(ชวนคุย) ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราแต่งนิยาย T_T
ตั้งกระทู้ใหม่
เราแค่งงตัวเองค่ะว่า... ทำไมต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับขั้นสุดยอดด้วย!!
เกิดความสับสนในตัวเอง ไม่เข้าใจเหมือนกัน
อย่างตอนที่ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการแต่งนิยายมาก็ต้องเอาซ่อนไม่ให้ใครเห็น
หรือตอนที่แต่งๆ อยู่ถ้ามีใครเดินมาก็จะรีบปิดทันทีเลย โดนถามว่าทำไรอยู่นี่อ้ำอึ้งเลย
พอมีคนถามว่ามีหนังสือนิยายอ่านขนาดนี้เลยหรอ เราก็ยิ้มๆ ค่ะ
ใจจริงคือชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว และส่วนหนึ่งก็ซื้อมาเพื่อพัฒนาการเขียนของตัวเองด้วย
เรามิเข้าใจจจจ เราก็รักการอ่าน รักการเขียนนิยายนะคะ
ท้อยังไง ยอดวิวน้อยยังไง วังเวงยังไงเราก็ไม่เลิก
แต่ทำม๊ายทำไม เราถึงทำใจไม่ได้ที่จะให้ใครรู้ ไม่ว่าจะสนิทแค่ไหน
โอยยยยย ทำไมต้องอาย ทำไมต้องกลัว ทำไมไม่กล้า งงตัวเองหลาย
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ใครเป็นเหมือนกันมาแชร์กันได้นะคะ อยากรู้ว่าสำหรับคนอื่น
คุณมีเหตุผลอะไรที่ไม่บอกให้ใครรู้ว่าแต่งนิยายคะ????
78 ความคิดเห็น
เราก็เป็นค่ะ เหมือนว่าไม่อยากให้ใครรู้อ่ะ กลัวว่าเขาจะอ่านนิยายเราแล้วรู้สึกแปลกๆกับเรา หรืออย่างอื่นอ่ะ
บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ-__-
เหมือนกันเลยค่ะ ไม่รู้ทำไม555
หวังว่าสักวันจะกล้าเล่าให้ใครฟังสักที
เหมือนกันเลยค่ะ แต่ของเราคือกลัวชาวบ้านเขาจะรู้ว่า รสนิยมแกเป็นแบบนี้เองสินะ คือหน้ากับความชอบมันไปคนละทางกันเลยอ่ะค่ะT_T
ส่วนเราไม่เป็นนะ แต่จะเป็นอีกแบบค่ะ คนรอบข้างเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนที่ชอบจินตนาการเพ้อฝัน ชอบเขียนนิยาย และก็ชอบอ่านนิยายด้วย ขนาดเวลาเรียนเรายังนั่งเขียนแต่นิยายจน โดนคุณครูทำโทษเลย จนเราโดนดูถูกค่ะ ว่าเราเอาแต่เพ้อฝัน ทั้งที่จริง งานเขียนมันคืองานที่เราชอบทำแล้วมีความสุขค่ะ แถมเรายังมีนักเขียนในดวงใจเยอะมาก เราอยากเก่งเหมือนเขา แต่ความจริงเราก็อายนะ แต่เราเห็นว่า นักเขียนในดวงใจของเราเขายังกล้าที่จะเขียน ยังกล้าที่จะบรรยายถึงสิ่งที่จินตนาการไว้ลงในนิยาย เพื่อนักอ่านทุกคนได้อ่านและรับรู้ค่ะ เราเลยไม่ค่อยคิดที่จะกลัวแล้วค่ะ สักวันหนึ่งเราจะเป็นนักเขียนเต็มตัวให้ได้เลย แล้วคนจะเลิกดูถูกเราไปเอง แต่เธอก็อย่ากลัวไปเลยนะ การเป็นนักเขียน มันไม่ได้น่าอายเลย แต่ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะมองเรายังไง อย่าไปสนใจค่ะ ตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักนะ สู้ๆค่ะ
ของเราภายนอกดูแมนมากเลยค่ะ ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเพ้อฝันเลย อาจเพราะขัดกับบุคลิกในชีวิตจริงอย่างนี้ก็เลยไม่กล้าบอกใคร555 ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
