กว่าจะได้คบกับรุ่นพี่สุดหล่อก็ยากเหมือนกันนะคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเป็นหนึ่งในสมาชิกเด็กดีที่สมัครไว้นานนนนมากๆแล้วเป็นปีอะคะ แล้วก็ไม่ค่อยได้เข้ามาเล่นเท่าไหร่แต่วันนี้เรามีประสบการณ์การรักรุ่นพี่คนหนึ่งที่คนอย่างเราไม่อาจเอื้อมและไม่คิดว่าจะได้คบกันเลยคะต้องเน้นว่า "ไม่เคยคิด" กระทู้นี้ไม่ได้อยากมาตั้งให้อิจฉากันเล่นๆนะคะแนวเป็นกำลังใจให้มากกว่าสำหรับคนที่รักใครอยู่อย่ายอมแพ้คะ สู้ต่อไป ถ้ายอมแพ้ก็อาจจะเสียใจที่หลังได้นะคะ ไม่ว่าคุณจะหน้าตาเป็นยังไงก็ตาม แต่ถ้าเขามีแฟนแล้วก็อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆดีกว่านะคะ อิอิ โอเคไม่เสียเวลาคะเข้าเรื่องเลยดีกว่า
ย้อนกลับไปตอนเราอยู่ ม.3 เทอม1 เราเป็นคนหน้าตาธรรมดาคะพอไปวัดไปวาได้ไม่สวยไม่ขี้เหร่ เราผิวขาวคะ หน้าตาก็อย่างที่บอกไปขอไม่อธิบายรายละเอียดนะคะ เราอยู่โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี้ละคะ เราเป็นคนที่ค่อยข้างเงียบแต่เพื่อนเยอะคะ เพราะว่าถ้าสนิทกับใครแล้วจะค่อนข้างพูดเก่งแต่ก็มักพูดไม่ทันเพื่อนๆ เพราะเพื่อนพูดเก่งกว่าแล้วก็หัวข้อสนทนาก็จะมีแต่เรื่องของผู้ชายๆๆและนินทาผู้หญิง ตามภาษานะคะแต่เรามักจะไม่พูดเรื่องพวกนี้เพราะเราไม่สนใจใครทั้งงั้นยกเว้ย อปป้า 55 ก็คงรู้ๆกันนะคะ เรื่องรุ่นพี่เรามักจะไม่รู้จักใครเลยไม่ว่าจะดังแค่ไหนก็ตาม แต่เพราะอย่างงั้นละคะวันแรกของการเปิดเทอมม.3 เราก็มาหาพวกเพื่อนๆเราที่โต๊ะหินอ่อนที่ประจำของพวกเราอ้อ เรามีเพื่อนทั้งหมด 7 คน มีคนหนึ่งที่มาเช้ามากกกกกกว่าคนอื่นเลยจองไว้ได้ทันเสมอ เธอชื่อ บี คะ (ชื่อย่อนะคะขอไม่บอกชื่อจริงของทุกๆคนที่เราเอ่ยมา) บีเป็นเพื่อนรักเราที่สนิทกันมากที่สุดในกลุ่มเพราะเรามีความคิดอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันนะคะ แต่พอเรามาถึงโรงเรียนมักจะสายที่สุดในกลุ่มเพื่อนแต่ก็ไม่ตลอดสลับกันบ้างอะไรบ้าง
วันนั้นๆก็เหมือนกันพอเรามาถึงทุกคนก็นั้งกันอยู่แล้ว แล้วพวกมันก็รีบกวักมือเรียกเราแบบ ตื่นเต้นมากกก อย่างกับถูกหวยหน้าแต่ละคนเบิกบานอย่างที่สุด(กลุ่มเรามีเกย์ด้วยคนหนึ่งคะ)มันก็พูดๆกันว่าเมื่อเช้า พวกมันไปเจอรุ่นพี่คนหนึ่ง โค ตะ ระ หล่อ เดินเข้าโรงเรียนมาแล้วก็ เดาๆกันว่าน่าจะเป็นเด็กใหม่เพราะไม่เคยเห็น สูงมาก เป็นลูกครึ่งอีกต่างหาก เพราะหน้าเขาออกแนวโซนตะวันตกนะคะ เราไม่ได้เห็นด้วยตอนนั้นก็เลยเออๆออๆฟังพวกมันเจื้อยแจ้วกันไป แล้วก็เดากันว่าเขาอยู่ม.อะไร มันก็ไล่ถามกันคะ จนมาถึงเรา เราก็ตอบส่งๆว่าม.4มั้ง เพราะรุ่นพี่ม.4ที่เข้ามาใหม่ก็เยอะ ตอนนั้นมันก็เมาส์ๆกันไปคะแล้วพวกมันก็ตั้งหน้าตั้งตารอตอนเข้าแถวเพราะต้องเห็นพี่เขาแน่ๆมันบอกว่าพี่เขาจะเด่นกว่าผู้ชายคนอื่นๆในโรงเรียน วันนั้นทั้งเช้าเราก็ได้ยินแต่พวกผู้หญิงส่วนใหญ่พุดถึงผู้ชายคนนั้นกันจนเข้าแถวก็เหมือนมีแต่คนรอดูกันชะเง้อกันใหญ่เราก็เลยอยากรู้ไปด้วยเลยปรากฏการณ์แบบนี้เราไม่เคยเห็น
ในที่สุดเราก็เห็นเขาครั้งแรกคะ พี่เขาเดินเข้ามาที่ลานหน้าเสาธงและมาคนเดียวคงเพราะเป็นเด็กใหม่เลยยังไม่มีเพื่อน แวบแรกที่เห็นคือ พระเจ้า โค ตะ ระ หล่อจริง พี่เขาหล่อแบบลูกครึ่งเลยคะทั้งตัวนี่สว่างอย่างกับเอาออร่ามาราดตัว(เวอร์ไปงั้นละ) คิ้วเข้ม ตาคม จูกโด่ง หน้าเรียว พระเอกนิยายชัดๆ เพื่อนก็บอกเราว่าเห็นมั้ยแกฉันบอกแล้ว แวบแรกที่เราคิดคือหน้าพี่เขาคล้ายๆ เพื่อน MettyB ที่ชื่อแจ็คเลยคะถ้าอยากรู้เดี๋ยววันหลังเอามาลงให้ดูนะคะ สาวๆแอบกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ พี่เขาดูเป็นคนขี้อายคะ พอเห็ฯคนอื่นจ้องมากๆเข้าเขาก็ก้มลงมองเท้าตัวเองตลอด หน้านี้แดงแบบเห็นได้ชัดเลยคะ น่ารักมากกก แต่เราก็ได้แค่มอง เหมือนที่เรามองพวกอปป้าละมั้ง เราชอบเขาที่หน้าตาและท่าทางจริงๆคะ แอบบมองบ้างอะไรบ้างมาตลอด เหมือนแอบปลื้มศิลปินเกาหลีทั้งๆที่เราไม่มีวันเอื้อมถึงอารมณ์แบบนั้นเลยคะ
และอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ใหญ่ยักษ์คือในโรงเรียนคงมีแต่คนปลื้มเขาอะคะ และคนในกลุ่มเราคนหนึ่งเธอชื่อ ซี คะ จะบอกว่าชอบจนเราคิดว่าเพื่อนเราคนนี้มันจริงจังมาก คือ ทั้งแอบส่งขนม น้ำ ให้พี่เขา ลากเพื่อนในกลุ่มเอาไปให้พี่เขาบ้างอะไรบ้าง อยู่ๆวันหนึ่งมันก็ไปได้ไลน์พี่เขามาจากที่ใดเราก็ไม่รู้มั้นก็โชว์ให้พวกเราดูคะ คือว่า ในไลน์มีข้อความแบบ มันส่งไปบอกพี่เขาว่า
มัน:ฝันดีนะคะ
พี่เขา:ครับผม
แล้วพี่เขาก็ส่งสติกเกอร์ กลับมาว่า Good night จำไม่ได้ว่าสติ๊กเกอร์รูปอะไร
มันก็เอะอะเป็นการใหญ่แคปรูปหน้าจอเก็บไว้ เรายิ่งไม่กล้าคิดไปไกลเลยคะ
ผ่านไปจนมาถึงเทอม 2 เราก็ไม่ค่อยได้สนใจพี่เขาเลยคะ เห็นพี่เขาอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆมาตลอดแต่ปกติถ้าเป็นรุ่นพี่คนอื่นเราคงเลิกชอบไปแล้วแต่กลับพี่เขาไม่รู้ทำไมเหมือนกันเหมือนยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆพี่เขาเป็นคนแรกที่ทำให้เราเลิกชอบอปป้าไป แต่เราก็มักจะปฏิเสธตัวเองตลอดคะ ว่า ไม่ใช่หรอกน่า อย่าคิดงั้นสิ อิบ้าเอ ชื่อเล่นตัวหน้าเราคือ เอ คะ ^^ เวลาซีมันมาพูดถึงพี่เขาให้กลุ่มเพื่อนๆฟังเรานี้แทบหันหน้าหนี และก็มีแค่บีที่เข้าใจคะเราเล่าให้มันฟังคนเดียวในกลุ่มว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไงกับพี่เขา
แล้วก็เหมือนผีผลักหรืออะไรสักอย่าง วันนั้นเป็นวันที่พวกเพื่อนๆจะมาช่วยกันจัดซุ่มกันคะเป็นวันที่มีเรียนถึงแค่ เที่ยงเท่านั้น แล้ววันนั้นทั้งวันเขาก็มาจัดซุ่มกันไม่มีเรียนทั้งวันเพราะพรุ้งนี้ก็ถึงวันงานแล้ว แล้วตอนเกือบๆเที่ยงๆเพื่อนๆมันอยากจะไปกินข้าวข้างนอกกันคะแต่เราขี้เกียจเดินไปในโรงอาหารก็มีข้าวให้กินแต่มันอยากไปกินส้มตำกันเราก็กินเผ็ดไม่ได้แล้วซุ้มก็ยังไม่เสร็จเราเลยชวนบีกินที่โรงอาหารเป็นเพื่อนบีมันก็โอเคคะแดดมันร้อนด้วย พวกเพื่อนๆก็ไม่ได้ว่าอะไรคะ แต่เพื่อนเกย์เราก็จิกมาว่าจะอยู่กันแค่2คนเลยมั้ยพวกมึ..อะ เราก็แค่ยิ้มแหย่ๆไปอะคะ ตอนเรานั้งกินกันอยู่แค่2คนคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย
จนพี่เอฟ เป็นพี่ข้างซอยเราคะ คือที่ว่าข้างซอยเพราะบ้านเขาอยู่ข้างซอยบ้านเรา แล้วก็รู้จักกันเพราะตอนประถมเรียนที่เดียวกันกลับรถตู้โรงเรียนคันเดียวกันเพราะระแวกบ้านอยู่ไกล้กัน ตอนพ่อแม่เรามีงานแต่เช้าก็มักจะไปฝากเราขึ้นรถตู้ไปกับบ้านนั้นเลยสนิทกันคะเล่นกันมาตีกันมาแต่เด็กสนิทยิ่งกว่าพี่ชายแท้ๆอีกคะ เพราะพี่เขาเป็นลูกคนเดียวเราก็ลูกคนเดียวเลยเหมือนพี่น้องกัน
นั้นละคะอยู่ๆพี่เอฟแกก็มาตบโต๊ะแกล้งเราจนสะดุ้ง
พี่เอฟ:ทำไมมานั้งกันสองคนเพื่อนหายไปไหนหมด ไปนั้งกับเพื่อนๆพี่มั้ยละวันนี้มาแค่ก็ 4 คนเอง คนอื่นโดดงานกันหมด
