Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องเล่าสยองจากบ้านเช่า ซอย 19 ณ เชียงคาน! โปรดใช้วิจารณญาณ!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เป็นความชื่อส่วนบุคคน โปรดใช้วิจารณญาณ ต้องขอขอบคุณข้อมูลด้วยนนะครับ 
คุณ "Boyobn" จากฟอรั่ม ได้เขียนเล่าเรื่องถึงประสบการณ์ของการไปพักที่บ้านเช่าที่เชียงคานนะจ๊ะ เรื่องราวน่าตื่นเต้นของบ้านเช่าหลังนึง ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามอ่านดูนะครับ ขอขอบคุณบทความจากคุณ "Boyobn" มากครับ .. ใครไปเที่ยวเชิญไปแวะชมแวะพิสูจน์กันได้เลยฮะ

ผมมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง 

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมไปเที่ยว เชียงคาน จ.เลย ขอตั้งชื่อเรื่องว่า "บ้านสยอง ซอย 19 "
เข้าเรื่องเลยนะคับ ผมกับเพื่อนๆได้ไปเที่ยวที่ภูทับเบิก และนอนค้างที่ทับเบิก 1 คืน เช้ามาก็พากันเก็บของเพื่อเดินทางต่อไปที่ เชียงคาน ผมขับรถถึงเชียงคานประมาณ บ่าย 3 
ด้วยความที่ลืมจองห้องพักไว้ และช่วงที่ผมไปเป็นช่วง hi-season ด้วย เลยหาที่พักยากมาก พวกผมไปทั้งหมด 7 คน ก็พากันแยกย้ายเพื่อหาที่พัก ไปถามที่ไหนก็เต็มหมด หากันอยู่เป็นชั่วโมงก็ยังไม่ได้เลย แต่ความพยายามก็ยังไม่หมดด้วยความที่อยากพักทีาเชียงคานเพื่อที่จะสะดวกในการเดินเล่นถนนคนเดิน และใกล้กับภูทอก เพื่อดูทะเลหมอก เราจึงหากันต่อไป.... หากันอยู่นานแล้วเราก็ได้ไปถามที่โฮมสเตย์แห่งนึงที่ติดริมโขง โฮมสเตย์แห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยคับ(หลังจากกลับมาผมลองค้นหาใน google ดู จึงรู้ว่าดังพอสมควร) ผมกับเพื่อนเดินเข้าไปในนั้นเจอยายคนนึงเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ อายุน่าจะสัก 50-60 ปี ....
พวกผมเลยเดินเข้าไปถามคุณยายคนนั้น 
ผม : ขอโทษนะครับมีห้องว่างมั้ยครับ
ยาย : อ่อห้องเต็มหมดแล้วลูก
ผม : ไม่มีว่างสักห้องเลยหรอครับ (ตอนนี้คือตกลงกับเพื่อนแล้วว่าไม่ต้องพักที่เดียวกันก็ได้แยกย้ายกันพักคนละที่ก็ได้)
ยายเงียบไปสักพักทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่
ยาย : เอ่อ.. ยายมีบ้านพักเป็นหลังนะอยู่ในซอย 19 สนใจกันหรือเปล่า พักกันได้หลายคนเลยนะ
คือตอนนี้พวกผมดีใจมากพอยายบอกมีบ้านเป็นหลัง จะรออะไรละคับ พวกผมรีบตกลงเอาทันทีโดยที่ไม่ถามราคาด้วยซ้ำ
ผม : เอาครับคุณยาย
แล้วยายก็พาผมเดินไปที่ซอย 19 เพื่อพาไปบ้านหลังนั้น จากที่เห็นบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว มีหนึ่งห้องนอน 2 ห้องน้ำ สามารถจอดรถได้ ยายเปิดประตูให้พวกผมเข้าไปดูในบ้าน แต่ยายไม่เดินเข้าไปในบ้านด้วย...
