Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ควรหรือไม่... ในการ "ล้อมบูม" พี่ๆบัณฑิต !?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สมัยนี้มีสิ่งที่น่าจับตามองในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร รุ่นน้องในรั้วหมาลัยมาทำการ "บูม" รุ่นพี่ในทำนองเรียกเก็บเงิน จนหลายๆ คนก็บ่นกันในเฟซบุ๊กมากมายว่ามา "เดินมาล้วงกระเป๋าเอาเลยก็ได้ไม่ต้องมาบูมหรอก" / "บูมเสร็จเอากล่องมาจ่อหน้า นี่มันมาแสดงความยินดีหรือมาปล้นกันวะ"

ยุคสมัยก่อน โดยบัณฑิตมักให้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่น้องๆคอยดูแลเท­คแคร์พี่บัณฑิตในวันรับปริญญา ไม่ว่าจะเป็นการรีดครุยให้พี่ การหิ้วสัมภาระ การดูแลพ่อแม่และญาติๆของพี่บัณฑิต แต่ไฉนยุคนี้มันกลับตาลปัตร กลายเป็นวันแห่งการช่วงชิงซองขาวจากบัณฑิตใหม่ที่ได้งานทำหรือยังก็ไม่รู้

อยากแนะนำสำหรับคนที่ต้องการหารายได้ในวันวันนี้ ยังมีวิธีและข่องทางอีกเยอะ ที่เห็นบ่อยๆก็เช่น เอายาหอม ยาอม ยาลม ยาหม่อง ทิชชู่ น้ำดื่ม หรือ อื่นๆ อีกมากมายที่เตรียมไว้ขาย ให้พี่ๆ บัณฑิต และบรรดาญาติมิตรที่มาร่วมงานกันเต็ม ได้กำไรเยอะเหมือนกัน

อยากให้บูมเพื่อได้ความประทับใจมากกว่าเงิน ไม่ใช่พอพี่เขาบอกน้องว่า "พี่ไม่มีเงินนะ" ก็เดินหนี ... แล้วก็มีนะเคยเห็น บางทีบูมเสร็จ ถ้าไม่มีเงินก็จะล้อมไว้จนกว่าจะได้เงิน สรุปคือไม่อยากให้น้องๆที่มาบูมหวังแต่จะได้เงินเลย และวิธีที่ถูกต้องคือ ก่อนบูมก็ขออนุญาตก่อนอย่าวิ่งพรวดทำหน้าลั้ลลาไปล้อมซะหน้าด้านๆล่ะ เพราะบางทีบัณฑิตเขาปวดขี้ไม่ก็จะรีบไปทำธุระ ไปหาญาติผู้ใหญ่ ถ้ามีบริการเสริมเช่นถ่ายรูปให้ตอนบูม ให้ผู้ปกครองเข้าไปยืนข้างในด้วยแล้วถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ทำของชำร่วยเล็กๆน้อยๆให้ เช่น การ์ดแสดงความยินดีที่ร่วมกันทำเอง...มันคงจะเป็นอะไรที่ทำให้ "บูมบัณฑิต" แตกต่างจากอดีตที่เด็กไปบูมแล้วถูกมองกลับด้วยสายตาแบบว่า.... นะ

น้องที่บูม ควรจะแสดงความยินดีกับพี่เขาด้วยความจริงใจ ตามมารยาท ไม่ควรไปเก็บตังค์ หรือหวังเงินมากเกินไป ให้มองเงินเป็นแค่ของแถม จะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องไปมองว่าเป็นเรื่องของสปิริต ซึ่งบางคนทำงานแล้วยิ่งรู้ค่าของเงิน ไม่ได้หมายความว่าเขาขี้เหนียว
รุ่นพี่จะให้เงินสำหรับการบูมก็ได้หรือไม่ให้ก็ได้ (บางมหาวิทยาลัยถึงขนาดต้อง "ขอความร่วมมือนิสิตนักศึกษาอย่าบังคับขู่เข็ญบัณฑิต" กันเลยทีเดียว ไปสืบเองว่า ม.ไหน 55) ก็เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศที่ดีในวันแห่งความปิติ อย่างไรก็ตามบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ควบคุมยาก