เราก็มองหน้าบีว่าจะเอายังไง
เรา:ไม่ไปได้มั้ยอ่า กินจนจะหมดแล้วเนี้ย
พี่เอฟ:อีกตั้งครึ่งจาน นี้เดินมาชวนเลยนะ ลุกๆๆ
แล้วก็เอาจานเรากับบีไปเลย ก็เลยต้องลุกตามเขาไปคะ
แล้วเราก็ต้องตัวแข็งหยุดกึกเพราะพี่เจ(รุ่นพี่ลูกครึ่งคนนั้นละคะ)เขากำลังถือจานเดินมานั้งคือเขามานั้งเลยคะ แล้วเขาก็มองพี่เอฟว่าถือจานใครมา แล้วเขาก็ถามเป็นภาษาอังกฤษด้วย แม่เจ้า เราก็เคยได้ยินเหมือนกันว่าเขาพูดทั้งไทยทั้งอังกฤษได้ สกิลภาษาอังกฤษเราในตอนนั้นก็...นะ
พี่เจ:จานใครวะ (มั้งนะ)
พี่เอฟ://ชี้มาที่เราสองคน
พี่เขาก็หันมามองแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรคะแค่ยิ้มให้เฉยๆ เพื่อนพี่เขาอีก2คนก็เดินตามมากันคะ แล้วเราก็นั้งกันพวกพี่เขาก็คุยกันไปเราสองคนก็เงียบใส่กันเพราะทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่
เพื่อนพี่เอฟคนที่1:เอาน้องเขามาแล้วทำตัวแบบนี้กันอ้อวะไม่ชวนน้องเขาคุยเลย
พี่เอฟ:เจอคนหล่อเลยเกร็งอะดิ
คือเราอะก็รู้นะว่าพี่เอฟกับพี่เจ เป็นเพื่อนร่วมห้องกันเพราะไม่มาสอบคัดห้องเลยต้องไปอยู่ห้องบ๋วยของสาย วิทย์-คณิต ทั้งคู่อะคะ แต่ไม่คิดว่าจะอยู่กลุ่มเดียวกัน เพื่อนพี่เอฟเขาเยอะมีตั้งหลายกลุ่มหลายห้อง
เรากับบีก็ไม่พูดอะไรแค่ยิ้มแล้วหัวเราะแหย่ๆกันสองคน แล้วพี่เจเขาก็พูดกับเราสองคนประโยคแรกก็คือ
พี่เจ:จะว่าไปน้องสองคนนี้กินข้าวมันไก่ทอดเหมือนกันเลยเนอะ สำเนียงเขาไม่แปล่งเลยคะชัดมาก เสียงก็ทุ้มๆ เรานี้ฟินแทบตกเก้าอี้เลยตอบเขินๆไป
เรา:ก็ไม่รู้จะกินอะไรอะคะ ><
แทบปาช้อนทิ้ง โมเม้นเหมือนได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับคนที่เราชอบ ย้อนกลับไปก็คิดว่าตัวเองหน้าหมั่นไส้มากๆ
พี่เขาก็ไม่พูดอะไรคะปล่อยให้พี่เอฟกับเพื่อนๆชวนเราคุยจนสนิทกันขึ้นมาหน่อยๆ ตอนจะเอาจานไปเก็บเพราะได้ยินเสียงกริ่งจากโรงอาหารว่าหมดเวลาพักแล้ว เรากับบีก็มีทั้งแก้วน้ำกับจานอะคะ แล้วก็ของที่จะใช้ตกแต่งซุ้มกับกระเป๋าที่เอาติดตัวมาด้วยกลัวหายก็เลยลำบาก พี่เขาเลยคว้าแก้วเรากับจานไปคะแล้วบอกยิ้มๆว่า เดี๋ยวเก็บให้ ส่วนของบีพี่อีกคนเขาก็ช่วยเก็บ้ลยคิดว่าเป็นโมเม้นที่จะเก็บไปตลอดชีวิตเลย พออกมาจากโรงอาหารพวกพี่เอฟก็โบกมือบ๊ายบายเราสองคนคะก่อนจะแยกกันไปทำซุ้ม บีก็แซวเรา
บี:ฟินเลยสิมึ_
เรา:ก็นิดหน่อย
บี:อย่าไปบอกซีเชียว ถ้ามันรู้ได้โกรธเราแหงเล่นไม่ชวนมันอะ
เรา:ถ้ามันมารู้ที่หลังจะโกรธกว่ามั้ยละมึ_//ในใจเราตอนนั้นแอบอยากเห็นท่าทางอิจฉาของนางคะเพราะชอบมาพูดจาให้เราเจ็บ(แบบไม่รู้ตัว)
แต่สรุปเราก็ไม่ได้บอกคะ
หลังจากนั้นเราก็มารู้ที่หลังด้วยว่าพี่เขาดร็อปเรียนไปปีหนึ่งเพราะเกเร ที่จริงตอนนั้นเขาต้องอยู่ม.5แล้ว
จากนั้นวันงานก็เริ่มขึ้น ต่างฝ่ายต่างแข็งขันกันเอาอาหารที่ตัวเองทำมาขายกัน ซุ้มเราทำน้ำหวานกัน ซุ้มพี่เขาทำทาโกะยากิมั้งคะ เพื่อนพี่เขาทำเก่งมากเลยมีครั้งหนึ่งพี่เจกับพวกเพื่อนเขาอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เราไปกินข้าวด้วยเขาก็มาเดินดูซุ้มเราคะเราอยู่หน้าร้านพอดีเป็นคนเรียกลูกค้า พอเห็นพี่เขาเดินมาอถวๆโซนเราพวกเพื่อนๆเราก็กรี๊ดใหญ่ ขนาดคนที่กล้าๆอย่างซีก็แทบจะมุดโต๊ะหนี เราก็เห็นพี่เขายิ้มให้เราแต่ไกล
พี่เจ:ขายอะไรกันหรอ
เรา:มะพร้าวมั้งคะ //ตอนนั้นเกิดอาการอยากเล่นทั้งๆที่เขินแก้มแทบแตกก็ต้องอดทนไว้ ทำเป็นไม่รู้สึกอะไร
พี่เจ:เอ้า ถามดีๆนะเนี้ย
เพื่อนเกย์เราก็ถามเขาว่า แล้วจะซื้อมั้ยละค่ะพี่เจ
พี่เจ:ซื้อสิ นี้ไงเอาคูปองมาด้วย
*ต้องไปแลกคูปองก่อนมาซื้อนะคะ
เพื่อนที่อยู่ในซุ่มก็รีบตักน้ำให้เราก็ยื่นมือไปรับเงินจากมือเขาเขาก็หลบมือหนีเราซะงั้น
เรา:แกล้งอ้อ//แก้มคงแดงมากตอนนั้นเราเขินไปหมด
เพื่อนพี่เขา:แล้วเมิ_ไปแกล้งน้องเขาทำไม
พี่เจ:อะๆ สงสาร
แล้วเขาก็ยิ่นมาให้คราวนี้เราตะครุบเอาคูปองแบบไม่ให้เขาหนีเลยคะ เขาก็ยิ้มๆแล้วเพื่อนเขาก็พาพี่เจไปอีกซุ้มหนึ่งเป็นของพวกศิลป์ญี่ปุ่น
ตอนนั้นเราก็โดนเพื่อนๆถามเลยคะ
เพื่อน1:รู้จักกันอ้อ
บี:ก็พี่เขาเป็นเพื่อนพี่เอฟไง
ซี:แล้วไปรู้จักกันตอนไหนไม่เห็นบอกกันเลย
เรา:ไม่ได้สนิทกันแค่รู้จักเฉยๆ
ตอนนั้นเราจะไม่ได้อะคะว่าอะไรยังไงบ้างแต่เราก็โดนต้อนมากๆเลยเผลอบอกเรื่องกินข้าวกับพวกมันไป
หลังจากนั้นจำได้แค่ว่าวันนั้นเหมือนเราอยู่กัน2คนเลยคะหลังจากจบงาน พวกเพื่อนๆเริ่มตีตัวออกห่าง บางครั้งก็ใช้ให้เราไปซื้อนู้นนี้แบบที่ 3ปีที่เป็นเพื่อนกันมาพวกมันไม่เคยทำ ตอนนั้นเราร้องไห้คะ ไปเล่าให้บีฟัง จนตอนนั้นเราแยกออกมาอยู่กัน2คน พวกมันก็จิกตลอด เพื่อนเกย์เราที่ทำอะไรโผงผางตลอดก็ด่าเราข้ามห้องว่า 'นี้ละนะมีเพื่อนเห็นแก่ตัวรู้ว่าเพื่อนชอบยังทำตัวแบบนี้อีก' เราจำคำพูดมันได้แม่นเลยคะ มันเป็นคนเพื่อนเยอะเลยไปบอกคนอื่น เราก็โดนคนอื่นมองไม่ดีมาตลอดตอนนั้นอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดเลยคะแต่บีก็ไม่เคยทิ้งเราไปไหนเลยจริงๆมันก็บอกว่าทนอย่าไปสนใจอะไรแบบนี้ จนเรื่องไปถึงพี่เอฟเขาก็มาถามเราว่ามีอะไรรึเปล่าเพราะบีมันทนไม่ไหวเลยไปปรึกษาพี่เขาเรื่องนี้
แล้วตอนนั้นพี่เอฟเขาก็นัดพี่เจมาหลังเลิกเรียน มาคุยกันคะทั้งๆที่เราก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแต่ก็อย่างว่าละคะพี่เอฟเขาเห็นเราเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ตอนนั้นที่เราเจอพี่เจก็ทั้งตื่นเต้นทั้งเศร้าๆบอกไม่ถูก เหมือนจะโทษเขาในใจด้วยว่าถ้าไม่มีเขาพวกเพื่อนเราก็คงไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้ตอนนี้รู้สึกผิดมากที่คิดแบบนั้น
พี่เจเขาก็กังวลเรื่องเราพอสมควร
พี่เจ:อย่าคิดมากนะ พี่ไม่อยากให้น้องมาเดือดร้อนเรื่องพี่ //ตอนนั้นหน้าพี่เขาเครียดมากคะเราจำได้แค่บางส่วนว่าน่าจะพูดแบบนี้เพราะพี่เขาพูดน้อยมากส่วนใหญ่จะมีแค่เรากับพี่เอฟที่คุยกัน
เราก็พยายามบอกว่าไม่เป็นไรมันไม่ใช่ความผิดพี่เขาหรอก คือต้องบอกว่าจากเหตุการณ์นี้เราทั้งโดนจิก แล้วมีรุ่นพี่เรียกไปคุยเรื่องพี่เขาหลายครั้งแต่ก็มาจากกลุ่มเดิมคือกลุ่มที่แรงๆอะคะแล้วเป็นกลุ่มที่เพื่อนเกย์เรารู้จัก
ผ่านวันนั้นมาก็เป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ อีกอาร์ทิตย์เราก็จะสอบปลายภาคกันแล้ว ตอนวันอาทิตย์เราอยู่บ้านแบบ ไม่มีอะไรทำเลยคะจากคนเพื่อนเยอะตอนนี้เหลือแค่คนเดียวก็เหงาๆอยู่เหมือนกันเพราะปกติพวกมันจะชวนออกไปเที่ยวสยามกันตลอด ตอนนั้นน้ำตาปริ่มๆเลยมั้งคะ เป็นช่วงที่เจ็บที่สุดในชีวิตเรื่องเพื่อน แล้วพอเราเปิดโทรศัพท์มาตอนบ่ายๆ ก็เห็นมิสคอลบีหลายสายเลยคะจำไม่ได้ว่ากี่สายแล้วมันก็ส่งไลน์มาบอกว่าให้เปิดเฟส มันส่งลิงค์เฟสพี่เจเขามาให้ (ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะพี่เขาเลิกเล่นไปแล้ว) บนหน้าเฟสเขามีที่เขาอัปเดตสถานะไว้ จำไม่ได้ว่าเขียนว่าไรบ้างมันยาวมากเราจำได้คร่าวๆว่า