ยายแกไม่เดินเข้าไปในตัวบ้านด้วยแกรออยู่หน้าบ้านแล้วบอกให้พวกผมดูข้างในบ้านเลย
ตอนนั้นพวกผมก็ไม่เอะใจอะไรก็ไม่ได้สนใจ ระหว่างที่พวกผมเดินเข้าดูในบ้าน ยายแกก็บอกว่าถ้าพักบ้านหลังนี้มีขนมให้ทานฟรี มีกาแฟ โอวัลติน ให้ฟรี น้ำดื่มฟรี แกก็บอกว่าแถมนู้นแจกนี่ไป ด้วยความที่พวกผมอยากได้บ้านที่เป็นหลังเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงตัดสินใจเอาทันทีเพราะพวกผมอยากได้บ้านเป็นหลังเพื่อที่จะปาร์ตี้กันตอนกลางคืน พอตกลงเอายายแกเลยบอกราคาเช่าว่า 1,400 บาท !!!
ผมไม่ได้พิมพ์ผิดนะคับ 1,400 บ้านเป็นหลัง พักได้ 7 คน พวกผมไปกัน 7 คน 
มาถึงตอนนี้พวกผมก็ยังไม่เอะใจกันอีก รีบคว้าเงินจ่ายทันที แต่มาเริ่มสะดุดตรงที่พอให้เงินแก แกรับเงินแล้วรีบไปเลย (ปกติเวลาเราเช่าห้องหรือเช่าโรงแรมต้องมีการทำสัญญาหรือมัดจำหรือวางหลักฐานเช่นบัตรประชาชน หรือ ใบขับขี่) แกบอกแค่ว่าจะออกตอนไหนก็เอากุญแจบ้านไปคืนยายนะ ผมเลยเรียกแกถามแกว่า "ยายไม่ต้องเอาบัตรประชาชนไว้กับยายหรอครับ" 
ยายแกตอบมาว่าไม่เป็นไรหรอก
พวกผมก็พากันคิดว่า เออดีวะบัตรก็ไม่ต้องวาง มัดจำก็ไม่ต้องวางแจ๋วๆ

ด้วยความเหนื่อยขับรถพอได้บ้านพวกผมก็พากันพักผ่อนนอนเล่นกันในบ้าน ก็นัดกันว่าสัก 6 โมงเย็นเดี๋ยวไปเดินถนนคนเดินกัน (ปกติโดยส่วนตัวถ้าผมไปพักที่ต่างถิ่นจะไหว้เจ้าที่แล้วก็ขอขมาด้วยทุกครั้ง แต่รอบนี้ผมลืมสนิทจริงๆ)
พวกผมก็พากันนอนพักจนถึง 5 โมง กว่า เพื่อนๆชวนกันไปตลาดเพื่อซื้ออาหารมาไว้ทำกินกันตอนเย็น พอไปตลาดกับมาที่บ้านพักพวกเพื่อนผทเลนชวนกันไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน แต่ผมร้อนเลยบอกให้เพื่อนไปก่อนเดี๋ยวอาบน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป 

เพื่อนก็พากันไปเดินเล่นกันหมด ผมกับแฟนก็เลยพากันอาบน้ำคลายร้อนซะหน่อย แต่ระหว่างอาบก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น...