แนะนำว่าควรแบ่งเวลาเขียนให้ดีค่ะ
การที่เราเอาเวลาเรียนซึ่งเป็นหน้าที่หลักไปเขียนจนโดนทำโทษน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โดนดูถูก
ถ้าเราแบ่งเวลาทั้งสองอย่างให้เหมาะสมใครจะมาว่าเราได้จริงมั้ยคะ ยังไงก็สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้
ผมเป็นผู้ชายนี่ยิ่งไปกว่าอีก ส่วนน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นคนเเต่งนิยาย เพราะส่วนใหญ่เเล้วผู้ชายจะไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ ผมก็เเต่งอยู่เเละก็พยายามไปตีสนิทกับผมที่มีหัวคิดคล้ายๆกัน ตามจริงผมก็ไม่ให้ใครรู้ด้วยซ้ำว่าเเต่งนิยายเพราะบางทีเพื่อนในห้องอาจจะคิดว่าเราไม่ใช่ผู้ชาย TT
นี่คือสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด 55555555+
เห็นภาพเลยค่ะ ถ้าแฟนเราแต่งนิยายเราก็คงอึ้งๆ เหมือนกัน 555
นักเขียนชายแท้ ดังๆ มีถมไปค่ะ ลองอ่านงานช่วง 50-60 ปีก่อนดู หรือจริงๆ นิยายในประเทศไทย คนเขียนคนแรกเป็นผู้ชายนะคะ ฉะนั้นอย่าได้กลัวไปเลยค่ะ
ตกลงไม่ได้เป็นใช่มั้ยคะ อิอิ
ส่วนตัวคือกลัวคนรู้จักได้เห็นในอีกด้านนึงครับ เพราะนิยายที่แต่งออกมามักจะสะท้อนนิสัยคนเขียน
อีกเหตุผลนึงคือไม่ค่อยอยากให้คนรู้จักมาวิจารณ์สักเท่าไร มันออกจะอายๆ ให้คนอื่นที่ไม่รู้จักมาวิจารณ์ยังดีกว่าเยอะ
เห็นด้วยค่ะ นิยายที่เราแต่งมันออกน่ารัก แบ๊วๆ มีฉากหวานๆ มีจูจู๊บกันด้วย
ใครรู้นี่อายแย่เลย 555
เราก็ปิดนะ ไม่อยากให้คนรู้จักรู้ว่าเราเขียนนิยายอยู่ แต่พอเข้าไปอยู่ชมรมที่ร่วมกันของคนที่รักนิยาย เรื่องสั้น การ์ตูน แล้วต้องทำอะไรสักอย่างให้ออกมาเป็นงานชมรมเราก็เลยต้องแต่งนิยายไปส่งไม่ก็เรื่องสั้นเพราะเรื่องวาดรูปนี่เทียบกับคนอื่นในชมรมไม่ได้เลยจะเอาไปให้ชมรมเก็บเข้าแฟ้มแล้วก็อายตัวเอง จบท้ายด้วยการที่มีคนเขียนนิยายส่งแค่สองคนคนอื่นวาดพวกนิทานภาพ ไม่ก็การ์ตูนสั้นส่งกัน(มันสวยมากอ่ะ) อันเป็นสาเหตุให้คนอื่นๆ รู้ว่าเราเขียนนิยายในที่สุด จบ
อยากมีชมรมแบบนี้มั่งจังเลยค่ะ แต่ไม่รู้ยังจะเขินอยู่หรือเปล่าตอนเดินไปสมัครในชมรมนี้เนอะ
อายเวลาคนรู้จักมาอ่านนิยายที่เราแต่ง 55
โห ระดับคำหวาน แต่งดี ชอบมากมายเลยค่ะ ของเราแต่งไม่เก่งอาจจะน่าอายกว่า
แต่ฉากหวานๆ ของคุณ infront ถ้าเราเป็นคนเขียนก็คงเขินคนรู้จักเหมือนกัน555
เคยอาย เพราะสิ่งที่เขียนกับตัวตนจริงๆ มันต่างกันมาก กลัวจะมีคนหาว่าเพ้อเจ้อ และดูถูกงานเรา เหมือนที่เคยโดนมา ...เลิกคบเพื่อนไปคนหนึ่งเพราะเค้ามาดูถูกงานเรานี่แหละ ยังจำได้จนถึงวันนี้ และคิดว่าคงจำไปจนตาย
แต่ตอนนี้ไม่อายแล้วค่ะ เพราะถ้ามัวแต่อายคงไม่ได้เขียนกันพอดี ทำหน้าทนเข้าไว้ คำว่าจบบริบูรณ์อยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ะ ฮา...