'ฝากถึงคนกลุ่มหนึ่งนะ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรแต่ผมไม่อยากให้รุ่นน้องคนหนึ่งมาเดือดร้อนเพราะผม ในสิ่งที่ทั้งผมและน้องเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ผมจะสนิทกับใครจะคบกับใครมันเป็นเรื่องของผม ชีวิตผมพวกคุณไม่มีสิท'
จำได้ประมาณนี้ละคะ ซึ่งตอนนั้นเราเห็นเราก็ตกใจมีคนคอมเม้นถามเพียบเลยว่ามีอะไร เกิดอะไรขึ้นหรอ ทำนองเนี้ย
เราไม่เคยมีเฟสพี่เขาเลยตอนนั้นเลยเห็นเฟสพี่เขาเป็นครั้งแรก เลยรู้ว่าเฟสไหนแล้วก็ไปส่องอยู่บ่อยๆเพื่อนพี่เขาเต็มเราเลยแอดไม่ได้ตอนนั้นเราก็ถามบีนะว่าได้มาได้ไงมันบอกว่ามีเพื่อนต่างห้องส่งมาให้ดูอีกที ตอนนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เราซึ่งมากและทำให้รู้ว่าเขาปกป้องเรา
เลยรู้สึกดีมากคะ มีอีกนะคะ แต่คงยาวเกินไปที่จะเล่า
ขอพักสายตาก่อนละกันนะคะ เดี่ยวมาเล่าใหม่
ต่อคะ ตอนแรกไม่รู้ว่าควรจะพิมพ์ที่นี้ต่อหรือพิมพ์ช่องแสดงความเห็นดี งั้นพิมพ์ตรงนี้ก่อนละกันนะค่ะ
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูจะดีขึ้นแต่ก็เพียงนิดเดียวละคะเรายังโดนจิกอยู่บ้างพวกเพื่อนๆเก่าในห้องก็จิกบ้าง อยู่ดีแต่ก็ดูไม่เลวร้ายอะไรเหมือนช่วงแรกๆไม่มีการเรียกไปคุยอะไรแบบนี้
จนมาถึงช่วงสอบปลายภาควันแรกช่วงพักกลางวันเราออกมาจากโรงอาหารกับบี เราเจอกลุ่มพี่เอฟอยู่ตรงหน้าร้านขนมกันพี่เจก็อยู่คะตอนนั้น เราก็จะเข้าไปซื้อน้ำอยู่แล้วเลยไปทักพี่เอฟ
เรา:พี่เอฟ ขวางทางวะ
พี่เอฟ:ก็เดินไปเด้ ที่ตั้งเยอะตั้งแยะ
เราเหลือบมองพี่เจคะในมือเขาถือขนมอยู่เขาก็มองเรากับพี่เอฟตีกันแล้วก็แอบขำ แล้วพี่เอฟก็เริ่มพูดถึงเพื่อนเรากับคนอื่นว่าได้มาระรานเรารึเปล่า
เรา:ไม่เท่าไหร่แล้วละเดี๋ยวม.4ก็แยกกันแล้ว
พี่เอฟ:ถ้าไม่มีใครคบก็มาอยู่กับพวกพี่ก็ได้เนอะเจ
อยู่ๆพี่แกก็โบ้ยไปทางพี่เจ พี่เจก็พยักหน้า
พี่เจ:อื้มๆ มาสิ
แล้วก็เออ ออตาม เราคิดว่าจากตอนนั้นเขาจะตีตัวออกห่างจากเราเพราะเรื่องพวกนั้นซะอีกแต่ไม่ใช่เลยคะ เขากลับทำตัวสนิทกับเรามากขึ้นเพราะพี่เอฟด้วย ที่จริงพี่เอฟแนะนำให้เราสนิทกับเพื่อนเขาทั้งกลุ่มเลยตอนนั้น(แค่กลุ่มที่ยืนด้วยกัน ณ ตอนนั้นนะ) กลุ่มพี่เอฟที่ยืนอยู่ตอนนั้นมีห้าคนเขาก็แนะนำให้รู้จักมีสองคนที่เรารู้จักอยู่แล้วก็เข้ากันง่ายหน่อยบีก็เลยพลอยรู้จักกันไปด้วยหลังจากนั้นเราก็ไปนั้งคุยกัน ที่ตึกเพราะอยู่ในช่วงสอบโต๊ะที่เหลือก็โดนเอาออกมาวางไว้เลยไปหยิบกันมานั้งเล่นได้จนถึงสอบคาบต่อไปเลย
ตอนแรกเรากับบีไม่อยากไปเลยคะ เพราะพึ่งมีเรื่องนั้นไปแต่พี่เอฟก็บอกตลอดว่าไม่เป็นไรหรอกไปเถอะ เราเลยต้องไปกันวันนั้นได้รู้จักกับทุกคนแต่มีคนเดียวที่เราไม่ค่อยกล้าคุยด้วยคือพี่เจ คือเราพึ่งอยู่ไกล้คนหล่อๆแบบนี้เป็นครั้งแรกงะ เลยทำตัวไม่ถูกแล้วก็ไม่ค่อยกล้าคุยด้วย เราอยู่ตรงข้ามพี่เขาคะคือนั้งล้อมวงกันแบบสะเปะสะปะขนมเพียบ แล้วก็คุยกันไปเรื่อย
พี่เจเขาคงเห็นเราไม่แตะขนมเลยพี่แกเลย โยนซองขนมเลย์ที่แกะแล้วมาให้โยนแบบสไลด์มาด้วย ดีนะที่ขนมไม่หกออกมา - -*
พี่เจ:กินเยอะๆสิ ตัวน้องยิ่งผอมแห้งแรงน้อยอยู่
เรา:เวอร์ละ//ทำหน้ามุ้ยแต่เขินมากกกก คืออะไร? จึงจกเลย์กินแก้เขิน
พี่เจ:น้องจะต่อม.4ที่นี้ปะ หรือไปต่อที่อื่น
เรา:ที่นี้ละคะ จะให้ไปสอบใหม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะติดรึเปล่าที่นี้ไกล้บ้านอยู่แล้วด้วย
พี่เจ:อ้อ แล้วเลือกสายอะไรไว้อะ
เรา:ศิลป์คำนวณคะ เนอะบี
บี:อ่า
จะบอกว่าเรากับบีเข้าตามกันก็ไม่เชิงนะค่ะ ตอนแรกเรายอมรับว่าแม่ให้เข้าวิทย์คณิต แต่บีมันอยากเข้าศิลป์คำนวณอยู่แล้ว เราเหมือนเข้าตามมันมากกว่าเพราะเราคิดว่าวิทย์คณิตมันยากเกินไปสำหรับเรา แต่ตอนที่พี่เจเขาถามเราก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองไปเองคะว่าที่พี่เขาถามเขาอยากให้เราต่อที่นี้รึเปล่า <<มั่นมากค่ะ
จากนั้นเรากับพี่เขาก็คุยกันบ้างเราไม่กล้าคุยบ้างพี่เขาชอบล้อเราว่าหน้าเหมือนแพะแล้วก็แบะๆอยู่นั้นละ เราก็ชอบพูดกลับแบบไม่สบตาว่า ก็น่ารักใช่มั้ยละ ตอนนั้นเราคงมั่นมาก(หมั่นไส้ตัวเองตะหงิดๆ)
สอบวันที่สอง(วันสุดท้าย)ถึงจะแค่เดินสวนกันแต่เขาก็ล้อเราด้วยเสียง แบะ แบะ ตอนแรกๆก็เขินคะเลยไม่ตอบโต้อะไรนานๆเข้าเราก็ชอบแลบลิ้นใส่ เราเลยรู้จักกันระดับหนึ่งเลยคะ แต่ก็นะการทำแบบนี้คนที่เห็นก็คงจะหมั่นไส้เราไม่น้อยประมาณว่าไม่สวยแล้วยังไม่เจียมบอดี้อีก TT ที่จริงเราโดนว่าแบบนี้แบบชัดๆเต็มสองหูเลยคะ พี่เขาชื่อ กวางคะ (ไม่ใช่ชื่อจริงๆนะคะ) เธอตัวอ้วนๆคะดำๆขาสั้นๆ พี่เขาเป็นคนแรงๆไม่แคร์อะไร เพื่อนผู้ชายเยอะมาก พี่เจเป็นหนึ่งในเพื่อนพี่เขานี้ละคะอยู่ห้องเดียวกัน ตอนนั้นเราเดินผ่านพี่เขาและเขาก็ว่าเราแบบที่เราบอกไปตัวเรานี้ชาวาบเลย รู้จุดยืนของตัวเองเลยทีเดียว 55
ช่วงปิดเทอมขึ้นม.4
เป็นช่วงที่ได้สัมผัสคำว่าเหงาจริงๆคะ ถึงจะได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนแถวบ้าน แล้วก็บีบ้าง หรือไปกับครอบครัวพี่เอฟหรือเพื่อนพี่เอฟบ้าง(ไม่มีพี่เจนะคะ) แต่ก็ยังรู้สึกคิดถึงเพื่อนอีกห้าคนที่ตอนนั้นก็ยังไม่คืนดีกันคะเพราะต่างคนต่างแยกย้ายกันไปแล้วด้วย เฟสบุ๊คทั้งกลุ่มก็ลบเราออกกันหมด มีแค่บางคนที่ไม่ได้ลบแต่เราก็เป็นฝ่ายลบเองเพราะทนคำจิกบนเฟสแล้วมันโผล่หน้าฟิตข่าวเราไม่ไหว
แล้วก็ช่วงปิดเทมเป็นอะไรที่เราเริ่มรู้สึกว่าพี่เขาห่างไกลจากเรามากจริงๆ ตอนที่เราเริ่มถามเรื่องเขาจากพี่เอฟ ตอนที่พวกเราไปเที่ยวกันโดยมีพี่เอฟกับเพื่อนพี่เอฟนั้นละคะว่าทำไมพี่เจไม่มาด้วย ตอนแรกเขาก็แซวเราว่าชอบพี่เขาหรอต่อหน้าเพื่อนๆเขา ใครจะกล้าพูดละคะ พี่เอฟก็ยิ่งปากไม่ดีด้วย เราเลยบอกว่าไม่ได้ชอบคะ ตอนนั้นพี่เอฟก็บอกว่า
พี่เอฟ:ดีแล้ว อย่าไปชอบมันเลย
เราก็เอะใจคะทำไมพี่เขาพูดแบบนั้นเพราะพี่เอฟไม่ใช่คนที่จะชอบพูดว่าอย่าชอบเลยเขามักจะพูดแซวเรามากกว่าตอนนั้นเราไม่ได้ถามคะกลัวถามมากๆแล้วความแตกเพื่อนพี่เขาอยู่กันเยอะแล้วยังเที่ยวกันอยู่ด้วยเลยเลือกที่จะเก็บไว้ถามที่หลัง จากนั้นมาตอนกลับบ้านเรากลับทางเดียวกันเลยถือโอกาสถามตอนนั้งแท็กซี่กลับจากตลาดรถไฟ
เรา:พี่เจเขามีอะไรหรอ
พี่เอฟ:มีอะไรละ
เรา:ก็พี่บอกว่าไม่ชอบอะดีแล้ว อะไรนั้นอะ
พี่เอฟ:ก็เปล่าหรอก ถ้าแกชอบมันก็ไม่ว่าอะไรเผื่อใจไว้เยอะๆหนอ่ย
พอพูดแบบนี้เราก็รู้ละคะว่าคนอย่างเราไม่ควรชอบเขาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำเพราะรุ้ดีว่าพี่เขาคงไม่ชอบเราเหมือนที่เราชอบอปป้า หรือ รุ่นพี่หลายๆคน ที่ได้แต่เป็นหมามองเครื่องบิน
แต่เราก็อดถามพี่แกอีกครั้งไม่ได้