และแล้วเรื่องแปลกๆอย่างแรกก็เกิดขึ้น ผมกับแฟนก็อาบน้ำด้วยกันแต่ระหว่างอาบผมกับแฟนก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่บริเวรหน้าห้องน้ำ ผมกับแฟนจึงปิดน้ำแล้วเรียกชื่อเพื่อน เพราะนึกว่าเพื่อนมา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย เสียงเดินก็หายไป ผมกับแฟนก็นึกว่าหูฟาเลยเปิดน้ำอาบต่อ พออาบไปได้สักแปปเสียงคยเดินก็มาอีก ผมก็ปิดน้ำแล้วก็เรียกชื่อเพื่อนอีก แต่แล้วก็เหมือนเดิมคับ เงียบ!! ในใจผมตอนนั้นก็เริ่มสงสัยแล้ว แต่ก็กลัวแฟนจะกลัวเลยบอกว่าอาบต่อเถอะ พออาบต่ออีกมันมาอีกแล้วครับเสียงเดินผมเลยเปิดประตูห้องน้ำออกไปทันที สิ่งที่เห็นคืิอความว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในบ้าน ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วเลยบอกแฟนรีบอาบ ระหว่างอาบคราวนี้ไม่ได้มาแค่เสียงเดินแต่มาแบบเสียงเปิดประตู ประตูติดมุ้งลวด เวลาเปิดมันจะดัง แกร๊กๆ ผมก็เลยเรียกชื่อเพื่อน แต่ก็เงียบ ในระหว่างนั้นผมนึกขึ้นได้ว่า ผมล็อคประตูจากในบ้าน จะมีคนมาเปิดมุ้งลวดได้ยังไง ผมเลยเดินออกจากห้องน้ำมาบริเวรหน้าบ้าน (ห้องน้ำกับหน้าบ้านไม่ห่างกันมาก) 
ผมหน้าเสียแล้วคับตอนนี้ เพราะลูกปิดประตูยังล็อคอยู่เหมือนเดิม ผมเลยบอกแฟนว่าออกไปถนนคนเดินกันดีกว่าแต่ก่อนออกไปผมได้โทรศัพท์แบบ Video call ไปหาแม่ก็คุยกันแปปนึง อยู่ๆแม่ก็บอกว่า......
ระหว่างคุย video call แม่ผมก็บอกว่าอ่าวจะ 6 โมงแล้วยังมีแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านให้พวกแกอยู่หรอ พอแม่ผมทักแบบนี้ผมก็หน้าเสียเลย ผมก็บอกกับแม่ว่าผมอยู่กับแฟน 2 คนไม่มีใครนะ ไม่มีแม่บ้านด้วย พอแม่ได้ยินแบบนั้นแม่ก็เลยเงียบผมเลยวางสายเพื่อที่จะไปเดินเล่น ผมก็ไปเดินเล่นสักเกือบทุ่มก็กลับเข้าบ้านพากันทำกับข้าวกินกัน แตอยู่ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึงอายุประมาณ 5 ขวบ เดินเข้ามาในบ้านแล้วบอกกับรุ่นน้องของผมที่ไปด้วยกันว่า "ชอบคนนี้ อยากได้คนนี้ จะเอาคนนี้" รุ่นน้องผมคนนี้เป็นผู้ชายนะคับ (ผมไปกันทั้งหมด 7 คน มีผมกับแฟน เพื่อน-แฟน,รุ่นน้อง-แฟน,คนที่โดนบอกว่าชอบโสด)
