Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รู้สึกแย่มากค่ะ เราพยายามเขียนนิยาย แต่เขียนยังไงก็ไม่รู้เรื่องเลย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือจะเขียนนิยายค่ะ พลอตมี แบบ เราจะเขียนพลอดเอาไว้คร่าวๆ ค่อยลงมือเขียน 

ซึ่งตอนเขียนค่ะ มีปัญหามาก เพราะพอเราเขียนตามพลอต มันสั้น ห้วน แล้วแบบ ยังไงดี 

สมมตเรามีพลอต แม่ค้าที่เดินทางไปกู้โลก บลาๆ

เราจะมาตายตอนเปิดเรื่อง ทำไงดี เขียนอะไรต่อ อะ เล่าจากตัวเอก สักพัก ตันค่ะ

เรารู้สึกเราเขียนแล้วเราตันไปหมดเลย คิดอะไรไม่ออก บรรยายก็งง

ทำไงดี  

แสดงความคิดเห็น

>

30 ความคิดเห็น

Maritian 25 ม.ค. 59 เวลา 19:15 น. 1

วางพล็อตหลวมไปค่ะ ลองคิดรายละเอียดพล็อตให้ได้เยอะกว่านี้ก่อนค่อยลงมือแต่งดีไหมคะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ผีหลงเรือน 25 ม.ค. 59 เวลา 19:33 น. 4

ลองหยิบนิยายหลายๆเล่มมานั่งไล่เปิดอ่านคร่าวๆ ทีละเล่ม ค่อยๆลองสังเกตวิธีการเล่าเรื่องที่เขาใช้ดูครับ น่าจะพอช่วยได้บ้าง

เรื่องตัน ลองแยกออกมาเขียนพล็อตให้ละเอียดขึ้น จากนั้นก็สร้างตัวละครทิ้งไว้หลายๆ ตัว แล้วก็คิดที่มาเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว จากนั้นหาจุดเชื่อมโยงระหว่างกันในวิถีชีวิตของตัวละครแต่ละตัว

0
หมาป่าน้อยผู้น่ารัก 25 ม.ค. 59 เวลา 20:32 น. 8
ว้า.... ทุกคนแย่งบทพูดไปหมดเลย เอาเป็นว่าผมแนะนำให้ประมาณว่า หายใจเข้า... หายใจออก... แล้วปัญญาจะเกิดเอง
เพราะถ้ายิ่งคิดมันก็ยิ่งเครียด ปล่อยใจให้ว่างสักพัก หนึ่ง แล้วพอกลับมาเขียนใหม่มันจะมีไอเดียเองครับ
0
น้องลำดวน :) 25 ม.ค. 59 เวลา 21:05 น. 9

ลองหาอะไรทำผ่อนคลายดูก่อนดีกว่าค่ะ แบบฟังเพลงเอย นอนพักเอย อะไรก็ว่าไป อย่าไปเครียด ไปจดจ่อกับมันมาก สักพักพอสมองโล่งก็จะเริ่มคิดออกเองค่ะ สู้ๆ น้า

0
Code - 5045454d 25 ม.ค. 59 เวลา 21:38 น. 10

นักเขียนและนักอยากเขียนทุกคนรู้ดีครับว่าการเริ่มเรื่องมักจะยากที่สุดเสมอ อย่างเดียวที่ยากกว่าเริ่มเรื่องก็คือจบเรื่อง เพราะฉะนั้นไม่ต้องท้อครับ ค่อยๆคิด แต่ถ้าคิดไม่ออกจริงๆแนะนำให้วางพล็อตแน่นกว่านี้ สู้ๆครับ

0
SilverPlus 25 ม.ค. 59 เวลา 22:37 น. 11

ผมคิดว่านะ

ปัญหานี้มันอยู่ที่เราตั้งเงื่อนไขตัวเองมากเกินไป

เราต้องการให้เรื่องเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ โดยไม่ได้ปล่อยให้มือของเรามันเขียนไปตามอิสระของมัน 

ลองใหม่ครับ คราวนี้ลองเขียนโดยไม่ต้องสนพล็อต ให้เราเหมือนเดินสำรวจในนิยาย เหมือนเราผจญภัยไปเรื่อยๆ จะออกทะเล หรือนึกอะไรออกก็เขียนลงไปเลย แบบนี้จะทำให้เราเขียนได้เยอะ และเรื่องคืบหน้ามากกว่า (แต่จะออกทะเลหรือเปล่าก็ตามชะตากรรม)