สรุปเราก็ได้ความมาคร่าวๆว่า
พี่เขายังไม่มีแฟน ประโยคนี้เราแทบไม่เชื่ออย่างเขาเนี้ยนะไม่มีแฟนแต่พี่เอฟถึงขนาดสาบาน2นิ้ว -0- เฮ้ออ เอาเป็นว่าเราเชื่อก็ได้อะคะ บ้านจริงๆพี่เจอยู่ที่อเมริกา พ่อแม่เขาอยู่ที่นั้นแต่เพราะแม่เขาพามาอยู่กับตายายก็เลยเกิดติดใจไม่อยากกลับไปที่อเมริกาได้เรียนที่โรงเรียนเอกชนที่ไทยตอนม.1-3 แต่ก็ได้กลับไปเรียนอยู่ที่อเมริกาตอนม.4 แล้วโดนตำรวจที่นั้นจับเรื่องทะเลาะวิวาทหลายครั้งพ่อพี่เขาเลยส่งกลับมาให้อยู่กับยายที่่ไทยเพื่อดัดนิสัยแล้วก็ดร็อปเรียนไปปีหนึ่ง แล้วพี่เอฟก็บอกว่าตอนนี้พี่เขาดีขึ้นมากแต่ก่อนเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน
แต่แค่เรื่องนี้ยังไม่อึ่งเท่ากับที่พี่เขาถ่ายแฟชั่นลงพวกเว็บบล็อคอะไรพวกนี้ที่อังกฤษด้วยเป็นเว็บของเพื่อนเขาทำนองนี้
เรารู้แล้วคำว่า หมามองเครื่องบินมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ตอนนั้นเราเจื่อนเลยคะแบบยังไงก็ไม่มีทางเป็นจริงได้ คือแค่ได้คุยกับเขาได้ไกล้ชิดกับเขาก็สุดยอดมากแล้วคะ
จากนั้นเราก็ลองไปส่องเฟสพี่เขาดูเรื่อยๆคะ มีครั้งหนึ่งเหมือนเราคิดถึงเขามากเลยลองส่งข้อความไปดูคะ พิมพ์แล้วพิมพ์อีกลบไปไม่รู้กี่ครั้ง เครียดมากเลยคะจะกด enter ทีหนึ่งเหงื่อออกนิ้วมือกันเลยทีเดียว แล้วเราก็ได้ส่งคำๆนี้ไปหาเขา
เรา:สวัสดีคะ พี่เจเป็นยังไงบ้างคะ
แน่นอนคะเขาไม่ได้ตอบทันทีดึกมากกกก ของวันนั้นจำไม่ได้ว่ากี่โมงแต่ดึกอยู่คะเขาถึงตอบมาตอนนั้นเราก็รอจนแทบหลับอะคะเปิดโน็ตบุ๊คค้างไว้พอมีเสียงตะดุ้งนี้วิ่งเข้ามาดูทุกครั้งจนถึงเขาก็ตอบมาเป็นภาษาอังกฤษคะ เป็นแบบ
พี่เจ:sa by dee kub nong ra kub
ตอนนั้นถึงจะเป็นภาษาแบบน้นแต่เราก็ดีใจคะกรี๊ดแทบลั่นบ้านที่เขาตอบ เข้าใจความรู้สึกซีตอนที่พี่เขาไลน์ตอบกลับมาเลย ตอนนั้นเราก็คุยกันพี่เขาก็ตอบเร็วขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทันที เราจำไม่ได้ แต่รวมๆคือเราถามเขาว่าพิมพ์เป็นภาษาไทยไม่ได้หรอ เขาก็บอกว่าที่นี้แป้นพิมพ์ไม่มีภาษาไทย ถ้าจะตอบเป็นภาษาอังกฤษกลัวเราจะไม่รู้เรื่องทำนองนี้อะคะ นอกนั้นก็สัพเพเหระได้อยู่3-4ข้อความมั้งค่ะ เราก็ส่งไปว่าไม่กวนดีกว่า เขาก็ส่งกลับมา
พี่เจ: :( yea jung kub pim mai sa duak tao rai
เรา:ไม่เป็นไรคะ ฝันดีนะค่ะ
แค่นั้นละคะ จำไม่ได้ว่าเขาได้ตอบกลับมารึเปล่า
ต่อช่องความเห็นนะคะ
44 ความคิดเห็น
น่ารักจังคะ จะรอนะคะ
แปะค่ะ
น่ารักดีค่ะ ^^ ติดอย่างเดียว อย่างเดียวจริงๆ น้องใช้คะ ค่ะผิด T^T พี่นี่อารมณ์สะดุดกึกเลยค่ะ ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้จะโอเคมาก แต่ไม่เป็นไร ยังไงพี่ก็อยากอ่านต่ออยู่ดี โอ๊ยยย อิจฉามากเลยขุ่นน้องงงง
หลังจากนั้นพอเราเปิดเทอมวันแรกพี่เขาก็ยังไม่มาโรงเรียนคะ จน2-3วันเราก็ไม่เห็นพี่เขาเลย อ้อเรากับบีได้อยู่ห้องเดียวกันเพราะลอกข้อสอบตอนคัดห้องกันคะ 5555 เราแผนสูง ก็เลยได้อยู่ห้องคิงทั้งคู่ เราอาศัยบารมีเจ้าแม่บีคะ 55
จนวันจันทร์ของอีกสัปดาห์หนึ่งของม.4 เราถึงเห็นพี่เขาเด่นๆในแถวคราวนี้พี่เขาดูเปลี่ยนไปคะทรงผมพี่เขายาวมากเหมือนไมไ่ด้ตัดเลยตลอดปิดเทอมผมก็ดูยุ่งๆ แต่ก็ทำให้เขายิ่งดูหล่อแบบเซอร์ๆมีอะไรมาหยุดความหล่อผู้ชายนนี้ได้ม้ายยยยยยย(วิบัติเพื่อเสียงคะ) แต่ก็โดนคุณครูเล็มไปตามระเบียบ อย่าหวังว่าจะรอดดด 55 เราก็หันไปขำกับบีคะ แล้วเหมือนพี่เขาเห็นเราเขาก็ยิ้มเขินๆแล้วก็ปัดผมที่โดนเล็มออกจากหัวเพื่อนๆพี่เขาก็ช่วยปัดแล้วขำกันใหญ่
จากวันนั้นก็ไม่มีอะไรคะเหมือนเดิม พี่เขาก็ยังล้อเราตอนนี้พี่เขาไม่เรียกชื่อเราแล้วคะ เรียกแพะแทน - -
เราจำไม่ได้ว่าวันไหนแต่มีครั้งหนึ่ง วันที่ 14 พฤษภาคะ วันเกิดพี่บอลลูน เพื่อนพี่เอฟ เลี้ยงหมูกะทะกับพิซซ่ากันที่บ้านพี่เอฟ พี่เอฟก็ชวนเรากับบีแล้วก็เพื่อนใหม่ไปด้วยกัน (ลืมบอกคะตอนนี้เรามีเพื่อนใหม่มาเพิ่มอีก2คนเป็นเด็กจากโรงเรียนอื่นด้วย) เราก็ไปคะแต่บีไปไม่ได้เพราะติดเรียนพิเศษพอดี แต่เพื่อนอีก2คนเราไปได้คะก็เลยได้ไปด้วยกัน ตอนไปนี้ก็มีแต่เพื่อนๆพี่เขาทั้งใหม่ทั้งเก่า มีพี่กวางด้วยคะเราก็กล้าๆกลัวๆตอนเจอเขาแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่เจมาถึงก่อนเราถ้าจะนานอยู่เขานั้งอยู่กับพวกเพื่อนผู้ชายแล้วก็มีเพื่อนผู้หญิงบ้าง พี่เอฟเขาก็ชวนเราให้ไปนั้งกับพวกพี่เขาทีอยู่อีกโต๊ะหนึ่งที่ไม่ใช่โต๊ะพี่เจ แต่ตอนที่เราเดินไปนั้งเราเห็นพี่เขาเห็นเราอยู่คะแต่เขาก็พูดกับเพื่อนอยู่ด้วยเลยไม่ได้ทักอะไรกัน
เรามานั้งกับเพื่อนอีก2คนที่อีกโต๊ะหนึ่งข้างในบ้านแล้วก็มีพวกพี่ม.5 2-3 คน เป็นผู้ชาย1คนผู้หญิง2คนนั้งอยู่เยื่องๆกัน เราก็ไม่รู้จะคุยอะไรอะคะก็เลยคุยกันเอง เราก็พูดกันแค่ว่า คิดผิดมั้ยเนี้ยที่มาเนี้ย ดูเราจะเป็นม.4กลุ่มเดียวที่มานะ เพราะนอกนั้นก็ม.5-6 ทั้งงั้นเลยคะ
นานๆเข้างานเริ่มไม่สนุกคะเพราะเหมือนมีเราอยู่แค่3คนในงาน พี่เอฟก็ไม่ค่อยมาคุยเท่าไหร่เราก็รู้จักสนิทกับพี่เอฟแค่คนเดียว พี่เจก็...จะบอกว่าน้อยใจก็ได้เลยตอนนั้น เขาแทบไม่สนใจเราเลย เพราะอยู่กับเพื่อนตลอด แต่พี่เอฟเขาก็มีมาคุยเอาอาหารมาให้บ้างถึงจะไม่ได้มาคุยตลอดก็เถอะ ก็อย่างว่าละคะเราจะเอาสิทไหนไปน้อยใจเขาละ ตอนนั้นเพื่อนเราก็ขอกลับก่อนก็อย่างที่บอกว่าไม่สนุกเลย เราก็จะกลับคะแต่เราไปบอกพี่เอฟก่อนเขาก็บอกว่าเดี๋ยวไปส่งเพื่อนเราอีก2คนที่หน้าปากซอย แต่เขาบอกว่ายังไม่ให้เรากลับดึกๆกว่านี้หน่อยมีเกมให้เล่น แต่อารมณ์นั้นขอบอกเลยคะว่า นอยด์สุดๆไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งงั้นแต่ก็ต้องอยู่เพราะพี่เอฟขอร้องให้อยู่ เราก็กลับไปนั้งที่โซฟาตัวเดิมคนเดียวคะเราไม่มองพี่เจเลยถึงจะเห็นว่าเขานั้งอยู่ตรงชิงช้าคนเดียวถึงจะไม่มีสิทแต่ก็อดไม่ได้จริงๆคะ
ตอนนั้นเราก็รอคะคนเริ่มทยอยกันกลับหมดแล้วเหลือแค่ไม่กี่คน เพลียมากกกก เราหลับไปหลายรอบแล้วหลับๆตื่นๆบนโซฟานั้นละ พี่เอฟกลับมาจากส่งสองคนนั้นเขาก็สกิดเราให้ขึ้นไปนอนบนห้องเขาแต่เราขี้เกียจเดินคะเพลียมากเลยนอนที่โซฟาแบบแค่ก้มหน้าลงกับที่วางแขนของอีกฝั่งอะคะแต่พี่เอฟก็ปลุกให้ขึ้นไปนอนที่ห้องแม่เขา (พ่อแม่พี่เอฟไปต่างจังหวัด ถึงจะแอบจัดงานได้)
พี่เอฟ:ไป ไปนอนข้างบน นอนตรงนี้เดี๋ยว-พวกเมาๆก็ลักหลับแกหรอก
เรา:งั้นก็ปล่อยเอไปนอนเด้
ตอนนั้นทั้งหงุดหงิด นอยด์ ง่วงตีกันไปหมดเลยคะ 55
พี่เอฟ:ไม่ ขึ้นไปนอนดิ เอ้อ ฟังรู้เรื่องมั้ยเนี้ย
เราก็ยอมไปแบบไร้วิญญานคะ ขึ้นบันไดไปแบบตึงตังสุดๆแล้วพอเปิดประตูห้องแม่พี่เอฟเจอที่นอนก็ล้มลงนอนทันทีเลยคะ ไม่จัดที่ทางด้วยนอนไปทั้งอย่างงั้นเลย ไฟเปิดรึยังเราก็ไม่รู้
ตื่นมากอีกทีด้วยเสียงเอะอะมากเราจำได้เลย
...:เฮ้ยยยยย -สั_เล่นเ-้_อะไรเนี้ย
แล้วก็..
ปัง!!!