ตอนนั้นพวกผมก็ขำกันเลย แล้วเด็กคนนั้นก็มานัวเนียรุ่นน้องคนนี้ มาหอมแก้ม จับมือ พยายามจะมาจูบ แล้วจับ-กกาจู้ ตอนนั้นพวกผมก็ยังขำกันอยู่เพราะคิดว่าเด็กมันทะลึ่งแก่แดดสักพักก็มีเสียงผู้หญิงเรียกเด็กคนนี้ด้วยน้ำเสียงแบบไม่พอใจ อ่อ แม่เด็กคนนี้ นี่เอง เด็กคนนี้เลยกลับบ้าน บ้านน้องเค้าอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านที่ผมพัก พวกผมก็ทำกับข้าวแล้วเอาออกมากินกันหน้าบ้าน ก็มีกินเบียกัน เฮฮา สนุก ระหว่างนั้นเด็กคนนั้นมายื่มอยู่หน้าบ้านแล้วพูดว่า "อยากกิน กินด้วย กินด้วยได้มั้ย" พวกผมได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เด็กคนนั้นเลยพูดขึ้น "กูบอกว่าขอกินด้วย" แต่คราวนี้น้ำเสียงเด็กคนนี้แปลกไป ดูแข็งแปลกๆ แล้วแม่เด็กคนนี้ก็ตะโดนเรียกเด็กคนนี้กลับบ้านอีกครั้งแต่รอบนี้น้องเค้าเดินไปด้วยสายตาขวางๆ พวกผมก็กินกันต่อหน้าบ้าน แต่เริ่มแปลกใจอีกครั้งตรงที่เวลามีคนเดินผ่านหรทอขับรถผ่านทุกคนจะมาด้วยสายตาแปลกๆ บางคนมองจนสุดคอ พวกผมก็นั่งกินกันจนถึง 3 ทุ่มกว่าก็เลิกเพราะพรุ่งนี้เช้ามืดจะตื่นไปภูทอก เดี๋ยวมาต่อนะคับใกล้ถึงจุดหลอนแล้ว

หลังจากที่แยกย้ายกันเพื่อที่จะอาบน้ำ ระหว่างนั่งรอห้องน้ำว่างรุ่นน้องที่ไปด้วยก็เดินค้นในบ้านดูนั้นดูนี่ไปเรื่อยจนไปเจออัลบั้มรูป รุ่นน้องผมก็เลยเปิดดูก็เห็นเป็นรูปที่ถ่ายอยู่ภูทอก ทะเลหมอกสวยมาก พวกผมก็เปิดกันดูไปเรื่อยๆ สักพักจากรูปที่ถ่ายสวยงามกลายเป็นงานศพ ในตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกหวิวๆ แล้วคับเจอรูปงานศพ ก็เลยบอกให้รุ่นน้องเอาไปเก็บที่เดิม พอทุกคนอาบน้ำกันครบหมดแล้วกำลังจะเข้านอน ผมกับเพื่อนได้ไปนั่งดูดบุหรี่อยู่บริเวรหน้าบ้านด้วยความที่ผมรู้สึกได้ถึงความแปลกๆของบ้านหลังนี้เลยลองคุยกันดู 
ผม : กูว่าบ้านนี้แปลกๆรู้สึกยังไงไม่รู้
เพื่อน : เออ กูก็รู้สึก ตอนอาบน้ำ
(ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องที่ผมเจอตอนที่อาบน้ำนะคับ) 
ผม : กูก็เจอตอนอาบน้ำ -เจอยังไงวะ
เพื่อน : ตอนกูอาบอยู่ได้ยินเสียงคนเดินอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วก็มีเสียงคนหายใจแบบหอบๆอะ 
(เพื่อนผมมันเจอคล้ายๆกับผมเลย)
ผม : กูก็เจอแบบ-นั้นแหละ
จากนั้นพวกผมก็เข้าไปในบ้านแต่ไม่บอกให้ใครรู้เพราะกลัวจะพากันใจเสียเอา เลยบอกให้น้องๆไหว้พระก่อนนอน 
ด้วยความที่ห้องนอนมีห้องเดียว แต่ในห้องมีเตียง 2 เตียง ผมกับแฟน แล้วก็ เพื่อนกับแฟน นอนด้วยกัน 4 คน น้องนอนรวมกันข้างนอก 3 คน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ พวกผมก็ปิดไฟในห้องเพื่อพักผ่อน ส่วนพวกน้องๆก็พากันนอนดูทีวีกัน ระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มหลับจู่ๆ รุ่นน้องที่นอนอยู่ข้างนอกก็ตะโกนร้องโวยวายเสียงดัง รุ่นน้องอีกคนวิ่งมาเคาะประตูห้องพวกผมอย่างรีบร้อน พวกผมก็รีบวิีงออกจากห้องมาแต่ภาพที่ผมเห็นในตอนนั้นคือ...