จบบริบูรณ์ คำนี้ไม่ได้ได้มาง่ายๆ เลยเนอะ ขอบคุณค่ะ ยังไงก็ต้องทำต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่เรารัก^^
ผมมองว่านิยายเป็นงานอดิเรกแบบหนึ่งนะครับ ที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองมากๆ หรือเฉพาะกลุ่มพอตัว
มันไม่เหมือนงานอดิเรกอื่นๆเช่น เล่นกีฬา หรืออ่านหนังสือ ที่หลายคนมักมองว่าทำแล้วได้ประโยชน์
ขณะที่นิยายนี่ส่วนใหญ่มักถูกมองแบบติดหนัง ละคร การ์ตูน เล่นเกม คือเพ้อฝัน ใช้เวลาว่างไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นมันตรงข้ามว่าประโยชน์เยอะเอาเรื่องเลยล่ะ และไม่จำเป็นต้องเพ้อฝันเสมอไป
แต่ก็อย่างที่ว่าครับ คนเปิดใจก็เปิดใจรับฟังไป แต่คนไม่ชอบหรืออคติไม่พร้อมเปิดใจรับฟัง มันก็เปล่าประโยชน์ที่จะเสียเวลาอธิบาย
ผมเลยไม่ค่อยบอกใครหรอกว่าแต่งนิยายอยู่ เพียงแต่ถ้ามีคนถามสนใจอยากลองอ่าน ผมก็ให้ลิ้งค์ไปนะ ไม่ปิดบังอยู่แล้ว แค่ไม่นำเสนอลอยๆเท่านั้นเอง
เก่งจังเลยค่ะ เรานี่ไม่กล้าให้ใครรู้เลย ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำผิดอะไร T^T
เราไม่ได้ปิดอ่ะ ให้เพื่อนให้น้องอ่าน เค้าก็รู้กันอยู่แล้วว่าเราชอบอ่านหนังสือ แล้วก็เคยเขียนบทความ เรื่องสั้น ให้นิตยสารโรงเรียน แต่ก็ไม่ถึงกับป่าวประกาศไปทั่วนะ5555
บางทีจขกท.อาจจะอายเล็กๆก็ได้ค่ะ เวลาเราให้คนรู้จักอ่านก็ประหม่านิดนึงเหมือนกัน แอบเขิน5555
อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อ่านเหมือนกันจะได้รู้ว่าสนุกไหม ชอบไหม ตรงไหนไม่โอ
แต่มันก็อายอย่างที่คุณอัศวินว่าจริงๆ แหละค่ะ ฮ่าๆ
สู้ๆนะ
ไม่มีประโยชน์กับไม่มีอะไรทำแล้วหรอ นี่ใจร้ายมากเลยนะคะ แต่ถึงยังไงก็มีคนชอบอ่านนิยายของเราอยู่
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ ค่ะ
เพราะเรายังไม่พร้อมที่จะให้คนรอบตัวเห็นสิ่งที่ดำเนินอยู่ในหัวเราจริงๆ ค่ะ แถมบุคลิกเราตัวจริง ไม่ค่อยมีใครดูออกหรอกว่าจริงๆ เพ้อเจ้อมาก ถ้าไปบอกใครว่าเราแต่งนิยายอยู่ คนนั้นคงจะหัวเราะเฝื่อนๆ แล้วก็แอบไปดูปฏิทินว่าวันนี้คือหนึ่งเมษาหรือเปล่าแน่นอนค่ะ
อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ ไม่พร้อมจริงๆ
ถ้าจะบอกใคร สงสัยคงต้องบอกวันที่ 1 เมษา
ฮ่าๆๆ