แต่ถ้ากลัวเนื้อเรื่องเพี้ยน และต้องแต่งตามที่ตั้งใจเอาไว้เท่านั้น ก็คงต้องหานิยายมาอ่านเยอะๆครับ และทำให้จินตนาการในหัวของเรามันชัดเจน เตรียมภาพหลายๆภาพเอาไว้อธิบาย มีสถานที่ มีชุดของตัวละคร มีสภาพอากาศ และอะไรหลายๆอย่าง คิดเตรียมเอาไว้

0
K.W.E. 26 ม.ค. 59 เวลา 04:27 น. 12

มีพล็อตก็จริงอยู่ครับ แต่ว่าก่อนแต่งคุณได้แตกพล็อตยังเอ่ย

มันเหมือนกับว่าเรามีน้ำแข็งก้อนใหญ่สักก้อนที่อยากจะเอามากิน
มองไกลๆมันก็คือน้ำแข็ง รู้เป็นอะไร ใช้ยังไง แต่เวลาเอามากินถ้าไม่ทุบมันก็กินทั้งแบบนั้นไม่ได้

หลายครัง้ที่มีพล็อต แต่ยังไม่ได้แจกแจง หรือย่อยลงให้ใช้ง่ายก่อน
พอถึงเวลาใช้จริงมันก็แต่งไม่ออกได้เหมือนกันครับ ยิ่งถ้าต้องแต่งไปด้วยเรียบเรียงทั้งพล็อตทั้งภาษาไปด้วย พลังสมองจะถูกผลาญไปเยอะเลย

เพราะงั้นแล้วก่อนจะลงมือเขียน ให้ลองหลับตานึกดูก่อนดีกว่าครับว่า เราจะใช้พล็อตไหนในเรื่อง อะไรคือจุดเด่น แล้วจะเริ่มยังไงใครออกมา ฉากไหนเป็นฉากเปิดตัว  แล้วจะไปกลางเรื่องยังไง ไปท้ายเรื่องยังไง แล้วจะจบยังไง โดยใช้พล็อตเป็นตัวเชื่อมโยงครับ

ร่างในใจคร่าวๆตามนี้ให้ได้ก่อนครับ
ถ้าทำได้แล้วก็ลงมือเขียนก็ไม่สาย ถึงตอนนั้นงานเราจะง่ายขึ้่นเยอะเลยล่ะ

0
D.Blood 26 ม.ค. 59 เวลา 10:27 น. 13

ค่อยๆ ครับ ได้หลักมาแล้วก็ แยกปีกย่อยมาก่อน ตัวอย่างที่ให้มา แม่ค้าเดินทางไปกู้โลก 
ก็เปิดเรื่องมาเป็นประวัติแม่ค้า ก่อนจะเดินทาง แล้วเกิดอะไรขึ้นถึงได้เดินทาง สร้างปม สร้างจุดเกิดเหตุ บลาๆ จนต้องเดินทางไปกู้โลกเพราะ?

=w= ผมมือใหม่นะ อย่าอะไรมาก เลย ยกตัวอย่างคร่าวๆ ที่จริงก็มีเยอะอยู่นะ ก็ขึ้นอยู่กับผู้แต่งละนะ 

ก็เหมือนเม้นข้างบนที่ว่ามาละครับ มีพอตแล้วก็ลองแยกๆ ออกมา หาหลักการและเหตุผล
แต่ถ้านิยายมันจะอินดี้ก็ หาจุดสนุกละกัน จะแหกกฏฟิสิกส์อะไรก็ว่ากันไป บลาๆ สู้ๆ

0
Whiteflower Ri 26 ม.ค. 59 เวลา 11:21 น. 14

เวลาเปิดเรื่องให้เหมือนเราดูหนังหรือละคร เปิดเรื่องด้วยมุมไหนของกล้อง มองให้เป็นภาพแล้วบรรยายตามภาพเลยค่ะ  มันมีหลายแบบ เปิดด้วยคำพูด  เปิดด้วยสิ่งของถูกหยิบ หรือ บรรยายบรรยากาศ ถ้าเพิ่งฝึกเขียนเรื่องแรก ขอให้เขียนเรื่องง่าย ๆ ก่อนค่ะ เขียนเรื่องที่เรารู้ดี เรื่องใกล้ ๆ ตัว ไม่งั้น "ตัน" รับประทานแน่ค่ะ ทำให้เขียนต่อไม่ได้กันเยอะมาก