เดี๋ยวมาต่อนะคับ ขับรถกลับบ้านก่อน
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือ รุ่นน้องผมที่เป็นผู้ชาย ที่เด็กบ้านตรงข้ามมาบอกว่าชอบ นั่งร้องไห้เหมือนเด็กๆพูดไม่เป็นภาษาพวกผมตกใจกันมาก เข้าไปถามน้อง มันก็ร้องไห้อย่างเดียว เอาแต่พูดซ้ำๆ "ผีหลอก ผีหลอก" ผมก็หันไปถามน้องอีกคนที่มันนอนด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้น น้องมันก็บอกผมว่า 
"ตอนแรกก็นอนดูทีวีกันอยู่ นอนดูไปสักพัก ทีวีก็ปิดเอง ก็เข้าใจว่า - L มันปิด (ขอแทนชื่อน้องคนที่โดนผีหลอกว่า L นะคับ) แต่- L กลับ ถาม - B ว่าปิดทีวีทำไม (แทนชื่อรุ่นน้องอีกคนว่า B ) แต่เจ้า B ไม่ได้เป็นคนปิด เจ้า L ก็เข้าใจว่าอาจจะมีคนนอนทับรีโมทก็เลยไม่ใส่เลยว่าจะนอน พอ L ทำท่าจะนอนอยู่ๆทีวีก็ เปิดขึ้นเอง แล้ว เจ้า L ก็ตาค้างพร้อมกับชี้ไปที่ตรงทีวี แล้วร้องลั่นบ้าน"
พอได้ฟังเรื่องราวก็พอจะรู้แล้วว่าเจ้า L เจอดีเข้าให้ซะแล้ว ใน ขณะนั้น L ก็ร้องไห้ไม่หยุด ผมเลยไปเอาน้ำเย็นๆใส่แก้ว พร้อมกับสวดมนต์ แผ่เมตตา ให้ L ดื่ม เจ้า L ถึงค่อยๆหยุดร้องและค่อยๆดีขึ้น พอเจ้า L ดีขึ้นจึงถามเหตุการณ์ ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้า L เล่าทั้งน้ำตาให้ผมฟังว่า
"L : ผมก็นอนดูทีวีอยู่ดีๆ ทีวีมันก็ดับผมก็นึกว่า B เป็นคนปิด ผมเลยถามมันมันก็บอกว่ามันไม่ได้ปิด ผมก็เลยไม่ใส่เลยว่าจะนอน แต่อยู่ทีวีมันก็เปิดเอง พอทีวีเปิดผมก็เลยหันไปมองทีวี แต่พอผมกำลังมองตรงทีวีอยู่ ผมก็เห็น...."

ภาพที่ L เห็นคือ ผู้หญิงแก่ๆคนนึงยืนจ้องมองอยู่ด้วยสายตาหน้าที่กลัว L กับหญิงแก่ลึกลับจ้องตากันอยู่พักนึง L เลยสติแตกกลัวสุดขีด แล้วก็ร้องไห้เป็นเด็กๆ L เล่าต่อว่าหลังจากที่เห็นหญิงแก่คนนั้นก็วูบจำอะไรไม่ได้เลยพึ่งมารู้สึกตัวตอนที่ผมเอาน้ำให้กิน" 
ตอนนั้นพวกผมนอนกันไม่หลับแล้วเลยเดินดูเดินสำรวจในตัวบ้าน ก็พบ ห้องๆนึงมีกุญแจล็อคไว้อย่างแน่นหนาและมีแผ่นยันต์สีแดงติดหน้าห้อง พร้อมเขียนด้วยช็อคว่าห้ามเปิดเด็ดขาด 
แปลกมากคับก่อนหน้านี้ทำไมพวกผมทั้ง 7 คนไม่มีใครเห็นห้องๆนี้เลย เท่านี้ยังไม่พอ พวกผมทั้งหมดเลยตัดสินใจให้ทุกคนไปนอนรวมในห้องโดยเปิดไฟไว้ทั้งบ้าน พอเข้ามาในห้องผมก็เดินดูในตัวห้องก็พบว่าภายในห้องหน้าต่างทุกบานมีผ้ายันต์สีแดงติดอยู่ และมีสร้อยพระห้อยอยู่เป็นแห่งๆ ในห้อง ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ทำไมก่อนหน้านี้ผมกับเพื่อนทำไมไม่เห็นสิ่งของเหล่านี้เลย 
