พิษภัยของโทรศัพท์มือถือ
ก่อนอื่นเรามาเช็กพฤติกรรมของตัวเองก่อนแล้วกันว่าติดโทรศัพท์มือถือรึเปล่า
นับคะแนนกันนะ ถ้าทำก็นับเป็นหนึ่งคะแนนไป
1-3 คะแนน ยังไม่ติดเท่าไหร่หรอก
4-7คะแนน เริ่มติดมือถือแล้วนะ
มากกว่า7ขึ้นไป เธอติดมือถือแล้วล่ะ!!!
แล้วมันมีผลยังไงน่ะเหรอ ไปดูกัน....
โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท๊บเล็ต กลายมาเป็นอวัยวะที่33ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาร์ทโฟน ทำให้เกิดเป็นโรคชนิดใหม่ชื่อว่า "โรคโนโมโฟเบีย" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคติดโทรศัพท์มือถือ
ดังนั้น หากวางมือถือผิดที่จะใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทราบว่ามือถือหาย นักวิจัยวิทยาวิเคราะห์ว่า กลุ่มคนอายุน้อยมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่า เพราะช่วงวัยรุ่นจะติดเพื่อน ติดเกมส์มากกว่า
และเมื่อเราเอาแต่ติดโทรศัพท์ ติดโซเชียล ทำให้เราละเลยที่จะทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน บางครั้งก็เล่นจนไม่ได้รับประทานอาหาร อดหลับอดนอน หรือไม่สนใจคนรอบข้าง อาจทำให้สุขภาพเสียได้
หรือเกิดนิสัยที่ไม่ดีติดตัว และที่สำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องของเวลายิ่งเราหมกตัวอยู่กับโทรศัพท์มากเท่าไหร่ทำให้เรามีเวลาดูแลตัวเองน้อยลงมากเท่านั้น รวมถึงการออกกำลังกายทำให้เราอ้วนไม่รู้ตัว
รายงานผลทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือสามารถ แผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาได้ และเป็นรังสีชนิดเดียวกับเตาไมโครเวฟ
ซึ่งเป็นคลื่นความร้อนทำลายเซลล์ดีหลายชนิดเพียงแต่มีปริมาณ รังสีที่น้อยกว่าเตาไมโครเวฟเท่านั้น!!
ผลจากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า รังสีไมโครเวฟ สามารถทำลายเซลล์ประสาทและเซลล์ตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์มารดา ทำให้เป็น “โรคต้อกระจก”
หน่วยงานวิจัยเทคโนโลยีของโทรศัพท์ไร้สาย หรือ “WTR” (Wireless Technology Research) ได้ทำการศึกษาผลข้างเคียงจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะมีรายงานสรุปผลออกมาสู่สาธารณชนว่า .....
รังสีไมโครเวฟที่แพร่ออกมาจากเครื่องโทรศัพท์ มือถือนั้นมีฤทธิ์ ทำลายสารพันธุกรรมในเม็ดเลือด แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ระดับความถี่ของรังสีไมโครเวฟ แต่เป็นช่วงระยะเวลาของการใช้งาน ดังนั้น.....
ที่ใช้โทรศัพท์มือถือคุยต่อเนื่องกันนานๆ มีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” ชนิดหนึ่งซึ่ง เรียกกัน ทางการแพทย์ว่า “Neuroepithelial Tumors”
และดร.เล็นนาร์ท ฮาร์เดลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งจากสวีเดน กล่าวว่ามีข้อบ่งชี้ทางชีววิทยา ว่ารังสีไมโครเวฟจากโทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกในสมองสูงถึง 2.5 เท่า
***และในเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี จะดูดซับรังสี ไมโครเวฟในอัตราที่สูงกว่าผู้ใหญ่ถึง 3 เท่า***
รู้อย่างนี้แล้ว หวังว่าทุกคนคงจะลดการเล่นมือถือลงนะ เพราะมันเป็นอันตรายต่อเรามากกกกก(ก.ไกก่ล้านตัว) มีข้อมูลอะไรดีๆมาแชร์กันได้ค่ะ ด้วยรักและห่วงใยจากจขกท. จุ๊บบบ-3-
แสดงความคิดเห็น