สิ่งแตกต่างและ เหมือนกัน ของ The Voice และ The Face มีอะไรบ้างมาดูกัน!?
สิ่งแตกต่าง และ เหมือนกัน ของ
The Voice และ The Face
เนื่องจาก สองรายการนี้ ดังมากในขณะนี้ และ รูปแบบรายการคล้ายกันในบางจุด
จึงลองเอามาเทียบกันเล่นๆจ้า ใครคิดอะไรออก และชอบรายการไหนมากกว่ามาแชร์กันได้น้า
สิ่งที่เหมือนกัน
- แบ่งเป็นทีมเหมือนกัน
- มีคนดูแลเหมือนกัน The Voice (โค้ช) , The Face (เมนเทอร์)
- คนดูแลเลือกผู้เข้าแข่งขัน ถ้ามีโค้ชเลือกเกิน 1 ผู้เข้าแข่งขันจะเลือก ทีม
- ช่อง 3 เหมือนกัน (เกี่ยวไหม)
- จบรายการออกมา มีผลงานเหมือนกัน TV เน้นอัลบัม หรือร้องเพลงประกอบละคร , TF ก็ตามสาย เล่นละคร ถ่ายแบบ เล่นโฆษณา เล่นซีรีย์
- มีการบัฟกันระหว่าง คนดูแล แต่ The Face จะหนักกว่ามาก
- มีคำคมคายเหมือนกัน
- มีให้ชมย้อนหลังด้วยเหมือนกัน
- เมนเทอร์ และ โค้ช มีเปลี่ยนกันไป ในแต่ละปี (The Voice ไทยถือว่าเปลี่ยนน้อยมาก)
สิ่งที่ต่างกัน
- โค้ช The Voice มี 4 (ยกเว้น The Voice Kids) แต่ เมนเทอร์ The Face 3
- The Voice ฉายวันอาทิตย์ , The Face ฉายวันเสาร์
- โค้ชหันหลังเลือก เมนเทอร์หันหน้าเลือก
- โค้ชเลือกแบบกดปุ่ม เมนเทอร์เลือกแบบยกแฟ้มรายการ=
- The Voice เลือกทีมรอบแรก The Face เลือกทีมรอบ 2
- The Voice เลือกจากความสามารถ The Face เลือกจากรูปลักษณ์ก่อน
- The Voice คละเพศ The Face ผู้หญิงทั้งหมด (ยกเว้นพิธีกรกับด่านอื่นๆ)
- The Voce พิธีกร หญิง กับ ชาย (เน้นหญิง) , The Face พิธีกรชาย
- The Voice เน้นโทนแดง The Face เน้นโทนขาว
นึกออกเท่านี้ มีอะไรเพิ่มเติมได้นะ 55
7 ความคิดเห็น
the face ถ้าไม่อยากคัดออกเลยก็ได้ แล้วแต่เมนเทอร์ ดูอย่างพี่ลูกเกด season ที่แล้วสิ ในขณะที่the voice ทำ ตามกติกาตลอด
The face ดราม่าเยอะมาก สคริปเยอะ ละครสุดๆ เรียกเรตติ้งเกิน competitive มากๆ
The voice จะธรรมชาติกว่า ดูแล้วอบอุ่นน่ารัก
-the face ไม่มี steal
-the face drama the voice เฮฮา /หมายถึงในรายการนะ ไม่เกี่ยวกับคนดูมาดราม่าเองทีหลัง
- the face = game , the voice = ประกวด
-ผู้เข้าร่วม the face = women only , the voice = all
ความเหมือน
มีผู้ชนะแค่คนเดียว แม้ว่าตอนแรกจะอยู่ทีมเดียวกันมาก่อน
แค่นี้ก่อน นึกออกจะมาเติมอีก
The face ตอนนี้รู้สึกสนุกมากๆ ส่วน The voice ก็รู้สึกเบื่อมากๆ ด้วยเช่นกัน ไม่รู้สิ มันรู้สึกไม่ตื่นเต้นกับ The voice แล้วอ่ะ ในขณะที่ The face รู้สึกมันส์กับการจิกกัดกันของเมนเทอร์ทั้ง 3 ถึงจะคิดว่ามันสคริปก็เหอะ