พวกผมเลยนอนด้วยกันในห้องนอนเรียงกันทั้งหมด 7 คนในห้องเดียว แต่ก็ไม่มีใครนอนหลับหรอกคับ ผ่านไปสักพักพวกผมก็เริ่มจะนอนกันไม่ได้แล้วเพราะไฟในบ้าน ดับเอง แล้วก็เปิดเอง อาการคล้ายๆไฟตกคับ แค่นั้นยังไม่พอเสียงเปิดประตูมุ้งลวดก็ดังขึ้น แคร๊ก แค๊รก เหมือนมีคนเปิดปิดประตูเล่น พอเจอแบบนี้พวกผมเริ่มไม่ไหวกันแล้วเจ้า L กับพวกผู้หญิงเริ่มสติหลุดกันนอนสั่นกันหมดผมก็พยายามปลอบน้องๆ เลยบอกให้ทุกคนรีบนอนเช้ามาจะได้รีบกลับ ทุกคนเลยตกลงรีบนอน ตอนนี้พวกเราทั้งหมด 7 คนนอนเรียงกันเป็นแถวเดียว ในห้องนอนนี้จะมีช่องที่จะมองออกไปภายในห้องโถงของบ้านได้ ระหว่างที่กำลังจะหลับ ผมก็เหลือบไปเห็นเจ้า L กับ เจ้า B ที่นอนติดกันมองออกไปทางช่องลม>>
<<แล้วทำตาค้างหน้าตาตกใจ เจ้า L เริ่มน้ำตาไหลอีกครั้งทุกคนเห็นว่าเจ้า L ร้องไห้เลยมองตามไปที่ช่องลม พอทุกคนมองไปที่ช่องลมก็ได้ช็อคเมื่อเห็นสิ่งนี้

ภาพที่พวกผมทั้งหมดไดเห็นก็คือ มีดวงตาคนมองผ่านช่องลมจ้องเข้ามาในห้อง คือพวกผมเปิดไฟไว้ทั้งบ้านพอมีอะไรมาบังตรงช่องลมมันก็จะเห็นเป็นเงาไช่มั้ยคับ แต่นี้พวกเราเห็นเป็นรูปหน้าคนเลย เห็นดวงตาด้วย คือไม่มีความเป็นไปได้ที่จะตาฝาดหรือคิดไปเองเลยเพราะพวกเราทั้ง 7 คนเห็นภาพเดียวกัน ที่สำคัญช่องลมอันนี้อยู่ภายในตัวบ้าน "ถ้าใครนึกภาพไม่ออกนึกตามนะคับ เป็นห้องที่อยู่ในตัวบ้าน แล้วช่องลมอันนี้อยู่ในตัวบ้านถ้าเรามองจากช่องลมออกไปเราจะมองเห็นห้องโถงบ้าน"
ในตอนนี้พวกเราทุกคนช็อคทำอะไรไม่ถูก พวกผู้หญิงก็สติหลุดร้องกรี๊ดลั้นบ้าน เจ้า L ก็ร้องไห้พูดไม่เป็นภาษา ผมเองก็ช็อคแต่ด้วยความที่เราอายุเยอะสุดต้องทำใจดีสู้เสือปลอบน้องๆก่อน ในตอนนี้ดวงตาที่จ้องมองผ่านช่องลมหายไปแล้ว พวกเราก็ยังอยู่ในห้องนอนยังไม่กล้าออกไป
ในตอนนั้นเป็นเวลา เที่ยงคืนกว่าๆ พวกเราเลยตัดสินใจว่ากลับกันเถอะอยู่ไม่ไหวแล้วเพราะเจ้า L ก็ร้องไห้ไม่หยุด พวกเรารีบเก็บของแบบเร็วที่สุด เก็บของเสร็จเราก็ออกมมยืนที่หน้าบ้านแล้วก็ยืนคุยกันว่าจะเอากุญแจบ้านไปฝากไว้กับใครดี ผมก็มองเห็นคนข้างๆบ้านเค้ากำลังอยู่ในบ้านพอดีจึงเดินเข้าไปหาคนข้างบ้านเพื่อจะฝากกุญแจบ้านให้ยายเจ้าของบ้าน
