ชิวิตผกผัน มาเรียนนอก แต่ชีวิตไม่ได้เก๋ เพราะต้องหางานทำ เพื่ออยู่ให้ได้
สวัสดีเพื่อนๆชาวเด็กดีทุกๆคนนะจ๊ะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเราได้มีโอกาสมีเรียนต่อ ป. โท ที่อเมริกา โดยเรียนเทอมละ 2-3 วิชาเท่านั้น ซึ่งเรียนวันละ 3 ชั่วโมง และเรียนตอนเย็น ดังนั้นเราก็จะมีเวลาช่วงกลางวัน ว่างเกือบทุกวัน ช่วงแรกๆ เราใช้เวลาไปกับการหาข้าวกิน ร้านใหม่ๆ ไปเที่ยว ที่ใหม่ๆ ชมเมือง ศึกษาเส้นทางไปเรื่อย แต่พออยู่ที่เมืองนี้สักพัก มันเริ่มไม่มีอะไรให้ทำ มันไม่เหมือนที่ไทยที่พอเลิกเรียน ก็ชวนกันไปกินขนม ช็อปปิ้ง ดูหนัง ร้องเกะ
ตอนแรกก็เขวอยู่เหมือนกัน ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี มีเวลาตั้งเยอะตั้งแยะ นอนอยู่บ้านปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆก็แล้ว รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า นักเรียนที่นี่เค้าไม่มีไลฟ์ไสตล์กันแบบนั้น เลิกเรียนเสร็จก็กลับบ้านหรือทำงานพิเศษก็ว่าไป ดังนั้นนักเรียนไทยที่มาต่างประเทศแล้วรู้สึกว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ก็จะรู้สึกเหงา
ส่วนตัวเราชอบไปเที่ยว ดังนั้นเงินที่แม่ให้มา ก็เริ่มหมดลงเรื่อยๆ เราจึงต้องปรึกษากับเงินในกระเป๋าตัง ถ้าอยู่เฉยๆแบบนี้กับเงินที่มีอยู่ คงไม่พอใช้แน่ๆ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะหางานทำ เราจะมาเล่าว่านักเรียนสามารถทำงานอะไรได้บ้างในเวลาว่าง ซึ่งตามกฎหมายแล้ว นักเรียนที่ถือ วีซ่า F1 สามารถทำงานในมหาวิทยาลัย 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่าโอเคเลยละ
การเตรียมตัวสำหรับการสมัครงาน ก็คือจะต้องเตรียม Passport, I20 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัย รวมถึง การเขียนใบสมัคร บางที่อาจให้ส่งเป็นแบบออนไลน์ และอาจจะมีการสัมภาษณ์กับนายจ้างด้วยเช่นกัน
1. งานในห้องสมุด
งานในห้องสมุดมักจะมีโอกาสน้อย มีตำแหน่งว่างไม่มากนัก เนื่องจากเป็นงานไม่ค่อยหนักเท่างานอื่นๆ โดยรวมแล้วคือการจัดหนังสือ รับและคืนหนังสือ
งานห้องสมุดมักจะเปิดรับนักเรียนช่วงก่อนเปิดเทอมและจ้างยาวไปเรื่อยๆ
2. งานในร้านหนังสือประจำมหาวิทยาลัย
งานในร้านหนังสือจะมีตำแหน่งว่างจำนวนมากในช่วงก่อนเปิดเทอมเพื่อมาลองรับปริมาณนักเรียนที่เข้ามาซื้อหนังสือก่อนเปิดเรียน โดยร้านหนังสือจะให้ทำงานเป็นกะ ก็คืออาจจะเข้าทั้งเช้าและบ่ายในช่วงเปิดเทอม พอกลางๆเทอม ผู้จัดการก็จะลดงานลงอาจจะเหลือเพียงกะเดียวต่อวัน โดยงานในร้านหนังสือส่วนใหญ่คือค่อยช่วยเหลือ หาหนังสือที่ลูกค้าต้องการ บางคนที่ทำงานอยู่นาน อาจจะได้เลื่อนเป็นแคชเชียร์ รวมไปถึงหัวหน้ากะนั้นๆ เพื่อดูแลเด็กๆที่เข้ามาใหม่ เราก็ไปสมัครงานนี้ และได้ตอบรับเข้าทำงาน แต่ไม่ได้ทำ เพราะมีปัญหาเรื่องเอกสาร ซึ่งเราจะพูดในตอนสุดท้าย
3. แคชเชียร์ร้านอาหารในมหาวิทยาลัย
นึกภาพแคชเชียร์ตามร้านแมคโดนัลดูนะครับ นั่นคืออีกงานหนึ่งที่สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นในสาขาของมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่เท่านั้น โอกาสการหางานขึ้นอยู่กับจำนวนร้านอาหารในมหาวิทยาลัยด้วย งานนี้ก็ถือเป็นงานหนึ่งที่ได้ฝึกการทำงานกับผู้อื่นและเรียนรู้ระบบร้านอาหารด้วยนะ