เราสะดุ้งขึ้นตรง ปัง! นี้ละคะ ตอนนั้นตกใจมากที่สุดแล้วพอเปิดตาแอบตกใจนึกว่าตัวเองตาบอดมันมืดมากกกก คือเรารู้ว่ามีคนเข้ามาในห้องคะเพราะมีเสียงบ่นงึมงัมตลอดเวลาว่า เล่นเชี้_อะไรกันวะเนี้ย แล้วก็ทุบประตูรัวๆเลยคะ เสียงเราว่าคุ้นมาก แต่ก็คิดว่าไม่น่าใช่ แต่เราก็ไม่กล้าพูดอะไรคะ จนเขาบ่นอีกครั้งว่า ไฟอยู่ไหนวะ เราก็เลยลองพูดไปดูคะ
เรา:ใครอะคะ
...:มีคนอยู่ในนี้ด้วยหรอครับ
เรา:คะ แล้วนั้นใครคะ
คือในใจเราว่าใช่อะแต่หลอกตัวเองอยู่
...:เจครับ นั้นใครอะ น้องแพะปะ
นั้นแทบอยากกรี๊ดเสียงดังคือเขาจำเสียงเราได้ด้วย คือเข้าใจมั้ยคะท่ามกลางคนที่ล้อมรอบเขามีตั้งมากมายหลายเสียงแต่เขาจำเสียงคุณได้อะ แม่จ๋าาาา >< เรานี้แอบยิ้มเลย เราเลยบอกว่า ตรงข้างๆประตูน่าจะมีสวิสอะคะลองคลำๆดู พี่เขาก็คลำๆไปแล้วก็เจอเลยเปิดไฟได้ตอนนั้น อย่างกับเจอเจ้าชายมาเอง พี่เขาก็ยิ้มแล้วก็เกาหัวแก้เขิน
พี่เจ:นึกว่าไม่มีใครอยู่นะเนี้ย
เราก็แค่ยิ้มคะคือพูดไม่ออกจากที่น้อยใจอยู่กลายเป็นลืมไปเลยว่าเคยงอนเขา เราก็ถามเขาว่าเล่นอะไรกันทำไมเข้ามาได้ พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่าอยู่ๆพี่ๆเขาก็แกล้งอุ้มเขาเข้ามาขังในห้องมืดเพราะพี่เขาแค่บอกว่าพี่เขาไม่กลัวผี ตอนเล่นเกมผีถ้วยแก้วกันอยู่ข้างล่าง เราก็คิดแล้วว่าเกมนี้นี่เองที่พี่เอฟพูดถึง แต่พี่แกคงลืมไปว่าเอาเรามานอนที่ห้องนี้เอง
ผ่านไปนานมากๆในความรู้สึกเรา
ตอนอยู่กัน2คนก็ต่างคนต่างเขินคะแหมๆๆ ห้องนอนนะค่ะ แล้วพี่เขาก็พยายามตะโกนให้เปิดประตูคะหลายครั้ง เขาบอกว่ากลัวเราจะดูไม่ดีถ้าเกิดคนอื่นมาเห็น พอตะโกนไปเสียงดังเข้าก็มีพวกพี่เอฟมาเปิดประตูคะ เขามองเรา2คนแทนที่จะตกใจกลับขำ แล้วก็บอกว่าเป็นไงเข้าหอกันครั้งแรก แต่ทั้งเราและพี่เจคงไม่สนุกด้วยอะคะ พี่เจเขาก็ว่าพี่เอฟว่าเล่นอะไรไม่ให้เกียรติเราเลย เราก็ยิ่งชอบที่พี่เขาเป็นสุภาพบุรุษแทนที่จะทำตัวเฉยๆเพราะที่บ้านเขาไม่ถือเรื่องนี้ตอนนั้นเราโกรธพี่เอฟคะ แต่พี่เขาก็ส่งไลน์มาง้อบอกว่าตอนนั้นอะตั้งใจ ตั้งใจแกล้งพี่เจด้วยแล้วก็เขาอยากให้พี่เจอยู่กับเราสองคนเพราะพี่เขารู้ว่าเราชอบพี่เจเขา เราก็บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องรึเปล่ามีวิธีตั้งเยอะแยะ บลาๆๆ เราบ่นยาวเลย สรุปว่าสิ่งที่พี่เอฟทำมันทำให้ทุกอย่างยากขึ้นไปอีกคะ
จากตอนนั้นมาเรากับพี่เจก็มองหน้ากันไม่ค่อยติดเลยคะจากที่ไม่สนิทกันเท่าไหร่แต่ก็คุยกันได้ระดับหนึ่งกลายเป็นว่ายิ่งห่าง เอาเป็นว่าย่ำแย่กว่าเดิม จากนั้นก็มีเรื่องตามมาที่ทำให้เปลี่ยนทุกอย่างไปหมดเลยคะ
เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ ไม่รู้ว่ถ้าเล่าในนี้จะหมดรึเปล่า แต่จะพยายามเล่าตอนที่สำคัญจริงๆคะ
รอ รอ รอ
อยากรู้ว่ารักกันได้ไง
เห็นด้วยกับคห.บนคะ อยากรู้ว่ารักกันได้ไง
ที่โรงเรียนเราก็มีนะรุ่นพี่ลูกครึ่งอังกฤษแต่เราก็ได้แค่ดูงะไม่โชคดีเหมือนจขกท.เลย
สู้ๆนะค่ะ ลองเข้าไปคุยเท่าที่จะทำได้ดูคนเรานะคะถ้าได้คุยกันบ่อยๆก็สามารถหลงรักกันได้นะ
มาต่อไวๆ ฟินมากๆ
มาแล้วค้าาา พึ่งกลับจากการไปเที่ยวกับคุณเจมา อิอิ
(นางยังไม่รู้เรื่องนี้เลย อย่าให้นางรู้เลยคะคงเขินจนม้วนแน่ 555)
ก็จะมาเล่าต่อนะค่ะ
ที่จริงจากเหตุการณ์ในห้องนั้นไม่ได้ทำให้เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ แต่ที่บอกว่าทำให้ห่างคือตั้งแต่แรกพอเจอกันเหมือนพี่เขาพยายามไม่มองเราคะ แล้วก็พยายามเลี่ยงการพูดคุย น้องแพะเราก็ไม่ได้ยินว่าเขาจะล้อเราเหมือนปกติ ตอนนั้นเราหน้าเสียพอสมควร ประมาณว่าหน้าชาเลยอะคะ เพราะพี่เขาเลี่ยงจริงๆ แล้วยิ่งตอนนั้นเราก็มีเพื่อนใหม่แล้วด้วยการได้ไปคุยไปเล่นกันเหมือนเดิมเลยยากกว่าเดิมเพราะเพื่อนเราอีกสองคนเขาก็คงไม่ชินเราก็ไม่กล้าไปรบกวนพวกพี่เขาบ่อยๆคะกลัวจะโดนหมั่นไส้เปล่าๆเพราะตอนนี้ก็มีเพื่อนแล้ว
ตอนนั้นเลยเคืองพี่เอฟมากคะ แต่พี่เอฟเขาก็บอกว่าให้เราเข้าไปคุยกับพี่เจมากๆหน่อย มาอยู่อย่างนี้เมื่อไหร่เขาจะมองเราละ อื้อออหือออ อยากจะตอกกลับไปเหลือเกินว่า เพราะใครละ จากตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ตอนนี้เนี้ย ความหวังได้หายไปเพียงแค่วันเดียวแบบ วับไปเลยอะ แล้วหนังหน้าอย่างหนูเนี้ยนะเขาจะมาแล เขานายแบบบล็อควัยรุ่นของอเมริกาเชียวนะคะ พ่อคุณ -0- ความหวังอยู่ไหนคะ ( - -) (- - )
แต่เพราะแรงยุของบีคะที่ ฟังเราบ่นมากๆเข้าจนรำคาญ เราบ่นกับมันคะ
เรา:ทำไงดีแก พี่เขาแทบไม่มองเลยอะ <<เราบ่นเป็นรอบที่ล้านแล้วคะ
บี:ก็เดินไปหาแบบแมนๆเลยเด้ ว่าแกไปทำอะไรให้เขาไม่สบายใจรึเปล่า <<หน้านางคือเซ็งมากถึงมากที่สุด
เราตอนนั้นคือแบบ พูดอะง่ายยยยยยยยยแสนง่าย แล้วคือ ตอนทำละค่ะ? ง่ายจริงรึเปล่า เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน อยู่ๆคุณจะเดินไปกระชากพี่ที่คุณชอบออกมาจากกลุ่มเพื่อนแล้วแบบ 'พี่!หนูทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจปะ บอกหนูหน่อยดิ' แบบนี้อ้อ โอ้โห จากตอนนั้นจนถึงตนนี้เรานั้งมองแฟนเราเรายังคิดไม่ออกเลยว่าใครจะไปกล้าทำแบบนั้น คนๆนั้นต้องสุดยอดแห่งความมั่นอะแต่ไม่ใช่เราไง
จนผ่านไปนานๆเข้าทั้งเราและเพื่อนก็ไม่ไหวคะ กลายเป็นว่าไปขอร้องพี่เอฟสุดหล่อให้ช่วยไปหลอกถามให้หน่อย คือพี่แกก็พูดแต่ว่า ไม่ๆๆ ให้เราไปถามเอง ให้เราไปถามเอง อยู่นั้นละพอเราตื้อเขาก็อุดหูแล้วเดินหนี จนทั้งเราทั้งเพื่อนก็ถอนหายใจใส่กัน เพื่อนมันคงรำคาญตอนเรามัวแต่บ่นกับพวกมัน คือ ในเฟสบุ๊คเรายังไม่กล้าส่งข้อความไปถามเลยคะ นับภาษาอะไรจะให้ไปถามตรงๆ แต่บีก็บอกคะว่าถ้าถามในเฟสบุ๊คร้อยทั้งร้อยคนเรามันก็ต้องตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว ซึ่งเราเห็นด้วยเพราะเรากับเพื่อนในกลุ่มเคยโกรธกันเราไปถามมันในเฟสมันก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่พอไปโรงเรียนเราไปทักมันมันก็ไม่ตอบ จนเพื่อนต้องช่วยกันหาทางเคลียจนดีกัน
จนแล้วจนรอดบีเลยบอกว่าถ้าเห็นพี่เขาอยู่คนเดียวหรือเพื่อนน้อยๆเมื่อไหร่ให้เดินไปถามเลยคะ โอ้โห เรากลัวแบบมือเย็นไปหมดอะคะ เพราะเราคาใจของเราเองตอนนั้นรู้สึกไม่ดีแบบมากๆกลัวเขาจะรำคาญ เพราะเราไม่ได้สวยเหมือนรุ่นพี่ผู้หญิงคนอื่นๆที่รู้จักพี่เขานี้ค่ะที่อยู่ๆจะเดินเข้าไปหาแล้วก็เจอย่างนู้นเจอย่างนี้ ไปๆมาๆพี่เขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียวหรือเพื่อนจะน้อยเลยคะ เพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังเขาตลอด ทำไมเขาไม่เป็นเหมือนวันแรกที่พึ่งเข้าโรงเรียนก็ไม่รู้ - -* บีมันเลยบอกว่า ถอดใจเหอะ เอาหัวใจไปรักคนอื่นเถอะพี่เขากับแกมันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วปะวะ คือมันเป็นคำพูดที่บีมันพูดกับเรามาตลอดเลยตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มชอบเขาแรกๆแบบไม่ได้ชอบจนถลำมาขนาดนี้แต่ไม่รู้ทำไมวันนั้นมันถึงเจ็บมากกว่าปกติ
