไปตายซะ

( นี่คือรูปช่วง ปี 3 ค่ะ ) ผมเริ่มยาว เริ่มแต่งหน้าแต่งตัวเก่งขึ้น ส่วนใหญ่จะศึกษาเอาจากยูทูป ในGoogleแถมๆๆ นี่คือรูปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว น้ำหนักขึ้นมาถึง 48 กิโลกรัม )

     เอาหล่ะ มาถึงตอนปัจจุบันกันแล้ว ตอนนี้แนนมีน้ำหนักคงที่อยู่ที่ 42-43 กิโลกรัม ใส่เสื้อผ้า คือก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ผอมนะ ( ออกแนวโรคจิต ) ใจแนนอยากหนัก 38 กิโลกรัม เพราะแนนสูง 155 เซ็นติเมตร 5555 เตี้ยอะดิ แต่บอกเลย กว่าแนนจะมาถึงจุดนี้ แนนก็ลงทุนมาเยอะมากๆ เป็นล้านๆได้ 555  ( ทุกอย่างที่ได้มาต้องลงทุน ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แค่เพียงทำได้เท่าที่งบประมาณตัวเองจะสู้ไหวนะค่ะ ) แต่ได้แค่นี้เอง แต่ก็ปลื้มนะ ที่อย่างน้อยตัวเอง ทำได้ เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นใหม่ได้ ลบคำดูถูกจากใครหลายๆคนได้ แนนเชื่อว่าทุกอย่างสำเร็จเสมอ ถ้าเราลงมือทำมัน ขอแค่มีความขยัน และความอดทน ท่องเอาไว้ ว่าเราทำได้ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของตัวเราเอง จงเชื่อมันในตัวเอง

 ..... และสุดท้ายนี้แนนขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองนะค่ะ แนนเชื่อว่า เพื่อนๆก็ต้องทำได้..... บ๊ะบายยยยย


( และนี่คือรูปปัจจุบันของแนนค่ะ ไม่รุ้ว่าเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหน ) ดูกันเอาเองเลยคร้าาา


ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านกระทู้นี้ ติดตามแนนได้ที่ Facebook >>> มีนา  คงเฟื่อง 
https://www.facebook.com/profile.php?id=100007941347861 ( มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะค่ะ )

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น