ทั้งนี้อาจเพราะรุ่นพี่ไปปลูกฝังค่านิยมผิดๆให้น้องใหม่กระทำพฤติกรรมไปอย่างนั้นจนมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ จนความรู้สึกกลับกลายเป็นการบูมเพื่อต้องการเงินจากรุ่นพี่บัณฑิต ซึ่งทำให้ประเพณีนี้ถูกมองในแง่ลบ แทนที่จะสร้างความประทับใจและผูกพันระหว่างพี่น้องตราบนานเท่านาน เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นการบูมเพื่อแสดงไมตรีจิต มิตรภาพ ความยินดีที่พร้อมจะมอบให้กับพี่บัณฑิต ที่อุตส่าห์ฟันฝ่าอุปสรรคมาจนถึงวันนี้ได้ โดยไม่ได้อิงเรื่องของเงินเป็นหลัก เพราะนอกจากไม่ได้ใจแล้วอาจจะเสียความรู้สึกดีๆ ด้วยซ้ำไป ฉะนั้นรุ่นพี่ปีสองปีสามปีสี่ห้ามไปสอนให้เฟรชชี่เขามองว่าวันรับปริญญา คือ วันที่เราจะมาหาตังค์ มันไม่ใช่จุดประสงค์ของ “วันสำคัญ” วันนี้เลย ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องธุรกิจในชุดนิสิตนักศึกษาดีๆ นี่เอง บัณฑิตคงจะรู้สึกดีไปด้วยไม่ได้ ถ้าเขาต้องจ่ายเงินซื้อการแสดงความยินดีจากรุ่นน้อง

ยังไงก็ฝากน้องๆปีนี้ด้วยละกัน กระทู้นี้ไม่ได้จะมาบอกว่าพฤติกรรมการบูมขอเงิน เป็นเรื่องเลวร้าย
แต่มันอยู่ที่ความเหมาะสม บัณฑิตบางคนชอบ แต่บางคนก็ไม่ชอบ นานาจิตตัง คนเราคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าทึกทักเอาเองว่าใครจะพอใจกับสิ่งที่เราทำ ดังนั้นผู้บูมควรถามพี่เค้าก่อนว่า พี่เค้าอยากรับการบูมหรือไม่ดีกว่า ไม่ใช่มัดมือชกกันซะที่เดียว เห็นบางกลุ่มบูมแบบดีๆ มีมารยาท บูมเสร็จแล้ว ไม่รอเงิน ไม่ยื่นกล่อง ... ก็รู้สึกปลื้มใจแทน แบบนี้สิถึงจะเรียกว่า "เป็นสีสัน" ของงาน มิใช่เห็นเป็นแต่สี "เทา ม่วง แดง" ไปซะหมด .... มันจะทำให้การบูมแลดูกร่อยๆ และตัวบัณฑิตเองก็คงไม่อินกับสิ่งที่น้องทำเท่าไหร่ (แต่มันก็นานาจิตตังอีกแหละ) … ถ้าเราบูมด้วยใจจริงๆ ถึงไม่มีค่าตอบแทน มันก็เป็นความสุขอย่างนึง บูมไปเรื่อยๆ ทั้งวัน เอามันส์ โดยไม่คำนึงว่าเงินที่ได้มาในแต่ละครั้งเท่าไร เพราะพี่บัณฑิตบางคนก็ยังไม่มีรายได้ หรือยังไม่ได้ทำงาน คิดเสียว่า บูมเพราะความสนุกสนานและสร้างความประทับใจให้กับรุ่นพี่

แท้จริงแล้ว การบูม มันเป็นกลอุบายอย่างนึงนะ คือ เปิดโอกาสให้พี่บัณฑิตได้-งๆกับน้องปีหนึ่ง (ที่เพิ่งเข้ามาเรียน) จะได้รู้จักหน้าค่าตากันไว้เผื่อวันนึงในอนาคตทำงานทำการจะได้แนะนำกันได้ และที่สำคัญคือเพื่อให้มาซึมซับบรรยากาศ มาดูวันแห่งความสำเร็จของรุ่นพี่ ว่าเขาทำได้น้องก็ต้องทำได้! เรียนจบให้ได้ใน 4 ปี ไม่ยาก เป็นเหมือนตัวอย่างที่ดีให้น้องๆ แล้ววันนึง เมื่อเราขึ้นมาเป็นบัณฑิต เราจะรู้สึกถึงประสบการณ์นี้เอง ... นี่หละจุดประสงค์ที่แท้จริง

ยิ้มฟันขาว

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

โงกุง 16 พ.ย. 58 เวลา 15:51 น. 1

บัณฑิตซองหมดเดือดร้อนญาติโกโหติกาอีก ต้องควักเงินกันจ้าล่ะหวั่น โดนปล้นยกครอบครัว ตลกจัง

1
ตามนั้น 16 พ.ย. 58 เวลา 16:41 น. 1-1


ยิ่งเด็กต่างคณะ มาแหกปากบูมโง่ๆ 2 3 ประโยค ได้ตังค์แระ
ง่ายไปเนอะ เรียนมา 4 ปี เคยมายินดียินร้ายด้วยรึเปล่า . . .

ไม่ใช่
0