แต่เพราะเราเป็นคนไม่ชอบอะไรค้างๆคาๆเพราะเหมือนทรมานตัวเองแต่ฝ่ายนั้นมันไม่ได้ทรมานด้วยนี้ เกิดอารมณ์ฮึดเพราะโมโหเราเลยโทรไปหาพี่เอฟโทรทั้งๆที่พวกพี่เขาอยู่ข้างหน้าเรานี้เองข้างหน้าที่ว่าคือ แบบนี้คะ
นั้นละคะเราสลับที่กับเพื่อนที่อยู่ตรงข้ามเพราะตรงนั้นต้นไม่ต้นใหญ่มันจะบังเราอะคะเราเห็นพี่เขาแต่พี่เขาจะไม่เห็นเรา พอพี่เอฟรับเสร็จเราก็ขอสายพี่เจเลยคะ พี่เอฟก็ส่งให้แบบไม่อิดออดแต่ตอนแรกพี่เจแกทำท่าจะไม่รับ เราได้ยินเสียงพี่เขาบอกว่าไม่อาววว (เรามาถามที่หลังพี่เขาบอกว่าคิดว่าพี่เอฟให้เขาคุยกับพ่อกับแม่พี่เอฟอีกเขาเคยโดนแกล้งเลยระแวงอะคะ อิอิ) แต่แล้วเขาก็โดนพี่เอฟยัดเยียดโดยที่พี่เอฟไม่ได้บอกพี่เจว่าใครโทรมา
พี่เจ:ฮัลโหล
พอฮัลโหล เท่านั้นแหละเรานี้แบบจากฮึดๆเมื่อกี้พังคลื่นเลยคะ ไม่กล้าเอ่ยปากเลยสักแอะ
พี่เจ:ไม่เห็นมีใครพูดอะไรเลย
เราตอนนั้นคิดว่าไม่ได้การละต้องพูดอะไรออกไปบ้างเราเลยพูดไปในที่สุดคะ
เรา:พี่เจ หนูเอนะ
พี่เจ:อ้อ น้องเอ
เรา:ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยค่ะ
พี่เจ:ว่าไงครับ
ตอนนั้นเราเหลือบไปมองพี่เขาคะซึ่งเพื่อนพี่เขาก็เอาหูมาแนบบ้างแบบแอบฟังอะไรงี้ ไม่แอบแล้วแหละจะฟังเลยละเรายิ้งพูดลำบากคะ มือสั่นไปหมดใจนี้แบบ ออกมาแดนซ์เลยสิจ้ะถ้าจะเต้นแรงขนาดนี้
เรา:คือพี่โกรธอะไรหนูรึเปล่าค่ะ <<กลัวมากกกก กลัวคำตอบเป็นที่สุดคะ ณ จุดๆนี้
พี่เจ:ทำไมคิดอย่างงั้นอะครับ
เรา:ก็พี่ไม่ค่อยพูดกับหนูเหมือนเมื่อก่อนอะคะ
พี่เจ:อ้อ ไม่ใช่หรอกก็มันมีเรื่องวันนั้นใช่มั้ย พี่กลัวว่าน้องจะยังอายอยู่เลยไม่กล้าคุยกะจะไปคุยกับน้องเรื่องนี้เหมือนกันแต่เห็นว่าน้องไม่ได้เครียดมาก ก็เลยปล่อยๆไป
โอ้โห พอได้ยินคำตอบนี้ ทั้งโล่งทั้งแอบว่าเขาเลยว่า เนี้ยนะไม่คิดมาก แล้วที่ผ่านมาเราคิดน้อยไปใช่หรือไม่ 555 แล้วตอนนั้นเราเลยถือโอกาสเคลียกันเลยคะจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ก็เคลียกันจนวางโทรศัพท์ตอนนั้นเราใจชื้นขึ้นเยอะ แต่แล้วไม่ถึง5นาที พี่เอฟแกก็ลากพี่เจมาหาเราคะ จำหน้าพี่เจได้เลยแบบ เหวอมาก หน้าอยู่แบบ
พี่เจ: อยู่ไกล้แค่นี้จะโทรมาทำไม ทำไมไม่เดินไปหาพี่เรียกให้พี่มาหาก็ได้
เรา:เราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่อยู่ๆเอจะเรียกให้พี่มาหานี้คะ <<หลบตาสุดๆคุยแบบไม่มองหน้าด้วยซ้ำอะ
พี่เจเขาก็ยิ้มอะคะไปๆมาๆพี่เอฟกับพี่เจก็มานั้งโต๊ะเรา เพื่อนพี่เขาบางคนก็ย้ายตาม2คนนี้มานั้ง โต๊ะเราเลยค่อนข้างมีคนมองเยอะอะคะ ที่จริงเขามองกันหลายคนแล้วตอนที่ะพี่เอฟพาพี่เจเดินมาหาเรา แล้วก็คุยกันใหญ่เลยยิ่งเขินไงคะ
เราก็คุยกันมากขึ้นคะเราใช่โอกาสตอนนั้นคุยกับเขาให้มากเท่าที่จะทำได้เลย เราจำได้เรื่องเดัยวว่าเราถามเขาว่า
เรา:ทำไมถึงเรียกเอว่าแพะอะ
พี่เจ:ก็มองหน้าเราแล้วเราเหมือนแพะนี้ ไม่เหมือนอ้อ -ซัน(เพื่อนพี่เขา)
แล้วพี่เจก็ชี้มาที่เราแล้วถามด้วยนะ เราเลยตีเขาแทนคะ ตอนนั้นมือมันไปเองแบบระบายความเขิน สกินชิปครั้งแรกคะ กรี๊สสสสสสสสสสส >< แตแทนว่าพี่เขาจะโอ๊ย เจ็บนะ อะไรทำนองนั้น แต่เป็นเขาตีเรากลับแทนคะ คือแบบ ตอนตีมานี้ด้วยความที่มือพี่เขามันใหญ่อะคะเลยรู้สึเจ็บ เราก็หน้าบูดเลยคะ พี่เขาบอกว่าอยากมาตีพี่ก่อนนะอะไรทำนองนั้น อร๊ายยๆๆ อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ ลองมาตอนนี้หรอคะ พอตีเขาปุ๊บนี้พี่แกใช้เท้าเตะเลยคะ TT แต่ไม่ได้เตะแรงนะคะ 555
แล้วพอช่วงที่พี่เขาจะไปเรียน พี่เขาก็ขอไลน์เราไว้ค่ะ บอกได้แค่ 3 คำ ณ จุดๆนั้นว่า
OH MY GOD ! อยากจะวิ่งรอบโรงเรียนสัก10รอบ เรานี้มือสั่นรีบหยิบโทรศัพท์เลยคะ แต่ประเด็นคือ พวกเพื่อนพี่เขาแซวกันเสียงดังมากกกกก แบบ
เพื่อนพี่เขา:เอ่ยยย แลกไลน์กันด้วยเว้ยยยย กิ้วๆๆๆ
เราอยากจะมุดรูหนี แต่พี่เขาก็แค่ไล่เตะเพื่อนแล้วก็ถ่ายรูปคิวอาโค๊ดไลน์เราไปค่ะ เขาบอกว่าจะได้สนิทกันเร็วขึ้นแล้วก็วิ่งขึ้นห้องเรียนตามเพื่อนๆไปคะ ตอนนั้นเป็นอะไรที่แบบว่าแค่นี้ก็ดีมากแล้วจริงๆจะไม่ขออะไรอีกแล้ว
แต่คุณก็รู้นี้คะคนเราก็ต้องมีความอยากเป็นธรรมดา อยากได้สิ่งที่เราชอบมาเป็นตัวของตัวเองถึงยังไงพี่เขาก็ยังห่างไกลสำหรับเราอยู่ดีละคะ
ตอนนี้จขกท.ขอตัวไปนอนก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพรุ้งนี้มาต่อให้ (แล้วเราจะเล่าจบมั้ยเนี้ย) เอาเป็นว่าจะพยายามมาเล่าให้ฟังนะค่ะ อาจจะมาเล่าช้านิดช้าหน่อยตามแต่ธุระจะมาเยือนแต่ก็อย่าพึ่งทิ้งกันเนอะ ^^
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารัก
เข้าใจความรู้สึกเลยละ อยากเป็นจขกท.จัง
ไม่รู้จขกท.จะอนุญาติมั้ยเราไม่ได้ขออนุญาติเลยไม่กล้าลงรูปให้คนอื่นดูแต่เรารู้จักJackเพื่อนMattyBนะ เขาชื่อเต็มๆ Jack Cadogan คะ ลองหาในกูเกิ้ลกันดูนะละถ้าหน้าเขาคล้ายๆแจ็คคงต้องหล่อมว๊ากกกกก ชอบกระทู้นี้จัง มาต่อไวๆนะคะ
ใช่คะคนนั้นละ จขกท.ลืมลงรูปไปเลยนะเนี้ย ขอบคุณนะค่ะ
มาต่อไวๆ ด้วยค่ะ สนุกมากๆ อยากได้แฟนแบบเนี้ย เปนคนชอบฝรั่งด้วยไง
ดิ้นๆ ฟินๆ มาต่อไวๆ จขกท
อยากได้แบบนี้บ้าง ต่อไวๆ น้ะ
คบกันนานๆนะคะจะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อเลย
อร๊ายยยย อิจแรงมากตอนนี้
โฟฟฟฟฟฟ ฟินนนนน จ้า ต่อไวๆ น้ะ
จขกท อยุโรงเรียน แถวยางกะปิหรอค่ะ
เคยอยู่ค่ะ ตอนประถม ^^
ตอนจีบผ่านมากี่ปี แล้วอ่ะ
จขกท ลืมป่าวว ต่อไวๆน่ะ
อ่ะๆ มาต่อนะ
เมื่อวานขอโทษนะค่ะ เกิดแอ็กซิเดนพิมพ์ไปแล้วไปกดผิดปิดหน้าต่างเฉยเลย เมื่อคืนง่วงๆมึนๆด้วย TT ตอนนั้นเล่ายาวไปแล้วเชียว โฮฮฮฮฮฮฮฮ โอเคจะมาเล่าใหม่นะ
หลังจากที่แลกไลน์มาตอนแรกๆเราไม่กล้าส่งข้อความไป จนพี่เขาทักมาเองว่า
พี่เจ:ได้ไลน์ไปแล้วเงียบอ้อคนเนี้ย <<อร๊ากกกกก ทักมาเองค้าาา นางทักมาเอง
เรา:เปล่าสักหน่อยกำลังนึกอยู่ว่าจะทักว่าอะไรดี
แถไปค่ะ จำได้แค่ 2ประโยคแรกตอนคุยกันความจำเราดี๊ดี หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันมากขึ้นต่อหน้าไม่เท่าไหร่แต่เพราะได้คุยกันในไลน์ก็รู้อะไรหลายๆอย่างของพี่เขามากขึ้นค่ะ ถึงช่วงแรกเราจะยังไม่กล้าคุยแบบต่อหน้าได้แต่คุยกันในไลน์ก็เถอะ อยา่งแรกที่รู้ก็คือ
พี่เขาชอบการ์ตูนเรื่องวันพีชคะ แล้วเราก็แบบ เฮ้ยย คือชอบเหมือนเราเลย เราก็บ้าวันพีชคะชอบมาก เลยกลายเป็นว่าคุยกันงถูกคอ พี่เขาบอกว่า เขาไม่ใช่โอตาคุนะชอบแค่บางเรื่อง เราก็คิดในใจ จะเป็นยังไง ก็ I LOVE YOU นะ 5555 ตอนนั้นความรักมันบังตาคะ จนผ่านไปนานๆเข้า เป็นเดือนละมั้ง เราเริ่มรู้ธาตุแท้พี่แกคะ
เป็นคนที่สุดยอดดดดดดดดดด แห่งความขี้แกล้ง ขี้แกล้งมากกกกก เห็นเราถืออะไรอยู่ในมือไม่ได้เลย มาจกกินตลอด ถึงจะดีใจก็เหอะแต่พวกพี่เอฟชอบนำพาเพื่อนมากินด้วยสุดท้ายขนมนั้น ก็ว่างเปล่างะ
แล้วเราก็ได้เฟิสคิสจากพี่เขาคะ.......