0
-ไนท์- 26 ม.ค. 59 เวลา 13:11 น. 15

ก่อนอื่นต้องบอกให้ จขกท. ใจเย็น หาอะไรร้อนๆ ทานซักให้ให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น แล้วเริ่มคิดว่า
-ตัวละครในฉากต้องทำอะไรบ้าง
-เสริมบทเยิ่นเย้อลงไปเพื่อไม่ให้เรื่องดำเนินเร็วเกินไป
-คิดคำไม่ออก โหลดแอป "พจนานุกรม ไทย-ไทย" หรือไม่ก็เซิด net ถามหาคำต่างๆ 
คนที่ประสบปัญหาแบบคุณมีเยอะแยะ (รวมถึงตัวเราเอง)
เราบรรยายเยิ่นเย้อไม่เป็น กว่าจะจบ 1 บทปาเข้าไปเกือบอาทิตย์ ครั้งแรกเขียนมาได้แบบที่คุณ จขกท. เป็นอยู่เลย ไม่พอใจก็ยืดคำ เพิ่มคำบรรยายซะ อ่านแล้วยังไม่พอใจอีกก็แก้ใหม่ ทำมันอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะรู้สึกว่า แบบนี้มันโอเคแล้ว
จำไว้ว่า
'พยายามจนถึงที่สุด ย่อมดีกว่ายอมแพ้ตั้งแต่เริ่ม'

0
ลูเซีย The jar's modeller 26 ม.ค. 59 เวลา 14:42 น. 16

ปิดคอมก่อนครับ แล้วนอนหลับตาลง
....
ทีนี้ ลองคิดว่าจะเขียนฉากแรกยังไง
มีอะไรอยู่ในหัวบ้าง
คิดให้ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีฟีลลิ่ง มีธีม มีฉาก มีตัวละคร อาจจะบวกลบเรื่องบทสนทนา ต้องรู้ว่าเขาจะทำอะไรกัน 

แล้วคิดว่า ฉากนั้น "ปัง" พอไหม โดยเฉพาะถ้ามันเป็นบทเปิดเรื่อง
ถ้าไม่ปัง ก็เปลี่ยนเถอะครับ 
ผมเป็นพวกไม่อดทนอ่านนานๆ ถ้าฉากแรกไม่ปัง มีสิทธิ์ปิดสูงมาก 

คิดได้รอบแรกไม่พอ ต้องคิดจนละเอียดถี่ถ้วนในฉากนั้น เห็นทุกอย่างว่าจะซูมไปทางไหน โฟกัสอะไร พอทุกอย่างชัดเจนค่อยลงมือเขียน

อย่าเขียนแบบลอยไปตามน้ำ คิดอะไรออกก็จับใส่ๆ ไป 
มันจะเลื่อนลอยเหมือนวิธีเขียนของเราอ่ะแหละ 

ทีนี้ ตอนแรกอาจจะเขียนแบบคร่าวๆ หยาบๆ จากนั้นค่อยมาเติมรายละเอียด ขัดเกลาสำนวน อ่านซ้ำๆ หลายรอบจนรู้สึกพอใจที่สุดถึงพอ