ผม : ขอโทษนะครับ ผมรบกวนฝากกุญแจบ้านไว้ให้ยายเจ้าของบ้านหน่อยครับ
คนข้างบ้าน : "ยิ้ม!! ได้จ้ะ กลับเร็วจังเน๊าะ"
พอคนข้างบ้านแกพูดแบบนี้ผมรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากทำไมคนข้างบ้านถึงไม่แปลกใจเลยที่พวกผมกลับตอนเที่ยงคืน
ผมขับรถออกมมจากบ้านหลังนั้นด้วยคำถามที่ติดอยู่ในหัวมากมาย มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกผมกันแน่
เรื่องยังไม่จบนะคับ ผมมีบทสรุปเรื่องราวของบ้านหลังนี้ หลังจากที่ผมกลับถึงขอนแก่นผมก็ตามสืบเบื้องหลังของบ้านหลังนี้จนเจอข้อมูลที่ทำให้ผมกระจ่าง จนถึงบางอ้อเลย

หลังจากที่ผมกลับมาถึงขอนแก่น ผมก็ยังคงสงสัยในเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพวกเราทั้ง 7 คนจึงพยายามหาข้อมูล โดยให้รุ่นพี่ที่เป็นตำรวจช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นว่ามันมีอะไรหรือเปล่า 
รุ่นพี่ตำรวจของผมแกก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีช่วยประสานไปที่เพื่อนตำรวจที่อยู จ.เลย ให้ช่วยดูข้อมูลบ้านหลังนี้
และแล้วเราก็เจอข้อมูลสำคัญ รุ่นพี่ผมแกบอกกับผมว่า เพื่อนแกที่เป็นคนท้องที่ได้ลองไปถามญาติที่อยู่ในเชียงคานซึ่งเป็นครูและพอจะรู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้รวมไปถึงรู้จักเจ้าของโฮมเตย์ที่ผมเข้าไปติดต่อและพาผมมาพักที่บ้านหลังนั้น 
และแล้วก็บิงโกเมื่อคุณครูท่านนี้ท่านเล่าทุกอย่างที่ท่านทราบมาให้ฟัง
"บ้านหลังนี้เดิมทีอยู่กัน 3 คน มียายเจ้าของบ้านแล้วก็ลูกอีก 2 คนแต่พอลูกยายเจ้าของบ้านโตก็พากันออกไปทำงานที่อืน ไปทำงานกรุงเทพ และก็ไม่เคยกลับมาเยี่ยมยายคนนี้สักครั้ง ยายคนนี้แกเลยน้อยใจแล้วก็ซึมเศร้า ในที่สุดก็มีคนไปเจอยายแกฆ่าตัวตายอยู่ในห้องปิดตายที่ผมเคยบอกไว้(ห้องที่มีกุญแจล็อค เขียนว่าห้ามเปิด พร้อมผ้ายันต์สีแดง) พอผมได้ยินเรื่องราวของยายเจ้าของบ้านหลังนี้ทำให้ผมเข้าใจทุกเรื่องในทันที

...เข้าใจเลยทำไมยายเจ้าของโฮมสเตย์ไม่เดินเข้าไปในบ้านและไม่เอาเงินประกันค่าบ้านหรือหลักฐานอะไรสักอย่าง เพราะแกคงรู้ว่าพวกผมคงไม่สามารถเอาอะไรไปจากบ้านหลังนี้ได้
...เข้าใจเลยทำไมชาวบ้านที่เห็นพวกผมนั่งกินข้าวกันอยู่ที่หน้าบ้านหลังนั้น ชาวบ้านที่เค้ารู้เรื่องบ้านหลังนี้เค้าคงสงสัยว่าทำไมพวกผมถึงมาอยู่บ้านหลังนี้