เงิบอะดิ 55555555 เฟืสคิสที่ว่าคือ พี่แกมาขอกินน้ำจากเราค่ะ อยู่ๆวิ่งมาเหงื่อท่วมตัวอย่างกับไปอาบน้ำมาแล้วก็ เอขอกินน้ำหน่อยดิ แล้วก็เอาไปกินค่ะกินน้ำขวดเดียวกันทันที ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าเขาเรียกกันว่า 'จูบทางอ้อม' สุดท้ายพี่แกไปเตะบอลกับเพื่อนมา แดดร้อนๆอย่างงั้นเราก็แอบกังวลนะว่าผิวขาวออร่าของพี่แกจะได้รับความกระทบกระเทือนรึเปล่า
แต่พอเดินกลับไปที่โต๊ะ บีก็ล้อค่ะว่า
บี:นี้จูบกันแล้วหรอเนี้ยเร็ววะ
เรา:จูบบ้าอะไรค่ะคุณเพื่อ
บี:ก็คุณมึ_กินน้ำขวดเดียวกับพี่เขาอะคะ เขาเรียกจูบทางอ้อม
เรา:
ตอนนั้นเราแบบ ไม่กงไม่กินต่อแล้วค่ะเก็บเอาไว้ในห้องรักษาเอาไว้อย่างดี 555 ตอนนี้ทิ้งไปแล้วนะ ก็ได้ตัวจริงมาแล้วนี้ ^^ ตายๆๆๆ วันนี้เรามาเลี่ยนจัง 555
ช่วงนั้นเราก็ค้นพบตัวเองอย่างหนึ่งนะ ว่าเป็นอะไรที่ขี้หึงที่สุดในชีวิตเลย หึงไปหมดไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับใคร ตอนที่เขาเล่นกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง ตอนที่เขาแกล้งคนอื่นเหมือนที่แกล้งเราอะไรงี้เชื่อว่าทุกคนต้องมีโมเม้นนี้คะหึงแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาไม่ใช่ของเราทรมาณมากกกกก แต่เราก็ยังดีที่คิดว่ายังไงก็สนิทกับเขาเท่าๆกับคนอื่นอะไรงี้ เผลอๆสนิทกว่ารุ่นน้อง บางคนด้วยฉะนั้นเราวินเห็นๆ
แล้วก็มาถึงเดือนมิถุนาคะ มายเบิร์ดเดย์เย้ๆ ปีนี้อะไรก็เหมือนทุกปีคะพี่เอฟสุดที่รักมักจะร่วมมือกับเพื่อนๆเรา เพื่อเซอร์ไพร์สคือทำทุกปีจนเราจับได้ และหลังจากนั้นก็ทำเป็นไม่รู้คะ แล้วซึ่งไปกับมัน เราไม่เบื่อหรอกคะดีกว่าฉลองคนเดียว แต่ปีนี้พิเศษหน่อยคือคนที่เราชอบเป็นคนถือเค้ก ตอนนั้นเป็นช่วงคาบว่างของพี่เขาคะ แต่เราเรียนดนตรีอยู่เพื่อนของเราก็ออกไปทีละคนเรานี้จับไม่ได้เลยยยยยยย ไม่ได้เล๊ยยยยยยย
เราก็ทำเป็นเฉยๆเข้าไว้คะ คนพี่เขาลองแฮปปี้เบิร์ดเดย์กันด้วยเสียงดังๆนั้นแหละ แม่เจ้าอึ่งสุดในชีวิตคือพี่เจเป็นคนถือเค้ก ตอนนั้นทั้งมึนทั้งงง อะไรยังไงแต่เราก็อธิษฐานไปค่ะ จำได้อย่างเดียวคือขอให้สมหวัง นอกนั้นไม่บอกหรอก :p เป็นอะไรที่ฟินดีคะโมเม้นนี้ครั้งแรกในชีวิต ต้องขอขอบคุณพี่เอฟจริงๆ เซอร์ไพร์สที่สุดในชีวิตเลยวันเกิดปีนั้น เราไม่ได้ถามรายละเอียดคะ แต่ที่แน่ๆคือพี่เอฟเป็นคนบอกให้พี่เจถือเค้ก แล้วพี่เจก็มา HBD ในไลน์อีกที เขาบอกว่า
สุขสันต์วันเกิด โตขึ้นอีกปีแล้วก็เป็นเด็กดี มีความสุขมากๆนะครับ
ละลายเลยค้าาาาาา หนูจะขาดใจตาย เพราะตอนเขามาเบิร์ดเดย์ไม่ได้พูดอะไรสักแอะ โดนครูไล่ซะก่อน แต่ก็ยังดีนะคะ ^0^
ตอนช่วงเทอม1ก็จบไปคะมาช่วงเทอม 2 เป็นโมเม้นที่ถือว่าเยอะมากคะ เรารุกแบบไม่ให้เขารู้ตัวจริงๆ มีครั้งหนึ่งช่วงปิดเทอม1เขายังไม่กลับไปที่อเมริกา เราก็แอบไปดูเขาเตะบอลคะ เนียนๆว่ามาดูพี่เอฟอะไรงี้ ตอนนั้นเราสตอที่สุดเลยอะ เราก็เป็นคนบอกพี่เอฟเองว่าถ้าออกไปไหนกันโดยมีพี่เจมาด้วยก็บอกๆเราหน่อยนะอะไรงี้ วันนั้นพี่แกก็บอกเราตอนปิดเทอมค่ะ ว่ารุ่นพี่พี่เอฟเขาชวนเจกับพี่เอฟแล้วก็เพื่อนคนอื่นๆไปเตะบอลกันก่อนพี่เจกลับ เราก็รออะไรละคะ ทำเป็นกะจะไปดูพี่เอฟ ไปเจอเขาเราก็บอก อ้าว ยังไม่กลับประเทศไปอีกหรอเนี้ย 555 พี่เขาก็บอก อื้อหือ ไมใช่ต่างด้าวนะตัวเธอ เรานี้ขำจนน้ำตาจิไหล ก็เลยเป็นปิดเทอมแรกที่ได้เห็นพี่เขาก่อนกลับไปที่เมริกาค่ะ
จนมาถึงเทอม2 เอาอีกแล้วคะ คุณพี่เจพี่แกกว่าจะมาโรงเรียนก็เวลาเดิมเหมือนตั้งใจคะเว้นไป 3-4 วันตลอด เราก็ถามพี่เจในไลน์ว่ากลับดีเลย์แบบนี้ทุกปีเลยรึเปล่า เขาก็บอกว่าเป็นบางครั้งคะบางครั้งก็วันเดียวสองวัน เครื่องบินดีเลย์บ้าง พ่อแม่พี่เขาไม่จองตั๋วให้บ้าง<<เอิ่ม...-0- บางทีก็ไฟต์เต็มต้องรอเป็นวันๆเลยคะ เราก็แอบสงสารอะเนอะ แล้วก็มาถึงวันงานกีฬาสีที่เด็กบางคนรอคอย (แต่ไม่ใช่เด็กที่ขึ้นแสตนแน่ เพราะเด็กพวกนี้ต้องซ้อมกันอย่างหนักหน่วง พี่โดนมาแล้วน้องรู้ดีเลยละ) ก่อนวันงานกีฬาสี เราก็ต้องมาจัดแสตนกันคะ พวกหลีดก็มาซ้อมหลีดกันวันที่จัดแสตนเราจำได้เลยว่าเราแอบอู้แบบแอบมองพี่เขาตลอด พี่แกชอบจัดแสตนแบบมั่วๆให้พี่ผู้หญิงเขาตามเก็บเหมือนเด็กๆประท้วงว่าไม่อยากทำอะคะ บางครั้งก็ไล่แกล้งคนเขาไปทั่ว เราเป็นหนึ่งในนั้นคะ จำได้เลยดูหลีดซ้อมอยู่พี่แกเดินเอาผ้าคลุมแสตนสีขาวมาคลุมเรา แล้วผ้ามันผืนใหญ่พี่แกมาคลุมให้ทั้งผืน ก็ล้มสิคะสดุดนู้นนี้ พี่แกหัวเราะแบบสะใจมากอะเรานี้ไล่ตีเลย คนอะไรวิ่งเร็วมากอะเราขาสั้นตามไม่ทัน ถึงเราจะสูง 168 ก็เถอะ พี่แกอะอย่างกะเปรต ตอนนั้นสูงเท่าไหร่ไม่รู้เราจำไม่ได้แล้ว แต่ตอนนี้พี่แกสูง 177 กว่าๆมั้ง วัดส่วนสูงล่าสุดก็4-5เดือนที่แล้ว ช่างเรื่องส่วนสูงมันเถอะ
หลังจากวันนั้นเราโดนลูกหลงจากครูให้ไปเดินแฟนซีเพราะคนขาด นี้ละข้อเสียของการรู้จักครูกิจกรรมเยอะ เราเลยต้องไปเป็นคนเดินแฟนซี แล้วก่อนวันกีฬาสี1วัน เราก็ต้องมาค้างที่โรงเรียนอีก วันนั้นเราเผลอบอกพี่เอฟไปในไลน์ พี่แกนึกสนุกอะไรไม่รู้ชวนผองเพื่อนแก๊งสเตอร์ของพี่แกมานอนกันหมดเลย รวมได้10กว่าคนอะคะ เราคิดไว้แล้วว่าต้องวุ่นวายแน่ๆ ตอนแรกไม่คิดว่าพี่เจจะมาคะสุดท้ายพี่แกบอกว่าไม่เคยนอนที่โรงเรียนมาก่อนเลยอยากลองนอนบ้างเลยมานอนกัน ที่จริงครูเขาก็ให้แต่ผู้หญิงละคะแต่เพราะพวกพี่เขาเป็นเด็กกิจกรรมเลยต้องเอาใจหน่อย ก่อนหน้านี้ก็พึ่งไปแข่งบาสมาได้เหรียญทอง บวกกับพี่แกบอกว่าจะได้เป็นบอดิการ์ดคอยดูและพวกผู้หญิงครูเลยยอมๆไป แต่เราว่าพวกพี่แกนั้นแหละอันตรายที่สดอะ
วันนั้นทั้งวันเราก็อยู่จัดแสตนจัดป้ายกันจนดึกเลยคะ ประมาณ3ทุ่ม เรานอนกับรุ่นพี่คนอื่นๆเพื่อนในกลุ่มเรามานอนเป็นเพื่อนไม่ได้สักคนคุณบีพ่อแม่เขาก็ห่วง เพื่อนอีก2คนก็กลัวไม่กล้านอนก็ตามนั้นละคะ ได้นอนกับพวกรุ่นพี่ที่รู้จักกัน
พวกผู้หญิงได้นอนห้องนาฏศิลป์คะแอย์เย็นสบาย ส่วนพวกรุ่นพี่ผู้ชายได้นอน ห้องดนตรีห้องพัดลม แอบสะใจ ด้วยความที่อยู่ชั้นเดียวกันคะห้องนาฏศิลป์กับดนตรีไทย ห้องเราอยู่ข้างหน้าเป็นทางผ่าน ข้างในสุดเป็นห้องดนตรีไทย
ตอนเราอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้าห้องพี่เจแกก็อยู่หน้าห้องดนตรีไทยพี่แกก็ตะโกนมาแต่ไกลเลยคะ
พี่เจ:ระวังเจอผีนะคุณน้อง
เรา:ห่วงตัวเองก่อนมั้ยคุณพี่//เราก็ค้อนคะ
พี่เจ:ผมนับถือศาสนาคริสต์ครับ ผีมาหลอกผมก็ไม่ได้บุญหรอก
คือพี่แกเป็นคนที่ปากดีมากอะ แล้วคือตอนนั้นคือตัวเองกำลังเข้าไปนอนที่ห้องดนตรีไทยแล้วมาพูดหลบหลู่ตอนดึกๆ เราเห็นหน้าเพื่อนพี่เขาที่ได้ยินแบบเหวอเลยอะแล้วรีบเก็บรองเท้าเข้าห้องเราอย่างฮา สงสารพวกเพื่อนพี่เขากลัวโดนลูกหลง
เรา:เอาที่สบายใจเลยอะนะ
พี่เจ:ระวังผีนะ หญิงแพะ //พูดด้วยน้ำเสียงหลอนๆหน้าจับไปเป็นคนพากย์เสียงคนอวดผี เราก็ปิดประตูหนีพี่แกไม่อยากโดนลูกหลงเหมือนกันพี่เขาไม่กลัวแต่เรากลัวงะ แล้วก็เป็นอะไรของครูที่คุมห้องเราก็ไม่รู้ดันอยากเล่าเรื่องผีขึ้นมาซะงั้น เรานอนไม่หลับเลยจนเพลียไปเองเลยหลับลง