อย่าถามว่าพอใจแค่ไหนถึงพอใจ 
อ่านเองแล้วคิดยังไง ก็ตามนั่นล่ะครับ

0
แมวทุ่ง 26 ม.ค. 59 เวลา 15:07 น. 17

บรรยายไม่เก่ง ต้องเอาตัวเองเป็นที่ตั้งครับ
ถ้าเป็นตัวเองจะทำอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร แล้วทีนี้สวมบทครับ ถ้าตัวเอกเป็นแม่ค้าจะต้องงกครับแบบรู้คุณค่าของเงิน ถ้าเราตัดสินใจแบบนี้เอาเงินฟาดตู้ม แต่แม่ค้าคนนี้ไม่ทำแน่นอนครับ ต่องคิดครับถ้าเป็นคนนี้จะทำอย่างไรโดยอิงจากนิสัยพื้นฐานที่เรากำหนดมา
แล้วบทบรรยายจะลื่นขึ้นครับ
ผมเป็นครับวางพล็อตเริ่มแบบนี้กลางแบบนี้จบแบบนี้ พอเขียนไปเฮ้ยสั้นบรรลัยเอาไงต่อดีวะ
ผมเลยแก้แบบนี้ครับ
บทที่1 เปิดตัว ตัวเอกทำนั่นนี่นู่น ไปอย่างนั้นอย่างนี้
บทที่2 เดินเรื่องเจอคนนั้นเจอคนนี้ ตัวเอกเข้าโรงเรียนมีเรื่องบลาๆๆๆ ได้เพื่อน พากันไปทำนั่นนี่นู่น
บทที่3 ความฮา ตัวเอกและเพื่อนพากันรั่วเพราะแบบนี้แบบนั้นแบบนู้น
.
.
บทที่10 พลิกผัน ตัวเอกผิดใจกับเพื่อนรักที่ร่วมทุกร่วมสุขกันมาจนทะเลาะกัน บลาๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
บทจบ แล้วเอกกับเพื่อนคบกัน (เฮ้ย)

เอาแบบละเอียดยิบ ทีนี้หาน้ำใส่คนับใส่อารมณ์ตัวละครตามสถานการณ์
ทีนี้จะบรรยายอย่างไรก็ไม่มีนอกพล็อตครับ
จบแล้วใารีไรท์ให้ลื่นขึ้นปล่อยขายหรืออย่างไรก็ทำไปเถอะเขียนจบแล้วนี่
ที่ตันเพราะคิดสถานการณ์ไม่ละเอียดหรือแน่นพอครับเลยตัน
สู้ๆครับเรื่องแรกจะยากเสมอแต่ยิ่งเขียนยิ่งลื่นครับ

0
faery 26 ม.ค. 59 เวลา 16:49 น. 18

ก่อนอื่นเอาพล็อตที่วางไว้โยนทิ้งให้หมด แล้วคิดก่อนว่าตอนนี้ฉากเริ่มอยู่ไหนรอบตัวเป็นไง ตัวละครกำลังทำอะไรอยู่  แล้วเริ่มประโยคแรก เช่น

แสงทองจับขอบฟ้าทางกลางไอหนาว....(กรณีคิดจะเปิดบรรยายด้วยสภาพพื้นที่ก็ดึงภาพนั้นออกมา)

"สวัสดีไอช่า" ยัยแม่มดประจำกลุ่มตะโกนเรียกฉันสะดุ้ง(เปิดฉากด้วยบทพูด)

หรืออีกไม่รู้กี่ร้อยแบบ แล้วแต่เรื่อง และควมถนัด 

อาการแบบนี้ทางที่ดีที่สุด ไปอ่านก่อนดีกว่าไหม จินตนาการที่ไม่มีความรู้มันเอามาประยุกต์ไม่ออกหรอก

0
Maya_Ratisia 26 ม.ค. 59 เวลา 19:33 น. 19

ลองไปทำสิ่งที่เราชอบเวลาว่างๆก่อนสิคะ อย่างเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือเล่นที่คุณชอบ  พอรู้สึกว่า หัวสมองมันโล่งก็ค่อยกลับมาเขียนต่อ

0
kochajung 26 ม.ค. 59 เวลา 20:09 น. 20

ของเราแต่งตอนที่อยากให้มีไปก่อนตอนต่ออะ เพราะไอเดียมันไม่ประติประต่ออยู่แล้วก็เลยแต่งมั่วๆ เห้ยอยากให้มีฉากนี้ฉากนู้นอยู่นะ แต่งตามใจตัวเองไม่ใช่แต่งเพื่อคนอื่นอะค่ะ555 มันสนุกดีนะ ดีกว่ามากดดันแล้วก็คิดไม่ออก เราคิดแค่ตอนต้นเรื่องตอนกลางเรื่องแล้วก็จบยังไงก็พอ ไอพวกพอตเรื่องมันเกินสมองไปหน่อยเพราะเป็นพวกสมาธิสั้นบางทีก็ทำ มีตอนพิเศษแทรกนิดหน่อย อยู่ๆกลายเป็นตอนๆนึงไปซะงั้น เอ้า? 

0