ต้องเข้าใจรูปแบบรายการของ The Face ก่อนนะ
มันคือการแข่งขันระหว่างเมนเทอร์ ระหว่างทีม
ไม่เหมือน The Voice ที่แข่งกันเองในทีม
จนเหลือทีมละ 1 แล้วมาโหวต
The Voice ดูเป็นอะไรที่แฟร์กว่า
The Voice ชัดเจนในความสามารถด้านการร้อง
แต่ The Face ความสามารถรอบด้าน ซึ่งมันตัดสินยากกว่า
The Face มีสคริปมั้ย เราว่าอาจจะมีแค่บอกว่าให้
พูดตรงๆแรงๆ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะนี่แหละคือจุดขาย
เราว่า The Face อาจจะจริงกว่า The Voice ก็ได้นะ
สำหรับผู้เข้าแข่งนะ ไม่นับรวมเมนเทอร์
เพราะในชีวิตจริง การแข่งขัน ทุกคนก็ต้องมีความรู้สึก
อยากชนะ รู้สึกหมันไส้ โกรธ นอยด์บ้างแหละ
และรายการไม่ผิดหรอกที่จะเอาดราม่ามาเรียกเรตติ้ง
เพราะมันคือการตลาด เหมือนสินค้าตัวนึง ถ้าคุณภาพดี
แต่ขาดการโปรโมท หรือรูปแบบผลิตภัณฑ์ไม่ดึงดูด
ก็ขายไม่ดีหรอกนะ และถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ แต่โปรโมทดี ผลิตภัณฑ์สวยงามดึงดูดน่าใช้ ก็อาจจะขายดีในตอนแรก
แต่อยู่ได้ไม่นาน เราว่า The Face ตอบโจทย์นะ
รายการมีคุณภาพ ผู้เข้าแข่งขันมีความสามารถ
ตามคุณสมบัติของรายการ และมีจุดขาย
สร้างความน่าสนใจ และเรียกเรตติ้งได้
The voice เราว่า ตอนที่ให้โค้ชเลือกลูกทีมออกเอง บางทีมันดูไม่ค่อยแฟร์เท่าไร แบบบางคนร้องดีกว่าแต่ไม่เลือกอ่ะ ไปเลือกอีกคนแทน แต่เราก็ไม่ได้ว่าไรนะ เพราะโค้ชเค้าคงมองออกถึงความสามารถลึกๆ หรือแนวที่ถนัดมันเข้ากันมากกว่า
แต่ส่วนตัวแล้วเราเริ่มเบื่ออ่ะ อาจเป็นเพราะของต่างประเทศมันสนุกมากกว่า และผู้เข้าแข่งขันมีความสามารถมากกว่า
วันหนึ่ง ผมบังเอิญเปิดไปเจอรายการ Tha Face มีผู้หญิงสองคนแข่งกัน A กับ B (ชื่อสมมุติ) แล้ว ลูกเกดคนตัดสิน บอกว่า A มีลักษณะที่ดีกว่า B หลายอย่างมาก แต่ ลูกเกดขอเลือก B เพราะ อยากจะเลือก B และนี่คือการแข่งขัน จึงตัดสินให้ B เข้ารอบ และ A ตกรอบ
ผมรู้สึกว่า คุณลูกเกดนี่ ไม่เข้าใจคำว่า "แข่งขัน"
การแข่งขัน ก็คือ ต้องมี กฎ กติกา มีเหตุผลให้ผู้ชนะอย่างเหมาะสม และ รู้สึกว่านั่นเป็นการตัดสินที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักเกณฑ์ มั่ว น่ารังเกียจคนตัดสิน
ถ้าเป็นกรรมการการแข่งขันกีฬาระดับมาตรฐาน อาจโดนเพิกถอน และไม่ชอบรายการนี้ ครับ
รายการ The Voice ดีกว่าเยอะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?