4. ผู้ช่วยสอน หรือ TA
งานผู้ช่วยสอนเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่จบปริญญาตรีมาแล้ว และมีความรู้เฉพาะทาง ซึ่งงานผู้ช่วยสอนอาจจะได้ช่วยอาจารย์ประจำวิชาตรวจการบ้านนักเรียน สอนบ้าง หรือช่วยติวนักเรียนในช่วงสอบ ซึ่งถือเป็นการที่ได้รายได้ดีกว่างานอื่นๆเลยหละ งานนี้ได้ความรู้และประสบการณ์การการทำงานกับนักเรียนและครูมากๆเลยหละ
5. Front Desk พนักงานต้อนรับ
งานนี้มักเปิดโอกาสให้กับนักเรียนต่างชาติ ทำงานในแผนก Office of International Affair ซึ่งมีหน้าที่ในการติดต่อสื่อสารกับนักเรียนต่างชาติโดยตรง ซึ่งงานนี้อาจจะต้องการคนที่ภาษาค่อยข้างดี มีมนุษย์สัมพันธ์ สามารถรับเรื่อง และติดต่อสื่อสารให้กับคนอื่นๆในแผนกได้ถูกต้อง งานนี้เป้นงานอีกระดับหนึ่งที่ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบต่องานมากๆ
6. งานในห้องคอม
นักเรียนต่างชาติสมัครเข้ามาทำงานนี้ได้ โดยหน้าที่คือคอยนั่งเฝ้าห้องคอม ให้ความช่วยเหลือนักเรียนคนอื่นๆ โดยส่วนมากก็คือถ้ามีปัญหาการปริ้น หรือการใช้คอมแบบพื้นฐาน นักเรียนก็จะมาถามเจ้าหน้าที่พวกนี้แหละ
7. Student Coordinator
เรามีประสบการณ์โดยตรงจากงานนี้ โดยงานประเภทนี้สามารถหาได้จาก แผนกที่ช่วยนักเรียนต่างชาติ เช่น Office of Student Life โดยแผนกนี้จะจัดงานหรือเวิร์คช็อปต่างๆ เพื่อให้นักเรียนปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆได้ง่ายขึ้น ดังนั้นแผนกนี้จึงต้องการนักเรียนต่างชาติท่เข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรมเข้ามาช่วย โดยงานที่เราทำคือ จัด Event ให้นักเรียนต่างชาติได้เข้าร่วม ได้รู้จักคนใหม่ๆ และเข้ากับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น
เมื่อเราสมัครงาน และสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ผู้จัดการจะให้ Offer Letter กับเรา เราจะต้องนำเอกสารนี้ไปขอ เอกสารสำคัญที่เรียกว่า SSN เพื่อใช้ในการทำงานและรับรายได้ ถ้าได้เจ้า SSN ช้าเกินไป อาจจะถูกปฏิเสธงานก็ได้นะครับ เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมตัวให้ดี และขอ SSN ให้เร็วที่สุด
ปล. งานในมหาลัยจะได้รับรายได้อยู่ที่ประมาณ 7-9 $ / ชัวโมง ซึ่งทำได้แค่เพียง 20 ชม ต่ออาทิตย์เท่านั้น
ปล. สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือการได้ประสบกาณ์การทำงานกับคนอื่นๆ ได้เรียนรู้ว่าชีวิตจริงไม่ได้สบายอยากที่คิด ถ้าอยู่แต่ประเทศไทยคงไม่รู้เลยว่าชีวิตจริงยากวะ
ปล. ลองนำความคิดแบบคนอเมริกันมาใช้สิจ๊ะ อย่าอายที่จะเริ่มทำงานขณะเรียน เริ่มต้นตั้งตัวตั้งแต่ตอนนี้ อย่างที่เค้าพูดกันว่า Well begun is half done เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง (ไม่ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อทำงานพิเศษ แต่เริ่มทำในที่ที่เราอยู่)
ติดตามเรื่องราวๆการท่องเที่ยวของเราต่อได้ที่
เที่ยวตามใจคุณ
2 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากเลยค่ะที่มาเล่า ^^
ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ
เจ๋งเลยค่ะ อยากต่อโทเมกาเหมือนกัน และอยากทำงานแบ่งเบาภาระที่บ้านด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?