เราโดนปลุกกันตอนตี 5 เป๊ะพวกเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำค่ะส่วนพวกรุ่นพี่ผู้ชายโดนปลุกตอนเราทำแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วเหลือแต่งตัว เพราะพี่เขาไม่ต้องทำอะไรกันอยู่แล้ว พวกพี่แกก็เสียงดังกันแต่เช้ามืดเลยคะ เราแต่งตัวทำผมแต่งหน้าเสร็จจริงๆก็ 6 โมงครึ่งพอดีคะ จะลงไปกินข้าวกับพวกพี่ๆในสี ก็มาเจอพวกพี่เอฟที่นั้งกันอยู่แล้ว เรานั้งข้างหลังพี่เขาอีกทีเขาก็แซวกันเสียงดังจนเราอยากจะเตะปากเรียงตัวเลยคะ เรามองพี่เจเหมือนกันอยากเห็นว่าเขาพูดว่าไงแต่เขาก็มองแบบยิ้มๆอะคะแล้วปรบมือ
พี่เอฟ:เหยดดดน้องตู บ๊ะ สวยงี้ใครว่าไม่เหมาะกับ-เจวะ
แล้วมันพูดเสียงดังคะคุณพี่บ้าเนี้ย พี่เจแกนั้งอยู่ด้วยไงค่ะเราเดินหนีเลยคะยิ่งแก้ตัวก็เหมือนร้อนตัวเลยไม่รู้ว่าพี่แกทำตัวยังไงพูดอะไร ซึ่งถามเจ้าตัว ณ ปัจจุบันแล้วแล้วพี่แกก็จำไม่ได้ค่ะ มันนานๆแล้วอะเนอะ แต่เขาบอกว่าที่จำได้คือตอนนั้นเราสวยดี แต่ไม่กล้าชม อรั๊ยยยยยยยยยยยย ขาดความหวานมานานเป็นงี้ละคะ หลังจากนั้นบีก็มาหาเราที่โรงอาหารคะ มันตื่นตาตื่นใจใหญ่เลยเพราะเห็นครั้งแรกที่เราทำกิจกรรมโรงเรียนแถมแต่งหน้าใส่ชุดอย่างงี้อีก จะบอกว่าในชีวิตเราแต่งหน้าแค่ 2 ครั้งคะ ตอนเรารำตอนอนุบาล3 แล้วก็เป็นเชียร์หลัดเดอร์ตอนอนุบาล3 แล้วก็วันนั้นละคะ ไม่นับตอนนี้นะคะ แหะๆ
แล้วเรากับบีก็ออกจากโรงอาหารพร้อมกับพวกพี่เอฟคะ ต้องบอกว่าโดนลากให้ไปด้วยกันพี่เอฟเกิดเห่อเราก็เลยเดินไปที่แสตนด้วยกัน เราเดินกันไปเป็นกลุ่มระพี่เจแกก็เดินอยู่ข้างเราๆคะกับเพื่อนพี่เขาอีกคนหนึ่งซึ่งเราก็อยู่กับบีแต่บีมันให้เราอยู่ตรงกลางไงคะพี่เจแกก็อยู่กลางมีแต่คนมองคะ อายมากกกกก วันนั้นมีแต่คนเดินมาถามเราว่าคบกับพี่เขาแล้วหรอ เราก็งงเลยคะ สรุปว่าเพื่อนเรามาเล่าให้ฟังว่าเมื่อเช้าเห็นเรากับพี่เจเดินด้วยกันคนอื่นก็เลยนึกว่าคบกันรึเปล่า เราก็แค่เดินด้วยกันแล้วแบบไม่ได้ตั้งใจด้วยนะแถมเดินห่างกันขนาดนั้น อยากตอกกลับไปมากกว่าก็อยากจะคบเหมือนกันแหละ <<งงตัวเอง ณ จุดๆนั้นเหมือนแดงเดือดจะไม่มา
การเดินพาเหรดก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะ เนื้อส้นเท้าเราไปเป็นอาหารให้รองเท่าส้นสูงกัด แดงเถือกห้อเลือดไปหมด เราแต่งตัวกลับไปเป็นเสื้อสีคะ แต่ยังไม่ลยเครื่องสำอางค์ออกจะบอกว่าตั้งใจก็ได้นะยังอยากสวยอยู่นี้นา เราเดินกลับไปที่แสตนคะจะไปดูหลีดเราเลยเดินผ่านหลังแสตน พี่เขาโดนรุ่นน้องรุ่นพี่ เพื่อนรุมถ่ายรูปเต็มไปหมดเลย แอบอยากถ่ายบ้างแต่เราก็ไม่ได้แต่งชุดนั้นแล้วแุถมเปลี่ยนชุดแล้วด้วย แอบเศร้าที่ไม่ได้คิดให้เร็วกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้อะไรคะ เราก็ไปที่แสตนกับบี ดูบีแข่งวิ่งผลัดแล้วก็ไปนั้งเซ็งๆกับพี่ที่ม้านั้งเดิมแต่คนละม้านั้งที่เคยไปนั้งประจำนะคะ เพื่อนอีก2คนเราก็ไม่ค่อยอยู่กับเราหรอกคะออกไปนู้นนี้บ้าง แต่งานมันหน้าเบื่อจริงๆคะ เรากับบีก็คุยกันประมาณว่า งานน่าเบื่อทุกปีบีบอกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเราเดินแฟนซีพี่แกก็ไม่มาหรอกคะ แอบปลื้ม
แล้วนั้งกร่อยไปมาพี่เจแกก็ไลน์มาถามคะ
พี่เจ:หญิงแพะ อยู่ไหน <<ทั้งแปลกใจทั้งดีใจคะ จากกร่อยๆเหมือนโลกทั้งใบเบ่งบานหมดเลย
เรา:อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนงะ
ีพี่เจ:ที่เดิมปะ
เรา:จะมาหาอ้อ
พี่เจ:งืมๆ
ตอนแรกเราก็คิดว่าพี่เอฟจะมาด้วยคะ ที่ไหนได้พี่แกมาคนเดียวงะ แถมไอติมถ้วย อยู่ๆก็เดินมาเลยเราก็สงสันคะว่าอะไรยังไงพอพี่แกเดินมาถึงก็มานั้งเลยบีนี้ตัวตรงแด่ว เพราะตื่นมาเห็น มันนอนฟุบหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่
พี่เจ:ทำไมมานั้งกันสองคนอะ
เรา:พี่เจเหอะ ทำไมไม่อยู่กับเพื่อนอะ
พี่เจ:ขี้เกียจเดินแล้ว
เรา:ก็เลยมาคนเดียว
พี่เจ:เออ กินมะ
แล้วพี่แกก็ยื่นช้อนไอติมมา เราเขินคะ เลยส่ายหน้าพี่แกเลยกินเอง เขาคงไม่ได้สนใจอะไรหรอกคะแต่เราฟินตัวแตกไปแล้ว บีเราเห็นว่าเธอแอบยิ้ม จากนั้นก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนมีเพื่อนพี่เขาไลน์มาเรียกมั้งคะพี่เขาถึงไป บีก็เลยรีบพูดเลยคะ
บี:ตูว่าอิทธิฤทธิ์ของเครื่องสำอางค์ชัวร์เลย
เรา:ปากหรอนั้นเดี๋ยวเอาเท้าปิดเลย
บี:ก็จริงนะเว้ย
เรา:ไม่หรอกเพราะสนิทกันแล้วมากกว่า
ณ ตอนนั้นเราคิดว่า ถึงจะมีเครื่องสำอางค์หรือไม่มีแต่ถ้าคนเรามันไม่ได้คืออะไรคือไม่ได้คิดอะถูกมั้ยละคะ
หลังจากนั้นก็จบงานกีฬาสีคะ กลับมาสู่งานและการเรียนที่ชาตินี้จะจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ ที่เห็นแล้ววิงเวียนจนมาถึงปัจจุบันเลยละคะ ถึงตอนนั้นเราเจอพี่เขาน้อยลงเพราะงานเยอะมากคะ ต่างคนต่างยุ่งยิ่งพี่เขามาสายงานยุ่งของแท้เลยคือวิท-คณิต
แต่ถ้าในไลน์ก็ได้อยู่คะ เราแอบหลอกถามพี่เขาแต่จำไม่ได้ว่าก่อนจะมาหลอกถามคุยอะไรกันไป
เรา:ได้ข่าวว่าพี่ไม่มีแฟนจะเป็นไปได้ไงอะ
พี่เจ:ทำไม คนหน้าตาดีต้องมีแฟนกันหมดเลยไง
แอบหมั่นไส้ ยอมรับแบบดื้อๆเลยแบบเนี้ยเขาเรียกหน้าหมั่นไส้คะ
เรา:เปล่า แค่สงสัยอะ ในชีวิตไม่เคยมีแฟนเลยอ้อ
พี่เจ:มีนะ เสียจูบแรกไปตอนประถม เรียกแฟนปะ
เราคืออยากจะชกสักเปรี้ยง หงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
เรา:บ้านพี่ไม่รู้แต่บ้านหนูไม่ได้เรียกแฟนนะ
พี่เจ:อยากรู้อะไรนักหนาเล่า แฟนอะถ้าตอนม.3ก็มีอยู่ แต่เลิกกันไปแล้ว
เรา:คนไทยปะ
้พี่เจ:เออสิครับ <<นี้ละตัวพี่แกชอบเอาคำสุภาพกับไม่สุภาพมาอยู่ด้วยกัน ปัจจุบันก็เป็นอยู่นะ
เรา:คบกันนานมากอ้อ
พี่เจ:รู้สึกโดนถามฝ่ายเดียวนะ แล้วเราอะเคยมีปะ
เราก็เลยบอกพี่เขาไปว่าไม่เคยมีเลยคะ เราสาบานได้ ไม่เคยมีแฟนมาก่อน คงเพราะเราตัวสูงแถมดูห้าวๆเลยไม่มีใครกล้ามายุ่งเท่าไหร่ หมายถึงก่อนมาเจอพี่เขานะ เคยซอยผมและคิดอยากจะเป็นทอมด้วยละ แหะๆ
สรุปก็คือพี่แกเคยมีแฟนตอนม.3ให้ทายเราว่าเขาต้องสวยมากๆละถึงจะไม่ได้ถาม เพราะเราถามพี่เอฟเขาก็บอกว่าสวยนะพี่เจเคยเอารูปให้ดูแล้วพี่แกก็เผารูปแฟนเก่าเขาทิ้งต่อหน้าพี่เอฟเลย เพราะงั้นเลยมาสนิทกันได้ <<อันนี้คือเรื่องตอนเขารู้จักกันใหม่ๆนะ
แล้วเราก็หลอกถามเขาต่อว่าแล้วที่โรงเรียนนี้ไม่มีคนที่พี่เขาถูกใจบ้างหรอ แล้วเขาก็ตอบมาว่า 'ไม่นะ ไม่มีอะ' เป็นไงละถามเองเศร้าเองสนุกดี อู้ลั๊นล๊า จากนั้นก็คิดว่าพี่เขาคงไม่น่าจะชอบเราแล้วละทำนองนี้
จนตอนปิดเทอม2ไปแล้ว เตรียมขึ้นม.5 ช่วงนี้เราจะไม่ค่อยเปิดโทรศัพท์เลยคะพี่เขาก็บินกลับประเทศเขาไปแล้วเลยไม่ค่อยจดจ่ออยู่กับไลน์ไปจดจ่ออยู่กับเฟสแทน มีครั้งหนึ่งตอนที่เราต้องไปไหว้พระที่ต่างจังหวัดเราเลยเปิดโทรศัพท์แล้วเช็คไลน์ ต้องบอกว่าตอนนั้นเราคุยกับพี่เจในเฟสปกติเลยนะคะแต่
พี่แกก็ไลน์มาบอกแบบเป็นนัยแปลกๆว่า พี่จะจบแล้วนะ ถ้าอยากจะพูดอะไรก็รีบพูดละ
แค่นี้ก่อนนะ ถ้าเย็นๆว่างๆเดี๋ยวมาเล่าใหม่ ถ้าเล่าต่อต้องยาวแน่ๆเลย เจอกันจ้า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?