ช่วงแรกๆเราก็เป็นค่ะ แต่พอแต่งไปได้สักพักก็ไปเจอเพื่อนที่ชอบคู่ชิปเดียวกัน(เราแต่งฟิคค่ะ)แล้วพอคุยกันก็ถูกคอค่ะ เราก็เลยให้เขาลองอ่านเรื่องที่เราแต่งดู ปรากฎว่าเขาเคยอ่านเรื่องที่เราแต่งอยู่แล้วค่ะแต่ไม่รู้ว่าเราเป็นคนแต่ง(ฮา) หลังจากนั้นเขาก็กลายมาเป็นแฟนคลับคนนึงของเรา แอบดีใจเล็กน้อย
ดีใจด้วยค่ะ ถ้าเรามารู้ทีหลังว่าคนใกล้ตัวเราอ่านนิยายของเราด้วยคงจะดีใจมากๆ
แต่ถึงไม่ใช่คนรู้จัก พอมีคนเข้ามาอ่านก็ดีใจจนตัวลอยเหมือนกัน ฮ่าๆ
เป็นเหมือนกันเลย ยิ่งแก่ขึ้นๆแบบนี้ก็ยิ่งไม่อยากให้ใครรู้ ทั้งๆที่สมัยอยู่มัธยม เพื่อนก็รู้กันทั้งห้องว่าเราเขียนการ์ตูนเป็นบ้าเป็นหลัง ขนาดคุณครูยังรู้เลย
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้ =w=
เรานี่ตอนเด็กเคยเขียนเล่นๆ ก็อาย โตมาก็ยังอาย
เคยเอานิยายที่เขียนตอนเป็นเด็กมาอ่าน ยิ่งอายหนักมาก
แบบว่าเด็กน้อยเอ๋ย เมื่อตอนนั้นเจ้าคิดอะไรถึงเขียนออกไปแบบนั้น555
อาจจะเพราะเขียนคนเดียวเลยอายหรือเปล่า เราเขียนกับเพื่อนหลายคน เลยไม่อายเลย เอามาอวดกันใหญ่555
ผมไม่ปิดนะครับ ใครถามก็ตอบ มันไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็ดีกว่าไปทำอย่างอื่นที่ไม่มีประโยชน์ และไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ผมยังอัพลงเฟสเลยครับว่าถึงตอนนั้นตอนนี้ ก็ไม่มีใครเอ็ดด่าว่าครับ ดูเหมือนจะยอมรับกันมากเสียด้วย ก็แล้วคนนะครับ ผมว่าสมัยนี้คนยอมรับกับการแต่งนิยายมากขึ้นในช่วงที่นิยายรับมาทำเป็นละคร
ส่วนความรู้สึกที่ไม่อยากบอก... เพราะกลัวว่าเอาคนไปนินทาเสียๆหายๆครับ แบบว่า "ไอ่นี่เขียนนิยายลามก" อะไรทำนองนี้ อยากรู้ก็มาถามเจ้าตัวเองนี่ "ผมแต่งนิยายครับ"
จขกท. ทำใจให้สบายๆเถอะครับ เด็กสมัยนี้หันมาอ่านนิยายมากกว่าการติดเกมอีกครับ ^^
ฮาตรง-นี่เขียนนิยายลามก 5555
ดีใจด้วยนะคะที่ทำได้ถึงขั้นลงเฟส เราไม่กล้าจริงๆ
แต่ถ้าทำได้แบบนั้น คงจะดีไม่น้อยเลย ToT
ผมก็ปิดบางคนนะ เพราะการเขียนนิยายนี่เป็นงานอดิเรกของคนเฉพาะกลุ่ม บางคนเขาก็มองเราว่าเป็นพวกเพ้อฝัน ไร้สาระ หรือบางทีก็อาจมองเราเป็นคนเก็บกด เหมือนคนบ้า อะไรแบบนั้น ...มันเป็นทัศนคติของคนบางกลุ่ม ซึ่งสำหรับผมมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
แต่เพื่อนที่ชอบเขียนนิยายหรืออ่านนิยายของผมก็มี อันนี้ผมปรึกษาเต็มที่เลย แต่บางทีก็รู้สึกอายนะ เพราะเพื่อนมันให้คำปรึกษามาแบบ... ทำฉากNcซะสิ่ อะไรงี้ เราก็มานึกว่า เอ๊ะ? มันชวนจิ้นได้ขนาดนั้นเลยเหรอ???