...เข้าใจเลยทำไมถึงมีผ้ายันต์และสร้อยพระแขวนไว้เต็มบ้าน
...เข้าใจทำไมคนข้างบ้านถึงไม่แปลกใจเลยที่พวกผมกลับกันตอนเที่ยงคืน คงเป็นเพราะอาจจะมีคนก่อนหน้าผมเคยมาฝากกุญแจไว้ที่แกเหมือนกัน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันสอดคล้องกับเรื่องที่คุณครูท่านเล่าให้ฟังเลยคับ
...พวกผมเจออัลบั้มรูปงานศพ ในบ้าน
...เจ้า L เห็นผู้หญิงแก่ลึกลับอยู่ในบ้าน
...ผมกับเพื่อนที่อาบน้ำได้ยินเสียงคนเดินอยู่บริเวรห้องน้ำ (ผมลืมบอกไปคับ ห้องน้ำ 2 ห้อง อยู่ติดๆกับ ห้องที่ปิดตายห้องนั้นเลย)
ทุกอย่างมันลงตัวกันพอดีเลย
แต่ผมก็ยังสงสัยว่าทำไมวิญญาณที่พวกผมเจอต้องการอะไร
...แกมาเพราะพวกผมไม่ได้ขอขมาหรือขออนุญาติเข้าพักตอนที่มาถึง? (แต่พวกผมมานึกออกว่ายังไม่ได้ขอขมา จึงพากันขอขมาก่อนที่เข้านอน)
...แกมาเพราะหวงบ้าน?
...แกมาเพราะเหงา ?
แต่สิ่งที่ผมสงสัยที่สุดคือ เด็กคนที่เข้ามากอดมาหอม มาบอก L ว่าชอบ บอกว่าอยากได้ L นั้นคืออะไร มาขอกินข้าวด้วย และทำขึ้นเสียงกร้าวร้าวเมื่อพวกผมทำไม่สนใจ ทั้งๆที่บ้านเด็กคนนั้น ณ ตอนนั้นกำลังกินหมูกระทะ และอะไรที่ทำให้เด็กคนนั้นเข้ามาในบ้านหลังนี้เข้ามาหาพวกผม นี้คือสิ่งที่ยังติดอยู่ในความคิดผมตลอดเวลาที่หลังจากกลับมาจากบ้านหลังนั้น
และล่าสุดผมเดินทางกลับไปที่เชียงคานอีกครั้งนึงแต่คราวนี้ผมจองล่วงหน้าและให้คนในพื้นที่พึ่งรู้จักกันจากที่ทำงานหาให้ ผมพักบ้านเป็นหลังเหมือนเดิมแต่ราคามันต่างจากบ้านหลังนั้นเยอะมาก รอบนี้ผมพัก ซอย 16 ช่วงที่ผมไปคือช่วงเข้าพรรษาที่เป็นวันหยุดยาว ถือว่าเป็น Hi-season ได้เลยเพราะบ้านพักห้องพักเต็มหมด แต่รอบนี้ผมไปกับพวกรุ่นพี่ทั้งหมด 8 คน ผมก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่ผมเจอที่บ้านหลังนั้นให้ทุกคนฟัง พวกรุ่นพี่ผมก็อยากเห็นผมเลยเดินไปที่ซอย 19 ตอนประมาณ ตี 1 
ภาพที่ผมเห็นคือบ้านหลังนั้นยังคงเหมืิอนเดิมและไม่มีคนพัห
ทั้งๆที่เป็น hi-season แต่ทำไมไม่มีคนพักบ้านหลังนี้เลย...
ขอบคุณที่ติดตามกันมาคับผม ไว้เจออะไรแบบนี้จะกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคับ บะบายยย

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Nikorn 15 เม.ย. 60 เวลา 13:08 น. 2-1

เคยไปพักที่ซอย1ค่ะ นอนหลับสบาย ตื่นเช้ามามีอาหารเช้าที่แสนอร่อยมาปลุกแต่เช้าเลยค๊าาา

0