ก็ประมาณนั้นครับ สาเหตุหลักๆ♣
"ทรรศนคติ" ไม่ได้เขียนแบบนี้ครับเขียนแบบนี้ครับ "ทัศนคติ" ครับ
ลืมครับ เดี๋ยวแก้
มีคนอินกับนิยายของเรา คนเขียนก็คงฟินนะคะ
อยากมีเพื่อนมาฟินกับนิยายเรามั่ง แต่ดันไม่กล้าบอกใครอยู่ดี
ผมไม่ปิดบังเพราะไม่มีห้องส่วนตัวเพียงแต่ไม่ได้บอก แต่ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่แน่ใจว่าวัยรุ่น
จะรู้สึกอย่างไรกัน
จนกระทั่งมีคนในบ้านถามว่าทำอะไรอยู่ก็บอกไป หรือไม่ก็รำคาญเวลาแต่งนิยายอยู่ก็บอกแบบอารมณ์เสียเสียงแข็งไปว่ากำลังแต่งนิยายอยู่นะเงียบๆ หน่อย
อีกอย่างที่จะต้องยอมรับคือคนในครอบครัวไม่สนับสนุนไม่เคยมีใครอยากอ่านของเรา
ดูถูกดูแคลนว่าไร้สาระเสียเวลาทำอย่างอื่นดีกว่าอะไรแบบนี้
ถ้าใครบอกคนใกล้ชิดคนในครอบครัวแล้วเขาสนใจ หรือยินดีว่าเราแต่งนิยายอยากอ่าน
ผมถือว่ามีบุญแล้วนะจะบอกให้
เราเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ ยิ่งเพื่อนที่ทำงานยิ่งไม่กล้าบอก คนในครอบครัวก็ไม่กล้าบอก
ต่อให้ใครๆ ก็ไม่กล้าบอก555
อยากมีบุญ! บ้างนะคะ แต่คงต้องข้ามผ่านความไม่กล้าไปให้ได้ก่อน
เราก็เป็นนะคะ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าไม่อยากให้คนรู้จักมารับรู้นิสัยและตัวตนอีกด้านหนึ่งที่เราเก็บเอาไว้ มันแบบเหมือนล้ำเส้นเข้ามาในโลกส่วนตัวของเราแปลกๆอ่ะค่ะ
เราคนนึง ช่วงแรกอายมาก ไม่กล้าบอกใครว่าแต่ง TT ได้แต่แต่งเงียบๆ สุดท้ายก็เอาหวะ ให้เพื่อนติเม้นบ้างก็ยังดี 555555 เลยลองให้เพื่อนติ เม้นกันไปๆมา (คนใกล้ตัวอะนะ) จนตอนท้ายตัดสินใจลงเว็บ. (ไม่ใช่เว็บนี้) สุดท้ายรู้กันเกือบสายชั้นแล้วมั้งว่าเราแต่งนิยาย 555555 \
เราก็เป็นค่ะ ไม่ชอบให้คนที่รู้จักมาอ่านนิยายตัวเอง แต่ไม่ได้ปิดว่าตัวเองแต่งนิยายนะคะ ทุกคนรู้แต่เราไม่บอกว่าเขียนเรื่องอะไรอยู่ ขอลิ้งค์เราก็ไม่ให้ พี่และเพื่อนๆก็เป็นนักอ่านในเด็กดี ถ้ามาเจอเองเราก็ไม่อะไร แต่มาขออ่านเราไม่ค่อยให้ค่ะ เดี๋ยวอ่านแล้วก็จะมาจู้จี้กับเรา ถามโน่นถามนี่ มาเร่งเร้า ซึ่งเราไม่ชอบค่ะ เราบอกพี่และเพื่อนว่า ถ้าเห็นนิยายของฉันก็ไม่ต้องมาอะไรกับฉันนะ อย่ามาบอกว่าให้แต่งอย่างโน้นอย่างนี้ เราค่อนข้างจะติสท์มากน่ะค่ะ การแต่งนิยายคือโลกส่วนตัวของเราที่ไม่อยากให้คนรอบข้างมายุ่ง แฮะๆ
ผมก็เป็นเหมือนกัน พอใครมายืนมองนี่แทบจะไม่ได้แต่งเลยเหมือนว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้คนใกล้ตัวเห็น(แต่คนไม่รู้จักเห็นได้) จนถึงตอนนี้ก็ยังปิดเพื่อนๆที่หอพักอยู่เลย(เรียนโรงเรียนประจำ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?